มะม่วงหาว มะนาวโห่ สรรพคุณเเละประโยชน์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มะม่วงหาว มะนาวโห่ สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 16 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Narongrit999
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 21927


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 19, 2018, 08:50:34 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


มะม่วงหาว มะนาวโห่
ชื่อสมุนไพร  มะม่วงหาวมะนาวโห่
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ , มะนาวไม่รู้โห่ , หนามแดง (ภาคกลาง) , หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , มะนาวโห่ (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์    Carissa carandas L.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Carissa congesta Wight.
ชื่อสามัญ  Karanda, Carunda , Christ’s thorn , Bengal Currants.
วงศ์  APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิด
มะม่วงหาว มะนาวโห[/color]เป็นผลไม้ในกรุ๊ปเบอร์ปรี่ชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าถิ่นกำเนิดอยู่แถบ Himalayas แต่ นักพฤกษศาสตร์บางคนพูดว่ามีบ้านเกิดแถบ Java มะนาวโห่มีการกระจายตัวตั้งแต่เนปาลไปจนกระทั่งอัฟกานิสถาน และพบได้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศ อินเดีย มีการกระจายตัวในเขตอบอุ่นของประเทศ ประเทศอินเดีย รวมทั้งศรีลังกา โดยธรรมชาติเติบโตในพื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 ถึง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมไปถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา เมียนมาร์ จีน และก็ไทย
ส่วนในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนในขณะนี้ค่อนข้างจะหามากินได้ยาก ด้วยเหตุว่าเป็นพืชพันธุ์ไม้มีหนาม หลายคนไม่รู้สรรพคุณก็เลยฟันทิ้งกันไปมาก นอกเหนือจากคนที่รู้ท่านั้นที่เอามาปลูกไว้ สำหรับคนรุ่นก่อนแล้วผลไม้ประเภทนี้นับว่ามีคุณประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากว่าเป็นมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณที่นานัปการ
ลักษณะทั่วไป มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรือต้นไม้ขนาดเล็ก เป็น ไม้ไม่ผลัดใบ มีสีเขียวทั้งปี มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็น
ลำต้น : สูง 2-3 เมตร แม้กระนั้นอาจสูงถึง 5 เมตร มียาง ขาวเปลือกมีสีเทาอ่อน
กิ่ง: มีกิ่งเยอะมากกิ่งมี ลักษณะแข็ง แล้วก็กระจายไปทั่วต้น การแตกกิ่งจะแตก ออกเป็น 2 กิ่งตรงคู่กัน มีหนามทั้งแบบหนามเดี่ยว หรือ เป็นคู่ บางทีอาจยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร หนามจะเจอบริเวณ มุมใบ หรือตามข้อของกิ่ง กิ่งแขนงมักจะมีหนามที่แข็ง แล้วก็คม
ใบ: เป็นใบคนเดียว ออกตรงข้าม รูปขอบขนานหรือ รูปไข่ ไม่มีหูใบ กว้าง 1.5-4 ซม. ยาว 3-7 ซม. ปลายมน หรือเว้าบุ๋ม มีก้านในโดดเดี่ยว เส้นใบ เป็นแบบร่างแห ผิวใบเรียบ วาว มีสีเขียวเข้ม หรือ สีเขียวอมเทา
