“แฟรนไชส์ขนมครกสิงคโปร์” ที่แรกแห่งไทย ปรับครั้งใหญ่รับเทรนด์สุขภาพ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “แฟรนไชส์ขนมครกสิงคโปร์” ที่แรกแห่งไทย ปรับครั้งใหญ่รับเทรนด์สุขภาพ  (อ่าน 21 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SEO.No1
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14253


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2018, 02:01:08 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


 
เจ้าของแบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” กลับโฉมขนมไทยโบราณรูปแบบใหม่รับเทรนด์สุขภาพ ด้วยขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) 100% ในราคาสบายๆกล่องละ 40 บาท พร้อมตั้งเป้าขายแฟรนไชส์สไตล์แคะเพลิดเพลินเงินล้นมือ มากกว่า 10 สาขา ด้านในปี 2562 " แป้งขนมครกสำเร็จรูป "

     ภายหลังขนมไทยภายใต้แบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” ที่เปิดให้ชาวไทยได้ชิมรสสัมผัสขนมครกสิงคโปร์ กว่า 10 รสชาติที่แสนอร่อยมา 7 เดือนแล้ว ที่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 23 แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ลูกค้าสิ่งเดียวที่ตอบรับกับขนมครกประเทศสิงคโปร์ทุกรสชาติ แต่มีผู้พอใจติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์กันอย่างล้นหลาม ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นโดยตลอด จัดว่าไปถึงเป้าหมายในตอน 5 เดือนแรกเลยทีเดียว " ขนมเขียวใบเตย "


 
เข้าชม Fanpage ของเราได้ที่นี่ >>  https://www.facebook.com/thachangthaidessert

     >> “หยอด-แคะ-รับตังค์” แฟรนไชส์ขนมครกเพื่อคนเกียจคร้าน

ล่าสุดคุณใบพัด-อธิษฐ์เพชร นิพิษฐางาม เจ้าของแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ ได้ต่อยอดขนมไทยโบราณด้วยการพัฒนาสูตร ครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพ หรือเรียกกันเคยปากว่า Vegan (วีแกน) Sanook! Money จึงไม่พลาดที่จะอัพเดทเรื่องราวดีๆมาฝากกัน " ขนมครกสิงคโปร์ "

     ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ เปิดขายไม่ถึงปี สร้างยอดขายเดือนละแสน

คุณใบพัด-อธิษฐ์พัชร นิพิษฐาประเสริฐ ผู้ครอบครองแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ กล่าวว่า หลังจากที่ขายขนมครกประเทศสิงคโปร์ในตอน 5 เดือนแรก มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 20% อยู่ที่ราว 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งยอดขายดังที่ได้กล่าวมาแล้วมาจากการซื้ออีกทั้งหน้าร้านค้า, Line Man และก็งานอีเว้นท์ต่างๆโดยมีทั้งยังขาประจำรวมทั้งลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย

เดี๋ยวนี้ ทางแบรนด์ได้ลงทุนแตกไลน์ขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) เพื่อเจาะตลาดสุขภาพในไทยเยอะขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่ท้าทายในฐานะผู้ประกอบธุรกิจขนาดย่อม " ขนมไทย "



     - ผุดไอเดีย ขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) จากเสียงเรียกร้องของลูกค้า -

คุณใบพัด เล่าถึงแรงจูงใจของขนมครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพนั้น มาจากความต้องการของกลุ่มขาประจำ รวมถึงกลุ่มชนรักสุขภาพที่อยู่ในตอน 25-40 ปี ถามหาขนมครกสิงคโปร์สูตรหวานน้อย เนื่องจากว่ากลุ่มลูกค้าจะไม่ค่อยสบายใจถึงน้ำหนัก หากกินในปริมาณมาก ประกอบกับหลายท่านแนะนำให้ทดลองทำขนมไทยเพื่อสุขภาพ จึงตัดสินใจไปหานักโภชนาการมาเป็นที่ปรึกษา รอแก้ไขวัตถุดิบใหม่ทั้งปวง จากสูตรเดิมที่ใช้ น้ำตาล ไข่ กะทิ แป้ง เปลี่ยนมาตัดส่วนผสม อย่าง ไข่ ออกไป ส่วนแป้ง และก็น้ำกะทิ สั่งผลิตวัตถุดิบจากโรงงานที่มีการรับประกันมาตรฐาน Halal, GMP แล้วก็ HACCP แล้วก็น้ำตาลที่ใช้จะเป็นของที่มีคุณภาพสูง ผสมรวมกับวัตถุดิบอื่นๆในรูปร่างที่เหมาะสม ตามสูตรที่นักโภชนาการได้คํานวนทั้งรูปทรงไว้ โดยขนมครกสิงคโปร์ 1 คำจะต้องมีเนื้อสัมผัสอีกทั้ง กรอบ หวานน้อย เพื่อให้ขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) ตามมาตรฐาน มีรสชาติเนื้อสัมผัสที่อร่อย แล้วก็มีคุณค่าทางโภชนาการ ตอบปัญหากลุ่มของผู้คนรักสุขภาพมากเพิ่มขึ้น "  ขนม vegan "

