ทำอาชีพให้ปังด้วยตัวเอง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำอาชีพให้ปังด้วยตัวเอง  (อ่าน 52 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
adzposter
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14640


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 11, 2018, 09:15:47 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ขายตัวเองให้ปัง ตังค์มาเอง
ผมเชื่อว่าคุณมักจะได้ยินเซียนนักขายหรือฉันรูด้านการขายหลายท่านชี้แนะคุณว่า
"ถ้าหากคุณอยากขายดิบขายดี ควรขายตัวเองก่อนจะเริ่มขายของ"
เรื่องนี้สำคัญมากๆครับ หากคุณเป็นนักขายแบบ B2B (Business-to-Business) คุณจะต้อง "ขายตัวเอง" ให้ออกตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอหน้าลูกค้า สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณก็คือสมการนี้ครับ
....แนวทางการขายตัวเอง = การเพิ่มความน่าวางใจ....
ซึ่งสิ่งนั้นในฐานะนักขายเป็นสิ่งที่คุณจำต้องสร้างขึ้นมาเอง รวมทั้งมีคุณเท่านั้นที่จะทำให้ลูกค้าไว้เนื้อเชื่อใจแล้วก็ซื้อสินค้าจากคุณ ยิ่งคุณขายตัวเองกระทั่งลูกค้าไว้ใจ เชื่อมั่นคุณ ถูกใจคุณมากยิ่งขึ้นมากแค่ไหน คุณยิ่งได้โอกาสปิดวิธีขายแล้วก็ได้เงินจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแค่นั้นครับผม
ในเมื่อมีความสามารถเกี่ยวกับประเด็นการขายตัวเองเบื้องต้นกันแล้ว ทีนี้ลองมามองกรรมวิธีขายตัวเองที่ดีกันนะครับ
1) พูดเก่ง มิได้แปลว่าขายตัวเองเก่ง
แนวทางการขายตนเองไม่จำเป็นที่ต้องเป็นคนพูดเก่ง (ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับคนที่พูดไม่เก่ง) คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนตลบตะแลง ถ้อยคำดี มีมุกเฮฮามากมาย คุยเรื่องข้อมูล สภาพอากาศ อื่นๆอีกมากมาย กับลูกค้าได้ ผมจะบอกว่ามันไม่มีความสำคัญเลยขอรับ ยิ่งคุณพูดนอกเรื่องกับลูกค้าเยอะแค่ไหน คุณยิ่งถอยห่างการปิดการขายมากยิ่งขึ้นแค่นั้น แถมยังหลงประเด็น
เพราะเหตุว่าจริงๆแล้วคุณนั่นแหละที่คิดไปเองว่าการพูดเก่งกับลูกค้า ทราบทุกเรื่อง เป็นการขายตัวเองที่ดีแล้วก็ลูกค้าจะต้องถูกใจแน่ๆเรื่องจริงก็คือลูกค้าจะจัดคุณอยู่ในหมวดเซลล์ขี้โว อาจจะมีโอกาสซื้อคุณบ้าง แต่ว่าก็ไม่แน่เสมอไปถ้าสินค้าไม่ตอบปัญหาจริง
2) ควรเป็นนักฟังและถามคำถามที่ดี
อย่างที่บอกนะครับว่าถึงแม้ว่าจะคุณพูดเก่ง พูดเก่ง แต่ไม่ฟังและไม่เคยถามลูกค้าก็ไม่มีประโยชน์ ลองกลับไปเช็คตนเองกันครับว่าเวลาโทรไปคุยกับคู่หู คุณหรือเพื่อนพ้อง คนใดกันแน่เป็นผู้ที่คุยมากยิ่งกว่ากัน ถ้าเกิดคุณคุยมากยิ่งกว่า มีอะไรก็เล่าให้ฟังหมด เวลาสหายพูดบ้างคุณก็คันปากอยากจะพูดแทรก คุณอาจจะมีความคิดว่าเพื่อนคุณไม่ได้คิดอะไร แม้กระนั้นเรื่องจริงก็คือเพื่อนคุณอาจจะหงุดหงิดได้ครับ เพียงไม่บอกเฉยๆ
จงระวังประเด็นนี้กับลูกค้าให้มากมายๆครับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการคันปากอยากแทรกลูกค้าในทันที (เข้าใจนะครับ ผมก็เป็น) สิ่งที่คุณควรทำเป็นฟังลูกค้ากล่าวให้จบทุกคราว พร้อมด้วยถามคำถามที่สม่ำเสมอจากสิ่งที่ลูกค้าบอก ดังเช่นหากลูกค้าเล่าว่าระบบเครื่องปรับอากาศฯ ที่ใช้อยู่เป็นแบบทองแดงปกติ คุณอาจจะถามแบบตลอดว่าค่าไฟฟ้าเท่าไหร่ เพราะเหตุว่าคุณกำลังรอคอยให้เค้าตอบเพื่อเสนอสิ่งที่ดียิ่งกว่าคือระบบ Inverter ซึ่งประหยัดค่าไฟกว่า อย่างนี้คือการถามเพื่อใส่ความอยากของลูกค้าและเป็นการถามอย่างฉลาดครับผม คุณขายตัวเองหัวข้อนี้ได้แล้ว
