Advertisement
มะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสมุนไพร มะม่วงหาวมะนาวโห่ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ , มะนาวไม่รู้โห่ , หนามแดง (ภาคกลาง) , หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , มะนาวโห่ (ภาคใต้)ชื่อวิทยาศาสตร์ Carissa carandas L.ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Carissa congesta Wight.ชื่อสามัญ Karanda, Carunda , Christ’s thorn , Bengal Currants.วงศ์ APOCYNACEAEถิ่นกำเนิด มะม่วงหาว มะนาวโห[/color]คือผลไม้ในกลุ่มเบอร์ปรี่ประเภทหนึ่งที่มั่นใจว่าถิ่นเกิดอยู่แถบ Himalayas แม้กระนั้น นักพฤกษศาสตร์บางคนบอกว่ามีถิ่นกำเนิดแถบ Java มะนาวโห่มีการกระจายตัวตั้งแต่เนปาลไปจนถึงอัฟกานิสถาน รวมทั้งเจอได้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศ อินเดีย มีการกระจายตัวในเขตอบอุ่นของประเทศ ประเทศอินเดีย และศรีลังกา โดยธรรมชาติเจริญวัยในพื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 ถึง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา ประเทศพม่า จีน และไทย
ส่วนในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนในตอนนี้ออกจะหามากินได้ยาก เนื่องมาจากเป็นพันธุ์พืชมีหนาม ใครหลายๆคนไม่ทราบสรรพคุณจึงฟันทิ้งกันไปๆมาๆก เว้นแต่ผู้ที่รู้ท่านั้นที่นำมาปลูกไว้ สำหรับคนรุ่นเก่าแล้วผลไม้ชนิดนี้จัดว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะเหตุว่าเป็นมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณที่หลากหลาย
ลักษณะทั่วไป มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มคอยเลื้อย หรือไม้ใหญ่ขนาดเล็ก เป็น ไม้ไม่ผลัดใบ มีสีเขียวตลอดปี มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็น
ลำต้น : สูง 2-3 เมตร แต่บางทีอาจสูงถึง 5 เมตร มียาง ขาวเปลือกมีสีเทาอ่อน
กิ่ง: มีกิ่งจำนวนหลายชิ้นกิ่งมี ลักษณะแข็ง และกระจายไปทั่วต้น การแตกกิ่งจะแตก ออกเป็น 2 กิ่งตรงคู่กัน มีหนามทั้งแบบหนามผู้เดียว หรือ เป็นคู่ อาจยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร หนามจะเจอบริเวณ มุมใบ หรือตามข้อของกิ่ง กิ่งกิ่งก้านสาขามักจะมีหนามที่แข็ง และก็คม
ใบ: เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้าม รูปขอบขนานหรือ รูปไข่ ไม่มีหูใบ กว้าง 1.5-4 เซนติเมตร ยาว 3-7 เซนติเมตร ปลายมน หรือเว้าบุบ มีก้านในคนเดียว เส้นใบ เป็นแบบร่างแห ผิวใบเรียบ เป็นเงา มีสีเขียวเข้ม หรือ สีเขียวอมเทา
ช่อดอก: ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีลักษณะเรียงเป็นแบบช่อเชิงหลั่นเป็นกระจุกกันอยู่ใบตกแต่งตรง
ดอก: ดอกมีกลิ่นหอม (คล้ายดอกมะลิ) ขนาด ยาว ราว 3.5-5.5 เซนติเมตร กลีบดอกสีขาว หรือ สีชมพู รวมกันเป็นช่อ 2-3 ดอก ไม่มีใบเสริมแต่งย่อย มีก้านดอกย่อย เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกสมมาตรตามรัศมี มีกลับดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นขน โคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 16-21.5 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีขนสั้นขนาด เล็ก วงกลีบดอก: กลีบดอกเชื่อมกัน 5 กลีบเป็นวง เป็น รูปใบหอก สีขาว มีขนสั้นขนาดเล็กนุ่ม หลอดมีลักษณะ ยาว และขยายตรงฐานรองดอก มีขนสั้นนุ่มได้แก่ เดียวกัน
