มะม่วงหาว มะนาวโห่ สรรพคุณเเละประโยชน์

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มะม่วงหาว มะนาวโห่ สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 401 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2018, 12:53:09 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


มะม่วงหาว มะนาวโห่
ชื่อสมุนไพร  มะม่วงหาวมะนาวโห่
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ , มะนาวไม่รู้โห่ , หนามแดง (ภาคกลาง) , หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , มะนาวโห่ (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์    Carissa carandas L.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Carissa congesta Wight.
ชื่อสามัญ  Karanda, Carunda , Christ’s thorn , Bengal Currants.
วงศ์  APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิด
มะม่วงหาว มะนาวโห[/color]เป็นผลไม้ในกรุ๊ปเบอร์ปรี่ประเภทหนึ่งที่มั่นใจว่าถิ่นกำเนิดอยู่แถบ Himalayas แม้กระนั้น นักพฤกษศาสตร์บางคนพูดว่ามีถิ่นกำเนิดแถบ Java มะนาวโห่มีการกระจายตัวตั้งแต่เนปาลไปจนกระทั่งอัฟกานิสถาน แล้วก็เจอได้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศ อินเดีย มีการกระจายตัวในเขตอบอุ่นของประเทศ อินเดีย และก็ศรีลังกา โดยธรรมชาติเติบโตในพื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 ถึง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมไปถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา พม่า จีน รวมทั้งไทย
ส่วนในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนในปัจจุบันค่อนข้างหามารับประทานได้ยาก เพราะเป็นพันธุ์พืชมีหนาม หลายคนไม่ทราบคุณประโยชน์จึงฟันทิ้งกันไปๆมาๆก เว้นเสียแต่คนที่รู้เท่านั้นที่นำมาปลูกไว้ สำหรับคนรุ่นเก่าแล้วผลไม้ชนิดนี้จัดว่ามีคุณประโยชน์เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุว่าเป็นมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณที่มากมาย
ลักษณะทั่วไป มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรือไม้ใหญ่ขนาดเล็ก เป็น ไม้ไม่ผลัดใบ มีสีเขียวตลอดปี มีลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์ เป็น
ลำต้น : สูง 2-3 เมตร แต่ว่าบางทีอาจสูงถึง 5 เมตร มียาง ขาวเปลือกมีสีเทาอ่อน
กิ่ง: มีกิ่งหลายชิ้นกิ่งมี ลักษณะแข็ง รวมทั้งกระจายไปทั่วต้น การแตกกิ่งจะแตก ออกเป็น 2 กิ่งตรงคู่กัน มีหนามอีกทั้งแบบหนามเดี่ยว หรือ เป็นคู่ บางทีอาจยาวได้ถึง 5 ซม. หนามจะพบบริเวณ มุมใบ หรือตามข้อของกิ่ง กิ่งแขนงมักจะมีหนามที่แข็ง และก็คม
ใบ: เป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม รูปขอบขนานหรือ รูปไข่ ไม่มีหูใบ กว้าง 1.5-4 เซนติเมตร ยาว 3-7 เซนติเมตร ปลายมน หรือเว้ายุบ มีก้านในผู้เดียว เส้นใบ เป็นแบบร่างแห ผิวใบเรียบ เป็นมัน มีสีเขียวเข้ม หรือ สีเขียวอมเทา
ช่อดอก: ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีลักษณะเรียงเป็นแบบช่อเชิงหลั่นเป็นกระจุกกันอยู่ใบประดับประดาตรง
