Advertisement
เปล้าน้อยชื่อสมุนไพร เปล้าน้อยชื่ออื่นๆ/ ชื่อท้องถิ่น เปล้าท่าโพ (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)ชื่อวิทยาศาสตร์ Croton fluviatilis Esser.ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Croton stellatopilosus Ohba. , Croton sublyratus Kurz.ชื่อสามัญ Thai crotonวงศ์ EUPHORBIACEAEถิ่นกำเนิด เปล้าน้อย เป็นไม้ประจำถิ่นในเขตร้อนของทวีปเอเชีย เจอขึ้นกระจายในประเทศเมียนมาร์และไทย ตามป่าเบญจพรรณ ป่าละเมาะ รวมทั้งป่าริมหาดบางพื้นที่ในประเทศไทยมักพบในหลายจังหวัด ดังเช่น สุรินทร์ , จังหวัดอุบลราชธานี , นครพนม , จังหวัดกาญจนบุรี ปราจีนบุรี และก็จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเปล้าน้อยนี้เป็นพืชที่รุ่งโรจน์ได้ดีในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนคละเคล้าทรายที่มีการระบายน้ำก้าวหน้า โดยออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มิถุนายน และเริ่มติดผลในเดือน มีนาคม – ส.ค.
ลักษณะทั่วไป
เปล้าน้อย จัดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้น เป็นไม้ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 1-5 เมตร แตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนต้น ที่เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลคละเคล้าเทาผิวลำต้นค่อนข้างจะเรียบ
ใบเป็นแบบเรียงแบบสลับ เมื่อใบใกล้ตกจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเหลือง ก้านใบยาว 1-3.5 มิลลิเมตร มีขนสั้นนุ่มกระจาย แผ่นใบตรงแคบยาว กว้าง 1.5 -2.44 ซม. ยาว 10-17 เซนติเมตร แผ่นใบบางเหมือนกระดาษ ฐานใบแหลม ขอบของใบจะฟันเลื่อยเป็นระยะ ขนาด 5-7 มม. ถึงแทบเรียบ ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม ผิวใบด้านบนสะอาด ด้านล่างมีขนกระจายบนเส้นกลางใบเล็กน้อย หรือเกือบหมดจด ไม่มีนวล มีต่อมที่ฐานของก้านใบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.7-1.0 มม. เส้นใบข้าง 11-16 คู่
ดอกออกเป็นช่อ เกิดช่อคนเดียวเล็ก ที่ปลายยอดขนาดยาว 7-19 ซม. แกนช่อหมดจดหรือเกือบสะอาด ดอกเพศเมีย จำนวน 4-11 ดอก อาจมีหรือเปล่ามีดอกเพศผู้ ใบแต่งแต้มของดอกเพศผู้รูปไข่ ปริมาณยาว 2-3.5 มม. กว้าง 1.5-2 มม.บางเหมือนเยื่อ ดอกเพศผู้จำนวน 1-3-4 ดอกในหนึ่งใบแต่งแต้ม ก้านดอกย่อยยาว 4-5 มม. สะอาดกลีบเลี้ยง ขนาดกว้าง 1.5 มม. ยาว 2.5 มิลลิเมตร เชื่อมชิดกันเล็กน้อยที่ฐาน ปลายแหลมถึงเป็นติ่งแหลม ภายนอกสะอาด แม้กระนั้นเจอขนชุดครุยที่ปลายชัดแจ้ง กลีบดอกไม้ลักษณะก็จะคล้ายกลีบเลี้ยงแต่ว่าแคบกว่า ขนาดกว้าง 0.5 มม. ยาว 2.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ 10-12 อัน ก้านยกยาว 2.0-2.5 มิลลิเมตร อับเรณูยาว 0.6 มิลลิเมตร ดอกเพศภรรยา ก้านดอกย่อยแทบหมดจด ขนาดยาว 2 มิลลิเมตร กลีบเลี้ยง ขนาดกว้าง 1 มม. ยาว2 มิลลิเมตร ปลายแหลมถึงเป็นติ่งแหลม สะอาด มองไม่เห็นกลีบดอกไม้ รังไข่ยาว 1.5 มม. ขนสั้นนุ่มหนาแน่น ก้านยกมีอิสรภาพ ปริมาณยาว 3-5 มม. แบ่งเป็น 2 แฉก
