รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 31 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkjofkgkuy
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 37


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2018, 10:41:31 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
กระเทีย[/size][/b]
กระเทียมกับผลดีต่อร่างกาย
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b] เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ค่อนข้างต่างจากพืชทั่วไป เพราะอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก นอกจากนี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) และก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย
กระเทียม
หลายๆคนอาจจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว ซึ่งมีสาเหตุจากสารอัลลิซิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่สะดุดตาแล้ว อัลลิซินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย แล้วก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดีขึ้น โดยที่ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวโยงกับหัวใจและหลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ดังนี้สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยยืนยันสรรพคุณ ประโยชน์ และก็ความปลอดภัยของการรับประทานกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับในการรักษาโรคกลุ่มนี้
ความดันเลือดสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่เจอได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงหน้าในหลอดเลือดแล้วก็ส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวและทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่หรูหราความดันเลือดสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากยิ่งกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. ตรงเวลา 12 อาทิตย์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดลงมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะบอกได้ว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยความดันเลือดสูงได้ดีมากยิ่งกว่ายาหลอก
ถึงแม้ว่าจะมีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของกระเทียมสำหรับเพื่อการลดระดับความดันโลหิตได้ดีกว่าการใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเหตุเพราะผลของการทดสอบอาจยังไม่แม่นเพียงพอที่จะสรุปคุณภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วก็หลอดเลือดในผู้เจ็บป่วยความดันโลหิตสูง จึงยังจำต้องเล่าเรียนเพิ่มอีกเพื่อรับรองความสามารถที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
มะเร็ง ความเกี่ยวข้องของการบริโภคกระเทียมและก็การเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่กระจ่างและยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งเพศชายแล้วก็ผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดสอบเป็นเวลา 5 ปี แล้วก็เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกต่ำลง 33 เปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารลดน้อยลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็แล้วแต่ มีการศึกษาค้นคว้าอีก 19 ชิ้นชี้ให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้ใจถึงที่กะไว้จะช่วยสนับสนุนความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แล้วก็มีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่ช่วยเหลือว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง โรคมะเร็งในช่องปาก หรือมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้บอกว่ากระเทียมเป็นพืชผักที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง แม้กระนั้นยังมีต้นเหตุอื่นๆยกตัวอย่างเช่น ลักษณะของสินค้าที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่มากมาย อาจจะส่งผลให้พิสูจน์ถึงประสิทธิภาพของกระเทียมได้ยาก รวมทั้งเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ภายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้สมรรถนะของกระเทียมหมดลงไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด หลายๆคนมั่นใจว่กระเทียม
มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์และก็เชื้อไวรัส รวมทั้งมีการนำมาใช้เพื่อปกป้องรวมทั้งบรรเทาอาการหวัดมาอย่างช้านาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมชนิดเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มิลลิกรัมวันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วให้อาสาสมัครเขียนบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 65 ครั้ง อีกทั้งยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของอีกทั้ง 2 กรุ๊ปมีความแตกต่างกันเพียงนิดหน่อย แม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะชี้ให้เห็นถึงคุณภาพของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดสอบทางสถานพยาบาลยังไม่พอรวมทั้งจึงควรเรียนเพิ่มอีกเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้ชัดแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดความอ้วนรวมทั้งมวลไขมัน ในคนไข้ภาวะไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีต้นเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีเหตุที่เกิดจากโรคอ้วน เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันเลือดสูง รวมทั้งไขมันในเลือดสูง ซึ่งการรักษาด้วยการรับประทานยา การผ่าตัด หรือลดหุ่นบางทีอาจน้อยเกินไป ถ้าหากไม่ดูแลประเด็นการกินอาหารพร้อมกันไปด้วย การรับประทานกระเทียมก็เลยบางทีอาจเป็นโอกาสหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์แล้วก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองปกป้องสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนป่วยไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งปวงศชายรวมทั้งเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งนั้น 110 คน รับประทานกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามเดิม แม้กระนั้นกินกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองชี้ให้เห็นว่า น้ำหนักรวมทั้งมวลร่างกายลดน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอก ก็เลยอาจกล่าวได้ว่าการกินกระเทียมบางทีอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองหรือชะลอการเกิดภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ดีการเล่าเรียนในอนาคตยังจำต้องวางแบบการทดลองให้ดียิ่งขึ้นรวมทั้งควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับในการทดสอบเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของกระเทียมให้แจ้งชัดเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองและการเล่าเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เกี่ยวพันจำนวน 29 ชิ้น ได้ทำให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้น้อย แต่ว่าไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลประเภทที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจต่ำลงอะไร จึงยังจึงควรเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อหาผลสรุปและก็ยืนยันคุณภาพของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่ชัดแจ้งเพิ่มขึ้น
[/b]
ความปลอดภัยสำหรับการกินกระเทียม
การกินกระเทียมค่อนข้างไม่เป็นอันตรายแม้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม แต่อาจส่งผลให้เกิดผลข้างๆได้ เป็นต้นว่า ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกลางอก ท้องอืด คลื่นไส้ คลื่นไส้ หรือท้องเสีย อาการเหล่านี้อาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจทำให้กำเนิดอาการแสบร้อนและเคืองได้
ข้อควรพิจารณาในการกินกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกรุ๊ปตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังมีท้องหรือคนที่อยู่ในตอนให้นมลูก การกินกระเทียมในตอนการท้องค่อนข้างปลอดภัยหากรับประทานเป็นอาหารหรือในจำนวนที่เหมาะสม แม้กระนั้นบางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้าหากรับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การรับประทานกระเทียมในจำนวนที่เหมาะสมแล้วก็ในระยะสั้นๆบางทีอาจปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะทำให้เกิดอาการแสบร้อนและเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยของอาหาร อาจจะทำให้เกิดการเคืองพื้นที่เดินของกินได้
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินกระเทียมอาจจะก่อให้ระดับความดันเลือดลดลดลงมากกว่าธรรมดา
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดรับประทานกระเทียมก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์เนื่องจากอาจก่อให้เลือดออกมากรวมทั้งส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด แล้วก็ผู้ที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ดีเหมือนปกติไม่ควรกินกระเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด ด้วยเหตุว่าอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการกินยารักษาโรค ได้แก่ ไอโซไนอะสิด เนื่องจากว่ากระเทียมอาจลดการดูดซึมของยาภายในร่างกายและมีผลต่อความสามารถแนวทางการทำงานของยา รวมทั้งไม่สมควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดเชื้อโรคเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง
ยาคุม
ยาต้านทานการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/[/b][/size][/b]

Tags : สมุนไพรกระเทียม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