ช่อดอก: ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีลักษณะเรียงเป็นแบบช่อเชิงหลั่นเป็นกลุ่มกันอยู่ใบเสริมแต่งตรง
ดอก: ดอกมีกลิ่นหอม (คล้ายดอกมะลิ) ขนาด ยาว ราวๆ 3.5-5.5 ซม. กลีบดอกสีขาว หรือ สีชมพู รวมกันเป็นช่อ 2-3 ดอก ไร้ใบประดับประดาย่อย มีก้านดอกย่อย เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกสมมาตรตามรัศมี มีกลับดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นขน โคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 16-21.5 มม. ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีขนสั้นขนาด เล็ก วงกลีบ: กลีบดอกไม้เชื่อมกัน 5 กลีบเป็นวง เป็น รูปใบหอก สีขาว มีขนสั้นขนาดเล็กนุ่ม หลอดมีลักษณะ ยาว แล้วก็ขยายตรงฐานรองดอก มีขนสั้นนุ่มได้แก่ เดียวกัน
เกสรตัวผู้: มีละอองเกสรตัวผู้มากไม่น้อยเลยทีเดียวปลายยอดเกสรตัวผู้มีรยางค์ อับเรณูติดอยู่ตรงฐาน มีลักษณะหันเข้า อับเรณูแตกทางยาว
เกสรตัวเมีย: มี 1 อัน รังไข่มีลักษณะกลมรี มีวงเกสรตัวเมีย 2 วง เชื่อมกันอยู่ รังไข่เป็นsyncarpous มีหลาย locule placenta อยู่ที่แกนกลาง (axis) ของรังไข่ มี carpel รวมทั้ง locule 2 อัน ยอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเส้นใย ปลายแยกเป็น 2 แฉก
ผล: ผลไม้ที่มีเนื้อสด (fleshy fruit) มี pericarp เป็นเนื้อนุ่มรับประทานได้ ผลเป็นแบบdrupe (ผลไม้ ที่มีเมล็ดแข็ง) ลักษณะรูปไข่ ขนาดกว้าง 12-17 มม. ยาว 15-23 มม. ผลเป็นผลเดี่ยวออก รวมกันเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนๆและเบาๆเข้มขึ้นเป็นสีแดง จนกระทั่งสุกก็เลยกลายเป็นสีดำมีรสชาติ เปรี้ยว
เม็ด: เมื่อผลสุกจะมี 2-4 เมล็ด เมล็ดมี ลักษณะแบน รูปไข่ เอนโดสเปิร์มเป็นแบบเนื้อ (fleshy endosperm) มีลักษณะเว้า
การขยายพันธุ์
โดยปกติแล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมเพาะพันธุ์ด้วยเม็ด เม็ด มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเมล็ดที่แก่การรักษาสั้น ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อ แยกเมล็ดออกมาจากผลแล้วจึงควรเพาะเม็ดโดยทันที (Patel, 2013) การเพาะเม็ดนิยมเพาะในโรงเรือนช่วง เดือน เดือนสิงหาคม-เดือนกันยายน หรือนำมาเพาะใส่ลงไปในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้เปียกแฉะ วางเอาไว้ในที่แดดร่มๆซึ่งจะใช้เวลาเพาะราว 6 เดือน แล้วนำมาปลูกภายในแปลง
หรือเมื่อต้น กล้าอายุได้ 1 ปี สำหรับแนวทางการทำหมัน กิ่งรวมทั้งการชำ ในมะม่วงหาว มะนาวโห่ควรเริ่มทำ ในตอนมรสุมรากจะออกข้างหลังตอนราวๆ 3 เดือน โดยการเลือกตอนในกิ่งที่ ไม่อ่อนหรือไม่แก่เดินไป อายุกิ่งไม่เกิน 1 ปี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางกิ่งไม่เกิน0.5 ซม.มะม่วงหาว มะนาวโห่จัดเป็นพืชที่ทนภาวะแล้งได้ดิบได้ดีจะเจริญ เติบโตเจริญในเขตร้อนเขตอบอุ่น สามารถเจริญวัย ได้ดิบได้ดีในดินปนทราย แถบแนวเขาหินปูน และดินที่หมดสภาพ หรือดินเทือกเขา โดยสามารถเจริญเติบโตได้ในดินดูเหมือนจะทุก ประเภท ตั้งแต่ดินเค็ม ไปจนกระทั่งดินกรด พืชจำพวกนี้จะ เติบโตเจริญในพื้นที่ริมตลิ่ง หรือพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ คุณประโยชน์ แล้วก็ยังเป็นพืชที่อยากน้ำน้อยมาก การให้ น้ำมีความสำคัญเฉพาะตอนข้างหลังย้ายปลูก หรือข้างหลังให้ ปุ๋ยแค่นั้น