ผลเปล้าน้อย ลักษณะของผลเป็นรูปทรงค่อนข้างกลมเปลือกผลเมื่อแห้งมีสีน้ำตาลและแตกได้ง่าย โดยผลจะแบ่งออกเป็นพู 3 พู มีรอยกลีบเลี้ยงติดอยู่กับตูดผล ในแต่ละพูจะมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด เมล็ดมีสีน้ำตาลผิวเรียบ มีลายเส้นตามแนวยาวสีขาวหนึ่งเส้น มีขนาดกว้างราว 2-3 มิลลิเมตร และก็ยาวราวๆ 3-4 มิลลิเมตร
การขยายพันธุ์ การขยายพันธุ์เปล้าน้อยสามารถได้หลายแนวทาง เช่น เพาะเม็ด แล้วก็กระเพาะเลี้ยงเยื่อ ในตอนนี้นิยมใช้กรรมวิธีเพาะเลี้ยงเยื่อมากกว่าด้วยเหตุว่าจะได้พันธุ์แท้โดยมีกล่าวว่าการขยายพันธุ์โดยการเพาะเม็ดเกิดการกลายพันธุ์เกิดขึ้น สำหรับในการปลูกนั้นมีวิธีการเป็น ขุดหลุมขนาด 50x50x50 เซนติเมตร (โดยบางทีอาจลดหรืเพิ่มได้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นกล้าที่จะนำมาปลูก) ต่อจากนั้นนำดินที่ขุดออกมาผสมกับปุ๋ยมูลสัตว์ให้เข้ากัน แล้วนำต้นกล้าลงปลูกโดยใช้ระยะห่าง 4x4 เมตร กลบดิน รดน้ำให้เปียกรวมทั้งปักไม้ค้ำจนถึงกันลมพัดล้ม
ส่วนประกอบทางเคมี
ในใบพบสาร (E.Z,E) -7- hydroxymethyl -3, 11, 15-trimethy-2,6,10,14-hexadecate traen-1-01 มีชื่อว่า CS-684 หรือ Plaunotol, Plaunotol A,B,C,D,E
Plaunotol
ผลดี / คุณประโยชน์ ตำราเรียนยาไทย ใบ รสร้อน แก้คันเรียกตัว รักษาแผลในกระเพาะรวมทั้งลำไส้ได้ดี เปลือกแล้วก็ใบ รักษาโรคท้องเสียบำรุงเลือดเมนส์ รักษาโรคผิวหนัง ราก รสร้อน แก้ลมขึ้นเบื้องบนให้เป็นปกติ ขับโลหิตแก้ช้ำใน ผล รสร้อน ต้มน้ำดื่ม ขับหนองให้กระจาย ดอก เป็นยาขับพยาธิ เปลือกต้น รสร้อน ช่วยย่อยของกิน ใบ รวมทั้ง ราก แก้คัน รักษามะเร็งไฟ รักษาโรคผิวหนัง ขี้กลาก โรคเกลื้อน แก้พยาธิต่างๆริดสีดวงทวาร แก้ไอเป็นเลือด เป็นยาปฏิชีวนะในทางการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า สาร plaunotol ออกฤทธิ์ช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะและก็ กระตุ้นการสร้างเยื่อ ทำให้แผลหาย เร็วขึ้น มีฤทธิ์รักษาแผลในกระเพาะ อาหาร
แบบ / ขนาดการใช้ สำหรับในการใช้ตามตำรายาไทยเพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหารแล้วก็ลำไส้ แก้คันเรียกตัว รักษาโรคผิวหนัง ใช้บำรุงธาตุ บำรุงโลหิต แก้พยาธิต่างๆ ให้นำใบ ออกจะใบอ่อน ตากแห้ง บดละเอียดแล้วเอามาต้มหรือชงน้ำ หรือใช้ รากต้มน้ำตอนอุ่นๆแก้โรคกระเพาะอาหาร
ยิ่งกว่านั้นใบเปล้าน้อยยังสามารถนำไปสกัดเป็นยา “เปลาโนทอล” (Plaunotol) หรือยารักษาโรคกระเพาะได้อีกด้วย ความเป็นจริงแล้วสารเปลาโนทอลมีอยู่ดูเหมือนจะทุกส่วนของ
