Advertisement
สำหรับมือใหม่ ฝึกทำธุรกิจ โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่มีต้นทุนหน้าตักไม่มากนัก.. ได้โอกาสที่จะแจ้งเกิดแล้วเอาตัวรอดในสนามรบธุรกิจอันดุเด็ดเผ็ดมันได้.. สิ่งที่จำเป็นต้องทำเป็นเข้าใจโจทย์ธุรกิจก่อนว่า ตัวเองมีอะไร รวมทั้งกำลังจะเล่นตลาดไหน เกมธุรกิจในตลาดนั้น ปัจจุบันนี้เค้าเล่นกันเช่นไร.. วิเคราะห์ให้รอบด้านคาดการณ์ให้ถูกรับรองมีทางรอด..อันนี้ไม่รวมทั้งคนที่ไม่พร้อมทางด้านความนึกคิดสำหรับการทำธุรกิจ หรือพวกอ่อนหัด อ่อนนุ่มทางธุรกิจนะ ถ้าหากคนไหนรู้ดีว่าตัวเองเป็นพวกอ่อนหัด ปวกเปียกทางธุรกิจ ต้องชี้แนะให้เตรียมความพร้อม ทำการบ้านให้หนักๆก่อนคิดจะลงมือขอรับจุดเริ่มต้นของธุรกิจ ในช่วงปัจจุบัน บอกเลยว่า จำเป็นต้องเริ่มที่ลูกค้าเท่านั้น.. เพราะเหตุว่าธุรกิจจะเกิดขึ้น และก็อยู่รอด ควรมีลูกค้าซื้อสินค้า โดยที่พวกเรายังมีผลกำไร.. เพราะฉะนั้นการที่คุณมองเห็น “ลูกค้า” ว่าเป็นคนไหนกัน แล้วเค้ามี Pain Point อะไรที่ยังไม่ได้รับสนองตอบที่เหมาะสมรวมทั้งดีพอเพียง นั่นคือ “โอกาส” ทางธุรกิจแล้ว.. ส่วนมากคนมักเร่ิมต้นที่ “ผลิตภัณฑ์” ซึ่งหากเป็นยุค marketing 1.0 น่ะ สามารถทำได้ แต่ว่านี่มันเข้ายุค marketing 4.0 เข้าไปแล้ว.. การเริ่มต้นจาก “ผลิตภัณฑ์” ก็เลยเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง.. ด้วยเหตุว่าการมองเห็นแต่ “สินค้า” โดยที่ยังไม่เห็น “ลูกค้า” พอๆกับว่า คุณกำลังกำการเสี่ยงไว้ภายในมือ..สินค้าหนึ่งตัว ประกอบไปด้วย เงินลงทุนการพัฒนาสินค้า (ก่อนมีสินค้าซะอีก) + ทุนผลิตภัณฑ์ขาย + ต้นทุนค่าการตลาดต่างๆ+ ต้นทุนค่าครองชีพสำหรับเพื่อการขาย + ค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งปวงนี้คือสิ่งที่จะต้องคิด ต้องจัดเตรียม ต้องเผื่อไว้สำหรับในการทำธุรกิจ โดยที่ทุนต่างๆนี้ จำนวนมากเกิดขึ้นโดยที่ยังไม่ได้ขายเลยด้วยซ้ำ..ด้วยเหตุผลดังกล่าวการเริ่มต้นด้วย “สินค้า” เป็นการเสี่ยงอย่างสูง.. เวลาที่ถ้าหากคุณเห็น “ลูกค้า” กลุ่มเป้าหมายว่าเป็นคนไหนกันแน่ แล้วก็ทำความเข้าใจรายละเอียดในหลายๆมิติ ย่อมยิ่งจะมองเห็น “ช่องทาง” แนวทางการขายมากขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับ และโน่นคือกระบวนการทำให้ธุรกิจเริ่มแล้วก็เดินหน้าต่อไปได้นั่นเอง..สรุป เริ่มที่ “ลูกค้า” ไม่ใช่ “สินค้า” แล้วก็หา Pain Point ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ชัด ยิ่งชัด ยิ่งมีโอกาสมากการกำหนดตำแหน่งสินค้า ประเด็นนี้เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ระดับ 6 ดาวอย่างยิ่งจริงๆ.. เพราะว่าธุรกิจในสมัย marketing 4.0 เปลี่ยนแปลงเร็วทันใจมากกว่าติดจรวด การแข่งขันทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง.. เราก็เลยควรจะมีความกระจ่างประเด็นการวางตำแหน่งสินค้าให้กระจ่าง..ก่อนที่จะทำเรื่อง Positioning ผมชี้แนะให้ทำหัวข้อการเลือกตลาดวัตถุประสงค์ซะก่อน..โดยให้ลืมตลาด Mass ไปได้เลย.. ควรเริ่มที่กระบวนการทำ market segmentation อย่างถี่ถ้วน จนมีความคิดเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายในตลาดส่วนไหน น่าดึงดูดที่สุด โดยมองดูไปที่การแข่งขัน รวมทั้งคู่ปรับที่มี ไม่สมควรยึดติดเรื่องขนาดของส่วนตลาดนั้นเสียด้วยซ้ำ เพราะเหตุว่าครั้งคราวตลาดที่ดูไม่ใหญ่ กลับน่าสนใจกว่าตลาดที่ใหญ่แต่ว่ามีคู่ต่อสู้หลายรายรวมทั้งมีรายใหญ่อยู่ด้วยซึ่งการเข้าตลาดลักษณะนี้ อาจโดนรับน้องจนกระทั่งน่วมซะก่อนที่จะโกยมูลค่าจากตลาดที่ดูใหญ่รวมทั้งน่าสนใจนี้..มื่อแบ่งตลาดเป็นส่วนๆอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ให้มองหาจังหวะในตลาดส่วนใดส่วนหนึ่ง เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในตลาดส่วนนั้นอย่างถ่องแท้ ดูให้เห็น Pain Point ชัดๆแล้วปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ที่มีความแตกต่างอย่างน่าสนใจ..Positioning ที่ชัด (แคบ) บางคนอาจคิดในใจว่า แล้วมันจะคุ้มค่าหรือสำหรับในการทำธุรกิจ ส่วนตลาดที่เลือกมา ไม่ใหญ่มากนัก แล้วมันะจะสร้างยอดขายได้มากเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจอีกทั้งในระยะต้น และก็ระยะยาวได้หรือไม่เช่นไร.. จะต้องขอตอบแบบให้เอาไปคิดต่ออย่างนี้นะครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ธุรกิจออนไลน์Tags : ธุรกิจออนไลน์,นักธุรกิจรุ่นใหม่,ธุรกิจ 2018