ดอก: ดอกมีกลิ่นหอมสดชื่น (เหมือนดอกมะลิ) ขนาด ยาว โดยประมาณ 3.5-5.5 ซม. กลีบดอกสีขาว หรือ สีชมพู รวมกันเป็นช่อ 2-3 ดอก ไม่มีใบประดับย่อย มีก้านดอกย่อย เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกสมมาตรตามรัศมี มีกลับดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นขน โคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 16-21.5 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีขนสั้นขนาด เล็ก วงกลีบดอกไม้: กลีบเชื่อมกัน 5 กลีบเป็นวง เป็น รูปใบหอก สีขาว มีขนสั้นขนาดเล็กนุ่ม หลอดมีลักษณะ ยาว และขยายตรงฐานรองดอก มีขนสั้นนุ่มอาทิเช่น เดียวกัน
เกสรตัวผู้: มีละอองเกสรเพศผู้จำนวนไม่ใช่น้อยปลายยอดเกสรตัวผู้มีรยางค์ อับเรณูติดอยู่ตรงฐาน มีลักษณะหันเข้า อับเรณูแตกทางยาว
เกสรตัวเมีย: มี 1 อัน รังไข่มีลักษณะกลมรี มีวงเกสรตัวเมีย 2 วง เชื่อมกันอยู่ รังไข่เป็นsyncarpous มีหลาย locule placenta อยู่ที่ศูนย์กลาง (axis) ของรังไข่ มี carpel แล้วก็ locule 2 อัน ยอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเส้นใย ปลายแยกเป็น 2 แฉก
ผล: ผลไม้ที่มีเนื้อสด (fleshy fruit) มี pericarp เป็นเนื้อนุ่มรับประทานได้ ผลเป็นแบบdrupe (ผลไม้ ที่มีเมล็ดแข็ง) ลักษณะรูปไข่ ขนาดกว้าง 12-17 มม. ยาว 15-23 มิลลิเมตร ผลสำเร็จคนเดียวออก รวมกันเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนๆรวมทั้งค่อยๆเข้มขึ้นเป็นสีแดง จนถึงสุกก็เลยกลายเป็นสีดำมีรสชาติ เปรี้ยว
เมล็ด: เมื่อผลสุกจะมี 2-4 เมล็ด เมล็ดมี ลักษณะแบน รูปไข่ เอนโดสเปิร์มเป็นแบบเนื้อ (fleshy endosperm) มีลักษณะเว้า
การขยายพันธุ์
โดยปกติแล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมแพร่พันธุ์ด้วยเม็ด เมล็ด มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเม็ดที่มีอายุการรักษาสั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อ แยกเม็ดออกมาจากผลแล้วจึงควรเพาะเม็ดในทันที (Patel, 2013) การเพาะเม็ดนิยมเพาะในโรงเรือนช่วง เดือน สิงหาคม-กันยายน หรือนำมาเพาะใส่ลงไปในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่ม วางเอาไว้ภายในที่แดดร่มๆซึ่งจะใช้เวลาเพาะประมาณ 6 เดือน แล้วนำมาปลูกเอาไว้ภายในแปลง
หรือเมื่อต้น กล้าอายุได้ 1 ปี สำหรับวิธีการทำหมัน กิ่งแล้วก็การชำ ในมะม่วงหาว มะนาวโห่ควรเริ่มทำ ในตอนมรสุมรากจะออกข้างหลังตอนราว 3 เดือน โดยการเลือกตอนในกิ่งที่ ไม่อ่อนหรือไม่แก่เดินไป อายุกิ่งไม่เกิน 1 ปี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางกิ่งไม่เกิน0.5 เซนติเมตรมะม่วงหาว มะนาวโห่จัดเป็นพืชที่ทนภาวะแล้งก้าวหน้าจะรุ่งโรจน์ เติบโตเจริญในเขตร้อนเขตอบอุ่น สามารถเติบโต ได้ดีในดินปนทราย แถบเทือกเขาหินปูน รวมทั้งดินที่ย่อยสลาย หรือดินภูเขา โดยสามารถเติบโตได้ในดินดูเหมือนจะทุก ประเภท ตั้งแต่ดินเค็ม ไปจนกระทั่งดินกรด พืชประเภทนี้จะ เติบโตได้ดิบได้ดีในพื้นที่ชายฝั่ง หรือพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ ประโยชน์ และยังเป็นพืชที่อยากได้น้ำน้อยมาก การให้ น้ำมีความสำคัญเฉพาะตอนหลังย้ายปลูก หรือหลังให้ ปุ๋ยแค่นั้น
