รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 76 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
vbbddd02
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 14, 2018, 12:47:23 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
กระเทีย[/size][/b]
กระเทียมกับประโยชน์ต่อร่างกาย
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b] เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเช่นเดียวกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะประกอบด้วย 6-10 กลีบ นิยมประยุกต์ใช้เป็นเครื่องปรุงปรุงอาหาร กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะต่างจากพืชทั่วไป ด้วยเหตุว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก นอกนั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ดังเช่นว่า อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) แล้วก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกาย
กระเทียม
หลายท่านอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกเหนือจากการที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่เด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสภาพทางด้านร่างกาย รวมทั้งอาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดียิ่งขึ้น โดยที่คนไม่ใช่น้อยมั่นใจว่าการกินกระเทียมอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวกับหัวใจและก็หลอดเลือด ความดันโลหิต คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมทั้งใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ทั้งนี้หลักฐานหรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยแค่ไหนที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ ประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยในการรักษาโรคเหล่านี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่เจอได้ในกระเทียมสดหรือสินค้าเสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงตัวในหลอดเลือดแล้วก็ทำให้เส้นโลหิตขยายตัวและก็ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดน้อยลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยที่หรูหราความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากยิ่งกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดน้อยลงมากกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะกล่าวว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาคนป่วยความดันเลือดสูงได้ดีมากว่ายาหลอก
ถึงแม้ว่าจะมีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่บ่งบอกถึงถึงคุณภาพของกระเทียมสำหรับในการลดระดับความดันเลือดได้ดีกว่าการใช้ยาหลอก แต่เนื่องด้วยผลการทดสอบอาจยังไม่ถูกต้องเพียงพอที่จะสรุปความสามารถของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดการเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดในผู้ป่วยความดันโลหิตสูง จึงยังจะต้องศึกษาเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อรับรองประสิทธิภาพที่กระจ่างแจ้งเพิ่มขึ้น
โรคมะเร็ง ความเกี่ยวข้องของการบริโภคกระเทียมและก็การเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังไม่ชัดแจ้งและยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้คนจีนทั้งเพศชายแล้วก็เพศหญิงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดสอบเป็นเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ และก็เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นทำให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าไว้วางใจเหมาะจะช่วยสนับสนุนความเชื่อมโยงของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคมะเร็งทรวงอก โรคมะเร็งปอด หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมีหลักฐานที่ค่อนข้างจำกัดที่เกื้อหนุนว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง โรคมะเร็งในโพรงปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้พูดว่ากระเทียมเป็นผักที่อาจมีคุณสมบัติต่อต้านโรคมะเร็ง แต่ยังมีสาเหตุอื่นๆยกตัวอย่างเช่น รูปแบบของสินค้าที่ทำมาจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่มากมาย อาจจะทำให้พิสูจน์ถึงคุณภาพของกระเทียมได้ยาก และก็เมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บไว้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ความสามารถของกระเทียมเสื่อมสลายไปได้เหมือนกัน
แก้หวัด คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์และก็เชื้อไวรัส รวมทั้งมีการประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันรวมทั้งบรรเทาอาการหวัดมาอย่างช้านาน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน รับประทานสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แต่ช่วงเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของทั้งยัง 2 กรุ๊ปมีความแตกต่างกันเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ถึงแม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะชี้ให้เห็นถึงสมรรถนะของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดลองทางสถานพยาบาลยังน้อยเกินไปและควรต้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้แจ่มกระจ่างยิ่งขึ้น
ลดน้ำหนักรวมทั้งมวลไขมัน ในผู้ป่วยสภาวะไขมันพอกตับ ที่มิได้มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีต้นเหตุจากโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันเลือดสูง และก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนอาจไม่เพียงพอ หากไม่ดูแลหัวข้อการทานอาหารพร้อมกันไปด้วย การรับประทานกระเทียมจึงอาจเป็นโอกาสหนึ่งที่น่าดึงดูด เนื่องจากกระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์แล้วก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองป้องกันสภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้เจ็บป่วยไขมันพอกตับที่มิได้มีต้นเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดศชายรวมทั้งผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งสิ้น 110 คน กินกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มก. ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 อาทิตย์ โดยสามารถรับประทานอาหารได้ตามธรรมดา แต่กินกระเทียมได้ไม่เกินสัปดาห์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดลองทำให้เห็นว่า น้ำหนักและมวลร่างกายลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก ก็เลยอาจพูดได้ว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดจำนวนไขมันในตับแล้วก็ป้องกันหรือชะลอการเกิดภาวการณ์ไขมันพอกตับที่มิได้มีเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นการเรียนรู้ในอนาคตยังต้องวางแบบการทดสอบให้ดียิ่งขึ้นและก็ควรเพิ่มระยะเวลาสำหรับในการทดสอบเพื่อรับรองความสามารถขอกระเทียม
ให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับคุณภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงมีความขัดแย้ง ก็เลยทำให้ยังไม่อาจจะสรุปได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งสอดคล้องกับการทดสอบแล้วก็การศึกษาโดยการทบทวนงานค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวข้องปริมาณ 29 ชิ้น ได้แสดงให้เห็นว่า การกินกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้บางส่วน แต่ว่าไม่นำมาซึ่งการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือเปล่าทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอะไร ก็เลยยังจำเป็นที่จะต้องเรียนเพิ่มเติมเพื่อหาบทสรุปและรับรองความสามารถของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มชัดเพิ่มขึ้น
[/b]
ความปลอดภัยสำหรับการกินกระเทียม
การรับประทานกระเทียมค่อนข้างปลอดภัยแม้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม แต่อาจส่งผลให้เป็นผลข้างเคียงได้ อย่างเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะอาหาร แสบร้อนกึ่งกลางอก ท้องอืด อาเจียน อ้วก หรือท้องเสีย อาการพวกนี้บางทีอาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่บริเวณผิวหนังอาจทำให้กำเนิดอาการแสบร้อนแล้วก็ระคายได้
สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังในการกินกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกลุ่มต่อแต่นี้ไป
คนที่กำลังท้องหรือคนที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร การรับประทานกระเทียมในช่วงการท้องออกจะปลอดภัยแม้กินเป็นอาหารหรือในปริมาณที่เหมาะสม แต่บางทีอาจไม่ปลอดภัยถ้าเกิดกินกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังไม่มีช้อมูลที่น่าเชื่อถือพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การรับประทานกระเทียมในปริมาณที่สมควรและก็ในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่มีอันตรายสำหรับเด็ก แต่ว่าการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนแล้วก็ระคายเคือง
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะหรือการย่อยอาหาร อาจจะทำให้เกิดการระคายที่เดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินกระเทียมอาจจะทำให้ระดับความดันโลหิตลดต่ำลงมากกว่าปกติ
ผู้ที่คิดแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดกินกระเทียมก่อนการผ่าตัดขั้นต่ำ 2 อาทิตย์เพราะอาจก่อให้เลือดออกมากและก็ส่งผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และคนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ปกติไม่ควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด เพราะเหตุว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค เช่น ไอโซไนอะสิด เพราะว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายรวมทั้งมีผลต่อความสามารถหลักการทำงานของยา รวมทั้งไม่ควรรับประทานกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังนี้
ยารักษาการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคเอดส์
ยาคุมกำเนิด
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/[/b][/size][/b]

Tags : สมุนไพรกระเทียม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