องค์ประกอบทางเคมี
ในผลของ[url=https://www.disthai.com/17039488/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88]มะม่วงหาว มะนาวโห่
มีสาร anthocyanin สารประกอบฟีนอลิก และ triterpenoid acid และก็สารจำพวกพวกโปรตีน ดังเช่นว่า alanine, glycine, glutamine รวมทั้งยังพบคาร์โบไฮเดรต ฟลาโวนอยด์ ในลำต้นและรากเป็นพวกลิกแนน ใบเป็นพวกไตรเทอร์ปีนส์, สเตียรอยด์นอกเหนือจากนั้นการเรียนรู้พื้นฐานพบว่า สารสกัดของมะม่วงไม่ทราบหาว มะนาวไม่เคยรู้โห่ยังประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆได้แก่ สารโฟลีฟีนอลิก (polyphenolic) ฟลาโวนอยด์(flavonoid) ฟลาวาโนน (flavanone) วิตามิน ซีอัลคาลอยด์(alkaloid) ซาโปนิน (saponin) แล้วก็ แทนนิน (tannins)
ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ระบุว่าผลมะม่วงหาวมะนาวโห่สุก 100 กรัม ให้พลังงานราวๆ 75 แคลอรี่ มีไขมัน 2-5 กรัม น้ำตาล 7-12 กรัม และวิตามินซี 9-11 มก.
ผลดี/คุณประโยชน์
มะม่วงหาว มะนาวโห่มีผลแบบมีเนื้อหลายเมล็ด (berry) นิยมประยุกต์ใช้บริโภคสดหรือประยุกต์ใช้ในการปรุงอาหารดองในประเทศอินเดีย มีการบริโภค ภายในประเทศและส่งออกต่างถิ่น มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็น ผลไม้ที่จัดเป็นของกินเรียกน้ำย่อยที่รับประทานก่อนที่จะกินอาหารจาน หลักได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากแล้วผลมักจะนำไปดองก่อนที่จะสุก ส่วนผลดิบชอบใช้เป็นเครื่องดื่มคลาย้อน ประยุกต์ใช้ทำเยลลี่ แยม น้ำผลไม้ น้ำเชื่อม ทาร์ต และเครื่องเคียง น้ำยางสีขาวในผลสุกใช้ใน อุตสาหกรรมแทนนินรวมทั้งสีผสมอาหาร ในผลสุกจะมี สารคล้ายยางเหนียวแต่ว่าเมื่อปรุงโดยการผ่านความร้อน แล้วทิ้งเอาไว้ให้เย็นจะได้น้ำผลไม้ที่มีสีแดงเข้มใส ใช้ประโยชน์เป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้ ผลสุกของมะม่วงหาว มะนาวโห่จะมี เพ็กตินเยอะมากๆ ผลสุกจำพวกที่มีรสหวานสามารถ กินได้โดยทันที แต่ว่าประเภทที่มีรสเปรี้ยวจำต้องกวนด้วย น้ำตาลจำนวนหลายชิ้นก่อนจึงจะรับประทานได้ ในบาง ประเทศปรุงมะม่วงหาวมะนาวโห่ร่วมกับพริกเขียวเพื่อเป็นอาหาร ที่กินคู่กับแผ่นโรตี นอกเหนือจากนั้นยังมีการน้ำเอามาทำเป็นซอสเปรี้ยวใช้สำหรับกินคู่กับปลาและเนื้อวัวอีกด้วย
ส่วนสรรพคุณทางยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ตามตำรายาไทย
บอกว่า แก่น บำรุงไขมัน เหมาะสำหรับคนซูบผอม บำรุงธาตุแก้อ่อนแรง ใบสด ต้มน้ำดื่มแก้ท้องร่วง แก้ปวดหู ไข แก้เจ็บปากรวมทั้งคอ รากสดต้มน้ำ ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำให้ละเอียดผสมกับเหล้า ทาหรือพอกรักษารอยแผลแก้คัน เปลือกลำต้น ทุเลาลักษณะของโรคผิวหนัง แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเดินแก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ผล ผลดิบ มีรสขมและก็เปรี้ยว ใช้เป็นยาสมาน แผล ดับหิวคลายร้อน ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ที่รับประทานก่อนที่จะรับประทานอาหารจานหลัก แก้ท้องผูก ลดไข้ ละลายเสมหะรวมทั้งมีคุณประโยชน์สำหรับผู้มีลักษณะ กระหายน้ำ เบื่ออาหาร ท้องร่วง ลักษณะของการมีไข้ขึ้นสมอง แล้วก็ อาการอาเจียนเป็นเลือด ผลสุก มีรสหวานและมี คุณประโยชน์เย็น ใช้คือผลไม้เรียกน้ำย่อย บรรเทาอาการ ลักปิดลักเปิด แล้วก็เป็นประโยชน์ต่อผู้มีอาการอ้วกมีเสลด สภาวะไม่อยากกินอาหาร แผลไหม้ โรคหิด อาการคัน รวมทั้งอาการอื่นๆจากโรคผิวหนังนอกนั้นยังบรรเทา สภาวะโลหิตจาง รวมทั้งช่วยถอนพิษ และก็ในตำราหมอพื้น บ้านกล่าวว่าผลสุกสามารถเร้าอารมณ์ทางเพศของ หญิง และฆ่าพยาธิในลำไส้ได้ ผลสุกมีคุณลักษณะใน การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อราได้ น้ำคั้นจากผลใช้ล้าง แผลเพื่อปกป้องการรับเชื้อ และทุเลาอาการคันที่ ผิวหนัง แล้วก็ยังสามารถบรรเทาอาการวิกลจริตได้อีก ด้วย เม็ด แก้ขี้กลากเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเส้นเอ็น ชูกำลัง บำรุงผิวหนัง น้ำยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายพื้นที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษาโรคกลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ส่วนในการศึกษาวิจัยทางด้านการแพทย์แผนปัจจุบันส่งผลการศึกษาระบุว่า สารออกฤทธิ์ในมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถคุ้มครองการเกิดโรคเบาหวาน (antidiabetic) แล้วก็คุ้มครองป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ (anticancer)
แบบอย่าง/ขนาดวิธีใช้
รากสด ต้มกับน้ำใช้ดื่มเพิ่มความอยากอาหาร เพิ่มลักษณะการทำงานของกระเพาะอาหาร เพิ่มการหลั่งกรด แก้ท้องเดิน ขับพยาธิ ใบต้มกับน้ำ ใช้ลดไข้ แก้ท้องร่วง แก้แผลอักเสบที่ปาก ผลสุดใช้กินสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม แก้ลักปิดลักเปิด แก้โลหิตจาง ช่วยเจริญอาหารแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ท้องเดิน แก่นไม้มะม่วงหาว มะนาวโห่ใช้ต้มกับน้ำใช้ดื่ม ช่วยทำนุบำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีบ น้ำยางใช้ทากัดตาปลา รวมทั้งพื้นที่ด้านแข็ง รักษาหูด ขี้กลากโรคเกลื้อนการศึกษาทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ พบว่าในผลสุกที่มีสีม่วงจะมีฤทธิ์สำหรับในการต่อต้าน อนุมูลอิสระสูงขึ้นยิ่งกว่าผลดิบ (ผลสีชมพู) และก็ผลครึ่งสุก (ผลสีแดง) และก็ยังพบว่ามีปริมาณสารประกอบฟีนอลิก ทั้งหมดทั้งปวงรวมทั้งจำนวนแอนโทไซยานินทั้งปวงในผลสุก สูงขึ้นยิ่งกว่าผลดิบรวมทั้งผลครึ่งสุกด้วยสิ่งเดียวกัน และก็ยังพบว่าในรากมีสารที่สามารถต้านทาน อนุมูลอิสระได้ โดยมีจำนวนฟีนอลิกทั้งปวง ตั้งแต่ 1.79-4.35 GAE มิลลิกรัม/กรัม ของตัวอย่างแห้งปริมาณฟลา โม้นอยด์ทั้งหมดระหว่าง 1.91-3.76 CE มก./ก. ของ แบบอย่างแห้ง มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระแบบ DPPH รวมทั้งเปอร์เซ็นต์การยับยั้งปฏิกิริยาperoxidation ของ linoleic acid ระหว่าง 12.53-84.82% และ 41.0- 89.21% เป็นลำดับฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานโรคมะเร็ง