ส่วนประกอบทางเคมี
ในผลของ[url=https://www.disthai.com/17039488/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88]มะม่วงหาว มะนาวโห่
มีสาร anthocyanin สารประกอบฟีนอลิก และก็ triterpenoid acid และสารพวกพวกโปรตีน ดังเช่นว่า alanine, glycine, glutamine รวมทั้งยังเจอคาร์โบไฮเดรต ฟลาโวนอยด์ ในลำต้นรวมทั้งรากเป็นพวกลิกแนน ใบเป็นพวกสามเทอร์ป่ายปีนส์, สเตียรอยด์นอกนั้นการเล่าเรียนพื้นฐานพบว่า สารสกัดของมะม่วงไม่เคยทราบหาว มะนาวไม่เคยรู้โห่ยังประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆเป็นต้นว่า สารโฟลีฟีนอลิก (polyphenolic) ฟลาโวนอยด์(flavonoid) ฟลาวาโนน (flavanone) วิตามิน ซีอัลคาลอยด์(alkaloid) ซาโปนิน (saponin) รวมทั้ง แทนนิน (tannins)
ส่วนค่าทางโภชนาการของมะม่วงหาว มะนาวโห่ กล่าวว่าผลมะม่วงหาวมะนาวโห่สุก 100 กรัม ให้พลังงานราว 75 แคลอรี่ มีไขมัน 2-5 กรัม น้ำตาล 7-12 กรัม แล้วก็วิตามินซี 9-11 มิลลิกรัม
คุณประโยชน์/คุณประโยชน์
มะม่วงหาว มะนาวโห่มีผลแบบมีเนื้อหลายเม็ด (berry) นิยมนำมาใช้บริโภคสดหรือประยุกต์ใช้สำหรับเพื่อการประกอบอาหารดองในประเทศอินเดีย มีการบริโภค ภายในประเทศและก็ส่งออกต่างประเทศ มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็น ผลไม้ที่จัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่กินก่อนที่จะกินอาหารจาน หลักได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากแล้วผลมักจะนำไปดองก่อนที่จะสุก ส่วนผลดิบชอบใช้เป็นเครื่องดื่มคลาย้อน ประยุกต์ใช้ทำเยลลี่ แยม น้ำผลไม้ น้ำเชื่อม ทาร์ต แล้วก็เครื่องแนม น้ำยางสีขาวในผลสุกใช้ใน อุตสาหกรรมแทนนินและก็สีผสมอาหาร ในผลสุกจะมี สารคล้ายยางเหนียวแม้กระนั้นเมื่อปรุงโดยการผ่านความร้อน แล้วทิ้งเอาไว้ให้เย็นจะได้น้ำผลไม้ที่มีสีแดงเข้มใส เอาไปใช้เป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้ ผลสุกของมะม่วงหาว มะนาวโห่จะมี เพ็กตินเยอะมากๆ ผลสุกชนิดที่มีรสหวานสามารถ รับประทานได้ทันที แต่ว่าชนิดที่มีรสเปรี้ยวจำเป็นต้องกวนด้วย น้ำตาลเยอะมากๆก่อนก็เลยจะรับประทานได้ ในบาง ประเทศปรุงมะม่วงหาวมะนาวโห่ร่วมกับพริกเขียวเพื่อเป็นอาหาร ที่รับประทานคู่กับแผ่นโรตี ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการน้ำเอามาทำเป็นซอสเปรี้ยวใช้สำหรับรับประทานคู่กับปลาและก็เนื้อวัวอีกด้วย
ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ตามตำรายาไทย
ระบุว่า แก่น บำรุงไขมัน เหมาะสำหรับคนผอมบาง บำรุงธาตุแก้เมื่อยล้า ใบสด ต้มน้ำดื่มแก้ท้องเดิน แก้ปวดหู ไข แก้เจ็บปากรวมทั้งคอ รากสดต้มน้ำกิน ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำอย่างรอบคอบผสมกับเหล้า ทาหรือพอกรักษารอยแผลแก้คัน เปลือกลำต้น บรรเทาอาการโรคผิวหนัง แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเดินแก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ผล ผลดิบ มีรสขมและเปรี้ยว ใช้เป็นยาสมาน แผล ดับกระหายคลายร้อน ใช้เป็นของกินเรียกน้ำย่อย ที่รับประทานก่อนรับประทานอาหารจานหลัก แก้ท้องผูก ลดไข้ ละลายเสมหะรวมทั้งมีประโยชน์สำหรับผู้มีลักษณะอาการ อยากดื่มน้ำ เบื่อข้าว ท้องเดิน ลักษณะของการมีไข้ขึ้นสมอง และก็ อาการคลื่นไส้เป็นเลือด ผลสุก มีรสหวานแล้วก็มี คุณประโยชน์เย็น ใช้คือผลไม้เรียกน้ำย่อย บรรเทาอาการ ลักปิดลักเปิด และก็มีประโยชน์ต่อผู้มีอาการอาเจียนมีเสลด สภาวะไม่อยากกินอาหาร แผลไหม้ โรคหิด อาการคัน และก็อาการอื่นๆจากโรคผิวหนังนอกเหนือจากนั้นยังบรรเทา สภาวะโลหิตจาง รวมทั้งช่วยถอนพิษ และก็ในตำราเรียนแพทย์พื้น บ้านกล่าวว่าผลสุกสามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของ ผู้หญิง รวมทั้งฆ่าพยาธิในลำไส้ได้ ผลสุกมีคุณลักษณะใน การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ รวมทั้งเชื้อราได้ น้ำคั้นจากผลใช้ล้าง แผลเพื่อป้องกันการได้รับเชื้อ แล้วก็บรรเทาอาการคันที่ ผิวหนัง รวมทั้งยังสามารถทุเลาอาการบ้าได้อีก ด้วย เมล็ด แก้กลากเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเส้นเอ็น ชูกำลัง บำรุงผิวหนัง น้ำยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายพื้นที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดไหลตามไรฟัน รักษาหูด รักษากลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ส่วนในการศึกษาเรียนรู้ด้านการแพทย์แผนปัจจุบันมีผลการเรียนกล่าวว่า สารออกฤทธิ์ในมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน (antidiabetic) รวมทั้งคุ้มครองการเกิดโรคมะเร็งได้ (anticancer)
แบบ/ขนาดการใช้
รากสด ต้มกับน้ำใช้ดื่มเพิ่มความอยากของกิน เพิ่มการทำงานของกระเพาะ เพิ่มการหลั่งกรด แก้ท้องเดิน ขับพยาธิ ใบต้มกับน้ำ ใช้ลดไข้ แก้ท้องร่วง แก้แผลอักเสบที่ปาก ผลสุดใช้กินสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม แก้ลักปิดลักเปิด แก้โลหิตจาง ช่วยเจริญอาหารแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ท้องร่วง แก่นไม้มะม่วงหาว มะนาวโห่ใช้ต้มกับน้ำใช้ดื่ม ช่วยทำนุบำรุงธาตุ ชูกำลัง แก้อ่อนเพลีบ น้ำยางใช้ทากัดตาปลา และพื้นที่ด้านแข็ง รักษาหูด ขี้กลากโรคเกลื้อนการเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านอนุมูลอิสระ พบว่าในผลสุกที่มีสีม่วงจะมีฤทธิ์ในการต้าน อนุมูลอิสระสูงกว่าผลดิบ (ผลสีชมพู) และผลครึ่งหนึ่งสุก (ผลสีแดง) แล้วก็ยังพบว่ามีจำนวนสารประกอบฟีนอลิก ทั้งปวงรวมทั้งปริมาณแอนโทไซยานินทั้งผองในผลสุก สูงยิ่งกว่าผลดิบแล้วก็ผลครึ่งสุกด้วยอย่างเดียวกัน แล้วก็ยังพบว่าในรากมีสารที่สามารถต้าน อนุมูลอิสระได้ โดยมีปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด ตั้งแต่ 1.79-4.35 GAE มิลลิกรัม/กรัม ของตัวอย่างแห้งปริมาณฟลา โวนอยด์ทั้งหมดระหว่าง 1.91-3.76 CE มิลลิกรัม/กรัม ของ ตัวอย่างแห้ง มีฤทธิ์สำหรับการต่อต้านอนุมูลอิสระแบบ DPPH รวมทั้งเปอร์เซ็นต์การยับยั้งปฏิกิริยาperoxidation ของ linoleic acid ระหว่าง 12.53-84.82% รวมทั้ง 41.0- 89.21% ตามลำดับฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานมะเร็ง การศึกษาเล่าเรียนถึง ผลของสารสกัดมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่ส่งผลต่อเซลล์มะเร็งรังไข่ เซลล์ของโรคมะเร็ง Caov-3 และเซลล์ของโรคมะเร็งปอด โดยการทำการสกัดจาก 3 ส่วนประกอบ คือ ใบ ผลดิบ รวมทั้งผลสุก พบว่าสาร สกัดจากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย chloroform สามารถต้านทาน กิจกรรมของเซลล์ของโรคมะเร็ง Caov-3 ได้เป็นอย่างดี ในขณะ ที่สารสกัดจากผลดิบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย hexane สามารถ ต้านทานกิจกรรมของเซลล์มะเร็งปอดได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีการค้นพบสารตัวใหม่ที่มี อยู่ในใบของมะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสาร carandinol ซึ่งเป็นสารในกรุ๊ปของ triterpene ซึ่งเมื่อนำมาประเมินความเป็น พิษต่อเซลล์(cytotoxicity) การผลิตภูมิคุ้มกัน (immunomodulatory) สารต้านทานไกลเคชั่น (antiglycation) ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ และก็ความ สามารถสำหรับในการยั้งหลักการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี ในสภาพ ไม่มีเชื้อโรค พบว่า สารประเภทนี้สามารถก่อความเป็นพิษ กับเซลล์มะเร็งทุกหมวดหมู่สำนักงานทดลอง อีกทั้ง HeLa, PC-3 รวมทั้ง 3T3 โดยจะมีความเป็นพิษกับเซลล์ของมะเร็งคอมดลูก (HeLa) มากที่สุด ซึ่งการวิจัยนี้เป็นการ ศึกษาเล่าเรียนแรกที่ทำงานแยกสารกลุ่ม isohopane triterpene จากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่
ฤทธิ์ในการต้านทานอาการอักเสบอาการปวด และก็ลักษณะของการมีไข้มีการนำสาร สกัดจากผลแห้งมากระทำการทดสอบความสามารถในการ ต้านอาการอักเสบในหนู พบว่า สารสกัดโดยใช้ความฉลาด นอลเป็นตัวทำละลายมีความรู้และมีความเข้าใจในการต้านทาน อาการอักเสบในหนูได้ โดยลดน้อยลงได้ถึง 76.12% ก็เลย ทำให้สารสกัดนี้มีประสิทธิภาพในการใช้เป็นองค์ประกอบ ของยาที่ใช้ต้านอาการอักเสบได้ นอกนั้นยังมีการศึกษาเล่าเรียนเพื่อนำสารสกัดจากใบ มะนาวโห่มาใช้เพื่อต่อต้านอาการอักเสบแล้วก็ลดไข้ในหนู พบว่า สารสกัดที่ให้กับหนูที่ความเข้มข้น 200 มก./ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถต้านอาการอักเสบจากการ บวมที่อุ้งเท้าของหนูได้มากถึง 72.10% ในส่วนของ ความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการลดลักษณะของการมีไข้ พบว่าที่ความเข้มข้น 100 และก็ 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กก. สามารถลดอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากลักษณะของการมีไข้ลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง แล้วก็ สามารถลดอาการได้นานถึง 4 ชั่วโมงภายหลังให้สารสกัดฤทธิ์สำหรับการต้านทานอาการชักจากการเล่าเรียนฤทธิ์ในการต้านทานอาการชักที่เกิดขึ้นมาจากการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า และก็การกระตุ้นด้วยสารเคมี (pentylenetetrazole, picrotoxin, bicuculline และก็ N-methyl-dl-aspartic acid) ในหนูโดยใช้สารสกัดจาก รากที่ความเข้มข้น 100, 200 และก็ 400 มิลลิกรัม/กก. พบว่า สารสกัดทั้งยัง 4 ความเข้มข้นสามารถลดระยะเวลาการ ชักในหนูได้ แม้กระนั้นเฉพาะความเข้มข้นที่ 200 แล้วก็ 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เท่านั้นที่ป้องกันอาการชักได้ และก็ที่ความเข้มข้นนี้ยังสามารถคุ้มครองป้องกันอาการชักจากการกระตุ้นด้วย pentylenetetrazole และก็ชะลอการเกิดอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร picrotoxin รวมทั้ง N-methyl-dlaspartic acid แต่ไม่เป็นผลคุ้มครองปกป้องอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร bicuculline
