กระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์ดีนักหนาอย่างไร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์ดีนักหนาอย่างไร  (อ่าน 21 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
01adxz45
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2018, 01:53:05 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
กระเทีย[/size][/b]
ลักษณะทางด้านกายภาพและเคมีที่ดี:
           จำนวนน้ำไม่เกิน 68% w/w  ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 2.5% w/w  จำนวนเถ้าที่ไม่ละลายในกรดไม่เกิน 1% และปริมาณสารสกัดเฮกเซน แอลกอฮอล์ และก็น้ำ ราวๆ 0.52, 0.50 และก็ 15% w/w  ตามลำดับ เภสัชตำรับอังกฤษระบุจำนวนสาร alliin ไม่น้อยกว่า 0.45 % w/w
คุณประโยชน์:
           หนังสือเรียนยาไทยใช้หัว[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม
เป็นยาขับลม แก้ลมจุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ธาตุทุพพลภาพ  อาหารไม่ย่อย ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ลดไขมัน รักษาปอด แก้ปอดพิการ  แก้อุจจาระเป็นมูกเลือด  บำรุงธาตุ  กระจัดกระจายโลหิต  ขับปัสสาวะ แก้บวมพุพอง  ขับพยาธิ  แก้ตาปลา  แก้ตาแดง ร้องไห้  ตาฝ้า รักษาโรคลักปิดลักเปิด  รักษามะเร็งคุด   รักษาริดสีดวง แก้ไอ  คุมกำเนิด แก้สะอึก  บำบัดรักษาโรคในอก แก้พรรดึก รักษาฟันเป็นโรครำมะนาด  แก้หูอื้อ แก้อัมพาต  ลมเข้าข้อ  แก้อาการชักของเด็ก พอกหัวเหน่าแก้ขัดเบา รักษาวัณโรค  แก้โรคประสาท แก้โรคหืด แก้ปวดมวนในท้อง บำรุงสุขภาพทางกามคุณ  ขับเลือดระดู  บำรุงเส้นประสาท   แก้ไข้   แก้ฟกช้ำดำเขียว แก้ปวดกระบอกตา แก้โรคในปาก แก้หวัดคัดจมูก   แก้ไข้เพื่อเสมหะ ทำให้ผมเงางาม  บำรุงเส้นผมให้ดกดำ ใช้ด้านนอก รักษาแผลเรื้อรัง รักษาขี้กลากโรคเกลื้อน แก้โรคผิวหนัง  ทาข้างนอกทุเลาลักษณะของการปวดบวมตามข้อเพราะเป็นยาพอกให้ร้อน ใช้พอกตรงที่ถูกแมลง ตะขาบ แมงป่องต่อยเป็นองค์ประกอบในตำรับยาเหลืองปิดสมุทร (แก้ท้องเดิน), ยาประสะไพล (ขับน้ำคร่ำ ในสตรีข้างหลังคลอด), ยาธาตุบรรจบ (แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ  ท้องร่วง ใช้กระเทียม 3 กลีบ ตีชงน้ำร้อน ใช้เป็นน้ำกระสายยา สำหรับยาผง)
         บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์วิชาความรู้เริ่มแรก ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ กำหนดการใช้กระเทียมในตำรับ “ยาแก้ลมอัมพฤกษ์” มีส่วนประกอบของหัวกระเทียมร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับ มีคุณประโยชน์ทุเลาอาการปวดตามเอ็น กล้ามเนื้อ มือ เท้า ตึงหรือชา ตำรับ "ยาประสะไพล" มีส่วนประกอบของหัวกระเทียมร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณรักษารอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือมาน้อยกว่าปกติ ทุเลาอาการปวดประจำเดือน  รวมทั้งขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอดบุตร
ต้นแบบและขนาดวิธีใช้ยา:
กระเทียมสด 2-5 กรัมต่อวัน กระเทียมแห้ง 0.4-1.2 กรัมต่อวัน น้ำมันกระเทียม 2-5 มิลลิกรัมต่อวัน สารสกัด 300-1,000 มก.ต่อวัน หรือแบบอย่างยาอื่นๆที่มีสาร alliin 4-12 มก.หรือสาร allicin 2-5 มิลลิกรัม
ขนาดแล้วก็วิธีใช้สำหรับอาการท้องอืดท้องอืดแน่นจุกเสียด:
ใช้กระเทียม  5-10  กลีบ ตรอกละเอียด  กินหลังอาหาร หรือพร้อมอาหาร
ขนาดและวิธีใช้สำหรับรักษาขี้กลากโรคเกลื้อน:
                   ฝานกระเทียมถูบ่อยๆบริเวณที่เป็น  หรือตำแล้วขยี้ทาบริเวณที่เป็น  วันละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะทายาใช้ไม้บางๆเล็กๆที่ได้ฆ่าเชื้อโรคแล้ว (โดยการแช่ในแอลกอฮอล์ 70%  หรือต้มในน้ำเดือด 10-15 นาที) ขูดรอบๆที่เป็น ให้ผิวหนังแดงๆก่อนทา เพื่อให้ตัวยาซึมลงไปได้ดีขึ้น เมื่อหายแล้วให้ป้ายยาต่ออีก 7-10 วัน
ขนาดและวิธีใช้สำหรับแก้ไอ:
                   ตำรายาไทยให้ใช้กระเทียม และก็ขิงสดอย่างละเท่ากันตำละเอียด ละลายน้ำอ้อยสด คั้นเอาน้ำจิบแก้ไอ กัดเสมหะ ทำให้เสมหะแห้ง ตำรายาไทยบางตำรับให้คั้นกระเทียมกับน้ำมะนาวเพิ่มเติมเกลือใช้จิดหรือปัดกวาดคอ
องค์ประกอบทางเคมี:
           น้ำมันหอมระเหย ราวๆ 0.1-0.4% มีองค์ประกอบหลักเป็น allicin  ajoene  alliin  allyldisulfide diallyldisulfide ซึ่งเป็นสารประกอบกรุ๊ปกลุ่ม organosulfur  สารในกลุ่มนี้ที่เจอในกระเทียมดังเช่น  สารกลุ่ม S-(+)-alkyl-L-cysteine sulfoxides , alliin 1% , methiin 0.2% , isoalliin 0.06% และก็ cycloalliin 0.1% แล้วก็สารที่ไม่ระเหยคือ สารกรุ๊ป gamma-L-glutamyl-S-alkyl-L-cysteines , gamma-glutamyl-S-trans-1-propenylcysteine 0.6% รวมทั้ง gamma-glutamyl-S-allylcysteine รวมราว 82% ของสารกลุ่ม organosulpur ทั้งผอง ส่วนสารกลุ่ม thiosulfinates (allicin) สารกรุ๊ป ajoenes (E-ajoene และก็ Z-ajoene) สารกลุ่ม vinyldithiins (2-vinyl-(4H)-1,3-dithiin , 3-vinyl-(4H)-1,2-dithiin) และก็สารกลุ่ม sulfides (diallyl disulfide , diallyl trisulfide) ซึ่งเป็นสารที่ไม่ได้พบในธรรมชาติแต่ว่ามีต้นเหตุมาจากการย่อยสลายของสาร allin ซึ่งถูกย่อยสลายด้วยเอนไซม์ alliinase หลังจากนั้นก็เลยมีการรวมตัวกันใหม่ได้สาร allicin ซึ่งเป็นสารที่ไม่เสถียร ย่อยสลายได้สารกรุ๊ป sulfides อื่นๆโดยเหตุนั้นกระเทียมที่ผ่านกรรมวิธีการสกัด การกลั่นน้ำมัน หรือความร้อน สารประกอบโดยมากที่พบเป็นสารกรุ๊ป diallyl sulfide , diallyl disulfide , diallyl trisulfide รวมทั้ง diallyl tetrasulfide ส่วนกระเทียมที่ผ่านแนวทางการหมักในน้ำมัน สารประกอบที่พบโดยมากเป็น 2-vinyl-(4H)-1,3-dithiin , 3-vinyl-(4H)1,2-dithiin , E-ajoene แล้วก็ Z-ajoene จำนวนของ alliin ที่พบในกระเทียมสด โดยประมาณ 0.25-1.15% สารกลุ่มอื่นๆที่พบ ตัวอย่างเช่น สารมูก แล้วก็ albumin, scordinins, saponins 0.07% , beta-sitosterol 0.0015%, steroids, triterpenoids และก็ flavonoids
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา: 
ฤทธิ์คุ้มครองตับจากพิษ
      การทดลองป้อนสาร diallyl disulfide (DADS) จากกระเทียมให้แก่หนูขาว ขนาดวันละ 50 รวมทั้ง 100 มก./กิโลกรัม น้ำหนักตัว ในหนูแต่ละกรุ๊ป นานติดต่อกัน 5 วัน ก่อนรั้งนำให้ตับเกิดการเสียหายด้วยสาร carbon tetrachloride (CCl4) พบว่า DADS ทั้งสองขนาดสามารถคุ้มครองปกป้องตับเป็นพิษได้ การตรวจดูลักษณะทางจุลกายวิภาคศาสตร์พบว่าสามารถยั้งความย่ำแย่ของเซลล์ตับ โดยลดแนวทางการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี aspartate transaminase (AST) และ alanine transaminase (ALT) ในตับลงได้ ลดการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวในขั้นตอนการอักเสบ และการตายของเซลล์ตับ เป็นต้นว่า Bax, cytochrome C, caspase-3, nuclear factor-kappa B, I kappa B alpha นอกจากนี้ยังมีผลเพิ่มการแสดงออกของโปรตีน แล้วก็โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการต่อต้านอนุมูลอิสระ อาทิเช่น catalase, superoxide