ต้นเปล้าน้อ[/b]แม้กระนั้นมีจำนวนมากน้อยไม่เหมือนกันออกไป แต่ว่าส่วนที่มีสารเปลาโนทอลสูงสุดเป็นส่วนของใบอ่อนที่อยู่บริเวณปลายช่อที่ได้รับแสงแดด ในการใช้ยา Plaunotol นั้น ควรที่จะใช้ทีละ 80 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ตรงเวลา 8 สัปดาห์อาการจะดีขึ้นถึง 80-90% ซึ่งอาจมีอาการใกล้กันบ้างคือ ผื่นคัน ท้องร่วง แน่นท้อง ท้องผูก
การเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยทางเภสัชวิทยาขอเปล้าน้อย [/size][/b]
ในไทยมีน้อยมาก จะมีก็เพียงแค่ผลจากการทดสอบฤทธิ์ของเปลาโทนอลในคนไข้โรคกระเพาะที่มีแผลในกระเพาะอาหาร (ผลขนาดไม่เกิน 1 ซม.) ได้ผลว่า ผู้ป่วยปริมาณ 8 ใน 10 คนหลังได้รับยาเปลาโนทอลเข้าไป แผลในกระเพาะอาหารจะหายสนิทภายในช่วงระยะเวลา 6 สัปดาห์และการศึกษาเล่าเรียนทางฤทธิ์ของ Plaunotol ที่บอกว่า มีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร แล้วก็ไส้ มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อบุลำไส้ที่เสียหาย ทำให้แผลหายเร็วขึ้น มีฤทธิ์ลดปริมาณการหลั่งของกรดในกระเพาะ รวมทั้งช่วยทำให้ระบบคุ้มครองป้องกัน การดูดซึมซับกรดของเยื่อบุกระเพาะซึ่งถูกทำลายด้วยสารบางจำพวก คืนดีได้
การศึกษาทางพิษวิทยา ไม่มีข้อมุลการเรียนรู้ทางพิษวิทยา แม้กระนั้นมีข้อมูลกล่าวว่ายารักษาโรคกระเพาะจากเปล้าน้อย (Plaunotol) ผ่านการศึกษาเล่าเรียนถึงความปลอดภัยก่อนนำออกจำหน่าย มีคุณภาพดีรวมทั้งส่งผลข้างๆน้อยกว่ายาสังเคราะห์ที่มีใช้อยู่ในตอนนี้ แต่การใช้เปล้าน้อยที่ไม่ใช่สารสกัดหรือการใช้ในทางประจำถิ่นยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัย แม้กระนั้นการใช้เปล้าน้อยสำหรับเพื่อการรักษาโรคกระเพาะควรจะอยู่ภายใต้ข้อเสนอของหมอเหมือนกับสมุนไพรชนิดอื่น
ข้อเสนอ / ข้อควรระวังสำหรับในการให้ยารักษาโรคกระเพาะที่สกัดมาจากเปล้าน้อย (Plaunotol) อาจมีอาการข้างเคียงได้ อาทิเช่น ท้องเดิน แน่นท้อง ท้องผูก หรือมีผื่นคัน ดังนั้นในการใช้ควรปรึกษาหมอหรือผู้ที่มีความชำนาญเสมอ
เอกสารอ้างอิง- ภโวทัย พาสนาโสภณ.สารออกฤทธิ์ในสมุนไพร.คอลัมน์บทความวิชาการ.วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ปีที่27.ฉบับที่1กันยายน2556-กุมภาพันธ์2559 .หน้า120-131https://www.disthai.com/[/b]
- Khovidhunkit,S. O., Yingsaman, N., Chairachvit, K.,Surarit, R., Fuangtharnthip,P., & Petsom, A. (2011). In vitro study of the effects of plaunotol on oral cell proliferation and wound healing. Journal of Asian Natural Products Research, 13(2), 149-159.
- เปล้าน้อย.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
- เปล้าน้อยที่ไม่ใช่สารสกัดรักษาโรคกระเพาะได้หรือไม่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
- เปล้าน้อย .กลุ่มยาแก้บิด ท้องเดิน ท้องร่วง โรคกระเพาะ.โครงการอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี.
เปล้าน้อย.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
Tags : เปล้าน้อย