PTC-GAS LEADER & SERVICES ศูนย์ติดตั้งแก๊ส LPG , NGV มาตรฐานกรมขนส่งทางบก

[projectpost]

Advertisement

PTC-GAS LEADER & SERVICES
ศูนย์ติดตั้งแก๊ส LPG , NGV มาตรฐานกรมขนส่งทางบก มีประสบการณ์ติดตั้งหัวฉีดมาแล้วกว่า 20,000 คัน เป็นหนึ่งในอู่ที่มีฐานลูกค้ามากที่สุดติดอันดับต้นๆ ของประเทศไทย เปิดทำการมาแล้ว 7 ปี  อู่มีขนาดใหญ่กว่า 2,000 ตารางเมตร โดยประกอบธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์เพียงอย่างเดียว พนักงานติดตั้งแก๊สรถยนต์ผ่านการอบรมจากกรมธุรกิจพลังงาน จึงมีความชำนาญเฉพาะทางเป็นอย่างสูง รับติดตั้งแก๊สรถยนต์ 2 ระบบ LPG โดยวิศวกรจากสถาบันชั้นนำระดับประเทศ มาตรฐานการติดตั้งสูง ทีมงานประสบการณ์ติดตั้งแก๊ส 10 ปี งานติดตั้งประณีต อุปกรณ์ใหม่หมดทุกชิ้น  ผ่านมาตรฐานจากยุโรป ECE R 67-01   

ควบคุมการปฎิบัติงานโดยบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกล จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง KMITL ประสบการณ์ทำงานเคยทำงานในโรงงานรถยนต์ญี่ปุ่นที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย
ควบคุมระบบคุณภาพและตรวจเช็คงานเก็บรายละเอียดโดยบัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์อุตสาหการจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง KMITL

ระบบไฟฟ้าดูแลโดยบันฑิตวิศวอิเล็กทรอนิกส์จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ KMIT NB

รับประกัน 1 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สามารถเคลมประกันเปลี่ยนสินค้าใหม่ได้ทันทีหากเกิดปัญหา
ปลอดภัยไร้กังวลจากประสบการณ์ในการติดตั้งอย่างถูกวิธีและออกแบบตามหลักวิศวกรรมศาสตร์

สะดวกสุดสำหรับท่านที่อยู่ ย่านบางนา อ่อนนุช ศรีนครินทร์ ทองหล่อ คลองตัน สมุทรปราการ เทพารักษ์ บางกะปิ รามคำแหง ลาดกระบัง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี

ราคาค่าติดตั้งแก๊สเริ่มถูกสุด เพียงแค่ 26000 บาทเท่านั้น พร้อมโปรโมชั่นมากมาย
หัวฉีด LPGTECH 29000 (ดีที่สุด)
        Enery refom OBD 34500 
        LPGTECH OBD 32000
        AC PREMIUM 36000


ติดตามชมผลงานได้ที่ www.ptc-gas.com  หรือ ดูข้อมูล หัวฉีดแก๊สได้ที่ www.lpgtechgas.com 

เราเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และเป็นศูนย์บริการเฉพาะทาง ซึ่งเราจะช่วยแก้ปัญหาการติดตั้งหากท่านมีปัญหาในการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือปัญหาที่ท่านแก้ไม่จบเกี่ยวกับระบบแก๊สรถยนต์ เรายินดีที่จะแก้ไขและให้คำปรึกษาได้  ดูรายละเอียดได้ที่  http://www.ptc-gas.com   
สอบถามรายละเอียด   086-337 4381-2 , 086-337 8045     
            085-3472138       
วิธีการเลือกอู่ติดแก๊ส
ปัจจัยที่สำคัญในการเลือกอู่แก๊สมีดังต่อไปนี้ (ความจริงที่ควรรู้)



