Advertisement
ย้อนกลับในศก 2001 สมาร์ทโฟนได้เริ่มมีการจำหน่ายในวงกว้างแต่ทว่าเพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ตัวอย่างเช่นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครือข่าย ยังไม่พร้อมต่อการใช้งานอย่างเคร่งครัดมากนัก เมื่อผนวกกับราคาที่สูงเป็นปกติของวัสดุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ๆ ในขณะนั้น ส่งผลให้มีผู้ใช้มือถือไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทั้งหมด
แต่ทว่าเวลาก็แปรผันพร้อมทั้งการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีมาเรื่อยๆ จวบจนถึงตอนนี้ สมาร์ทโฟน กลายเป็นสาระสำคัญอีกอย่างหนึ่งในชีวิตของหลายๆ คน ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และขอบข่ายต่าง ๆ อำนวยให้ผู้ใช้งานหลาย ๆ ล้านคนได้ติดต่อสื่อสารและมีกิจกรรมอื่น ๆ บนโทรศัพท์มือถือได้ราบรื่น
ในปี 2017 ยอดส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วกันโลกอยู่ที่ 408 ล้านเครื่องซึ่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2017 นั้นโทรศัพท์มือถือถูกขายไปรวมเบ็ดเสร็จราวๆ 383 ล้านเครื่อง เพิ่มปริมาณจากปี 2016 โดยประมาณ 5% ซึ่ง 3 อันดับของแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดคือ 1. ซัมซุง ส่วนแบ่งการตลาด 21%,2. แอปเปิ้ล ส่วนแบ่งการตลาด 12%และ 3. หัวเว่ย ส่วนแบ่งตลาด 10% พวกเราไปเจาะลึกสถานการณ์ของแต่ละแบรนด์กันเลย
สิ้นปีที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งจะเปิดเผยสถิติผลกำไรมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2017ซึ่งกำไรสุทธิตั้งแต่ตุลาคมจวบจนถึงเดือนธันวาคมพุ่งไปแตะ 357,000 ล้านบาทแต่ดูท่า ซัมซุงจะทุบสถิติลงอีกครั้งหลังจากล่วงเลยเพียง 3 เดือน เมื่อก้าวเข้าสู่มีนาคม 2018โดยสร้างรายได้ราว 1.7 ล้านล้านบาทแล้ว
ซึ่งทั้งๆ ที่รายได้รวมยอดใน3 เดือนแรกของปี 2018 นั้นจะต่ำกว่าไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา แต่ทว่าด้วยรายจ่ายหลายอย่าง นั้นต่ำกว่า ทำให้ ซัมซุงสามารถสร้างเงินกำไรได้เป็นสถิติใหม่ของบริษัทอีกครั้งที่ 14,600 ล้านเหรียญ เปลี่ยนเป็นเงินไทยที่ 450,000 ล้านบาท
แหล่งกำเนิดของเงินกำไรที่เป็นสถิตินี้ ก็เป็นผลงานของสมาร์ทโฟนซัมซุง Galaxy S9 / S9+ ที่ปีนี้เลื่อนมาขายเร็วขึ้น ผนวกกับความสำเร็จของ Galaxy A (2018) ที่เป็น
โทรศัพท์ซัมซุง[/b]มูลค่าไม่แพงที่ค้าในหลายๆ เมือง และหน้าจอ OLED แต่ที่เป็นตัวสร้างรายได้สูงสุดจริงๆ นั้นคือชิป DRAM ที่สามารถทำผลกำไรได้สูงถึง 70% ของตลาด
ส่วนแอปเปิ้ลรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงิน 2018 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2017) โดยรายได้รวมทำสถิติใหม่สูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัทอีกครั้ง 88,293 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีผลกำไรสุทธิ 20,065 ล้านดอลลาร์ หรือ 643,485 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นสถิติใหม่บริษัทเช่นกัน ส่วนเงินรายได้จากต่างประเทศนอกประเทศสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 65% ของรายรับรวม