การศึกษาเล่าเรียนถึง ผลของสารสกัดมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่ส่งผลต่อเซลล์มะเร็งรังไข่ เซลล์ของโรคมะเร็ง Caov-3 แล้วก็เซลล์มะเร็งปอด โดยทำการสกัดจาก 3 ส่วนประกอบ เป็น ใบ ผลดิบ และผลสุก พบว่าสาร สกัดจากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย chloroform สามารถต่อต้าน กิจกรรมของเซลล์มะเร็ง Caov-3 ได้เป็นอย่างดี ในขณะ ที่สารสกัดจากผลดิบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย hexane สามารถ ต้านทานกิจกรรมของเซลล์ของโรคมะเร็งปอดได้ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการศึกษาค้นพบสารตัวใหม่ที่มี อยู่ในใบของมะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสาร carandinol ซึ่งเป็นสารในกรุ๊ปของ triterpene ซึ่งเมื่อเอามาประเมินความเป็น พิษต่อเซลล์(cytotoxicity) การผลิตภูมิคุ้มกัน (immunomodulatory) สารต้านทานไกลเคชั่น (antiglycation) ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ แล้วก็ความ สามารถในการยับยั้งหลักการทำงานของเอนไซม์ ในภาวะ ปลอดเชื้อ พบว่า สารชนิดนี้สามารถก่อความเป็นพิษ กับเซลล์ของมะเร็งทุกประเภทสำนักงานทดสอบ อีกทั้ง HeLa, PC-3 แล้วก็ 3T3 โดยจะมีความเป็นพิษกับเซลล์ของมะเร็งคอมดลูก (HeLa) มากที่สุด ซึ่งการศึกษาชิ้นนี้เป็นการ เล่าเรียนแรกที่ทำงานแยกสารกรุ๊ป isohopane triterpene จากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่
ฤทธิ์ในการต้านอาการอักเสบลักษณะของการปวด รวมทั้งลักษณะของการมีไข้มีการนำสาร สกัดจากผลแห้งมากระทำการทดลองความรู้ความเข้าใจสำหรับการ ต้านอาการอักเสบในหนู พบว่า สารสกัดโดยใช้ความรู้ นอลเป็นตัวทำละลายมีความสามารถสำหรับเพื่อการต้าน อาการอักเสบในหนูได้ โดยลดลงได้ถึง 76.12% ก็เลย ทำให้สารสกัดนี้มีสมรรถนะสำหรับเพื่อการใช้เป็นองค์ประกอบ ของยาที่ใช้ต้านอาการอักเสบได้ นอกนั้นยังมีการเล่าเรียนเพื่อนำสารสกัดจากใบ มะนาวโห่มาใช้เพื่อต้านอาการอักเสบแล้วก็ลดไข้ในหนู พบว่า สารสกัดที่ให้กับหนูที่ความเข้มข้น 200 มก./ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถต่อต้านอาการอักเสบจากการ บวมที่อุ้งเท้าของหนูได้สูงถึง 72.10% ในส่วนของ ความสามารถสำหรับการลดอาการไข้ พบว่าที่ความเข้มข้น 100 และ 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กก. สามารถลดอุณหภูมิที่เกิดจากอาการไข้ลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง และ สามารถลดอาการได้นานถึง 4 ชั่วโมงหลังจากให้สารสกัดฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานอาการชักจากการเล่าเรียนฤทธิ์ในการต้านทานอาการชักที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นสมองด้วยไฟฟ้า แล้วก็การกระตุ้นด้วยสารเคมี (pentylenetetrazole, picrotoxin, bicuculline แล้วก็ N-methyl-dl-aspartic acid) ในหนูโดยใช้สารสกัดจาก รากที่ความเข้มข้น 100, 200 และ 400 มิลลิกรัม/กก. พบว่า สารสกัดอีกทั้ง 4 ความเข้มข้นสามารถลดช่วงเวลาการ ชักในหนูได้ แต่เฉพาะความเข้มข้นที่ 200 รวมทั้ง 400 มก./กก. เท่านั้นที่คุ้มครองอาการชักได้ และที่ความเข้มข้นนี้ยังสามารถปกป้องอาการชักจากการกระตุ้นด้วย pentylenetetrazole รวมทั้งชะลอการเกิดอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร picrotoxin และ N-methyl-dlaspartic acid แต่ไม่มีผลคุ้มครองอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร bicuculline