เกสรตัวผู้: มีละอองเกสรตัวผู้เยอะแยะปลายยอดเกสรตัวผู้มีรยางค์ อับเรณูติดอยู่ตรงฐาน มีลักษณะหันเข้า อับเรณูแตกทางยาว
เกสรตัวเมีย: มี 1 อัน รังไข่มีลักษณะกลมรี มีวงเกสรตัวเมีย 2 วง เชื่อมกันอยู่ รังไข่เป็นsyncarpous มีหลาย locule placenta อยู่ที่ศูนย์กลาง (axis) ของรังไข่ มี carpel และ locule 2 อัน ยอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเส้นใย ปลายแยกเป็น 2 แฉก
ผล: ผลไม้ที่มีเนื้อสด (fleshy fruit) มี pericarp เป็นเนื้อนุ่มกินได้ ผลเป็นแบบdrupe (ผลไม้ ที่มีเม็ดแข็ง) ลักษณะรูปไข่ ขนาดกว้าง 12-17 มิลลิเมตร ยาว 15-23 มม. ผลได้ผลสำเร็จโดดเดี่ยวออก รวมกันเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนๆและค่อยๆเข้มขึ้นเป็นสีแดง จนกระทั่งสุกก็เลยแปลงเป็นสีดำมีรสชาติ เปรี้ยว
เม็ด: เมื่อผลสุกจะมี 2-4 เม็ด เม็ดมี ลักษณะแบน รูปไข่ เอนโดสเปิร์มเป็นแบบเนื้อ (fleshy endosperm) มีลักษณะเว้า
การขยายพันธุ์โดยธรรมดาแล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เมล็ด มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเมล็ดที่แก่การรักษาสั้น ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อ แยกเม็ดออกจากผลแล้วจึงควรเพาะเมล็ดทันที (Patel, 2013) การเพาะเม็ดนิยมเพาะในโรงเรือนช่วง เดือน ส.ค.-กันยายน หรือเอามาเพาะใส่เข้าไปภายในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้เปียกแฉะ วางเอาไว้ในที่แดดร่มๆซึ่งจะใช้เวลาเพาะราว 6 เดือน แล้วนำมาปลูกลงในแปลง
หรือเมื่อต้น กล้าอายุได้ 1 ปี ส่วนวิธีการตอน กิ่งรวมทั้งการชำ ในมะม่วงหาว มะนาวโห่ควรเริ่มทำ ในตอนมรสุมรากจะออกหลังตอนโดยประมาณ 3 เดือน โดยการเลือกตอนในกิ่งที่ ไม่อ่อนไหมแก่เดินไป อายุกิ่งไม่เกิน 1 ปี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางกิ่งไม่เกิน0.5 ซม.มะม่วงหาว มะนาวโห่จัดเป็นพืชที่ทนภาวะแล้งได้ดิบได้ดีจะเจริญรุ่งเรือง เติบโตได้ดีในเขตร้อนเขตอบอุ่น สามารถเจริญวัย เจริญในดินปนทราย แถบเทือกเขาหินปูน แล้วก็ดินที่ย่อยสลาย หรือดินภูเขา โดยสามารถเจริญเติบโตได้ในดินเกือบทุก ชนิด ตั้งแต่ดินเค็ม ไปจนกระทั่งดินกรด พืชชนิดนี้จะ เติบโตก้าวหน้าในพื้นที่ริมฝั่ง หรือพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ ผลดี และก็ยังเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อยมาก การให้ น้ำมีความจำเป็นเฉพาะตอนข้างหลังย้ายปลูก หรือหลังให้ ปุ๋ยแค่นั้น
ส่วนประกอบทางเคมี ในผลของ
