Advertisement
มะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสมุนไพร มะม่วงหาวมะนาวโห่ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ , มะนาวไม่รู้โห่ , หนามแดง (ภาคกลาง) , หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , มะนาวโห่ (ภาคใต้)ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa carandas L.ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Carissa congesta Wight.ชื่อสามัญ Karanda, Carunda , Christ’s thorn , Bengal Currants.วงศ์ APOCYNACEAEถิ่นกำเนิด มะม่วงหาว มะนาวโห[/color]เป็นผลไม้ในกลุ่มเบอร์ปรี่ชนิดหนึ่งที่มั่นใจว่าถิ่นเกิดอยู่แถบ Himalayas แต่ นักพฤกษศาสตร์บางท่านกล่าวว่ามีถิ่นกำเนิดแถบ Java มะนาวโห่มีการกระจายตัวตั้งแต่เนปาลไปจนกระทั่งอัฟกานิสถาน แล้วก็พบได้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศ ประเทศอินเดีย มีการกระจายตัวในเขตอบอุ่นของประเทศ อินเดีย และศรีลังกา โดยธรรมชาติเติบโตในพื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 ถึง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมไปถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา ประเทศพม่า จีน และไทย
ส่วนในประเทศไทยสามารถเจอได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนในขณะนี้ค่อนข้างหามากินได้ยาก เพราะเป็นพันธุ์ไม้มีหนาม ใครหลายๆคนไม่รู้คุณประโยชน์จึงฟันทิ้งกันไปมาก เว้นเสียแต่คนที่รู้เท่านั้นที่นำมาปลูกไว้ สำหรับคนรุ่นก่อนแล้วผลไม้ชนิดนี้จัดว่าเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีคุณประโยชน์ที่หลากหลาย
ลักษณะทั่วไป มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอคอยเลื้อย หรือต้นไม้ขนาดเล็ก เป็น ไม้ไม่ผลัดใบ มีสีเขียวทั้งปี มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ คือ
ลำต้น : สูง 2-3 เมตร แม้กระนั้นบางทีอาจมากถึง 5 เมตร มียาง ขาวเปลือกมีสีเทาอ่อน
กิ่ง: มีกิ่งหลายชิ้นกิ่งมี ลักษณะแข็ง และก็กระจายไปทั่วต้น การแตกกิ่งจะแตก ออกเป็น 2 กิ่งตรงคู่กัน มีหนามทั้งแบบหนามเดี่ยว หรือ เป็นคู่ บางทีอาจยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร หนามจะพบรอบๆ มุมใบ หรือตามข้อของกิ่ง กิ่งกิ่งก้านสาขามักจะมีหนามที่แข็ง และก็คม
ใบ: เป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือ รูปไข่ ไม่มีหูใบ กว้าง 1.5-4 เซนติเมตร ยาว 3-7 ซม. ปลายมน หรือเว้าบุบ มีก้านในผู้เดียว เส้นใบ เป็นแบบร่างแห ผิวใบเรียบ วาว มีสีเขียวเข้ม หรือ สีเขียวอมเทา
ช่อดอก: ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีลักษณะเรียงเป็นแบบช่อเชิงหลั่นเป็นกลุ่มกันอยู่ใบแต่งแต้มตรง
