ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์  (อ่าน 12 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pslkoo1df5ds5
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2018, 03:06:50 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
ราชพฤกษ[/size][/b]
ความเป็นมาของต้นราชพฤกษ์
   จากอดีตกาลก่อนหน้านี้กว่า 50 ปี ทางด้านราชการมีความอุตสาหะหลายคราวสำหรับในการกำหนดให้มีสัญลักษณ์ประจำชาติไทย โดยเฉพาะการกำหนด ต้นไม้ แล้วก็ ดอกไม้ ประจำชาติ เริ่มที่กรมป่าไม้ได้ชวนให้ประชากรสนใจต้น[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ[/b]หรือคูณมาตั้งแต่ตอนปี พุทธศักราช2494 โดยรัฐบาลมีมติให้ถือวันที่ 24 มิถุนายน เป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ (arbour day) มีการชวนให้ปลูกต้นไม้ที่มีคุณประโยชน์ประเภทต่างๆเยอะแยะ ในเวลาเดียวกันก็ได้มีการเสนอว่า ต้นราชพฤกษ์ น่าจะนับว่าเป็นต้นไม้ประจำชาติ
ราชพฤกษ์
   จนกระทั่งในปี พ.ศ.2506 มีการประชุมเพื่อกำหนดเครื่องหมายต้นไม้และก็สัตว์ประจำชาติเป็นครั้งแรก โดยกรมป่าไม้ได้เสนอให้ ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูณ พืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่มีประโยชน์และก็รู้จักกันอย่างล้นหลามฯลฯไม้ประจำชาติ สำหรับสัตว์ประจำชาติก็คือ ช้างเผือก สัตว์ที่มีคุณค่าเกี่ยวโยงกับขนบธรรมเนียมไทยและประวัติศาสตร์ไทยมายาวนาน การเสนอตอนนั้นไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาสัญลักษณ์ที่บอกถึงความเป็นอิสระยจึงมีมากมาย ตั้งแต่สถานที่สำคัญๆ สัตว์ ดอกไม้ ที่ชาวไทยเคยชินและพบเจอบ่อยมาก เป็นต้นว่า พระปรางค์วัดใกล้รุ่งฯ เรือสุพรรณหงส์ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกพุทธรักษา แมวไทย เหมือนกันกับ ต้นราชพฤกษ์ รวมทั้ง ช้างเผือก ยังคงถูกเชิดชูให้เป็นเครื่องหมายประจำชาติตลอดมา
            ปี พ.ศ.2530 มีการช่วยเหลือให้ปลูกต้นราชพฤกษ์อีกรอบ เพื่อเป็นการสรรเสริญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ โดยมีการเกื้อหนุนให้ปลูกต้นราชพฤกษ์ทั่วทั้งประเทศปริมาณ 99,999 ต้น ตอนนี้จึงมีต้ราชพฤกษ์
อยู่เยอะแยะทั้งประเทศไทย
            บทสรุปเรื่องเครื่องหมายประจำชาติดูเหมือนจะยังไม่ชัดเจน กระทั่งตอนปี พ.ศ.2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้นำเรื่องดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นกลับมาเสนออีกรอบ และก็มีบทสรุปเสนอให้มีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่งคือ ดอกไม้ สัตว์แล้วก็สถาปัตยกรรม และการพิเคราะห์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเสนอให้ระบุดอกไม้ประจำชาติคือ ดอกราชพฤกษ์ สัตว์ประจำชาติ คือ ช้างไทย และก็สถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น ศาลาไทย
            เหตุที่เลือก ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติด้วยเหตุว่ามีความเหมาะสมในหลายๆด้านหมายถึงเป็นดอกไม้จากต้นไม้ที่ถูกเสนอให้ฯลฯไม้ประจำชาติเมื่อครั้งที่กรมป่าไม้เสนอไว้ ฯลฯไม้ที่แก่ยืน แข็งแรง ปลูกขึ้นเจริญทั่วทุกภาคของประเทศ ฯลฯไม้ท้องถิ่นที่รู้จักแพร่หลาย มีชื่อเรียกหลายชื่อไม่เหมือนกันในแต่ละภาค เช่น ต้นลมแล้ง คูน อ๋อดิบ ราชพฤกษ์เป็นไม้มงคลใช้ประโยชน์ในพิธีสำคัญๆอาทิเช่น ลงหลักเมือง ลงเสาฤกษ์ ทำคฑาจอมพลและยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร ในช่วงฤดูร้อนราชพฤกษ์จะออกดอกสะพรั่งอีกทั้งต้น ช่อดอกมีทรงสวย สีเหลืองสวยงามเป็นเครื่องหมายของศาสนาพุทธอันเป็นศาสนาประจำชาติ และก็เป็นสีเดียวกับวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นอกจากนี้ความสวยของช่อดอก และก็ความหมายที่ดียังถูกจำทดลองแบบตกแต่งไว้บนอินทรธนูของข้าราชการพลเรือนอีกด้วย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำชาติไทย
ส่งดอกไม้ประจำชาติไทย คือ ดอกราชพฤกษ์ (Golden shower) หรือ ชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ของ ดอกราชพฤกษ์เป็นCassia fistula