3) อยู่เฉยๆก็ขายตัวเองได้ ด้วยการแต่งกายที่ดี
First Impression ก็ยังคงเป็นคำที่ทรงประสิทธิภาพอยู่เสมอ เช่นเดียวกับในตอนที่คุณท่องเที่ยวผับหรือไปพารากอนแล้วพบหญิงแต่งตัวดี ชวนมอง สวยๆเชื่อเถอะว่าดีไม่ดีคุณนั่นแหละที่ต้องการพุ่งเข้าไปชนแก้วหรือขอเบอร์เลย (ฮา)
การแต่งตัวที่ดีเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็นๆสำหรับการเพิ่มความน่าเชื่อถือ คุณจะต้องเตรียมความพร้อมอยู่เป็นประจำตั้งแต่หัวถึงเท้า มีกาละเทศะ เมื่อเข้าไปพบลูกค้าคุณจะได้รับเกียรติจากลูกค้าตั้งแต่ต้นเจอโดยที่ยังไม่ทันบอกแนะนำตัวเลยล่ะครับ ไม่เชื่อลองดูพนักงานที่มีหน้าที่สำหรับขายรถยนต์เบนซ์หรือบีเอ็มนะครับพวกเขาจะแต่งตัวดีมาก พูดจาดี ให้เกียรติคุณ จนถึงบางเวลาคุณเองต้องเป็นฝ่ายเกรงใจ รวมทั้งมีโอกาสซื้อสูงมาก (ถ้ามีตังค์นะ)
4) ความเป็นมืออาชีพเป็นการขายตนเองที่ดีที่สุด
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการพูดก็คือพฤติกรรมครับ คุณจะต้องมีความเป็นมืออาชีพสูงตั้งแต่การตรงเวลา ตามงานดี มีวินัย การทำงานสนองตอบด้วยความเร็ว การรับปากลูกค้าและมีลายลักษณ์อักษร แนวทางการขายผลิตภัณฑ์ในราคาที่ยุติธรรม การแก้ไขปัญหาหลังการขาย การดูแลลูกค้าข้างหลังแนวทางการขาย ฯลฯ สิ่งพวกนี้คุณต้องทำให้เร็วและก็ลงมือทำทันที เพียงเท่านี้คุณก็จะถูกยกฐานะเป็นนักขายมืออาชีพที่ไว้ใจได้
ควรทำสิ่งกลุ่มนี้ให้ดีเพราะว่านี่แหละขอรับที่ผมกำลังจะบอกทุกคนว่าเป็นวิธีขายตนเองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเพื่อการได้เรื่องน่าเชื่อถือของลูกค้า ถ้าเกิดคุณทำเป็น ไม่ว่าคุณจะขายอันอื่นหรือย้ายบริษัท ลูกค้าก็จะตามคุณไป ต่อให้คุณขายของของคู่แข่ง ลูกค้าก็ยินดีที่จะซื้อคุณอยู่ดีครับ เนื่องจากเขาวางใจคุณ ไม่ใช่เนื่องจากคุณอวดเก่งใดๆทั้งนั้น
5) Social Proof ก็ขายตัวเองได้เหมือนกันนะ
Social Proof แปลตรงๆก็คือพิสูจน์กับสังคมมาแล้ว ในชีวิตจริงเรื่องนี้ส่งผลมากมายทีเดียว ตัวอย่างกล้วยๆอาทิเช่น ยุคเรียนมหาลัย คุณเคยมีเพื่อนที่ป๊อปในกลุ่มสาวๆมั้ยขอรับ บางโอกาสหน้าตาไม่เท่าไหร่ แม้กระนั้นมีแต่ว่าสาวสวยๆระดับพริตตี้ มาเป็นแฟน เพศหญิงเค้าจะมีเซนส์ครับว่าถ้าหากผู้ชายคนไหนกันแน่มีแฟนสวย มีความหมายว่าผู้ชายคนนั้นน่าจะมีของ น่าสนใจ ยิ่งถ้าหนุ่มคนนั้นเจ้าชู้นิดๆก็มักจะมีทิศทางว่ามีหญิงต้องการเข้ามาเล่นกับไฟเพิ่มมากขึ้น พวกเค้าจะป๊อปมากมายๆเพราะมี Social Proof แล้ว
ในเชิงธุรกิจ คุณสามารถใช้ประเด็นนี้ได้ แถมมองเป็นมืออาชีพ ไม่ขี้โอ่ด้วยการใช้ Social Proof ในส่วนของผลงานที่เสร็จกับธุรกิจที่ใกล้เคียงกับลูกค้า (เอาง่ายๆก็คือพอเพียงร์ท) ยิ่งถ้าเกิดเป็นคู่ปรับโดยตรงก็ยิ่งดี ลูกค้าจะมีความรู้สึกว่าสังคมพิสูจน์แล้วว่าสินค้าเราดีจริง ยิ่งหากตัวเค้าเองใช้ช้ายิ่งเสียผลประโยชน์ ตามไม่ทันคู่แข่งขันหรือเจ้าอื่นๆเยอะขึ้นเรื่อยๆเพียงแค่นั้น เป็นตัวกระตุ้นการซื้อชั้นยอดเลยล่ะครับผม แถมยังหล่ออีกด้วยถ้า Success Story ของคุณเยี่ยมพอเพียง !
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ธุรกิจ 2018

Tags : ธุรกิจออนไลน์



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