[url=https://www.disthai.com/17039488/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B9%88]มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีสาร anthocyanin สารประกอบฟีนอลิก แล้วก็ triterpenoid acid และก็สารชนิดพวกโปรตีน ดังเช่นว่า alanine, glycine, glutamine แล้วก็ยังพบคาร์โบไฮเดรต ฟลาโวนอยด์ ในลำต้นและรากเป็นพวกลิกแนน ใบเป็นพวกสามเทอร์ป่ายปีนส์, สเตียรอยด์ยิ่งไปกว่านี้การเรียนรู้เบื้องต้นพบว่า สารสกัดของมะม่วงไม่รู้จักหาว มะนาวไม่เคยทราบโห่ยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆตัวอย่างเช่น สารโฟลีฟีนอลิก (polyphenolic) ฟลาโวนอยด์(flavonoid) ฟลาวาโนน (flavanone) วิตามิน ซีอัลคาลอยด์(alkaloid) ซาโปนิน (saponin) แล้วก็ แทนนิน (tannins)
ส่วนคุณประโยชน์ทางโภชนาการของมะม่วงหาว มะนาวโห่ บอกว่าผลมะม่วงหาวมะนาวโห่สุก 100 กรัม ให้พลังงานราวๆ 75 แคลอรี่ มีไขมัน 2-5 กรัม น้ำตาล 7-12 กรัม และก็วิตามินซี 9-11 มิลลิกรัม
ประโยชน์/สรรพคุณ มะม่วงหาว มะนาวโห่มีผลแบบมีเนื้อหลายเมล็ด (berry) นิยมนำมาใช้บริโภคสดหรือนำมาใช้สำหรับในการประกอบอาหารดองในประเทศอินเดีย มีการบริโภค ภายในประเทศแล้วก็ส่งออกต่างชาติ มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็น ผลไม้ที่จัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่รับประทานก่อนรับประทานอาหารจาน หลักได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากแล้วผลชอบนำไปดองก่อนที่จะสุก ส่วนผลดิบชอบใช้เป็นเครื่องดื่มคลาย้อน นำมาใช้ทำเยลลี่ แยม น้ำผลไม้ น้ำเชื่อม ทาร์ต และก็เครื่องแนม น้ำยางสีขาวในผลสุกใช้ใน อุตสาหกรรมแทนนินและก็สีผสมอาหาร ในผลสุกจะมี สารคล้ายยางเหนียวแต่เมื่อปรุงโดยการผ่านความร้อน แล้วทิ้งเอาไว้ให้เย็นจะได้น้ำผลไม้ที่มีสีแดงเข้มใส เอาไปใช้เป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้ ผลสุกของมะม่วงหาว มะนาวโห่จะมี เพ็กว่ากล่าวนจำนวนไม่ใช่น้อย ผลสุกชนิดที่มีรสหวานสามารถ รับประทานได้ในทันที แม้กระนั้นจำพวกที่มีรสเปรี้ยวจำต้องกวนด้วย น้ำตาลเยอะแยะก่อนจึงจะรับประทานได้ ในบาง ประเทศปรุงมะม่วงหาวมะนาวโห่ร่วมกับพริกเขียวเพื่อเป็นอาหาร ที่กินคู่กับแผ่นโรตี นอกเหนือจากนี้ยังมีการน้ำนำมาทำเป็นซอสเปรี้ยวใช้สำหรับรับประทานคู่กับปลาและก็เนื้อวัวอีกด้วย
ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ตามตำรายาไทย ระบุว่า แก่น บำรุงไขมัน เหมาะสำหรับคนผอม บำรุงธาตุแก้อ่อนแรง ใบสด ต้มน้ำแก้ท้องร่วง แก้ปวดหู ไข แก้เจ็บปากและก็คอ รากสดต้มน้ำดื่ม ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำอย่างถี่ถ้วนผสมกับเหล้า ทาหรือพอกรักษารอยแผลแก้คัน เปลือกลำต้น ทุเลาอาการของโรคผิวหนัง แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องร่วงแก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ผล ผลดิบ มีรสขมแล้วก็เปรี้ยว ใช้เป็นยาสมาน แผล ดับกระหายคลายร้อน ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ที่รับประทานก่อนกินอาหารจานหลัก แก้ท้องผูก ลดไข้ ละลายเสลดและมีคุณประโยชน์สำหรับผู้มีลักษณะ อยากดื่มน้ำ ไม่อยากกินอาหาร ท้องร่วง ลักษณะของการมีไข้ขึ้นสมอง และก็ อาการคลื่นไส้เป็นเลือด ผลสุก