3 เดือนที่ผ่านมาแอปเปิ้ลเริ่ม ขาย iPhone X โดยคาดการณ์กันว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักที่ได้กำไร ถึงแม้จะมีข่าวโคมลอยออกมาไม่ดีนัก ซึ่งในรายงานผลประกอบการนั้นแอปเปิ้ลเผยจำนวนรวมของ iPhone ทั้งหมดว่าขายได้ 77.316 ล้านเครื่อง ลดน้อยลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน 1% (78.290 ล้านเครื่อง)
เงินได้จาก iPhone ทุกรุ่นอยู่ที่ 61,576 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13% (54,378 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.74 ล้านบาท)
ที่น่าสนใจคือ iPhone X เป็นไอโฟนรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอปเปิ้ลในทุกอาทิตย์ นับจากเริ่มส่งมอบครั้นเมื่อพฤศจิกายน 2017 และขายได้มากกว่าที่แอปเปิลหวัง
ทางด้านหัวเว่ยสรุปผลประกอบการรวมปี 2017 ยังคงมีรายรับที่ดีแตะ 9,250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 296.64 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2016 ถึง 15.7% คิดเป็นกำไรสุทธิ 730,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 23.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.1% ในปีที่ผ่านมา
โดยในศักราช 2017 หัวเว่ยได้ให้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งหมด 153 ล้านเครื่อง (รวมยี่ห้อ Honor ที่เป็นเจ้าของเดียวกัน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.9 จากปี 2016
โดยครั้นเมื่อปี 2016 CEO ของ หัวเว่ยเคยประกาศเอาไว้ว่า วัตถุประสงค์ของบริษัทคือการก้าวขึ้นไปเป็นบริษัทสมาร์ทโฟนใหญ่โตอันดับ 1 ของโลกให้ได้ภายใน 5 ปี แม้กระนั้นทุกวันนี้ หัวเว่ยยังค่อนข้างจะมีปัญหาในการพยายามทะลวงตลาดแถบอเมริกาเหนือ เหตุเพราะฝั่งนั้นยังมีเจ้าตลาดอย่าง iPhone ควบคุมอยู่ ด้านตลาดในฝั่งทวีปยุโรปนั้น หัวเว่ยทำได้สวยเลยเชียว เนื่องจากสมาร์ทโฟนเกรดไฮเอนด์ในซีรีส์ Mate และ P ได้รับความชอบเป็นอย่างดี
ถึงแม้ยอดสรุปไตรมาสล่าสุดปี 2018 ของหัวเว่ยยังไม่ประกาศออกมา แต่ปี 2018หัวเว่ย ก็ง่วนไปที่การใช้งานเทคโนโลยีใหม่ในสเกลใหญ่ ตัวอย่างเช่น Internet of Thing, Cloud Computing, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G
ในหลายปีที่ผ่านมาข่ายงานไร้สาย 3G มีการใช้งานทั่วโลก หลายบ้านเมืองมี 4G และปี2018 ประมาณการว่าเป็นการเริ่มต้นแห่งยุค 5G ซึ่งจะมีการใช้งานในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 23 (พย็องชัง 2018) ที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการทดลองศักยภาพก่อนจะใช้อย่างเป็นทางการใน 2 ปีภายภาคหน้า
การปรากฏตัวของเครือข่ายไร้สาย 5G ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า สมาร์ทโฟนจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดในชีวิตประจำวันยิ่งขึ้นไปอีกซึ่งต้องเฝ้ารอจับตามองดูว่ายี่ห้อสมาร์ทโฟนกลุ่มนี้จะใช้โอกาสนี้เป็นประโยชน์ได้มากเพียงใดในการเพิ่มยอดจำหน่ายและแย่งชิงความเป็นที่ 1 ต่อไป
Tags : โทรศัพท์ซัมซุง,โทรศัพท์ซัมซุงราคา,โทรศัพท์ซัมซุง รุ่นใหม่