นอกนั้น คุณใบพัด คิดว่า เมื่อขนมครกสิงคโปร์ไปสู่กระบวนการผลิตที่ตามมาตรฐานจะจัดการกับปัญหาเรื่องการจัดส่งรวมทั้งการเก็บรักษาวัตถุดิบได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกเยอะขึ้น แล้วก็ตระเตรียมที่จะลงทะเบียน Halal ในเร็วๆ

“ของหวานสูตรวีแกน (Vegan) ทำได้ยากกว่าขนมสูตรทั่วๆไป เพราะเหตุว่าจะต้องมีการลงทุน ทั้งยังรายละเอียดออกจะเยอะ ที่สำคัญ ตัวขนมไทยโบราณควรมีคุณประโยชน์ทางโภชนาการและก็ได้มาตรฐานอีกด้วย ถึงจะการันตีได้ว่าเป็นขนมไทยโบราณเพื่อสุขภาพ 100% อย่างแท้จริง” ใบพัด กล่าว



  “หวานน้อย กรอบนอก นุ่มใน” กลเม็ดความอร่อยของขนมครกสิงคโปร์เพื่อสุขภาพ

คุณใบพัด กล่าวว่า ทางแบรนด์ได้เริ่มทดสอบขนมครกสิงคโปร์เพื่อสุขภาพเมื่อกันยายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แล้วก็ได้สูตรขนมครกประเทศสิงคโปร์ที่พอดีมันก็คือ หวานน้อย กรอบนอก นุ่มใน และก็เริ่มขายในต.ค.ในปีเดียวกัน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับมากยิ่งกว่าเดิม เนื่องด้วยมีการปรับขนมให้ดูมีสีสันและผิดตาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญยังเป็นการแชร์ความรู้ความเข้าใจเรื่องสุขภาพให้กับลูกค้าอีกด้วย ปัจจุบันทางแบรนด์มีขนมครกสิงคโปร์ทั้งสิ้น 6 รส เช่น ใบเตย, มะพร้าว, ชาเขียว, มันม่วง, ช็อกโกแลต และก็ชาไทย ส่วนรสเดิมที่มีความหวานอย่าง สตอร์เบอร์รี่ ถูกตัดทิ้งไป ทั้งยังมีการเพิ่มเนื้อสัมผัสของของหวานด้วยหน้าต่างๆซึ่งมีมากยิ่งกว่า 10 จำพวก เช่น เมล็ดแฟลกซ์ (Flax seed), อัลมอนด์, ข้าวโอ๊ต, ถั่วแดง, ถั่วทอง, งาดำ, แปะก๊วย, ข้าวโพด, ลูกเกด, ข้าวบาเลย์, เผือก, มันม่วง,ข้าวเหนียวดำ, ลูกเดือย, กราโนล่า และก็ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขนมครกประเทศสิงคโปร์มีรสชาติที่อร่อยพอดีพอดิบพอดี

     ซึ่งต่อไปลูกค้าจะสามารถเลือกผสมหน้า Topping ในขนมครกสิงคโปร์ต่างๆได้ด้วยตัวเอง ส่วนราคาขายยังเหมือนเดิม โน่นเป็น กล่องละ 40 บาท แต่ว่าเป็นการเพิ่มลู่ทางให้กับลูกค้าได้ประโยชน์มากขึ้น

     “ส่วนสำคัญของการพัฒนาขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) คือไม่หวาน ไม่มีไขมันทรานส์ แล้วก็จะต้องอร่อย” ใบพัด กล่าว



     นอกเหนือจากนี้ ยังมีขนมครกประเทศสิงคโปร์หน้า ณ หน้าทองคำ โดยใช้ทองคำบริสุทธ์ใช้ทองคำแท้บริสุทธิ์ 100% (Food grade) สำหรับในการเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ไทย และก็ความสวยงาม จึงสามารถรับประทานได้ การเลือกใช้ทองเนื้อแท้ จะไม่มีปฏิกิริยากับสารเคมีอะไรก็แล้วแต่หรือต่อเซลของร่างกายเมื่อไปสู่ร่างกาย ก็เลยไม่เกิดอันตราย แถมทองคำยังเอามาพอกหน้าเพิ่มความสวยสดงดงามได้อีกด้วย

“ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์” เนื้อหอม โดนรุมจีบทั้งไทยและเทศ

คุณใบพัด เล่าว่า ทางแบรนด์ได้รับการกาความรักดต่อจากคนที่พึงพอใจซื้อแฟรนไชส์ 3 กลุ่มใหญ่ ตัวอย่างเช่น ตลาดนัดช่วงกลางคืน หรือถนนคนเดิน เหตุเพราะมีปริมาณผู้คนคึกคก, ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ที่มียอดคนรับใช้บริการ 1,000 คนต่อวัน เป็นต้นว่า ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดชลบุรี รวมทั้งสุพรรณบุรี เป็นต้น ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กของคนขับรถ แล้วก็ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ

ช่วงเวลาที่ตลาดในต่างแดนก็มี อังกฤษ, ประเทศฟิลิปปินส์, สหรัฐอเมริกา และก็เขมร ติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์ด้วยเหมือนกัน

     - ทางแบรนด์ฯ มองหาพันธมิตรทางธุรกิจมากยิ่งกว่าการขายทิ้ง -

ส่วนความก้าวหน้าการขายแฟรนไชส์ให้กับคนที่พึงพอใจและก็ติดต่อเข้ามานั้น คุณใบพัด กล่าวว่า ทางแบรนด์ได้นำร่องแฟรนไชส์สาขาแรกที่ ไอคอนประเทศไทย (ICONSIAM) แล้วหลังจากนั้นภายในปี 2562 จะขายแฟรนไชส์โดยระบุโควต้าไว้ 20 สาขา เนื่องจากทางแบรนด์จะย้ำพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่าปริมาณแฟรนไชส์ ซึ่งจะมีการแบ่งเป็นโซนตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดเป็นหลักก่อน โดยเบื้องต้นจะมองหาคนที่อยู่ในเขตแดนนั้น เพราะว่ามีความเข้าใจเรื่องประชากรศาสตร์เป็นอย่างดี

ด้านในปี 2562 แบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ จะมีต้นแบบสาขา 3 แห่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ ตัวอย่างเช่น ท่าช้าง, ท่ามหาราช และท่าพระจันทร์ เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวคนประเทศอื่นให้มากขึ้น

สำหรับคุณสมบัติของคนที่จะมาซื้อแฟรนไชส์ ทางแบรนด์จะไตร่ตรอง 3 ส่วนด้วยกัน เป็น เรื่อง Passion สำหรับเพื่อการทำธุรกิจ , ทำเลของแฟรนไชส์ และระยะความห่างของแฟรนไชส์ในแต่ละสาขา ฯลฯ โดยจะมีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อตรึกตรองทั้งยังความพร้อมสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ ให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ “อร่อย สนุก สบาย” โดยคิดถึงหัวข้อการบริการ (Service), ประสิทธิภาพ (Quality) และสะอาด (Clean) อีกด้วย ส่วนค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ราว 30,000++ บาท

“สิ่งที่เราทำไม่มีคนซื้อรังแกคนกิน เราสุขสบายที่ได้นำเทรนด์ขนมไทยโบราณให้มาเอาใจใส่เรื่องสุขภาพมากเพิ่มขึ้น” ใบพัด กล่าว



แต่ คุณใบพัด กล่าวว่า ตลาดสุขภาพมีอัตราการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ราวหมื่นล้านบาท ซึ่งการที่ Street food จะเข้ามาจับตลาดสุขภาพนั้นสามารถทำเป็น หากรู้จักปรับตัวให้ รู้จักนำเทรนด์ รวมทั้งพัฒนาแบรนด์อย่างไม่หยุดยั้ง ก็จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของตนได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ จะเป็นแบรนด์ขนาดเล็กแต่ว่าก็อยากจะเป็นต้นแบบให้กับ Street food ได้เห็นเป็นแบบอย่าง สำหรับเพื่อการสร้างแบรนด์ พัฒนาสินค้า ว่าสามารถเติบโตได้จริง รวมทั้งในอนาคตทางแบรนด์ฯ มีแผนสำหรับการที่จะพัฒนาสินค้าเป็น “ขนมครกอบแห้ง” เจาะกลุ่มนักเดินทางฝรั่งอีกด้วยนะ " แฟรนไชส์ขนมไทย "

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.facebook.com/thachangthaidessert[/url]

Tags : แฟรนไชส์ขนมไทย,ขนมไทย,ขนมเขียวใบเตย



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