มีรสหวานแล้วก็มี คุณประโยชน์เย็น ใช้คือผลไม้เรียกน้ำย่อย ทุเลาอาการ ลักปิดลักเปิด แล้วก็มีคุณประโยชน์ต่อผู้มีอาการคลื่นไส้มีเสมหะ ภาวะเบื่อข้าว แผลไหม้ โรคหิด อาการคัน และอาการอื่นๆจากโรคผิวหนังนอกเหนือจากนั้นยังบรรเทา ภาวะโลหิตจาง และก็ช่วยทำลายพิษ และก็ในหนังสือเรียนแพทย์พื้น บ้านพูดว่าผลสุกสามารถเร้าอารมณ์ทางเพศของ สตรี และฆ่าพยาธิในไส้ได้ ผลสุกมีคุณสมบัติใน การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อราได้ น้ำคั้นจากผลใช้ล้าง แผลเพื่อคุ้มครองป้องกันการติดเชื้อ และก็บรรเทาอาการคันที่ ผิวหนัง และก็ยังสามารถทุเลาอาการบ้าได้อีก ด้วย เม็ด แก้กลากโรคเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเส้นเอ็น ชูกำลัง บำรุงผิวหนัง น้ำยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายพื้นที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษากลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ส่วนในการศึกษาด้านการแพทย์แผนปัจจุบันมีผลการศึกษาเล่าเรียนกล่าวว่า สารออกฤทธิ์ในมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถต้านทานอนุมูลอิสระ สามารถปกป้องการเกิดเบาหวาน (antidiabetic) แล้วก็ปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ (anticancer)
ต้นแบบ/ขนาดวิธีใช้ รากสด ต้มกับน้ำใช้ดื่มเพิ่มความอยากอาหาร เพิ่มหลักการทำงานของกระเพาะ เพิ่มการหลั่งกรด แก้ท้องร่วง ขับพยาธิ ใบต้มกับน้ำกิน ใช้ลดไข้ แก้ท้องเสีย แก้แผลอักเสบที่ปาก ผลสุดใช้รับประทานสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม แก้ลักปิดลักเปิด แก้โลหิตจาง ช่วยเจริญอาหารแก้เลือดไหลตามไรฟัน แก้ท้องร่วง แก่นไม้มะม่วงหาว มะนาวโห่ใช้ต้มกับน้ำใช้ดื่ม ช่วยบำรุงรักษาธาตุ บำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีบ น้ำยางใช้ทากัดตาปลา และก็พื้นที่ด้านแข็ง รักษาหูด ขี้กลากเกลื้อนการศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านอนุมูลอิสระ พบว่าในผลสุกที่มีสีม่วงจะมีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้าน อนุมูลอิสระสูงขึ้นยิ่งกว่าผลดิบ (ผลสีชมพู) และผลกึ่งสุก (ผลสีแดง) และก็ยังพบว่ามีจำนวนสารประกอบฟีนอลิก ทั้งสิ้นและก็จำนวนแอนโทไซยานินทั้งหมดในผลสุก สูงขึ้นมากยิ่งกว่าผลดิบแล้วก็ผลกึ่งสุกด้วยสิ่งเดียวกัน และยังพบว่าในรากมีสารที่สามารถต้าน อนุมูลอิสระได้ โดยมีจำนวนฟีนอลิกทั้งสิ้น ตั้งแต่ 1.79-4.35 GAE มก./ก. ของตัวอย่างแห้งปริมาณฟลา โอ้อวดนอยด์ทั้งปวงระหว่าง 1.91-3.76 CE มิลลิกรัม/ก. ของ แบบอย่างแห้ง มีฤทธิ์สำหรับการต่อต้านอนุมูลอิสระแบบ DPPH และเปอร์เซ็นต์การยับยั้งปฏิกิริยาperoxidation ของ linoleic acid ระหว่าง 12.53-84.82% และก็ 41.0- 89.21% เป็นลำดับฤทธิ์สำหรับในการต้านมะเร็ง การศึกษาเล่าเรียนถึง ผลของสารสกัดมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่ส่งผลต่อเซลล์ของโรคมะเร็งรังไข่ เซลล์ของมะเร็ง Caov-3 แล้วก็เซลล์ของมะเร็งปอด โดยการทำการสกัดจาก 3 องค์ประกอบ เป็น ใบ ผลดิบ แล้วก็ผลสุก พบว่าสาร สกัดจากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย chloroform สามารถต่อต้าน กิจกรรมของเซลล์ของโรคมะเร็ง Caov-3 ได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะ ที่สารสกัดจากผลดิบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย hexane สามารถ ต้านกิจกรรมของเซลล์ของโรคมะเร็งปอดได้ นอกจากนั้นยังมีการศึกษาและทำการค้นพบสารตัวใหม่ที่มี อยู่ในใบของมะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสาร carandinol ซึ่งเป็นสารในกลุ่มของ triterpene ซึ่งเมื่อนำมาประเมินความเป็น พิษต่อเซลล์(cytotoxicity) การสร้างภูมิต้านทาน (immunomodulatory) สารต้านไกลเคชั่น (antiglycation) ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งความ สามารถในการยับยั้งแนวทางการทำงานของเอนไซม์ ในสภาพ ปลอดเชื้อโรค พบว่า สารจำพวกนี้สามารถก่อความเป็นพิษ กับเซลล์มะเร็งทุกหมวดหมู่ที่ทำการทดลอง อีกทั้ง HeLa, PC-3 และก็ 3T3 โดยจะมีความเป็นพิษกับเซลล์ของโรคมะเร็งคอมดลูก (HeLa) สูงที่สุด ซึ่งการค้นคว้านี้เป็นการ เรียนแรกที่ทำการแยกสารกรุ๊ป isohopane triterpene จากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่
ฤทธิ์สำหรับการต้านทานอาการอักเสบอาการปวด รวมทั้งลักษณะของการมีไข้มีการนำสาร สกัดจากผลแห้งมากระทำการทดสอบความสามารถสำหรับการ ต้านทานอาการอักเสบในหนู พบว่า สารสกัดโดยใช้ความฉลาด นอลเป็นตัวทำละลายมีความรู้และความเข้าใจสำหรับเพื่อการต่อต้าน อาการอักเสบในหนูได้ โดยน้อยลงได้ถึง 76.12% จึง ทำให้สารสกัดนี้มีสมรรถนะสำหรับการใช้เป็นองค์ประกอบ ของยาที่ใช้ต้านอาการอักเสบได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเล่าเรียนเพื่อนำสารสกัดจากใบ มะนาวโห่มาใช้เพื่อต้านอาการอักเสบรวมทั้งลดไข้ในหนู พบว่า สารสกัดที่ให้กับหนูที่ความเข้มข้น 200 มิลลิกรัม/ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถต่อต้านอาการอักเสบจากการ บวมที่อุ้งเท้าของหนูได้มากถึง 72.10% ในส่วนของ ความสามารถสำหรับในการลดอาการไข้ พบว่าที่ความเข้มข้น 100 รวมทั้ง 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถลดอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากลักษณะของการมีไข้ลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง และ สามารถลดอาการได้นานถึง 4 ชั่วโมงหลังจากให้สารสกัดฤทธิ์สำหรับในการต่อต้านอาการชักจากการเรียนรู้ฤทธิ์สำหรับเพื่อการต่อต้านอาการชักที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟฟ้า และการกระตุ้นด้วยสารเคมี (pentylenetetrazole, picrotoxin, bicuculline และ N-methyl-dl-aspartic acid) ในหนูโดยใช้สารสกัดจาก รากที่ความเข้มข้น 100, 200 และก็ 400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม พบว่า สารสกัดอีกทั้ง 4 ความเข้มข้นสามารถลดระยะเวลาการ ชักในหนูได้ แต่ว่าเฉพาะความเข้มข้นที่ 200 และก็ 400 มิลลิกรัม/กก. เท่านั้นที่คุ้มครองป้องกันอาการชักได้ รวมทั้งที่ความเข้มข้นนี้ยังสามารถปกป้องอาการชักจากการกระตุ้นด้วย pentylenetetrazole และชะลอการเกิดอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร picrotoxin รวมทั้ง N-methyl-dlaspartic acid แต่ไม่มีผลคุ้มครองป้องกันอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร bicuculline
