Advertisement
ครั้นเมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มันน่ารำลึกจนจำต้องรวบรวมบันทึกออกมาเป็นรูปถ่าย และมันจักพิเศษขึ้นไปอีก ครั้นในภาพมีคนพิเศษอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะช่วยให้คุณได้รวบรวมภาพความทรงจำดีๆเหล่านั้น นอกจากสมอง และหัวใจของเราแล้ว ก็ต้องเป็น “กล้องถ่ายรูป” นั่นเอง ซึ่งในยุคนี้ ใครๆ ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องถ่ายภาพพร้อมมาด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นต้องสะพายกระเป๋ากล้องใบโต อีกทั้งยังมีความชัดไม่ได้ต่างไปจากกล้อง DSLR หรือ Mirrorless ซะทีเดียว ถึงกระนั้นความจริงนั้นมันยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่ต่างกันอยู่เยอะแยะเลยเชียว
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเซนเซอร์ ด้วยเหตุว่ากล้องถ่ายภาพจักมีเซนเซอร์ที่ใหญ่กว่าเซนเซอร์ของกล้องจากสมาร์ทโฟน ยิ่งขนาดเซนเซอร์ใหญ่เท่าใด ก็จะเก็บแสงได้เหนือกว่า ได้รายละเอียดภาพที่ยิ่งกว่า มีมิติเหนือกว่า รวมถึงทำให้ปรับความตื้นลึกของภาพได้อย่างนานาประการมากกว่า สำหรับโทรศัพท์มือถือสามารถทำได้ไม่ดีเท่ากล้องถ่ายภาพเท่าใดนัก พร้อมทั้งสิ่งเหล่านี้ยังส่งผลต่อคุณภาพของภาพที่ได้ด้วย อีกทั้งยังช่วยตัดทอน Noise หรือเม็ดสีที่แตกในภาพ โดยครั้นเมื่อย้อนกลับมาดูภาพจากกล้องถ่ายภาพมือถือก็จะพบ Noise ยิ่งกว่าภาพจากกล้องถ่ายภาพทั่วไป นั่นก็ทำให้เห็นแล้วว่าเซนเซอร์จาก กล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนเล็กกว่ากล้องถ่ายภาพทั่วไป
หลังจากนั้นก็จะเป็น Optical zoom ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้กล้องถ่ายรูปเหนือกว่ากล้องถ่ายภาพจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถ้าหากเป็นการซูมของกล้องถ่ายรูป ท่านสามารถปรับได้ตามความต้องการได้เลย ซึ่งน้อยรายในหมู่แบรนด์สมาร์ทโฟนที่จะมีคุณลักษณะนี้ เพราะว่าภาพบางภาพ ก็จำเป็นต้องใช้การซูมแบบ Optical เพื่อให้ได้ความเกี่ยวข้องของวัตถุบนภาพที่ดีที่สุด รวมถึงหน่วยความจำก็ยังสำคัญ เนื่องจากว่าในสมาร์ทโฟนของเธอคงมีทั้งรูปถ่าย เพลง ภาพยนตร์ หรือไฟล์วิดีโอ ซึ่งนั้นเป็นปัญหาจริงๆ หากเธอคิดว่าจะใช้กล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ชักรูปคุณตลอดทริปที่กินซ่าหรือไม่พาคู่ควงท่องเที่ยว Universal Studios เพราะคุณคงมิอยากมานั่งลบรูป ลบเพลงโปรด ไม่ก็ลิสหนังโด่งดังของคุณหรอก แต่หากยอมสะพายกล้องสักตัว พร้อมด้วยเมมรี่การ์ดสำรองสัก 2-3 อัน มั่นใจว่าท่านได้ทั้งภาพถ่ายที่มากมาย และไฟล์วิดีโอตลอดทั้งทริปของคุณแน่นอน