1.  คุณภาพของสินค้า  ควรเลือกใช้หัวฉีดแก๊สที่มีชื่อเสียงและแพร่หลายผ่านการคัดสรรเป็นอย่างดี โดยอย่าเน้นที่ราคา เพียงอย่างเดียว
2.  ความน่าเชื่อถือ   ของผู้ให้บริการ การที่ผู้ให้บริการเป็นบริษัทมีขนาดใหญ่ จะให้บริการได้ดีกว่า เนื่องจากมีความมั่นคงในการยืนหยัดมให้บริการหลังการขายยาวนานกว่า ดังจะเห็นได้ว่าสมัยแก๊สบูมในปี 49 ร้านแก๊สเปิดเป็นจำนวนมากและเมื่อแก๊สซบเซาตั้งแต่ปลายปี 2549 ถึงกลางปี 2550 ร้านติดตั้งแก๊สรถยนต์ได้ปิดตัวไปกว่า 80% ในปี 2550  เนื่องจากไม่มีลูกค้าเป็นระยะเวลานาน ร้านต่างๆ จึงขาดสภาพคล่องและได้ปิดการให้บริการไป ทำให้ลูกค้าจำนวนมากไม่สามารถปรับแต่งหรือตรวจเช็คได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2551 เนื่องจากปี 2551 เป็นปีที่มีราคาน้ำมันสูงมากเป็นประวัติศาสตร์ ทำให้ร้าน ติดแก๊สรถยนต์ เกิดขึ้นทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว และเมื่อราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็วในกลางปี 2551 ส่งผลให้ต้นปี 2552 ที่ผ่านมามีผู้ให้บริการ ติดตั้งแก๊สรถยนต์ เหลือเพียง 20% ของจำนวนทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้รถแก๊สเดือดร้อนเป็นจำนวนมากซึ่งทาง PTC ก็ยังคงยืดหยัดให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลลูกค้าที่ติดตั้งแก๊สกับทางบริษัทของเราและได้เปิดแผนกสำหรับการซ่อมบำรุงระบบแก๊สหัวฉีดให้กับลูกค้าที่ติดมาจากบริษัทต่างๆได้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก
3.  ประสบการณ์ของผู้ให้บริการ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดดังจะเห็นได้ว่า การดัดแปลงเชื้อเพลิงเป็นระบบแก๊สนั้น จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์สูง เพื่อให้ได้ความสมบูรณ์ของระบบแก๊สในรถยนต์มากที่สุด เนื่องจาก PTC เป็นบริษัทที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก ดังที่ท่านได้ชมภาพตัวอย่างงานของเรา จึงมีประสบการณ์ในการ ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ครบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ (ครอบคลุมกว่า 95% ของรถทุกรุ่นที่ใช้งานวิ่งจริงในเมืองไทย)  ดังที่ได้แสดงไว้ใน ตัวอย่างภาพและวีดีโอตัวอย่างการติดตั้งแก๊สจึงทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับการติดตั้งระบบแก๊สที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
4.  ระยะทางจากผู้ให้บริการกับลูกค้าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญ โดยปกติแล้วลูกค้าบางส่วนเลือกที่จะติดตั้งแก๊สกับผู้ให้บริการที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงที่พักอาศัยหรือที่ทำงาน เพื่อความสะดวกในการให้บริการหลังการขาย แต่ความจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น หากท่านเลือกผู้ให้บริการที่มีความชำนาญสูง โดยปกติแล้วจะลดอัตราการเข้ามาแก้ไขตรวจเช็คระบบแก๊สได้อย่างชัดเจน จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลับเข้ามาปรับจูนหรือตรวจเช็คที่ร้านแก๊สบ่อยๆ เปรียบเทียบได้ว่า ร้าน ติดแก๊ส คล้ายๆกับร้านตัดเสื้อแม้จะอยู่ไกลหากเป็นผู้ให้บริการที่มีความชำนาญสูงบก็สามารถให้บริการตัดเสื้อผ้าเข้ากับรูปร่างของท่านได้โดยทันทีและสวยงาม โดยที่ท่านไม่ต้องกลับไปแก้ไขอีก แต่ช่างเสื้อที่ขาดประสบการณ์แต่อยู่ใกล้บ้านตัดเสื้อมาไม่พอดีกับรูปร่างก็ต้องเข้าไปแก้ไขอีกหลายครั้งทีเดียว ทำให้ท่านเสียทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย
5.  บริการหลังการขายที่ดีและรวดเร็ว ปัจจุบัน บริษัท PTC มีฐานลูกค้าที่ติดตั้งแก็สไปแล้วกว่า 20,000 คันมีการพัฒนาระบบบริการหลังการขาย (After sale service) มาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันมีระบบการให้บริการที่มีความรวดเร็วโดยแบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน โดยมีการแบ่งแยก ตั้งแต่ ฝ่ายขาย ,ฝายลูกค้าสัมพันธ์ ,พนักงานรับรถ ,ช่างจูนเครื่องยนต์ ,ช่างไฟฟ้ารถยนต์ ,ช่างติดตั้งส่วนควบคุมระบบแก๊ส (ด้านหน้าห้องเครื่อง) และช่างติดตั้งถังแก๊สรถยนต์ ซึ่ง PTC มีความพร้อมเป็นอย่างมากที่จะให้บริการหลังการขายกับท่านด้วยความรวดเร็วอย่างมีคุณภาพและประทับใจ
6.  ราคาเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญแต่ไม่ใช่ที่สุด เพราะการพิจารณาเรื่องราคาจะต้องพิจารณาควบคู่ไปกับแบรนด์ของสินค้า คุณภาพสินค้า และที่สำคัญที่สุด คือ คุณภาพของผู้ให้บริการโดยต้องดูจากประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาดังเช่น บริษัท PTC GAS ที่มีฐานลูกค้าระบบแก๊สรถยนต์ทั้ง LPG และ NGV มากกว่า 20,000 คัน นั้นได้แสดงถึงเความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีให้กับเราและบริการที่มีคุณภาพของเราตลอดมา