ฤทธิ์สำหรับในการต่อต้านโรคเบาหวาน จากการเรียนรู้ในสารสกัดจากผลดิบ พบว่าการสกัดด้วยเมทานอลรวมทั้ง ethyl acetate ที่ความเข้มข้น400 มิลลิกรัม/กิโลกรัม สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจังถึง 48 รวมทั้ง 64.5% ตามลำดับเมื่อเทียบกับ ยาต้านเบาหวานแผนปัจจุบัน
ฤทธิ์สำหรับเพื่อการป้องกันความเป็นพิษต่อ ตับ สารสกัดด้วยเอทานอล จากรากมีฤทธิ์สำหรับในการ ปกป้องความเป็นพิษต่อตับที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาพารา เซตตามอลได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากการที่ สารสกัดนี้ไปยับยั้งกิจกรรมทางชีววิทยาของสารพิษที่ เกิดขึ้นกับตับ
ยิ่งกว่านั้นงานศึกษาค้นคว้าวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่ระบุว่ามีฤทธิ์ทำให้หัวใจบีบตัวต่ำลง กระตุ้นมดลูกทำให้หัวเต้นชา บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิต ฯลฯ
การศึกษาทางพิษวิทยา
ในปัจจุบันยังไม่พบรายงานการเรียนพิษวิทยาของส่วนผล แต่ว่าส่วนรากแสดงความเป็นพิษเมื่อให้สารสกัดเอทานอลของรากต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ฉีดเข้าท้อง แล้วก็ให้ทางปากของแมวในขนาด 5 - 150 มก./กก. พบว่ามีผลทำให้สัตว์ทดสอบอ้วก อาเจียน เซื่องซึม น้ำมูกไหล ท้องเสีย หายใจแรงแล้วก็เร็ว (tachypnea) ชัก แล้วก็ตายท้ายที่สุด การให้ทางหลอดโลหิตดำจะกำเนิดอาการอ้วก คลื่นไส้เร็วที่สุด คือใช้เวลา 3 - 5 นาที หลังจากให้สาร ส่วนการให้ทางช่องท้อง แล้วก็ทางปากใช้เวลา 10 - 20 และก็ 40 - 60 นาที ตามลำดับ แมวที่ได้รับสารสกัดทางเส้นเลือดดำทุกตัวตายภายในช่วงเวลา 1 - 2 ชั่วโมงภายหลังจากให้สาร เมื่อผ่าอวัยวะภายในพบว่าตับแตกต่างจากปกติ มีการบวมของเซลล์ตับ (liver congestion) มีจุดเลือด (petechial hemorrhages) ที่ปอดและผนังลำไส้เล็ก
ข้อเสนอแนะ/ข้อพึงระวังในการศึกษาทางเภสัชวิทยา และพิษวิทยา ของ
มะม่วงหาวมะนาวโห่ในปัจจุบันล้วนเป็นการเรียนในสัตว์ทดลอง และก็ผลของการทดสอบแต่ยังไม่ปรากฏผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ในคน ก็เลยทำให้ไม่อาจกำหนดประสิทธิภาพแล้วก็ความปลอดภัยสำหรับในการใช้รักษาโรคได้อย่างแน่ชัด โดยการใช้ในแบบที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในปริมาณมากเกินไปอาจเสี่ยงเป็นอันตรายได้ ด้วยเหตุนั้นก่อนใช้สินค้าต่างๆจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้ก็เลยปรึกษาหมอก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว
เอกสารอ้างอิง- สกุลกานต์ สิมลา.มะนาวโห่ : พืชในวรรณคดีไทยที่มากด้วยประโยชน์ .วารสารแก่นเกษตร .ปีที่ 44 ฉบับที่3 .กรกฎาคม – กันยายน .2559.หน้า 557-566.