ฤทธิ์สำหรับในการต่อต้านโรคเบาหวาน จากการศึกษาเล่าเรียนในสารสกัดจากผลดิบ พบว่าการสกัดด้วยเมทานอลและ ethyl acetate ที่ความเข้มข้น400 มิลลิกรัม/กก. สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจังถึง 48 และ 64.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับ ยาต้านทานโรคเบาหวานแผนปัจจุบัน
ฤทธิ์สำหรับการคุ้มครองป้องกันความเป็นพิษต่อ ตับ สารสกัดด้วยเอทานอล จากรากมีฤทธิ์ในการ คุ้มครองความเป็นพิษต่อตับที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาพารา เซตตามอลได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเกิดจากการที่ สารสกัดนี้ไปยับยั้งกิจกรรมทางชีววิทยาของพิษที่ เกิดขึ้นกับตับ
นอกเหนือจากนี้งานศึกษาค้นคว้าวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่ระบุว่ามีฤทธิ์ทำให้หัวใจบีบตัวน้อยลง กระตุ้นมดลูกทำให้หัวเต้นชา บำรุงหัวใจ ลดระดับความดันโลหิต เป็นต้น
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา
ในปัจจุบันยังไม่เจอรายงานการศึกษาพิษวิทยาของส่วนผล แต่ว่าส่วนรากแสดงความเป็นพิษเมื่อให้สารสกัดเอทานอลของรากต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ฉีดเข้าท้อง และให้ทางปากของแมวในขนาด 5 - 150 มก./กิโลกรัม พบว่ามีผลทำให้สัตว์ทดลองคลื่นไส้ คลื่นไส้ เซื่องซึม น้ำมูกไหล ท้องเสีย หายใจแรงและก็เร็ว (tachypnea) ชัก รวมทั้งตายสุดท้าย การให้ทางหลอดเลือดดำจะเกิดอาการคลื่นไส้ อ้วกเร็วที่สุด เป็นใช้เวลา 3 - 5 นาที ภายหลังให้สาร ส่วนการให้ทางท้อง รวมทั้งทางปากใช้เวลา 10 - 20 รวมทั้ง 40 - 60 นาที เป็นลำดับ แมวที่ได้รับสารสกัดทางเส้นเลือดดำทุกตัวตายภายในระยะเวลา 1 - 2 ชั่วโมงภายหลังให้สาร เมื่อผ่าอวัยวะภายในพบว่าตับแตกต่างจากปกติ มีการบวมของเซลล์ตับ (liver congestion) มีจุดเลือด (petechial hemorrhages) ที่ปอดแล้วก็ฝาผนังลำไส้เล็ก
คำแนะนำ/ข้อควรไตร่ตรอง
ในการศึกษาทางเภสัชวิทยา และพิษวิทยา ของมะม่วงหาวมะนาวโห่ในปัจจุบันล้วนเป็นการเล่าเรียนในสัตว์ทดลอง แล้วก็ผลของการทดลองแต่ว่ายังไม่ปรากฏผลการค้นคว้าที่ในคน ก็เลยทำให้ไม่อาจระบุความสามารถรวมทั้งความปลอดภัยสำหรับเพื่อการใช้รักษาโรคได้อย่างแน่ชัด โดยการใช้ในต้นแบบที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในจำนวนมากเหลือเกินบางทีอาจเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นก่อนใช้สินค้าต่างๆจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้ก็เลยปรึกษาหมอก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว
เอกสารอ้างอิง

  • สกุลกานต์ สิมลา.มะนาวโห่ : พืชในวรรณคดีไทยที่มากด้วยประโยชน์ .วารสารแก่นเกษตร .ปีที่ 44 ฉบับที่3 .กรกฎาคม – กันยายน .2559.หน้า 557-566.