ดอก: ดอกมีกลิ่นหอมยวนใจ (เหมือนดอกมะลิ) ขนาด ยาว ราว 3.5-5.5 ซม. กลีบสีขาว หรือ สีชมพู รวมกันเป็นช่อ 2-3 ดอก ไม่มีใบตกแต่งย่อย มีก้านดอกย่อย เป็นดอกบริบูรณ์เพศ ดอกสมมาตรตามรัศมี มีกลับดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นขน โคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 16-21.5 มม. ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีขนสั้นขนาด เล็ก วงกลีบดอกไม้: กลีบดอกเชื่อมกัน 5 กลีบเป็นวง เป็น รูปใบหอก สีขาว มีขนสั้นขนาดเล็กนุ่ม หลอดมีลักษณะ ยาว แล้วก็ขยายตรงฐานรองดอก มีขนสั้นนุ่มตัวอย่างเช่น เดียวกัน
เกสรตัวผู้: มีละอองเกสรตัวผู้ไม่น้อยเลยทีเดียวปลายยอดเกสรตัวผู้มีรยางค์ อับเรณูติดอยู่ตรงฐาน มีลักษณะหันเข้า อับเรณูแตกทางยาว
เกสรตัวเมีย: มี 1 อัน รังไข่มีลักษณะกลมรี มีวงเกสรตัวเมีย 2 วง เชื่อมกันอยู่ รังไข่เป็นsyncarpous มีหลาย locule placenta อยู่ที่ศูนย์กลาง (axis) ของรังไข่ มี carpel รวมทั้ง locule 2 อัน ยอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเส้นใย ปลายแยกเป็น 2 แฉก
ผล: ผลไม้ที่มีเนื้อสด (fleshy fruit) มี pericarp เป็นเนื้อนุ่มรับประทานได้ ผลเป็นแบบdrupe (ผลไม้ ที่มีเม็ดแข็ง) ลักษณะรูปไข่ ขนาดกว้าง 12-17 มิลลิเมตร ยาว 15-23 มิลลิเมตร ผลได้ผลสำเร็จคนเดียวออก รวมกันเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนๆและค่อยๆเข้มขึ้นเป็นสีแดง จนถึงสุกจึงแปลงเป็นสีดำมีรสชาติ เปรี้ยว
เม็ด: เมื่อผลสุกจะมี 2-4 เมล็ด เมล็ดมี ลักษณะแบน รูปไข่ เอนโดสเปิร์มเป็นแบบเนื้อ (fleshy endosperm) มีลักษณะเว้า
การขยายพันธุ์ปกติแล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมขยายพันธุ์ด้วยเม็ด เม็ด มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเมล็ดที่มีอายุการรักษาสั้น เพราะฉะนั้นเมื่อ แยกเมล็ดออกจากผลแล้วจึงควรจะเพาะเม็ดโดยทันที (Patel, 2013) การเพาะเมล็ดนิยมเพาะในโรงเรือนตอน เดือน เดือนสิงหาคม-.ย. หรือนำมาเพาะใส่เข้าไปภายในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่แดดร่มๆซึ่งจะใช้เวลาเพาะราว 6 เดือน แล้วนำมาปลูกเอาไว้ภายในแปลง
หรือเมื่อต้น กล้าอายุได้ 1 ปี สำหรับวิธีการตอน กิ่งรวมทั้งการชำ ในมะม่วงหาว มะนาวโห่ควรจะเริ่มทำ ในช่วงมรสุมรากจะออกหลังตอนราว 3 เดือน โดยการเลือกตอนในกิ่งที่ ไม่อ่อนไหมแก่เดินไป อายุกิ่งไม่เกิน 1 ปี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางกิ่งไม่เกิน0.5 เซนติเมตรมะม่วงหาว มะนาวโห่จัดเป็นพืชที่ทนสภาพแล้งก้าวหน้าจะเจริญ เติบโตเจริญในเขตร้อนเขตอบอุ่น สามารถเติบโต เจริญในดินปนทราย แถบแนวเขาหินปูน แล้วก็ดินที่เสื่อมสภาพ หรือดินเทือกเขา โดยสามารถเจริญวัยได้ในดินเกือบทุก ชนิด ตั้งแต่ดินเค็ม ไปจนถึงดินเปรี้ยว พืชชนิดนี้จะ เจริญวัยก้าวหน้าในพื้นที่ชายฝั่ง หรือพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ ผลดี และยังเป็นพืชที่อยากได้น้ำน้อยมาก การให้ น้ำมีความสำคัญเฉพาะตอนข้างหลังย้ายปลูก หรือหลังให้ ปุ๋ยเท่านั้น
องค์ประกอบทางเคมี ในผลของ