ข้อดีของการติดตั้งแก๊ส               
ในภาวะปัจจุบัน (ปี 2555) สภาวะราคาน้ำมันกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างแน่นอนแล้วนะครับ ปัจจุบัน แก๊สโซฮอลล์ ในเดือนพฤศจิกายน 2555 มีราคากว่า 36 บาท และเบนซิน 95 มีราคากว่า 48 บาทไปแล้ว เมื่อเทียบกับการติดตั้งแก๊ส lpg มีราคาเพียงละ 13 บาทเท่านั้นซึ่งอัตราการบริโภคแก๊สก็อยู่ในระดับที่เรียกว่าใกล้เคียงกันทีเดียว สมมติว่ารถของท่านมีอัตราสิ้นเปลืองที่ 10 กม./ลิตรและวิ่งวันละ 50 กม. ในหนึ่งวันท่านจะใช้น้ำมัน     5 ลิตร กรณีที่ท่านเป็นคนใช้งานรถยนต์น้อย                                               

1 วันท่านใช้น้ำมัน                            5 ลิตร  x 10  กม.                                    =            50 กม.
ท่านจะใช้เงิน          เติมน้ำมันเบนซิน 95       5 ลิตร  x 48 บาท                   =          240 บาท
เติมแก๊สโซฮอล์             5 ลิตร  x 36 บาท                   =          180 บาท
เติมแก๊ส lpg                   5 ลิตร  x 13 บาท                   =          65  บาท

1 เดือนท่านใช้น้ำมัน 5 ลิตร x 10 กม.x 30 วัน                                                        =          1500 กม.
ท่านจะใช้เงิน         เติมน้ำมันเบนซิน 95          5 ลิตร x 48บาท x 30 วัน                     =         7200 บาท
                                เติมแก๊สโซฮอล์                5 ลิตร x 36 บาท x 30 วัน             =         5400   บาท
                                เติมแก๊ส lpg                      5 ลิตร x 13 บาท x30 วัน              =          1950 บาท

ดังที่ได้แสดงให้เห็น
ใน1 เดือนการใช้งานแก๊ส lpg มีส่วนต่างจากราคาน้ำมันเบนซิน95  7200- ? 1950 = 5250 บาท/เดือน
ใน1 เดือนการใช้งานแก๊ส lpg มีส่วนต่างจากราคาแก๊สโซฮอลล์95   5400- ? 1950 = 3450 บาท/เดือน
เทียบอัตราส่วนการประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างแก๊ส lpg กับ น้ำมันเบนซิน 95 ประหยัดเงินถึง 73%
เมื่อเทียบในการวิ่งที่ระยะเท่ากัน
เทียบอัตราส่วนการประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างแก๊ส lpg กับ แก๊สโซฮอล์ 95 ประหยัดเงินถึง 64%
เมื่อเทียบในการวิ่งที่ระยะเท่ากัน
เทียบที่อัตราค่าติดแก๊ส อยู่ในช่วง 25000-30000 บาท อัตราการคืนทุนจะอยู่ในช่วง 6-9 เดือนเท่านั้น

