ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 44 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
eetnhrwm540240
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 15


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 03, 2018, 08:32:33 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
ขิ[/size][/b]
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ข้างนอกเหง้าเป็นน้ำตาลปนเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักนำมาทำอาหารเนื่องจากว่าส่งกลิ่นหอม นอกจากนั้น ขิงยังคงใช้เป็นองค์ประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งหน้าทั้งหลายแหล่เช่นกัน ด้านคุณประโยชน์ต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลายประเภทมาอย่างยาวนาน ตัวอย่างเช่น โรคเกี่ยวกับระบบการทำงานด้านการย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อาเจียน เบื่ออาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่ามีสารที่อาจช่วยลดอาการอาเจียนและก็ลดการอักเสบ โดยนักวิจัยส่วนใหญ่คาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารและก็ไส้ และก็สารนี้บางทีอาจมีผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการคลื่นไส้ด้วย แต่การสันนิษฐานดังที่กล่าวถึงมาแล้วยังไม่ชัดแจ้งนัก และคุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ของขิงต่อสุขภาพที่เราเชื่อกันนั้น ในตอนนี้ทางด้านวิทยาศาสตร์มีข้อมูลแจกแจงไว้ดังต่อไปนี้
การรักษาที่บางทีอาจสำเร็จ
อาการอาเจียนคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านทานเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ สรรพคุณทุเลาอาการอ้วกอาเจียนของ[url=http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87]ขิง
อาจมีคุณประโยชน์ต่อคนเจ็บโรคนี้ที่เห็นแก่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเรียนรู้ผู้ป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งกินขิง 500 กรัม อีกกลุ่มกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนจะได้รับยารักษาโรคโรคภูมิคุมกันบกพร่องอย่างยาต้านทานรีโทรไวรัส ตรงเวลาทั้งผอง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนอาเจียนที่เกิดขึ้นจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการคลื่นไส้อ้วกหลังจากการผ่าตัด ขิงบางทีอาจช่วยทุเลาอาการอ้วกแล้วก็อาเจียนจากการผ่าตัดได้เช่นกัน โดยการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ส่วนมากชี้ว่าการกินขิง 1-1.5 กรัม ในตอน 1 ชั่วโมงก่อนจะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่อาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันหลังได้รับการผ่าตัด
การค้นคว้าหนึ่งทดสอบแบ่งผู้ป่วยปริมาณ 122 รับการผ่าตัดต้อกระจกให้รับประทานแคปซูลขิง 1 กรัม และอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แต่ว่าแบ่งให้ 2 ครั้งก่อนผ่าตัด ซึ่งผลพบว่าผู้ป่วยในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอาเจียนคลื่นไส้น้อยครั้งรวมทั้งมีความรุนแรงของอาการน้อยกว่า โดยการวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นคงจะให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรับประทานบ่อยๆรวมทั้งเป็นประจำโดยแบ่งจำนวนการใช้
ยิ่งกว่านั้น การทดลองทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนไข้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองอาการอาเจียนในคนป่วยโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งหมด แต่ทว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกอ้วกร่วมกับยาลดคลื่นไส้อ้วกนั้นบางทีอาจได้ผลได้ไม่ดีนัก แล้วก็การใช้ขิงกับผู้ป่วยที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการอาเจียนอาเจียนน้อยอยู่รวมทั้งบางทีอาจไม่ได้ผลด้วยเหมือนกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยทุเลาอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนหัว ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่แก่ครรภ์ต่ำยิ่งกว่า 20 อาทิตย์ จำนวน 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกวี่วันนานขั้นต่ำ 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้จะเปลี่ยนการรับประทานอาหารและตาม หลังจากกินสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลได้ชี้ให้เห็นว่าขิงอาจสามารถประยุกต์ใช้ผลดีในฐานะการดูแลและรักษาโอกาสต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกการค้นคว้าวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการคลื่นไส้อ้วกในหญิงตั้งครรภ์ที่มีลักษณะแพ้ท้องได้ แต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้บางทีอาจมองเห็นการดูแลและรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน นอกจากนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีความจำกัดรวมทั้งพบผลลัพธ์ที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดลองที่ชี้ว่าขิงอาจไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดอาการแพ้ท้องเช่นกัน