[url=https://www.disthai.com/17039488/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88]มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีสาร anthocyanin สารประกอบฟีนอลิก แล้วก็ triterpenoid acid และก็สารประเภทพวกโปรตีน อย่างเช่น alanine, glycine, glutamine และก็ยังเจอคาร์โบไฮเดรต ฟลาโวนอยด์ ในลำต้นรวมทั้งรากเป็นพวกลิกแนน ใบเป็นพวกไตรเทอร์ไต่ส์, สเตียรอยด์นอกจากนี้การศึกษาเล่าเรียนเบื้องต้นพบว่า สารสกัดของมะม่วงไม่รู้เรื่องหาว มะนาวไม่รู้เรื่องโห่ยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆตัวอย่างเช่น สารโฟลีฟีนอลิก (polyphenolic) ฟลาโวนอยด์(flavonoid) ฟลาวาโนน (flavanone) วิตามิน ซีอัลคาลอยด์(alkaloid) ซาโปนิน (saponin) และก็ แทนนิน (tannins)
ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะม่วงหาว มะนาวโห่ กล่าวว่าผลมะม่วงหาวมะนาวโห่สุก 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 75 แคลอรี่ มีไขมัน 2-5 กรัม น้ำตาล 7-12 กรัม และก็วิตามินซี 9-11 มก.
ประโยชน์/สรรพคุณ มะม่วงหาว มะนาวโห่ส่งผลแบบมีเนื้อหลายเม็ด (berry) นิยมนำมาใช้บริโภคสดหรือนำมาใช้สำหรับการปรุงอาหารดองในประเทศอินเดีย มีการบริโภค ภายในประเทศรวมทั้งส่งออกต่างชาติ มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็น ผลไม้ที่จัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่รับประทานก่อนที่จะกินอาหารจาน หลักได้อย่างดีเยี่ยม โดยส่วนใหญ่แล้วผลชอบนำไปดองก่อนที่จะสุก ส่วนผลดิบชอบใช้เป็นเครื่องดื่มคลาย้อน ประยุกต์ใช้ทำเยลลี่ แยม น้ำผลไม้ น้ำเชื่อม ทาร์ต และของเคียง น้ำยางสีขาวในผลสุกใช้ใน อุตสาหกรรมแทนนินและก็สีผสมอาหาร ในผลสุกจะมี สารคล้ายยางเหนียวแม้กระนั้นเมื่อปรุงโดยการผ่านความร้อน แล้วทิ้งไว้ให้เย็นจะได้น้ำผลไม้ที่มีสีแดงเข้มใส นำไปใช้เป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้ ผลสุกของมะม่วงหาว มะนาวโห่จะมี เพ็กตำหนินเยอะๆ ผลสุกชนิดที่มีรสหวานสามารถ รับประทานได้ทันที แต่ว่าจำพวกที่มีรสเปรี้ยวจะต้องกวนด้วย น้ำตาลมากมายก่อนจึงจะรับประทานได้ ในบาง ประเทศปรุงมะม่วงหาวมะนาวโห่ร่วมกับพริกเขียวเพื่อเป็นของกิน ที่รับประทานคู่กับแผ่นโรตี นอกเหนือจากนั้นยังมีการน้ำเอามาทำเป็นซอสเปรี้ยวใช้สำหรับรับประทานคู่กับปลาแล้วก็เนื้อวัวอีกด้วย
ส่วนสรรพคุณทางยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ตามตำรายาไทย ระบุว่า แก่น บำรุงไขมัน เหมาะสำหรับคนซูบผอม บำรุงธาตุแก้เมื่อยล้า ใบสด ต้มน้ำกินแก้ท้องร่วง แก้ปวดหู ไข แก้เจ็บปากแล้วก็คอ รากสดต้มน้ำดื่ม ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำอย่างละเอียดผสมกับสุรา ทาหรือพอกรักษารอยแผลแก้คัน เปลือกลำต้น บรรเทาอาการโรคผิวหนัง แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเสียแก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ผล ผลดิบ มีรสขมแล้วก็เปรี้ยว ใช้เป็นยาสมาน แผล ดับหิวคลายร้อน ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ที่กินก่อนอาหารจานหลัก แก้ท้องผูก ลดไข้ ละลายเสมหะแล้วก็เป็นประโยชน์สำหรับผู้มีลักษณะ อยากดื่มน้ำ ไม่อยากกินอาหาร ท้องเดิน ลักษณะของการมีไข้ขึ้นสมอง แล้วก็ อาการอ้วกเป็นเลือด ผลสุก มีรสหวานแล้วก็มี