บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkjofkgkuy
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 04, 2018, 12:37:30 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
บุก สมุนไพรไทย เพื่อหลีกไกล เรื่องอ้วนๆ
บุก มาแล้ว ! บุกมาแล้ว !  รีบหนีเร็ว  เอ๊ะอย่างไรนี่ เรากำลังดูหนังการศึกอยู่หรอ เปล่านะครับ บุกในที่นี้ไม่ได้ถึงข้าศึกบุก แต่หมายคือหัวบุก สมุนไพรไทยบ้านเรา ต่างหาก แล้วก็ที่จำต้องหนี ไม่ใช่ผู้ใดกันแน่ที่ไหน แม้กระนั้นเป็นโรคฮอตได้รับความนิยมในขณะนี้อย่างโรคอ้วน โรคเบาหวาน ต่างหากที่จำเป็นต้องหนีไป
บุก ส่วนที่มองเห็นเป็น หัวบุก ตอนแรกเรื่องของบุกในประเทศไทย มันก็มิได้แพร่หลายหรือเป็นที่ได้รับความนิยมเหมือนเดี๋ยวนี้เนื่องจากจริงๆตอนแรกมันก็เป็นพืชท้องถิ่นอยู่ดี  คนในท้องถิ่นก็นำบุกมาเตรียมอาหาร เหมือนเผือก เสมือนมันทั่วๆไปพอเริ่มมีคนมาศึกษาค้นคว้า   สรรพคุณต่างๆของมัน เลยเปลี่ยนเป็นพืชสมุนไพรไทยยอดนิยม มีการดัดแปลงเป็นแบบต่างๆตั้งแต่สารสกัด บุกผง วุ้นบุก และก็อื่นๆอีกมาก วันนี้เองก็คงจะไม่ช้าเกินความจำเป็นที่จะนำทุกคนมารู้จะ พืชสมุนไพรไทย ที่เรียกว่าบุกกันแบบถึงกึ๋นมารู้จักบุกกัน
ชื่อไทย   บุก
ชื่อสามัญ  Konjac ,  devil’s tongue  (ลิ้นอสุรกาย  น่าขนลุกนะครับชื่อนี้ คาดว่ามาจากรูปแบบของดอกบุก )   , shade palm, umbrella arum
ชื่อวิทยาศาสตร์      Amorphophallus rivieri Durieu cv. Konjac
ชื่อวงศ์    ARACEAE
ชื่อตามเขตแดน  :  บุกลุกงคก (จังหวัดชลบุรี) เบีย เบือ (แม่ฮ่องสอน) มันซูรัน (ภาคดลาง)  หัวบุก (ปัตตานี) บุกคางคก  (ภาคกึ่งกลาง, เหนือ) บุกหนาม บุกหลวง (แม่ฮ่องสอน)  กระบุก (อิสาน)
พวกเราเจอบุกถึงที่กะไว้ไหน
บุกเป็นพืชป่าล้มลุกที่เจอทั่วไปทุกภาคของประเทศ โดยขึ้นอยู่กับตาม ชายเขา รวมทั้งบางทีก็เจอตามพื้นที่ ทำไร่ทำนา เช่นที่จังหวัดปทุมธานี แล้วก็จังหวัดนนทบุรี เป็นต้น บุกขึ้นได้ในสภาพดินทุกชนิด แม้กระนั้นจะเจริญเติบโตได้ดีให้หัวขนาด ใหญ่ได้ในดินที่ร่วนซุย น้ำไม่ขังแล้วก็ดินที่มีฮิวมัส หรือสารอินทรีย์สูง
ลักษณะของต้นบุก
ลักษณะของต้น บุก แสดงให้เห็นส่วนประกอบเป็นใบบุก และก็หัวบุกลำต้นใต้ดิน  บุกมีลำต้นใต้ดินหรือที่พวกเราเรียกแบบง่ายๆก็คือ หัวบุก  ลักษณะเดียวกันกับเรียกหัวเผือก หัวมัน ขนาดอยู่ที่โดยประมาณ 25 ซม. (บางพันธ์บางทีอาจเล็กกว่านี้ )ทรงกลมแป้นลักษณะทรงเดียวกับลูกฟักทอง แต่ว่าบางสายพันธ์มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนกันออกไป  ซึ่งส่วนนี้เอง เป็นใช้ที่สะสมของกินของบุก
 ใบบุก  ลักษณะเสมือนใบมะละกอ มีสีเขียวเข้ม บางประเภทมีก้านใย เป็นลวดลายบางจำพวกมีหนามอ่อนๆ หรือบางโอกาสบุกบางชนิดก็มีใบมีจุดแบบไข่ปลาสีขาวด้านบน  จะเห็นว่าใบบุกมีใบลักษณะที่นานาประการมาก  แต่ว่าที่เด่นๆสังเกตง่ายว่าเปบุก[/url]คือ จะมีก้านตรงจากกลางของหัว เมื่อโผล่จากดินแล้วแผ่กางออก 3 ทาง มีรูปทรงแผ่กว้างแบบร่ม แต่บาง พันธุ์จะแปลกตรงที่กลับขึ้นข้างบนราวกับหงายร่ม ดังนั้นรูปแบบของใบบุก มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทของบุก
ดอกของบุกลักษณะดอกดอกคล้ายต้นหน้าโค แต่ละจำพวกมีขนาด สี และรูป ทรงแตกต่าง บางจำพวกมีดอกใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุกคางคก ดอกบุกมีกลิ่น เหม็นราวกับเนื้อสัตว์เน่า บุกประเภทอื่นๆมีดอกเล็กก้านดอกจะโผล่ขึ้นตรง จากกึ่งกลางหัวบุก เหมือนกับก้านใบ บุกมักจะมีดอกในช่วงปลายหน้าแล้ง แม้กระนั้นบุกสามารถออกดอกได้ในช่วง เวลาต่างๆกัน ระยะเวลาสำหรับในการแก่สุดกำลัง ของดอกที่จะติดผลก็แตกต่างกัน