อาการวิงเวียนหัว อาการที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการอาเจียนนี้อาจทุเลาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากการค้นคว้าวิจัยที่ทดสอบด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะอาการบ้านหมุน และก็ตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่กินยาหลอก แม้กระนั้นมิได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการศึกษาบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยกินสารสกัดจากขิง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อหัวเข่าภายหลังจากการดูแลและรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานค้นคว้าที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับการช่วยลดลักษณะการเจ็บขณะยืน ลักษณะการเจ็บหลังเดิน รวมทั้งอาการข้อติด
ยิ่งกว่านั้น มีการเรียนเทียบคุณภาพระหว่างขิงและยาพารา โดยให้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกสะโพกรวมทั้งข้อหัวเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกวี่ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลทุเลาอาการปวดได้เทียบเท่ากับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง และยังมีงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและส้มอาจช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดและอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนป่วยที่มีอาการเจ็บเข่าได้ด้วย
ลักษณะของการปวดระดู นอกเหนือจากอาการปวดจากโรคข้อเสื่อม การศึกษาบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณลักษณะช่วยทุเลาอาการปวดระดู อาทิเช่น การทดสอบในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้งในตอน 2 วันก่อนเริ่มมีรอบเดือนต่อเนื่องไปจนถึง 3 วันแรกของการมีรอบเดือน รวมทั้งสิ้นเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของลักษณะของการปวดรอบเดือนได้อย่างเป็นจริงเป็นจังด้านการเรียนรู้เทียบประสิทธิภาพขอขิง[/url]และก็ยาลดลักษณะของการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มรับประทานแคปซูลขิงหรือยาแต่ละจำพวกในจำนวน 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีรอบเดือน คำตอบปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาเรียนรู้แรกหมายถึงขิงมีคุณภาพทุเลาความรุนแรงของอาการปวดระดูไม่ได้มีความแตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่อาจไม่เป็นผล
อาการเมารถและก็เมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการกล่าวถึงกันมาก แต่ทว่าถึงแม้ขิงบางครั้งอาจจะช่วยลดอาการตาลายได้ แต่ว่าสำหรับเพื่อการตาลายคลื่นไส้ที่เกิดจากการเดินทางนั้น การค้นคว้าส่วนมากบอกว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง อย่างเช่น การแบ่งกรุ๊ปให้เด็กนักเรียนนายเรือ 80 คนที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง กินเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอ้วกรวมทั้งวิงเวียนลดน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับน้อยเพียงแค่นั้น หรือในอีกงานวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยในการคุ้มครองอาการเมารถหรือลักษณะการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวข้องกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด
การดูแลรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานพอเพียงต่อการระบุความสามารถ
อาการคลื่นไส้คลื่นไส้จากกระบวนการทำเคมีบำบัดรักษา อีกหนึ่งสรรพคุณคือลดอาการอาเจียนรวมทั้งคลื่นไส้ ซึ่งมีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่แย้งกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้จริงหรือไม่ การเล่าเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงคุณประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้ป่วยกินแคปซูลขิงที่ประกอบด้วยขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดรักษานานต่อเนื่องตรงเวลา 6 วัน พบว่า หรูหราความรุนแรงของอาการคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นหลังจากการดูแลและรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่ไม่ได้รับประทานแคปซูลขิง แม้กระนั้นเห็นผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกรุ๊ปที่กินแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับได้ผลน้อยกว่า หมายความว่าการกินขิงในจำนวนมากจึงอาจไม่ได้ทำให้อาการอาเจียนดียิ่งขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ดี มีหลักฐานที่ถกเถียงข้อช่วยเหลือดังที่กล่าวถึงมาแล้วซึ่งเป็นงานวิจัยที่เปิดเผยว่าการกินขิงไม่ได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อ้วก ทั้งนี้ ผลการค้นคว้าที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีต้นเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดลองนั้นต่างกัน รวมทั้งช่วงเวลาที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะประยุกต์ใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วได้ผลหรือเปล่าคงจะควรจะมีการรับรองเพิ่มเติมต่อไป
เบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้เจ็บป่วยเบาหวานในตอนนี้ยังส่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่ไม่แน่นอน การค้นคว้าหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด และก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนไข้โรคเบาหวานจำพวกที่ 2 และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางชนิดจากโรคเบาหวานได้ ในเวลาเดียวกัน มีการค้นคว้าวิจัยอื่นๆที่แนะนำว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง แต่ไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยบอกว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง ซึ่งผลการศึกษาเรียนรู้ที่แตกต่างนั้นอาจมาจากปริมาณขิงหรือช่วงเวลาที่คนป่วยได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
อาหารไม่ย่อย มีการศึกษาค้นคว้าเล่าเรียนสมรรถนะของขิงในคนไข้ที่มีลักษณะอาหารไม่ย่อยปริมาณ 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่ประกอบด้วยขิง 1.2 กรัมภายหลังจากการละอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะเกิดการย่อยของกินและมีการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่ว่าการรับประทานขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวโยงกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ แม้กระนั้น ผู้ร่วมการทดลองนี้มีปริมาณน้อย ทำให้ไม่อาจระบุได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่นอนเพียงใด
อาการแฮงค์ เช้าใจกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการแฮงค์ซึ่งเป็นผลข้างๆจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับคุณประโยชน์ข้อนี้มีการวิจัยเมื่อนานมาแล้วที่เสนอแนะว่าการผสมขิงกับเปลือกภายในของส้มเขียวหวาน และน้ำตาลก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการแฮงค์ในภายหลัง รวมทั้งอาการคลื่นไส้ อาเจียนแล้วก็ท้องเดิน อย่างไรก็ตาม การเล่าเรียนดังที่ได้กล่าวมาแล้วยังจัดว่าไม่กระจ่างอยู่มากมายและไม่บางทีอาจรับประกันได้ว่ามีต้นเหตุมาจากขิงจริงๆหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณสมบัติของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้คนไข้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม ผลสรุปบอกว่าเมื่อเทียบกับคนป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีประสิทธิภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะให้ผลดีจนถึงสามารถนำมาใช้รักษาผู้ป่วยภาวการณ์นี้ได้ไหมอาจจะจะต้องรอคอยการศึกษาเล่าเรียนในอนาคตที่แจ้งชัดกันถัดไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามข้างหลังออกกำลังกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดแล้วก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะของการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยหรือไม่นั้นยังคงคลุมเครือและเป็นที่ปะทะคารมกันอยู่เช่นกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 11 วัน พบว่าทั้งยังขิงสดและก็ขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดอาการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามเนื้อได้ในระดับปานกลางไปจนกระทั่งระดับมากมาย
แต่ทว่าอีกงานศึกษาวิจัยหนึ่งกลับพบผลสรุปในทางตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมบริหารร่างกายยืดหดกล้ามเหมือนกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 24 ชั่วโมงรวมทั้ง 48 ชั่วโมงหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่าไม่ได้นำมาซึ่งการทำให้ลักษณะการเจ็บกล้าม การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายน้อยลง แม้กระนั้นผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยพบว่าการกินขิงบางทีอาจช่วยทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อค่อยๆในทุกๆวัน อาจมองไม่เห็นผลได้ในทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการเรียนรู้กับคนป่วย 100 คน ที่เคยมีลักษณะอาการปวดศีรษะไมเกรนเฉียบพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/[/b]



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
wef7172
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13


ดูรายละเอียด อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2018, 09:03:07 am »

สรรพคุณของขิง/ประโยช์นของขิง

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