คุณประโยชน์เย็น ใช้เป็นผลไม้เรียกน้ำย่อย ทุเลาอาการ ลักปิดลักเปิด และเป็นประโยชน์ต่อผู้มีลักษณะอ้วกมีเสลด ภาวการณ์ไม่อยากกินอาหาร แผลไหม้ โรคหิด อาการคัน และก็อาการอื่นๆจากโรคผิวหนังนอกนั้นยังบรรเทา ภาวะโลหิตจาง รวมทั้งช่วยทำลายพิษ และในตำราเรียนแพทย์พื้น บ้านบอกว่าผลสุกสามารถปลุกอารมณ์ทางเพศของ สตรี และฆ่าพยาธิในลำไส้ได้ ผลสุกมีคุณลักษณะใน การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อราได้ น้ำคั้นจากผลใช้ล้าง แผลเพื่อปกป้องการได้รับเชื้อ และทุเลาอาการคันที่ ผิวหนัง และก็ยังสามารถบรรเทาอาการบ้าได้อีก ด้วย เม็ด แก้กลากโรคเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเอ็น บำรุงกำลัง บำรุงผิวหนัง น้ำยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายพื้นที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษาขี้กลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ส่วนในการศึกษาวิจัยทางการแพทย์แผนปัจจุบันส่งผลการเรียนกล่าวว่า สารออกฤทธิ์ในมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถต้านทานอนุมูลอิสระ สามารถคุ้มครองการเกิดเบาหวาน (antidiabetic) และปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ (anticancer)
ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้ รากสด ต้มกับน้ำใช้ดื่มเพิ่มความต้องการของกิน เพิ่มการทำงานของกระเพาะ เพิ่มการหลั่งกรด แก้ท้องเดิน ขับพยาธิ ใบต้มกับน้ำกิน ใช้ลดไข้ แก้ท้องเดิน แก้แผลอักเสบที่ปาก ผลสุดใช้กินสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม แก้ลักปิดลักเปิด แก้โลหิตจาง ช่วยเจริญอาหารแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ท้องร่วง แก่นไม้มะม่วงหาว มะนาวโห่ใช้ต้มกับน้ำใช้ดื่ม ช่วยบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีบ น้ำยางใช้ทากัดตาปลา แล้วก็เนื้อที่ด้านแข็ง รักษาหูด ขี้กลากเกลื้อนการเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ พบว่าในผลสุกที่มีสีม่วงจะมีฤทธิ์สำหรับในการต่อต้าน อนุมูลอิสระสูงขึ้นมากยิ่งกว่าผลดิบ (ผลสีชมพู) และก็ผลกึ่งสุก (ผลสีแดง) แล้วก็ยังพบว่ามีปริมาณสารประกอบฟีนอลิก ทั้งหมดทั้งปวงแล้วก็ปริมาณแอนโทไซยานินทั้งสิ้นในผลสุก สูงขึ้นยิ่งกว่าผลดิบแล้วก็ผลครึ่งหนึ่งสุกด้วยอย่างเดียวกัน และก็ยังพบว่าในรากมีสารที่สามารถต่อต้าน อนุมูลอิสระได้ โดยมีจำนวนฟีนอลิกทั้งสิ้น ตั้งแต่ 1.79-4.35 GAE มิลลิกรัม/กรัม ของตัวอย่างแห้งปริมาณฟลา โม้นอยด์ทั้งหมดทั้งปวงระหว่าง 1.91-3.76 CE มก./กรัม ของ ตัวอย่างแห้ง มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านอนุมูลอิสระแบบ DPPH แล้วก็เปอร์เซ็นต์การหยุดยั้งปฏิกิริยาperoxidation ของ linoleic acid ระหว่าง 12.53-84.82% และ 41.0- 89.21% ตามลำดับฤทธิ์สำหรับการต่อต้านโรคมะเร็ง การศึกษาเล่าเรียนถึง ผลของสารสกัดมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่ส่งผลต่อเซลล์มะเร็งรังไข่ เซลล์มะเร็ง Caov-3 และเซลล์ของโรคมะเร็งปอด