Advertisement
รู้หรือเปล่าว่า มีสตรีทั่วโลก ที่เป็นโรคซีสต์ที่ปีกมดลูก หรือโรคช็อคโกแลตซีสต์มากถึง 1 ใน 3 โดยไม่อาจจะหาสาเหตุได้ว่ามีเหตุมาจากอะไร แล้วก็บางคนก็อาจจะไม่ทราบตัวด้วยซ้ำว่าเป็น เพราะว่าโดยมากซีสต์ที่ปีกมดลูกมักจะมีลักษณะซ่อนเร้นร่วมกับการปวดท้องเมนส์ ก็เลยทำให้บางคนมองข้ามที่จะไปพบหมอเพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี
โรคซีสต์ในปีกมดลูก เป็นยังไง
สำหรับโรค
ซีสต์ในปีก
มดลูก หรือช็อคโกแลตซีสต์นี้ มีต้นเหตุมาจากการที่เซลส์ในร่างกายมีการแบ่งตัวอย่างแตกต่างจากปกติ จนทำให้เกิดก้อนเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่มีลักษณะเหมือนถุงน้ำขึ้นมา ซึ่งนิยมฝังตัวอยู่บริเวณปีกมดลูกและรังไข่ เพราะว่าบริเวณนั้นมีเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนของเพศหญิงมากที่สุด จึงเหมาะกับการเจริญเติบโตของซีสต์เป็นอย่างยิ่ง เมื่อถึงเวลาเป็นประจำเดือน เมนส์นิดหน่อยก็จะไหลย้อนไปเข้าไปในซีสต์ที่เกิดขึ้น และเกิดอาการคั่งอยู่ในถุงน้ำ ซึ่งจะมีสีน้ำตาลเข้มไปจนกระทั่งดำ จึงเรียกกันว่าช็อคโกแลตซีสต์นี่เอง ซึ่งซีสต์ในปีกมดลูกนี้ถือว่ามีความอันตรายอย่างยิ่งที่สุดถ้าเกิดเทียบกั
ซีสต์[/url]ในที่ต่างๆเพราะเหตุว่าจะมีผลให้มีการปวดท้องประจำเดือนอย่างหนัก และก็กระตุ้นให้เกิดภาวการณ์มีบุตรยาก
การตรวจโรคซีสต์ในปีกมดลูก
สำหรับในการวินิจฉัย หรือการตรวจโรคซีสต์ปีกมดลูกนี้ สามารถทำเป็นจากการตรวจข้างในด้วยวิธีการอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดหรือทวารหนัก ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเยอะที่สุด และก็สามารถมองเห็นได้เด่นชัดที่สุดว่าเป็นหรือไม่
กรรมวิธีรักษาโรคซีสต์ในปีกมดลูก
- สำหรับเพื่อการรักษาด้วยการใช้ตัวเองเบื้องต้น เมื่อมีลักษณะปวด สามารถรับประทานยาพารา หรือยาแก้อักเสบแบบปกติได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดให้ดีขึ้น
- การรักษาแบบตรงตามจุดมุ่งหมาย แนวทางนี้แพทย์จะให้ฉีดยาหรือกินยาที่จะเข้าไปลดฮอร์โมนเพศหญิง (เรียกอีกแบบว่าการเทคฮอร์โมน) ซึ่งฮอร์โมนนี้จะเข้าไปยั้งการตกไข่ ซึ่งทำให้เมนส์ไม่มาอีกต่อไป วิธีนี้ก็เลยไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการจะมีลูกในอนาคต
- การดูแลและรักษาด้วยการผ่าตัด ถ้าเกิดซีสต์ที่ปีกมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น และเข้าไปเบียดบังอวัยวะส่วนต่างๆจนกระทั่งเกิดความผิดแปลกขึ้น ก็ต้องกระทำการผ่าตัดออก ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เพราะว่าจะทำให้มีแผลเล็กที่สุดนั่นเอง ซึ่งแนวทางลักษณะนี้ยังสามารถทำให้มีลูกได้เป็นปกติอีกด้วย
ซีสต์ที่ปีกมดลูก เป็นอีกหนึ่งโรคที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ซึ่งก็มีความอันตรายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อมีลักษณะเปลี่ยนไปจากปกติ ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อทำวิเคราะห์รวมทั้งรักษาโรคได้ทันนั่นเอง
เครดิตบทความจาก :
[url]https://www.youtube.com/watch?v=uBL3Emmb6BM[/url]
Tags : ซีสต์,เนื้องอก