dismutase, glutathione peroxidase, glutathione reductase, glutathione S-transferase ผลจากการเรียนรู้ทำให้เห็นว่า สาร DADS จากกระเทียมมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและปกป้องตับจากสารพิษ โดยกลไกกระตุ้นการทำงานของ nuclear factor E2-related factor 2 (Nrf2) ซึ่งเป็น transcription factor หรือโปรตีนที่ควบคุมการแสดงออกของยีนที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาเซลล์ และก็เนื้อเยื่อจากอนุมูลออกสิเจนที่คล่องแคล่วต่อปฏิกิริยา การกระตุ้น Nrf2 มีผลเหนี่ยวนำการสร้างเอนไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระ และก็สร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีในระบบการกำจัดพิษออกจากร่างกายในขั้นตอนที่ 2 (detoxifying Phase II  enzyme) แล้วก็ยับยั้ง nuclear factor-kappa B ส่งผลให้ลดการสร้างสารที่เกี่ยวเนื่องกับการอักเสบลง รวมทั้งคุ้มครองตับจากพิษได้ (Lee, et al, 2014)
ฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบ
      เล่าเรียนฤทธิ์ต้านทานการอักเสบของสารสกัดน้ำโดยไม่ผ่านความร้อน (raw garlic) และสารสกักระเทียม[/url]ที่ผ่านการต้มแล้ว นำมาทดลองในหลอดทดลอง โดยใช้เนื้อเยื่อของกระต่าย พบว่า raw garlic สามารถยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase (ที่นำไปสู่การสร้างสารอักเสบ) แบบ non-competitive และ irreversible จากการศึกษาพบว่า raw garlic สามารถยั้งโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี cyclooxygenase ได้ โดยมีค่า IC50 ต่อเกล็ดเลือด,ปอด แล้วก็เส้นเลือดแดงในกระต่ายเท่ากับ 0.35, 1.10 แล้วก็ 0.90 mg ในระหว่างที่กระเทียมที่ต้มแล้วมีฤทธิ์ยับยั้ง cyclooxygenase ได้นิดหน่อยเมื่อเปรียบเทียบกับกระเทียมที่ไม่ผ่านความร้อน เนื่องจากองค์ประกอบสำคัญในกระเทียมนั้นถูกทำลายขณะที่ให้ความร้อน จากผลการค้นคว้าแสดงให้เห็นว่ากระเทียมคงจะมีสาระในการคุ้มครองปกป้องโรคเส้นเลือดตันได้ (Ali, 1995)
      จากการรวบรวมงานศึกษาวิจัย ที่ศึกษาฤทธิ์ต้านทานการอักเสบของกระเทียม โดยสรุปพบว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบผ่านหลายกลไก ดังนี้เป็น ต้านทานการอักเสบผ่าน T-cell lymphocytes โดยไปยับยั้ง SDF1a-chemokine-induced chemotaxis มีผลให้การมารวมกลุ่มกันของสารที่นำไปสู่การอักเสบน้อยลง, ยั้ง transendothelial migration of neutrophils ส่งผลให้ลดการเคลื่อนที่ของเม็ดเลือดขาวประเภท neutrophil ในวิธีการอักเสบลง, ยับยั้งการหลั่งสาร TNFα ซึ่งเป็นสารเริ่มในขบวนการอักเสบ, กดการผลิตอนุมูลไนโตรเจนที่คล่องแคล่วต่อการเกิดปฏิกิริยาการอักเสบ และก็การทำงานผ่าน ERK1/2 อีกทั้ง 2 กลไก ดังเช่น การยับยั้ง phosphatase-activity (directly related with ERK1/2 phosphorylation) และก็การเพิ่ม phosphorylation of ERK1/2 kinase (ผ่านทาง p21ras protein thioallylation) มีผลทำให้การอักเสบลดลง (Martins, et al, 2016)
[/b]
ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
      การทดลองความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการต้านเชื้อ Escherichia coli ซึ่งป็นเชื้อก่อโรคทางเดินอาหาร ของสารสกัดหัวกระเทียมด้วย เอทานอล เมทานอล  อะซิโตน  รวมทั้งการสกัดสดโดยแนวทางบังคับแบบเย็น โดยใช้แนวทาง microdilution broth susceptibility test พบว่าการสกัดสดมีค่า MIC แล้วก็ค่า MBC น้อยที่สุด (3.125กรัมต่อลิตร) และรองลงมาเป็น สารสกัดจากตัวทำละลาย เอทานอล เมทานอล และอะซิโตน ให้ค่า MIC แล้วก็ MBC เท่ากัน (6.25กรัมต่อลิตร) แปลว่าสารสกัดสดมีทรัพย์สมบัติสำหรับในการยั้ง แล้วก็ฆ่าเชื้อโรคแบคทีเรียดีที่สุด เนื่องจากว่าในกระเทียมสดมี allin เป็นสารประกอบกำมะถันที่สำคัญ เมื่อกระเทียมสดถูกบด หรือผ่านขั้นตอนการดัดแปลง allinase จะถูกปลดปล่อยออกมาจากข้างใน vacuole ของเซลล์ และอาศัยน้ำเป็นกลไกในการทำปฏิกิริยาได้เป็น allicin ซึ่งเป็นสารที่มีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับการยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ซึ่งขั้นตอนสกัดสดช่วยทำให้กระบวนการทำปฏิกิริยาระหว่างสาร allin แล้วก็ allinase ดีขึ้น เนื่องมาจากจะต้องใช้เวลาในการบีบเค้นน้ำกระเทียมซึ่งระยะเวลาดังที่กล่าวมาแล้วช่วยให้กระบวนการทำปฏิกิริยาระหว่างสารมากขึ้น อาจจะส่งผลให้ได้ allicin มากขึ้น (ภรงาม และก็รังสินี, 2554)
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
         เมื่อนำสารสกัดกระเทียมที่ได้จากการบ่มสกัด (aged garlic extract (AGE) ด้วย 20 % เอทานอล เป็นเวลา 20 เดือน ที่อุณหภูมิห้อง นำมาทดสอบการต้านการเกิดปฏิกิริยาขบวนการออกซิเดชันของไลโปโปรตีนจำพวกความหนาแน่นต่ำ หรือต้านการเกิด oxidized LDL (ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดสภาวะเส้นเลือดแดงแข็ง) โดยนำ LDL ที่แยกได้จากคนมาทดสอบในสภาวะที่มีไหมมี AGE โดยใช้ CuSO4 และก็ 5-lipoxygenase รั้งนำให้กำเนิด oxidized LDL แล้วก็ทดลองสารสกัดของ AGE ผลของการทดสอบพบว่า AGE มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยลดการผลิต superoxide ion (อนุมูลอิสระของออกซิเจน) และลดการเกิด lipid peroxide (ขบวนการออกซิเดชันของไขมัน)  โดย AGE 10%v/v เมื่อใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย สามารถยั้งการเกิด superoxide ได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนสารสกัด 10% v/v จาก diethyl ether ของ AGE ได้ผล 34%  ฤทธิ์ลดการเกิด lipid peroxidation ของ LDL พบว่าสารสกัด 10% v/v จาก diethyl ether ลดการเกิด lipid peroxidation ที่เกิดขึ้นจากการเหนี่ยวนำของ Cu2+ แล้วก็ 5-lipoxygenase ได้ 81% แล้วก็ 37% เป็นลำดับ สรุปได้ว่า AGE มีผลยั้งการเกิด oxidation ของ LDL โดยลดการผลิต superoxide และยั้งการเกิด lipid peroxide  ด้วยเหตุนั้น AGE จึงอาจมีหน้าที่สำหรับในการคุ้มครองการเกิดสภาวะเส้นเลือดแดงแข็งตัว (atherosclerotic disease) ได้ (Dillon, et al, 2003)
      การเรียนฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดหัวกระเทียมด้วย เอทานอล เมทานอล  อะซิโตน  รวมทั้งการสกัดสดโดยแนวทางบีบบังคับแบบเย็น ทดลองโดยขั้นตอนการยับยั้งอนุมูลอิสระ DPPH, การต้านออกสิไดส์จากสาร hydrogen peroxide (hydrogen peroxide (H2O2) scavenging activity ผลการทดสอบฤทธิ์ยับยั้งอนุมูลอิสระ DPPH พบว่าการสกัดกระเทียมด้วยตัวทำละลายอะซิโตน ให้ค่า IC50 ต่ำที่สุด พอๆกับ 3.58±0.02 mg/ml รองลงมา ยกตัวอย่างเช่น สารสกัดเมทานอล เอทานอล รวมทั้งการสกัดสด เป็นลำดับ โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 3.72±0.03, 4.47±0.20 รวมทั้ง 55.36±3.96 mg/ml เป็นลำดับ  ผลของการต้านสารออกซิไดซ์ที่ร้ายแรง ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (H2O2) พบว่าสารสกัดด้วยตัวทำละลายเมทานอล มีโภคทรัพย์การต้านออกซิไดส์ของสาร H http://www.disthai.com/[/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