ฤทธิ์สำหรับการต้านเบาหวาน จากการศึกษาเล่าเรียนในสารสกัดจากผลดิบ พบว่าการสกัดด้วยเมทานอลและ ethyl acetate ที่ความเข้มข้น400 มิลลิกรัม/กก. สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจังถึง 48 รวมทั้ง 64.5% เป็นลำดับเมื่อเทียบกับ ยาต้านเบาหวานแผนปัจจุบัน
ฤทธิ์สำหรับในการปกป้องรักษาความเป็นพิษต่อ ตับ สารสกัดด้วยเอทานอล จากรากมีฤทธิ์ในการ คุ้มครองความเป็นพิษต่อตับที่เกิดจากการใช้ยาพารา เซตตามอลได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากการที่ สารสกัดนี้ไปยั้งกิจกรรมด้านชีววิทยาของพิษที่ เกิดขึ้นกับตับ
ยิ่งกว่านั้นงานศึกษาค้นคว้าวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่บอกว่ามีฤทธิ์ทำให้หัวใจบีบตัวน้อยลง กระตุ้นมดลูกทำให้หัวเต้นชา บำรุงหัวใจ ลดระดับความดันเลือด ฯลฯ
การเรียนทางพิษวิทยา
ในตอนนี้ยังไม่พบรายงานการเล่าเรียนพิษวิทยาของส่วนผล แต่ส่วนรากแสดงความเป็นพิษเมื่อให้สารสกัดเอทานอลของรากต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ฉีดเข้าท้อง และก็ให้ทางปากของแมวในขนาด 5 - 150 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พบว่ามีผลทำให้สัตว์ทดลองอ้วก คลื่นไส้ เซื่องซึม น้ำมูกไหล ท้องเสีย หายใจหอบแล้วก็เร็ว (tachypnea) ชัก และก็ตายสุดท้าย การให้ทางหลอดโลหิตดำจะกำเนิดอาการอาเจียน คลื่นไส้เร็วที่สุด เป็นใช้เวลา 3 - 5 นาที ภายหลังจากให้สาร ส่วนการให้ทางช่องท้อง รวมทั้งทางปากใช้เวลา 10 - 20 รวมทั้ง 40 - 60 นาที เป็นลำดับ แมวที่ได้รับสารสกัดทางเส้นเลือดดำทุกตัวตายภายในช่วงระยะเวลา 1 - 2 ชั่วโมงภายหลังให้สาร เมื่อผ่าอวัยวะภายในพบว่าตับเปลี่ยนไปจากปกติ มีการบวมของเซลล์ตับ (liver congestion) มีจุดเลือด (petechial hemorrhages) ที่ปอดและผนังลำไส้เล็ก
ข้อเสนอแนะ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
ในการศึกษาทางเภสัชวิทยา รวมทั้งพิษวิทยา ของมะม่วงหาวมะนาวโห่ในปัจจุบันล้วนเป็นการเรียนรู้ในสัตว์ทดลอง รวมทั้งผลของการทดลองแต่ว่ายังไม่ปรากฏผลการศึกษาที่ในคน ก็เลยทำให้ไม่อาจเจาะจงคุณภาพและก็ความปลอดภัยในการใช้รักษาโรคได้อย่างแน่ชัด โดยการใช้ในแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในปริมาณมากเหลือเกินบางทีอาจเสี่ยงเป็นอันตรายได้ เพราะฉะนั้นก่อนใช้สินค้าต่างๆจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้ก็เลยปรึกษาหมอก่อน โดยยิ่งไปกว่านั้นคนที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว
เอกสารอ้างอิง

  • สกุลกานต์ สิมลา.มะนาวโห่ : พืชในวรรณคดีไทยที่มากด้วยประโยชน์ .วารสารแก่นเกษตร .ปีที่ 44 ฉบับที่3 .กรกฎาคม – กันยายน .2559.หน้า 557-566.