โดยการทำการสกัดจาก 3 ส่วนประกอบ เป็น ใบ ผลดิบ และก็ผลสุก พบว่าสาร สกัดจากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย chloroform สามารถต้านทาน กิจกรรมของเซลล์มะเร็ง Caov-3 ได้เป็นอย่างดี ในขณะ ที่สารสกัดจากผลดิบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย hexane สามารถ ต่อต้านกิจกรรมของเซลล์ของโรคมะเร็งปอดได้ ยิ่งกว่านั้นยังมีการศึกษาค้นพบสารตัวใหม่ที่มี อยู่ในใบของมะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสาร carandinol ซึ่งเป็นสารในกรุ๊ปของ triterpene ซึ่งเมื่อนำมาประเมินความเป็น พิษต่อเซลล์(cytotoxicity) การสร้างภูมิต้านทาน (immunomodulatory) สารต้านไกลเคชั่น (antiglycation) ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งความ สามารถสำหรับเพื่อการยับยั้งลักษณะการทำงานของเอนไซม์ ในภาวะ ไม่มีเชื้อ พบว่า สารประเภทนี้สามารถก่อความเป็นพิษ กับเซลล์ของโรคมะเร็งทุกชนิดที่ทำงานทดสอบ ทั้งยัง HeLa, PC-3 และก็ 3T3 โดยจะมีความเป็นพิษกับเซลล์ของมะเร็งคอมดลูก (HeLa) สูงที่สุด ซึ่งการศึกษาค้นคว้าวิจัยในครั้งนี้เป็นการ เล่าเรียนแรกสำนักงานแยกสารกรุ๊ป isohopane triterpene จากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่
ฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานอาการอักเสบอาการปวด และก็อาการไข้มีการนำสาร สกัดจากผลแห้งมากระทำทดสอบความสามารถสำหรับการ ต้านอาการอักเสบในหนู พบว่า สารสกัดโดยใช้ปัญญา นอลเป็นตัวทำละลายมีความรู้และมีความเข้าใจสำหรับเพื่อการต่อต้าน อาการอักเสบในหนูได้ โดยต่ำลงได้ถึง 76.12% ก็เลย ทำให้สารสกัดนี้มีสมรรถนะสำหรับการใช้เป็นส่วนประกอบ ของยาที่ใช้ต้านทานอาการอักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีการเล่าเรียนเพื่อนำสารสกัดจากใบ มะนาวโห่มาใช้เพื่อต้านอาการอักเสบและก็ลดไข้ในหนู พบว่า สารสกัดที่ให้กับหนูที่ความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/ น้ำหนักตัว 1 กก. สามารถต่อต้านอาการอักเสบจากการ บวมที่อุ้งเท้าของหนูได้มากถึง 72.10% ในส่วนของ ความสามารถสำหรับเพื่อการลดลักษณะของการมีไข้ พบว่าที่ความเข้มข้น 100 และ 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กก. สามารถลดอุณหภูมิที่เกิดจากอาการไข้ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ และ สามารถลดอาการได้นานถึง 4 ชั่วโมงหลังจากให้สารสกัดฤทธิ์สำหรับการต่อต้านอาการชักจากการเรียนฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านอาการชักที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า และก็การกระตุ้นด้วยสารเคมี (pentylenetetrazole, picrotoxin, bicuculline และก็ N-methyl-dl-aspartic acid) ในหนูโดยใช้สารสกัดจาก รากที่ความเข้มข้น 100, 200 รวมทั้ง 400 มก./กิโลกรัม พบว่า สารสกัดทั้งยัง 4 ความเข้มข้นสามารถลดช่วงเวลาการ ชักในหนูได้ แม้กระนั้นเฉพาะความเข้มข้นที่ 200 รวมทั้ง 400 มิลลิกรัม/กก. แค่นั้นที่ปกป้องอาการชักได้ แล้วก็ที่ความเข้มข้นนี้ยังสามารถป้องกันอาการชักจากการกระตุ้นด้วย pentylenetetrazole แล้วก็ชะลอการเกิดอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร picrotoxin และ N-methyl-dlaspartic acid แต่ไม่เป็นผลคุ้มครองปกป้องอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร bicuculline
ฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานโรคเบาหวาน จากการเรียนในสารสกัดจากผลดิบ พบว่าการสกัดด้วยเมทานอลรวมทั้ง ethyl acetate ที่ความเข้มข้น400 มก./กก. สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจังถึง 48 และก็ 64.5% เป็นลำดับเมื่อเทียบกับ ยาต่อต้านโรคเบาหวานแผนปัจจุบัน
ฤทธิ์ในการปกป้องความเป็นพิษต่อ ตับ สารสกัดด้วยเอทานอล จากรากมีฤทธิ์สำหรับการ คุ้มครองความเป็นพิษต่อตับที่เกิดจากการใช้ยาพารา เซตตามอลได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่ สารสกัดนี้ไปยั้งกิจกรรมด้านชีววิทยาของสารพิษที่ เกิดขึ้นกับตับ
นอกจากนั้นงานค้นคว้าวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่บอกว่ามีฤทธิ์ทำให้หัวใจบีบตัวน้อยลง กระตุ้นมดลูกทำให้หัวเต้นชา บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด เป็นต้น
การเรียนทางพิษวิทยา
ในขณะนี้ยังไม่เจอรายงานการศึกษาเล่าเรียนพิษวิทยาของส่วนผล แต่ส่วนรากแสดงความเป็นพิษเมื่อให้สารสกัดเอทานอลของรากต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ฉีดเข้าท้อง รวมทั้งให้ทางปากของแมวในขนาด 5 - 150 มก./กก. พบว่าส่งผลทำให้สัตว์ทดลองอาเจียน อาเจียน เซื่องซึม น้ำมูกไหล ท้องเสีย หายใจหอบและก็เร็ว (tachypnea) ชัก และก็ตายสุดท้าย การให้ทางเส้นเลือดดำจะเกิดอาการอ้วก คลื่นไส้เร็วที่สุด คือใช้เวลา 3 - 5 นาที ภายหลังให้สาร ส่วนการให้ทางช่องท้อง และทางปากใช้เวลา 10 - 20 และ 40 - 60 นาที ตามลำดับ แมวที่ได้รับสารสกัดทางเส้นเลือดดำทุกตัวตายภายในเวลา 1 - 2 ชั่วโมงภายหลังจากให้สาร เมื่อผ่าอวัยวะภายในพบว่าตับไม่ปกติ มีการบวมของเซลล์ตับ (liver congestion) มีจุดเลือด (petechial hemorrhages) ที่ปอดแล้วก็ฝาผนังลำไส้เล็ก
ข้อแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวังในการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยา และก็พิษวิทยา ของ
มะม่วงหาวมะนาวโห่ในขณะนี้ล้วนเป็นการเรียนในสัตว์ทดสอบ และผลของการทดลองแต่ยังไม่ปรากฏผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ในคน ก็เลยทำให้ไม่อาจเจาะจงประสิทธิภาพแล้วก็ความปลอดภัยสำหรับในการใช้รักษาโรคได้อย่างแน่ชัด โดยการใช้ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในจำนวนมากเกินไปบางทีอาจเสี่ยงเป็นอันตรายได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้ก็เลยขอความเห็นหมอก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว
เอกสารอ้างอิง- สกุลกานต์ สิมลา.มะนาวโห่ : พืชในวรรณคดีไทยที่มากด้วยประโยชน์ .วารสารแก่นเกษตร .ปีที่ 44 ฉบับที่3 .กรกฎาคม – กันยายน .2559.หน้า 557-566.