สมมติว่ารถของท่านมีอัตราสิ้นเปลืองที่ 10 กม./ลิตรและวิ่งวันละ 100 กม. ในหนึ่งวันท่านจะใช้น้ำมัน 10 ลิตร
กรณีที่ท่านเป็นคนใช้งานรถยนต์มาก
1 วันท่านใช้น้ำมัน10 ลิตร x 10 กม.                                                        =          100 กม.
ท่านจะใช้เงิน         เติมน้ำมันเบนซิน 95        10 ลิตร x 48 บาท                   =         480 บาท
                                เติมแก๊สโซฮอล์               10 ลิตร x 36 บาท          =         360 บาท

1 เดือนท่านใช้น้ำมัน 10 ลิตร x 10 กม.x 30 วัน                                          =        3000 กม.
ท่านจะใช้เงิน      เติมน้ำมันเบนซิน 95        10 ลิตร x 48 บาท x 30 วัน    =     14400  บาท 
                             เติมแก๊สโซฮอล์               10 ลิตร x 36 บาท x 30 วัน   =        10800 บาท
                             เติมแก๊ส lpg                     10 ลิตร x 13 บาท x 30 วัน   =        3900 บาท

ดังที่ได้แสดงให้เห็น



ใน1 เดือนการใช้งานแก๊ส lpg มีส่วนต่างจากราคาน้ำมันเบนซิน95   14400-3900 =  10500  บาท/เดือน
ใน1 เดือนการใช้งานแก๊ส lpg มีส่วนต่างจากราคาแก๊สโซฮอลล์95      10800-3900 =   6900 บาท/เดือน
เทียบอัตราส่วนการประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างแก๊ส lpg กับ น้ำมันเบนซิน 95 ประหยัดเงินถึง 73 % เมื่อเทียบในการวิ่งที่ระยะเท่ากัน
เทียบอัตราส่วนการประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างแก๊ส lpg กับ แก๊สโซฮอล์ 95 ประหยัดเงินถึง 64 % เมื่อเทียบในการวิ่งที่ระยะเท่ากัน
เทียบที่อัตราค่าติดแก๊ส อยู่ในช่วง 25000-30000 บาท อัตราการคืนทุนจะอยู่ในช่วง 3-6  เดือนเท่านั้น



เกี่ยวกับนโยบายราคาแก๊ส           
นโยบายของรัฐบาล ณ ขณะนี้เป็นนโยบายตรึงราคาแก๊ส โดยจะไม่ปล่อยให้แก๊สขึ้นราคาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และหลังจากโรงแยกก๊าซโรงที่ 6 สามารถเปิดทำการแยกแก๊สได้จะส่งผลให้ผลิตแก๊ส lpg จนเหลือเกินอัตราการบริโภคในประเทศและจะส่งผลให้ราคาแก๊สไม่ขึ้นราคาอีกต่อไป(ข้อมูลจาก www.gasforcars.net  วันที่ 26 ธันวาคม 2552 (http://www.gasforcars.net/news_detail.php?n_id=478  ) ฉะนั้นท่านไม่ต้องกลัวเรื่องราคาแก๊สจะขึ้นอีกต่อไปอย่าให้ราคาแก๊สเป็นตัวชะลอการตัดสินใจทำให้ท่านพลาดในการเลือกใช้พลังงานทางเลือก  เรื่องแก๊สลอยตัวเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเพราะไม่สามารถจำกัดความเดือดร้อนไว้เพียงเฉพาะกลุ่มได้ และถ้าหากแก๊สขึ้นราคาได้โดยง่ายคงไม่มีคำว่า ?จะลอยตัวแก๊ส?, ?เดี๋ยวจะลอยตัวแก๊ส? แต่ท้ายที่สุดก็ต้องชะลอไปเรื่อยๆ  ซึ่งแตกต่างจากราคาน้ำมันที่บอกว่าจะลอยตัวก็สามารถปล่อยลอยตัวได้ทันทีเพราะหากทำได้ก็ลอยตัวแก๊สไปตั้งแต่ปี 49 แล้วนี่ผ่านมา 4-5 ปีแล้วราคาแก๊สที่ขึ้นมาจากปี 49 ที่ลิตรละ 9.20 บาท เป็นปี 56 ที่ลิตรละ 13 บาท เพราะค่าขนส่งแก๊สที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น และหากขึ้นราคาแก๊สจริงราคาที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่ายแอลพีจีจะไม่มีทางเกินลิตรละ 15 บาท แน่นนอนครับ ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.gasthai.com