Advertisement
หากพูดถึงเครื่องปรับอากาศที่ผู้ใช้รายย่อยโดยมากเลือกใช้กันนั้น ก็คงจะต้องเป็น
แอร์ติดผนังที่เหมาะสมกับการใช้งานเยอะที่สุดโดยคนไม่ใช่น้อยอาจะเข้าใจผิดว่า แอร์ติดผนัง (
wall type) จะต้องเป็นเฉพาะเครื่องปรับอากาศรุ่นเล็กเพียงเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วเครื่องปรับอากาศแบบที่ติดฝาผนังได้นั้นมีให้เลือกมากมายก่ายกอง หลากหลายขนาดจ้ะ โดยเหตุนี้ไม่ว่าลูกค้าจะมีห้องขนาดใหญ่หรือเล็ก ก็สามารถเลือกใช้
แอร์ติดผนังได้ทั้งนั้น แต่การที่จะใช้แอร์แบบติดฝาผนังนันก็มีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องนึกถึง เพราะว่าเป็นแอร์ที่จำเป็นจำต้องแขวนไว้ด้านบนและก็เจาะผนังออกไปภายนอกอาคาร ซึ่งนำมาซึ่งข้อจำกัดหลายสิ่งหลายอย่าง โดยจะมีเรื่องอะไรที่ควรจะให้ความสนใจบ้างนั้น ตามไปดูกันค่ะ
เรื่องน่ารู้ของแอร์ติดผนัง1.ขนาดของแอร์
การจะเลือกแอร์ติดผนังปัจจัยแรกที่จะต้องพินิจพิเคราะห์ก็คือ ขนาดของเครื่องปรับอากาศ ด้วยเหตุว่าไม่ว่าจะติดอยู่ส่วนไหนของบ้านก็จำเป็นต้องเลือกขนาดแอร์ให้เหมาะสมกับห้อง เนื่องจากไม่งั้นอาจทำให้มีอากาศหนาวหรือร้อนเกินไป และก็อาจจะส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักจนเกินไปอีกด้วยจ้ะ
2.จุดที่ใช้แขวนแอร์ในห้องนอน
ปกติแล้วในหลายๆบ้าน ถ้าจะต้องเลือกติดแอร์สักหนึ่งตัวก็คงเลือกห้องนอนก่อนเป็นหลักเพราะว่าถือเป็นที่พักผ่อนภายหลังที่ต้องอ่อนล้ามาตลอดทั้งวัน โดยการจะติดตั้งแอร์ติดผนังภายใน้ห้องนอนนั้น ก็ควรที่จะทำการเลือกจุดที่เหมาะสมกับทิศทางลมมากที่สุด นั้นก็คือบริเวณข้างๆเตียงเพื่อให้ลมเย็นสามารถส่งถึงลำตัว แต่ว่าควรจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ลมจากแอร์ปะทะกับร่างกายหรือหัวโดยตรงเพราะว่าบางทีก็อาจจะไม่ดีต่อสุขภาพได้จ้ะ
3.จุดที่ใช้แขวนเครื่องปรับอากาศในห้องรับแขก
หากบ้านหลังไหนวางแผนจะติ
แอร์ติดผนัง[/url] (wall type)ในส่วนของห้องรับแขก บางทีอาจจะจำเป็นต้องใช้วิธีคิดที่ต่างจากการติดแอร์ในห้องนอน ด้วยเหตุว่าโดยปกติแล้วคนมักจะมิได้นั่งอยู่กับที่ตลอดเวลา จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลว่าลมเย็นจะปะทะร่างกายนานเกินไป ด้วยเหตุนั้น การติดเครื่องปรับอากาศในห้องนั่งเล่นควรต้องวางตำแหน่งให้ความเย็นสามารถลงบริเวณที่มีคนนั่งได้พอดี ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายมากกว่าท่ามกลางอากาศที่ร้อนในตอนกลางวันจ้ะ
4.เลี่ยงจุดที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง
การติดตั้งแอร์แขวนฝาผนังนั้น ควรจะหลีกเลี่ยงการวางเครื่องไว้เหนือจุดที่มีฝุ่นละอองมาก ยกตัวอย่างเช่นเตียงหรือโซฟา โดยเหตุนี้จำเป็นจะต้องจัดตั้งแอร์ไว้ที่ฝั่งตรงข้ามแทนที่จะวางไว้เหนือเครื่องใช้สอยดังกล่าวข้างต้น เพราะนอกจากจะช่วยลดการดูดฝุ่นเข้าไปในเครื่องแล้ว ยังช่วยทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถรับลมเย็นได้ดียิ่งไปกว่าอีกด้วย
5.ตำแหน่งเหมาะสมกับตัวแอร์ภายนอก
ไม่เพียงแค่ตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศตัวในเท่านั้นนั้น แต่ว่าสำหรับเครื่องที่ใช้สำหรับในการทำความเย็นภายนอกหรือคอมเพรสเซอร์นั้น ก็ถือเป็นปัจจัยที่ต้องระมัดระวังเช่นกัน โดยควรจะจัดตั้งเครื่องไว้ภายในตำแหน่งที่ไม่ต้องตากฝนโดยตรงด้วยเหตุว่าการถูกความชื้นอยู่เป็นประจำนั้น นอกเจากการที่จะทำให้เครื่องเสียง่ายแล้ว ยังอาจส่งผลให้เกิดสนิมอีกด้วย ขณะที่คอมเพรสเซอร์ก็ไม่ควรติดเอาไว้ในพื้นที่จะถูกแดดตรงๆด้วยเช่นกัน เพราะการที่เครื่องร้อนอาจทำให้แอร์ทำความเย็นได้ยากขึ้นด้วยค่ะ
6.ป้องกันจุดที่บางทีอาจเกิดอันตราย
สำหรับบ้านหลังไหนที่มีปัญหาหลังคารั่ว จำเป็นที่จะต้องพินิจจุดดังที่กล่าวมาแล้วและก็เลี่ยงการติดเครื่องปรับอากาศบริเวณนั้น เพราะว่าถ้าเกิดฝนตกและก็มีน้ำรั่วก็อาจมีผลทำให้เครื่องปรับอากาศช็อตได้ หรือหากเป็นจุดที่จำเป็นจะต้องติดตั้งแอร์รอบๆนั้นจริงๆก็อาจให้ช่างมาซ่อมแซมหลังคาก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่บางทีอาจแย่ลงกว่าเดิมได้ในภายหลังจ้ะ
7.ติดยังไงให้กินไฟน้อยที่สุด
นอกจากจุดที่จำเป็นต้องไตร่ตรองดังที่พูดไปแล้วการติดตั้งเครื่องปรับอากาศก็ควรจะอยู่ในตำแหน่งที่จะทำให้เครื่องสามารถดำเนินการได้ง่ายและกินไฟให้น้อยที่สุด แม้ว่าเครื่องปรับอากาศจำนวนมากจะมากับระบบที่ช่วยประหยัดไฟอยู่แล้ว แต่ว่าผู้ใช้ก็ยังสามารถช่วยอีกแรงเพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าจากแอร์ลงได้ โดยพยายามเลี่ยงติดแอร์ในฝั่งที่จำเป็นต้องโดนความร้อนจากแสงตะวันมากๆ และขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ ก็ควรปิดม่านเพื่อไม่ให้แสงสว่างส่องเข้ามาภายในได้ เนื่องจากถ้าหากห้องยิ่งมีความร้อนเยอะแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้แอร์จะต้องทำงานมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมยังทำความเร็วได้ช้าลง ซึ่งนั่นย่อมตามมาด้วยค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นอย่างแน่แท้
Tags : แอร์ติดผนัง