- มะนาวไม่รู้โห่...ไม้ประดับกินได้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
- ธงชัย พุ่มพวง.ประพันธ์ ชานนท์.พิมพ์ใจ ทรงประโคน. กัลยาณี วรรณศรี. ดำรงเกียรติ มาลา และ พรประภา รัตนแดง 2556.มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดีไทยที่มากมายด้วยคุณค่าและราคาดี.นิตยสารเกษตรโฟกัส.2(20):24-39.https://www.disthai.com/[/color]
- ณัฏฐินี อนันตโชค.มะนาวไม่รู้โห่.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่29.ฉบับที่ 1.ตุลาคม.2554.หน้า2-6
- ณนัฐอร บัวฉุน.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกของเมล็ดและเนื้อมะม่วงไม่รู้โห่.วานสารวิจัยและพัฒนะ วไลขอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ 13 ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2561.หน้า 53-63
- มะม่วงหาวมะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
- สกุลกานต์ สิมลา.สุรศักดิ์ บุญแต่ง และพัชรี สิริตระกูลศักดิ์.(2556).การประเมินปริมาณสารพฤษเคมีบางประการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน Carissa carandas L. แก่นเกษตร 41 ฉบับพิเศษ:602-606.
- มะม่วงหาว มะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
- Itankar, P.R., S.J. Lokhande1, P.R. Verma, S.K. Arora, R.A. Sahu, and A.T. Patil. 2011. Antidiabetic potential of unripe Carissa carandas Linn. fruit extract. J. Ethnopharmacol. 135: 430-433.
- Philippine Medicinal Plants. 2012. Caranda. Available: http://goo.gl/kBShxE. Accessed Aug. 6, 2014.
- Begum, S., S.A. Syed, B.S. Siddiqui, S.A. Sattar, and M.I. Choudhary. 2013. Carandinol: First isohopane triterpene from the leaves of Carissa carandas L. and its cytotoxicity against cancer cell lines. Phytochem Lett. 6: 91-95
- หนามแดง.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- Hati, M., B.K. Jena, S. Kar, and A.K. Nayak. 2014. Evaluation of anti-inflammatory and anti-pyretic activity of Carissa carandas L. leaf extract in rats. J. Pharm Chem Bio Sci. 1(1): 18-25.
- Gupta, P., I. Bhatnagar, S-K. Kim, A. K. Verma, and A. Sharma. 2014. In-vitro cancer cell cytotoxicity and alpha amylase inhibition effect of seven tropical fruit residues. Asian Pac J Trop Biomed. 4(2), S665-S671.
- Kumar, S., P. Gupta, and V. Gupta K.L. 2013. A critical review on Karamarda (Carissa carandas Linn.). Int J Pharm Bio Arch. 4(4): 637 -642.
- Kubola, J., S. Siriamornpun, and N. Meeso. 2011. Phytochemicals, vitamin C and sugar content of Thai wild fruits. Food Chemistry. 126, 972-981.
- Sulaiman, S.F., W.S. Teng, O.K. Leong, S.R. Yusof, and T.S.T. Muhammad. (n.d.). Anticancer study of Carissa carandas extracts. Available: http://goo.gl/ W2WjSG. Accessed May 16, 2014
- Aslam, F., N. Rasool, M. Riaz, M. Zubair, K. Rizwan, M. Abbas, T.H. Bukhari, and I.H. Bukhari. 2011. Antioxidant, haemolytic activities and GC-MS profiling of Carissa carandas roots. Int J Phytomedicine. 3: 567-578
- Patel, S. 2013. Food, pharmaceutical and industrial potential of Carissa genus: an overview. Rev Environ Science Biotech. 12(3): 201-208
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
มะม่วงหาว มะนาวโน่หาว