  • มะนาวไม่รู้โห่...ไม้ประดับกินได้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ธงชัย พุ่มพวง.ประพันธ์ ชานนท์.พิมพ์ใจ ทรงประโคน. กัลยาณี วรรณศรี. ดำรงเกียรติ มาลา และ พรประภา รัตนแดง 2556.มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดีไทยที่มากมายด้วยคุณค่าและราคาดี.นิตยสารเกษตรโฟกัส.2(20):24-39.https://www.disthai.com/[/color]
  • ณัฏฐินี อนันตโชค.มะนาวไม่รู้โห่.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่29.ฉบับที่ 1.ตุลาคม.2554.หน้า2-6
  • ณนัฐอร บัวฉุน.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกของเมล็ดและเนื้อมะม่วงไม่รู้โห่.วานสารวิจัยและพัฒนะ วไลขอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ 13 ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2561.หน้า 53-63
  • มะม่วงหาวมะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • สกุลกานต์ สิมลา.สุรศักดิ์ บุญแต่ง และพัชรี สิริตระกูลศักดิ์.(2556).การประเมินปริมาณสารพฤษเคมีบางประการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน Carissa carandas L. แก่นเกษตร 41 ฉบับพิเศษ:602-606.
  • มะม่วงหาว มะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Itankar, P.R., S.J. Lokhande1, P.R. Verma, S.K. Arora, R.A. Sahu, and A.T. Patil. 2011. Antidiabetic potential of unripe Carissa carandas Linn. fruit extract. J. Ethnopharmacol. 135: 430-433.
  • Philippine Medicinal Plants. 2012. Caranda. Available: http://goo.gl/kBShxE. Accessed Aug. 6, 2014.
  • Begum, S., S.A. Syed, B.S. Siddiqui, S.A. Sattar, and M.I. Choudhary. 2013. Carandinol: First isohopane triterpene from the leaves of Carissa carandas L. and its cytotoxicity against cancer cell lines. Phytochem Lett. 6: 91-95
  • หนามแดง.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Hati, M., B.K. Jena, S. Kar, and A.K. Nayak. 2014. Evaluation of anti-inflammatory and anti-pyretic activity of Carissa carandas L. leaf extract in rats. J. Pharm Chem Bio Sci. 1(1): 18-25.
  • Gupta, P., I. Bhatnagar, S-K. Kim, A. K. Verma, and A. Sharma. 2014. In-vitro cancer cell cytotoxicity and alpha amylase inhibition effect of seven tropical fruit residues. Asian Pac J Trop Biomed. 4(2), S665-S671.
  • Kumar, S., P. Gupta, and V. Gupta K.L. 2013. A critical review on Karamarda (Carissa carandas Linn.). Int J Pharm Bio Arch. 4(4): 637 -642.
  • Kubola, J., S. Siriamornpun, and N. Meeso. 2011. Phytochemicals, vitamin C and sugar content of Thai wild fruits. Food Chemistry. 126, 972-981.
  • Sulaiman, S.F., W.S. Teng, O.K. Leong, S.R. Yusof, and T.S.T. Muhammad. (n.d.). Anticancer study of Carissa carandas extracts. Available: http://goo.gl/ W2WjSG. Accessed May 16, 2014
  • Aslam, F., N. Rasool, M. Riaz, M. Zubair, K. Rizwan, M. Abbas, T.H. Bukhari, and I.H. Bukhari. 2011. Antioxidant, haemolytic activities and GC-MS profiling of Carissa carandas roots. Int J Phytomedicine. 3: 567-578
  • Patel, S. 2013. Food, pharmaceutical and industrial potential of Carissa genus: an overview. Rev Environ Science Biotech. 12(3): 201-208

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะม่วงหาว มะนาวโน่หาว

Tags : มะม่วงหาว มะนาวโห่



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