  • มะนาวไม่รู้โห่...ไม้ประดับกินได้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ธงชัย พุ่มพวง.ประพันธ์ ชานนท์.พิมพ์ใจ ทรงประโคน. กัลยาณี วรรณศรี. ดำรงเกียรติ มาลา และ พรประภา รัตนแดง 2556.มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดีไทยที่มากมายด้วยคุณค่าและราคาดี.นิตยสารเกษตรโฟกัส.2(20):24-39.https://www.disthai.com/[/color]
  • ณัฏฐินี อนันตโชค.มะนาวไม่รู้โห่.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่29.ฉบับที่ 1.ตุลาคม.2554.หน้า2-6
  • ณนัฐอร บัวฉุน.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกของเมล็ดและเนื้อมะม่วงไม่รู้โห่.วานสารวิจัยและพัฒนะ วไลขอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ 13 ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2561.หน้า 53-63
  • มะม่วงหาวมะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • สกุลกานต์ สิมลา.สุรศักดิ์ บุญแต่ง และพัชรี สิริตระกูลศักดิ์.(2556).การประเมินปริมาณสารพฤษเคมีบางประการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน Carissa carandas L. แก่นเกษตร 41 ฉบับพิเศษ:602-606.
  • มะม่วงหาว มะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Itankar, P.R., S.J. Lokhande1, P.R. Verma, S.K. Arora, R.A. Sahu, and A.T. Patil. 2011. Antidiabetic potential of unripe Carissa carandas Linn. fruit extract. J. Ethnopharmacol. 135: 430-433.
  • Philippine Medicinal Plants. 2012. Caranda. Available: http://goo.gl/kBShxE. Accessed Aug. 6, 2014.
  • Begum, S., S.A. Syed, B.S. Siddiqui, S.A. Sattar, and M.I. Choudhary. 2013. Carandinol: First isohopane triterpene from the leaves of Carissa carandas L. and its cytotoxicity against cancer cell lines. Phytochem Lett. 6: 91-95
  • หนามแดง.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Hati, M., B.K. Jena, S. Kar, and A.K. Nayak. 2014. Evaluation of anti-inflammatory and anti-pyretic activity of Carissa carandas L. leaf extract in rats. J. Pharm Chem Bio Sci. 1(1): 18-25.
  • Gupta, P., I. Bhatnagar, S-K. Kim, A. K. Verma, and A. Sharma. 2014. In-vitro cancer cell cytotoxicity and alpha amylase inhibition effect of seven tropical fruit residues. Asian Pac J Trop Biomed. 4(2), S665-S671.
  • Kumar, S., P. Gupta, and V. Gupta K.L. 2013. A critical review on Karamarda (Carissa carandas Linn.). Int J Pharm Bio Arch. 4(4): 637 -642.
  • Kubola, J., S. Siriamornpun, and N. Meeso. 2011. Phytochemicals, vitamin C and sugar content of Thai wild fruits. Food Chemistry. 126, 972-981.
  • Sulaiman, S.F., W.S. Teng, O.K. Leong, S.R. Yusof, and T.S.T. Muhammad. (n.d.). Anticancer study of Carissa carandas extracts. Available: http://goo.gl/ W2WjSG. Accessed May 16, 2014
  • Aslam, F., N. Rasool, M. Riaz, M. Zubair, K. Rizwan, M. Abbas, T.H. Bukhari, and I.H. Bukhari. 2011. Antioxidant, haemolytic activities and GC-MS profiling of Carissa carandas roots. Int J Phytomedicine. 3: 567-578
  • Patel, S. 2013. Food, pharmaceutical and industrial potential of Carissa genus: an overview. Rev Environ Science Biotech. 12(3): 201-208

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะม่วงหาว มะนาวโน่หาว



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