- มะนาวไม่รู้โห่...ไม้ประดับกินได้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- ธงชัย พุ่มพวง.ประพันธ์ ชานนท์.พิมพ์ใจ ทรงประโคน. กัลยาณี วรรณศรี. ดำรงเกียรติ มาลา และ พรประภา รัตนแดง 2556.มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดีไทยที่มากมายด้วยคุณค่าและราคาดี.นิตยสารเกษตรโฟกัส.2(20):24-39.https://www.disthai.com/[/color]
- ณัฏฐินี อนันตโชค.มะนาวไม่รู้โห่.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่29.ฉบับที่ 1.ตุลาคม.2554.หน้า2-6
- ณนัฐอร บัวฉุน.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกของเมล็ดและเนื้อมะม่วงไม่รู้โห่.วานสารวิจัยและพัฒนะ วไลขอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ 13 ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2561.หน้า 53-63
- มะม่วงหาวมะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
- สกุลกานต์ สิมลา.สุรศักดิ์ บุญแต่ง และพัชรี สิริตระกูลศักดิ์.(2556).การประเมินปริมาณสารพฤษเคมีบางประการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน Carissa carandas L. แก่นเกษตร 41 ฉบับพิเศษ:602-606.
- มะม่วงหาว มะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
- Itankar, P.R., S.J. Lokhande1, P.R. Verma, S.K. Arora, R.A. Sahu, and A.T. Patil. 2011. Antidiabetic potential of unripe Carissa carandas Linn. fruit extract. J. Ethnopharmacol. 135: 430-433.
- Philippine Medicinal Plants. 2012. Caranda. Available: http://goo.gl/kBShxE. Accessed Aug. 6, 2014.
- Begum, S., S.A. Syed, B.S. Siddiqui, S.A. Sattar, and M.I. Choudhary. 2013. Carandinol: First isohopane triterpene from the leaves of Carissa carandas L. and its cytotoxicity against cancer cell lines. Phytochem Lett. 6: 91-95
- หนามแดง.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- Hati, M., B.K. Jena, S. Kar, and A.K. Nayak. 2014. Evaluation of anti-inflammatory and anti-pyretic activity of Carissa carandas L. leaf extract in rats. J. Pharm Chem Bio Sci. 1(1): 18-25.
- Gupta, P., I. Bhatnagar, S-K. Kim, A. K. Verma, and A. Sharma. 2014. In-vitro cancer cell cytotoxicity and alpha amylase inhibition effect of seven tropical fruit residues. Asian Pac J Trop Biomed. 4(2), S665-S671.
- Kumar, S., P. Gupta, and V. Gupta K.L. 2013. A critical review on Karamarda (Carissa carandas Linn.). Int J Pharm Bio Arch. 4(4): 637 -642.
- Kubola, J., S. Siriamornpun, and N. Meeso. 2011. Phytochemicals, vitamin C and sugar content of Thai wild fruits. Food Chemistry. 126, 972-981.
- Sulaiman, S.F., W.S. Teng, O.K. Leong, S.R. Yusof, and T.S.T. Muhammad. (n.d.). Anticancer study of Carissa carandas extracts. Available: http://goo.gl/ W2WjSG. Accessed May 16, 2014
- Aslam, F., N. Rasool, M. Riaz, M. Zubair, K. Rizwan, M. Abbas, T.H. Bukhari, and I.H. Bukhari. 2011. Antioxidant, haemolytic activities and GC-MS profiling of Carissa carandas roots. Int J Phytomedicine. 3: 567-578
- Patel, S. 2013. Food, pharmaceutical and industrial potential of Carissa genus: an overview. Rev Environ Science Biotech. 12(3): 201-208
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
มะม่วงหาว มะนาวโน่หาว