 ผลบุ[/b](อย่างงมากกับหัวบุกนะ ) ภายหลังจากดอก สืบพันธุ์ก็จะเป็นผล ผลอ่อนของบุก มีสีขาวอมเหลือง เพียงพออายุ ได้ 1-2 เดือน จะส่งผลสีเขียวเข้ม มีจุดดำที่ปลายเหมือนผลกล้วย ผล ของบุกจำนวนมากจะมีลักษณะคล้ายๆกัน แต่ว่าเม็ดข้างในไม่เหมือนกัน พบว่าส่วนมากมีเมล็ดเป็นรูปทรงอูมยาว  บุกบางประเภทก็มีเมล็ดในกลม   ผลแก่ของบุกจะมีสีแดงหรือแดงส้ม
[url=http://www.disthai.com/16488234/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81]
[/b]
บุกกับการนำมาประกอบอาหาร
เป็นพืชอาหารท้องถิ่นซึ่งชาวไทยนำเอาก้านใบมาแกงส้ม ลวกจิ้มน้ำพริก     ส่วนหัวบุกมีการนำไปปรับเปลี่ยนตามแต่ละภูมิภาค ยกตัวอย่างเช่นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการทำของหวานที่เรียกว่าขนมบุก แกงบรรพชามันบุก แกงอีสาน (แกงลาว)   ภาคตะวันออกจะมีการฝาน หัวบุกเป็นแผ่น บางบาง แล้วเอามานึ่งรับประทานอาหาร ทางภาคเหนือโดยยิ่งไปกว่านั้นคนภูเขา มักนำมา ปิ้งรับประทาน ภาคกลางมักนำหัวบุกที่ฝานเป็นชิ้นบางๆมาแช่น้ำปูน แช่น้ำก่อนล้างหลายๆครั้งแล้วจากนั้นจึงค่อยนำไปทำเป็นของว่าง
*บุกมีหลายแบบหลายพันธุ์ บางทีอาจขมแล้วก็มีพิษ ทุกชนิดมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (calcium oxalate) ทั้งที่ก้านใบและหัว ซึ่งอาจส่งผลให้คัน ก่อนเอามาทำอาหารจะต้องต้มซะก่อน ไม่งั้นกินเข้าไปทำให้คันปากและลิ้นพอง
ของกินที่ดัดแปลงมาจากบุก
ปัจจุบันนี้มีการนำบุกมาแปรรูป ในลักษณะของเส้นบุก ซึ่งคือสินค้าแปรรูปจากท่อนหัวบุก มีแบบเส้นใส สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารจานอร่อยได้ ผมว่าใครกันแน่เคยไปรับประทานเนื้อย่างอาจจะเคยเจอบ้าง เว้นเสียแต่เส้นบุกแล้วมีการนำมาผสมเครื่องดื่มต่างๆเอาแบบได้รับความนิยมๆแต่ก่อนเป็นเจเล่ ผสมผงบุก ถ้าจำไม่ผิดอันนี้เขามาทำเป็นรายแรก (เจ้าของบริษัทผ่านมาอ่านขอค่าโฆษณาด้วยครับ)
สรรพคุณของบุก
จากการเรียนรู้พบว่า  แป้งบุกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน พวกกลูโคแมนแนน (glucomannan) เป็นสารโมเลกุลใหญ่ (polysaccharides)ที่มีน้ำตาล 2 ประเภท คือ ดี-กลูโคส (D-glucose) รวมทั้ง (D-mannose) เป็นสารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพในรูปของใยอาหาร (dietary fiber)  ซึ่งดูดน้ำได้มาก แม้กระนั้นร่างกายสลายตัวได้ยาก ซึมซับได้ช้า ก็เลยให้พลังงานและก็สารอาหารน้อย เหลือกากมากมาย ทำให้ระบบขับถ่ายดำเนินการดี คนที่อยากลดความอ้วนนิยมกินอาหารจากแป้งบุก อาทิเช่น วุ้นเส้นบุก เส้นหมี่แป้งหัวบุก เพราะเหตุว่ารับประทานอิ่มได้ ระบายท้อง แต่ว่าไม่ทำให้อ้วน
นอกจากนี้เองเจ้า สารกลูโคแมนแนนนี้ สามารถลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ ก็เพราะเหตุว่าความเหนี่ยว ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของกลูโคลสจากทางเดินอาหาร ยิ่งหนืดมาก็ยิ่งมีผลลดการดูดซึมกลูโคลส โดยเหตุนี้ กลูวัวแมนแนนช่วยลดน้ำตาลก้าวหน้ามากมาย เดี๋ยวนี้ก็เลยใช้แป้งเป็นวุ้นเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน แล้วก็สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคมีไขมันในเลือดสูง
นี่แหละขอรับคือประโยชน์จากบุก ทดลองหามาทานกันครับ เป็นประโยชน์ขนาดนี้ สมัยนี้ไม่หายากแล้วเดินไปห้าง ก็ได้บุกเส้นแล้ว เสนอแนะมามายำแบบยำวุ้นเส้นครับผม รับรองอร่อยแท้ๆ http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุรไพรบุก



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