นั่นคือข้อมูลขั้นต้นว่าเพราะเหตุไรพวกเราถึงต้องยอมสะพายกล้องถ่ายรูปตัวหนัก แล้วต้องยอมพักกล้องมือถือไว้ก่อน และอาจพักยาวๆ เลย ถ้าได้รู้จักกับกล้องถ่ายรูปตัวนี้ นั่นก็คือ Olympus OM-D E-M10 III ซึ่งกล้องถ่ายรูป Olympus ตัวนี้ เป็นรุ่นที่ 3 ในซีรี่ส์ OM-D ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีรุ่นพี่เป็น E-M5 และ E-M1 นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่าตัวล่าสุด มันจะต้องดีกว่าตัวก่อนๆ แน่นอน เรามาดูประเด็นสำคัญ ๆ ของกล้องถ่ายภาพ Olympus OM-D E-M10 III ดีกว่าว่าคุ้มค่าต่อการพกพา ยิ่งกว่ากล้องโทรศัพท์มือถือหรือเปล่า
กล้อง Olympus OM-D E-M10 III เป็นกล้องถ่ายภาพเปลี่ยนเลนส์ได้ระบบ Micro Four Thirds ใช้เซนเซอร์ 4/3 Live MOS Sensor ความละเอียด 16.1 ล้านพิกเซล และให้ภาพที่ขนาดใหญ่มากที่ 4608 x 3456 และ Ratio ที่พอเหมาะของภาพคือ 4:3 ซึ่งเซนเซอร์ที่ว่ามานี่อาจจะมิใหญ่มาก แต่ก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม ข้อดีของกล้อง Olympus ตัวนี้ ในความคิดส่วนตัวน่าจะเป็นเรื่องของการระบบกันสั่นของเขา เพราะกล้องถ่ายภาพ Olympus รุ่นนี้ เป็นระบบกันสั่น 5 แกน สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 4 Stop โดยถ้าถ่ายด้วยความไวชัตเตอร์ที่ 1/10 วินาที แล้วถือถ่ายก็ยังทำได้ดีเลย
และด้วยความที่ต้องมี 3 สิ่งต่อไปนี้ ที่ทำให้ระบบกันสั่น 5 แกนทำงานได้ดี นั่นก็คือ เลนส์ เซ็นเซอร์รับภาพ และโปรเซสเซอร์ประมวลภาพ ซึ่งกล้อง Olympus ตัวนี้ใช้โปรเซสเซอร์ประมวลภาพ TruePic VIII จึงให้รูปถ่ายที่มีคุณภาพสูงงดงามแม้ที่แสงน้อย โดยที่เจ้าไม่ต้องตั้งค่า ISO สูงๆ ด้วย แถมกันการเกิด Noise ด้วย และด้วยระบบกันสั่น 5 แกนนี้ ยังทำให้การบันทึกภาพยนตร์ของท่านมิเป็นปัญหาเช่นกัน โดยกล้อง Olympus OM-D E-M10 III สามารถบันทึกภาพยนต์คุณภาพสูงถึง 4K เลยทีเดียว ที่แม้ว่าจะถือด้วยมือ และมิได้มีอุปกรณ์เพิ่มเติมใดๆ ก็ยังให้ภาพที่ได้ออกมาราบรื่น ถ้าเกิดสั่นไหว ก็เกิดได้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถแยกเฟรมเพื่อให้บันทึกภาพนิ่งจากวิดีโอ 4K ที่บันทึกไว้อีกด้วย
จะเห็นว่านี่แค่จุดเด่นเรื่องเดียวของกล้อง
Olympus OM-D E-M10 III ก็พิชิตกล้องถ่ายภาพสมาร์ทโฟนลอยลำแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคุณลักษณะต่างๆ อีกมากมายเลยที่ยังมิได้อ้างอิงถึง อาทิเช่น โหมดถ่ายภาพ Auto ที่ให้เธอปรับตั้งค่าตามที่เธอต้องการ หรือโหมดถ่ายภาพสำเร็จรูป Scene อีกทั้งโหมดถ่ายภาพขั้นสูง Advanced Photo ที่มีให้เลือกหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น Live Composite, Live Time และ ถ่ายภาพซ้อน เป็นต้น และโหมด Art Filter ซึ่งก็มีให้เลือกเยอะอยู่เหมือนกัน เพื่อให้ภาพมีความน่าดึงดูดใจมากยิ่งขึ้น และจุดหลักอีกอย่างของกล้อง Olympus ตัวนี้ คือมีขนาดที่เล็ก และพกพาสะดวกมาก โดยมีน้ำหนักเฉพาะแค่บอดี้แค่ 362 กรัม เพียงเท่านั้น ตัวนี้จึงสามารถลบคำดูถูกที่ว่า “กล้องมันหนัก” ไปได้เลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
olympus ราคาTags : Olympus,กล้อง olympus,olympus ราคา