           ดอกไม้สีเหลืองอร่ามที่พบบ่อยมองเห็นได้ทั่วๆไปตามริมถนนสายต่างๆเป็นสีสันของ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ต้นไม้มงคลที่ได้รับการเชิดชูให้เป็น ดอกไม้ประจำชาติไทย ทั้งยังมั่นใจว่าเป็นต้นไม้ที่ปลูกไว้แล้วจะเสริมให้คนภายในบ้านทรงเกียรติขั้นชื่อ เสียงมากขึ้นเรื่อยๆด้วย ยิ่งใกล้ไปสู่เวลาที่การเปิดประตูต้อนรับเพื่อนบ้านอาเซียนกันแล้ว ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเนื้อหาสาระเกี่ยวกับดอกไม้ประจำชาติไทยอย่าง ดอกราชพฤกษ์ มาให้ทำความรู้จักกันแรง
ประวัติดอกราชพฤกษ์
           ต้นราชพฤกษ์ หรือ ต้นคูน ฯลฯไม้ประจำถิ่นของทวีปเอเชียใต้ ตั้งแต่ปากีสถาน อินเดีย เมียนมาร์ รวมทั้งศรีลังกา โดยนิยมปลูกกันมากในเขตร้อน สามารถเจริญวัยได้ดิบได้ดีใน และมีชื่อเสียงในประเทศไทยมาหลายสิบปี โดยมีการเสนอให้ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทยตั้งแต่ปี พุทธศักราช 2506 แต่ว่าก็ยังมิได้ผลสรุปกระจ่าง จนตราบเท่ามีการลงนามให้เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย ตอนวันที่ 26 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2544
[/b]
ดอกไม้ประจำชาติไทย
           เนื่องจาก ต้นราชพฤกษ์ ออกดอกสีเหลืองชูช่อ มองสง่างาม ทั้งยังมีสีตรงกับ สีประจำวันพระราชการบังเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงถูกตั้งชื่อว่าเป็น "ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์" รวมทั้งมีการลงนามให้ต้นราชพฤกษ์ ยอดเยี่ยมใน 3 เครื่องหมายประจำชาติไทย โดยมี 1. ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติไทย 2. ศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติไทย และก็ 3. ดอกราชพฤกษ์ เป็นดอกไม้ประจำชาติไทย
เหตุผลเลือกเป็นดอกไม้ประจำชาติไทย

  • เนื่องด้วยเป็นต้นไม้พื้นบ้านที่รู้จักกันอย่างล้นหลาม และมีอยู่ทุกภาคของเมืองไทย
  • มีประวัติเกี่ยวโยงกับจารีตประเพณีหลักๆในไทยและก็ฯลฯพืชที่มีความเป็นสิริมงคลที่นิยมนำมาปลูก
  • ใช้ประโยชน์ได้มากมาย อย่างเช่น ใช้เป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังใช้ลำต้นเป็นเสาเรือนได้ เป็นต้น
  • มีสีเหลืองแพรวพราว พุ่มสวยเต็มต้น เปรียบเป็นสัญลักษณ์ที่ศาสนาพุทธ
  • มีอายุยืนนาน และก็แข็งแรง
ลักษณะทั่วไป
           ฯลฯไม้ขนาดกลาง สูงราว 10-20 เมตร มีดอกเป็นช่อสีเหลืองอร่าม แต่ละช่อยาวราว 20-40 เซนติเมตร โดยกลีบจะเป็นสีเหลือง 5 กลีบ ส่งผลยาวราว 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นแรง แล้วก็มีเมล็ดที่เป็นพิษ
การปลูกดอกราชพฤกษ์
           นิยมปลูกด้วยเมล็ด โดยจะมีการเจริญเติบโตช้าในช่วง 1-3 ปีแรก แต่หลังจากนั้นจะมีการเติบโตเร็วขึ้น และก็ออกดอกตอนอายุประมาณ 4-5 ปี
การรักษา
           แสงสว่าง : อยากแสงอาทิตย์จัด หรือกลางแจ้ง แล้วก็เจริญเติบโตได้ดิบได้ดีในเป็นพิเศษ
           น้ำ : ถูกใจน้ำน้อย ควรรดน้ำ 7-10 วันต่อครั้ง สามารถทนกับสภาพภูมิอากาศร้อนได้ดิบได้ดี
           ดิน : สามารถเติบโตได้ดิบได้ดีในดินร่วนซุย ดินร่วนผสมทราย หรือดินเหนียว
           ปุ๋ย : นิยมใส่ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก ในอัตรา 2-3 กก.ต่อต้น และควรให้ปุ๋ยปีละ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์
           วิธีเพาะพันธุ์ต้นราชพฤกษ[/b]ที่นิยมเป็นการเพาะเมล็ด โดยใช้เมล็ดใหม่ๆมาขลิบด้วยกรรไกรตัดเล็บ แต่จะต้องเลือกขลิบบริเวณด้านป้าน เนื่องจากว่าด้านแหลมจะมีต้นอ่อนอยู่ แล้วต่อจากนั้นนำไปแช่น้ำสะอาดทิ้งไว้ข้ามวัน จึงค่อยเทน้ำออกให้เหลือปริมาณพอหล่อเลี้ยงเมล็ดได้ แล้วทิ้งไว้อีกคืนก็จะเจอรากแตกออก แล้วก็สามารถนำลงปลูกได้เลย
ความเลื่อมใสเกี่ยวกับต้นราชพฤกษ์
           เชื่อว่าฯลฯพืชที่มีความมงคล ที่ควรปลูกไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้วก็แม้ปลูกเอาไว้ภายในบ้านจะช่วยให้มีเกียรติยศ เกียรติ และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางไสยเวท โดยใช้ใบทำน้ำพระพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ เพราะเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนาม [url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/
[/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