Advertisement
มั่นใจว่าท่านผู้อ่านที่อยู่ในคอนโดหรืออพาร์ทเม้นท์ยามประกอบอาหารคงจะไม่ได้ใช้เตาแก๊สแน่ๆ เนื่องด้วยบริเวณที่มีแคบ ผนวกกับเรื่องกฎระเบียบหลายอย่าง ในเรื่องความสะดวกของผู้ดูแล เพราะเช่นนั้น เตาไฟฟ้าจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แบบนี้ แต่รู้ไหมว่าชนิดขอ
เตาไฟฟ้า[/url]นั้นมีมากมายหลายแบบเพื่อรองรับการใช้งานที่ต่างกันของแต่ละคนและครอบครัว ดังนั้นพวกเราไปทำความรู้จักมักจี่กับเตาไฟฟ้าอุปกรณ์ประจำการห้องครัวของคนรุ่นใหม่ให้ดีขึ้นกันดีกว่า
เตาไฟฟ้าที่นิยมซื้อขายกันอยู่ในตลาด มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทด้วยกัน ดังนี้
1.เตาไฟฟ้าแบบ Solid Plate หรือ เพลทร้อน
เตาชนิดนี้มีลักษณะที่พบได้เด่นชัด คือ ตัวเตาจะมีแผ่นเพลทกลมผลิตจากแผ่นโลหะอยู่ด้านบน แผ่นโลหะกลมนี้เองจะมีขดลวดเพื่อให้ความร้อนติดตั้งอยู่ โดยหลักการทำงานให้ความร้อนจะต้องทะลวงตัวให้ความร้อนคือขดลวด ผ่านเพลทร้อนจนมาถึงตัวภาชนะที่อยู่บนเตา ประเภทเตาแบบนี้ทันทีที่เลิกใช้งานและปิดเตาแล้ว จะยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่ที่หัวเตา ต้องรอบคอบไม่ให้ไปแตะโดน
ข้อดี มีราคาถูกกว่า
เตาไฟฟ้าประเภทอื่น
จุดบกพร่อง ใช้ไฟไม่เบาและให้ความร้อนช้า ต้องรออยู่เป็นเวลานานกว่าที่ที่ใส่ของกินจะค่อยๆ ร้อนขึ้น หรือทันทีที่ปิดเตาแล้วก็ยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่อาจจะเป็นอันตรายได้หากไปแตะต้องโดน
2. เตาไฟฟ้าแบบเซรามิค
เตาชนิดนี้มีความคล้ายกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้ามาก แต่กลับมีความต่างตรงการทำงานจะเป็นความสามารถของขดลวดไฟฟ้าหรือใช้หลอดอินฟาเรดเป็นตัวให้ความร้อน ผิวหน้าของเตาข้างบนจะเป็นกระจกหรือเซรามิกสีดำเข้มซึ่งทนความร้อนได้สูงมากแทน พอเปิดเตาขึ้นมา เพลทจะขึ้นเป็นแสงไฟสีแดงเพื่อให้สัญญาณบอกให้ทราบว่าเตากำลังร้อนอยู่และกำลังทำงาน
จุดแข็ง ดีไซน์ประณีต ดูดี ทนการกระทบและทนอุณหภูมิสูงได้ดีสามารถใช้กับเครื่องใช้ชนิดไหนก็ได้อาทิกระเบื้อง หรือสแตนเลส
ข้อเสีย เปลืองไฟพอกับเตาแบบเพลทร้อน อุณหภูมิเพิ่มขึ้นช้า หรือพอปิดเตาแล้วก็ยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่ตรงผิวหน้าเตาบ้าง
เตาชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นเตาที่มีความสะดวกมากที่สุดก็ว่าได้ ด้วยหลักการการทำงานที่ใช้ขดลวดสนามแม่เหล็กในการส่งสัญญาณ ทันทีที่ใช้คู่กับภาชนะที่เป็นโลหะก็จะทำให้เกิดความร้อนขึ้น และมีความแตกต่างจากเตาสองแบบแรกที่ได้บอกไปแล้วข้างต้น ตรงที่มีข้อบังคับว่าสามารถใช้ได้กับภาชนะที่ทำจากโลหะหรือสแตนเลส เท่านั้น วัสดุอื่นไม่สามารถใช้กับเตาประเภทนี้ได้
ข้อดี เพราะว่ากลไกการทำงานความร้อนจะมีขึ้นกับตัวภาชนะเลย ตัวเตาจึงไม่มีความร้อนสามารถแตะต้องได้แม้กำลังทำงาน เมื่อปิดเตาแล้วก็ไม่มีความร้อนหลงเหลืออยู่ ช่วยประหยัดไฟเพราะใช้กำลังไฟต่ำ
จุดอ่อน มีมูลค่าแพง เตาประเภทนี้มีมูลค่าแพงกว่าเตาแบบเพลทร้อนและเตาแบบเซรามิค และมีขีดจำกัดตรงที่สามารถใช้ได้กับภาชนะที่เป็นสแตนเลสเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับภาชนะที่ทำจากวัสดุอื่น ถึงกระนั้นก็ตามภาชนะโลหะบางรุ่นก็ไม่รองรับการใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า โดยประเด็นนี้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องคอยดูเครื่องหมายที่แนบไว้กับตัวภาชนะก่อนจ่ายเงิน
วิธีดูแลรักษาเตาไฟฟ้า
1. การดูแลรักษาเตาไฟฟ้าแบบเตาเพลทไฟฟ้า
เตาไฟฟ้า ประเภทเตาเพลทไฟฟ้า เป็นเตาที่สามารถแตกหัก และเกิดสนิมได้ง่าย จึงจำเป็นต้องดูแลให้แผ่นเพลทมีความชุ่มอยู่เป็นประจำ โดยให้ท่านเอาน้ำมันพืชไม่ก็น้ำมันมะกอกก็ได้ มาถูให้ทั่วแผ่นเพลทจนชุ่ม จะช่วยให้แผ่นเพลทมีอายุการใช้งานเพิ่ม ไม่แตกหักง่ายๆ และไม่เป็นสนิมง่ายๆอีกด้วย นอกจากนี้ คุณจะต้องระแวดระวังไม่ให้เตาเพลทไฟฟ้าถูกกระทบกระเทือนแรงๆ พร้อมทั้งห้ามนำมีดมาขูดด้านหน้าเตาเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้แผ่นเพลทและหัวเพลทเสียหายได้
2. การบำรุงรักษาเตาไฟฟ้านิดเซรามิคพร้อมทั้งแม่เหล็ก
เตาไฟฟ้าประเภทเซรามิคพร้อมทั้งแม่เหล็ก ส่วนใหญ่แล้วจะมีมีดสำหรับทำความสะอาดหน้าเตา ติดมากับเตาไฟฟ้าอยู่แล้ว โดยการทำความสะอาดนั้น หากหน้าเตาไม่เลอะเทอะมาก ให้เช็ดถูประทินโฉมด้วยน้ำยาทำความสะอาดก็พอ แต่ว่าหากหน้าเตาเปื้อนมาก จะต้องใช้มีดที่ติดมากับเตา ครูดเศษอาหารการกินและสิ่งสกปรกออกให้หมดก่อน แล้วจึงค่อยเช็ดชะล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาด เรียบร้อยแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งเช็ดถูอีกครั้ง เพื่อให้เตาไฟฟ้าแห้งนั่นเอง
และนี่คือเรื่องราวของเตาไฟฟ้าที่น่าสนใจ ทั้งประเภทและการทะนุบำรุงอย่างถูกทาง สำหรับใครที่กำลังจะตัดสินใจจับจ่าย สิ่งที่สำคัญควรคำนึงหลาย ๆ องค์ประกอบทั้ง อุปกรณ์ ดีไซน์ ความงดงาม งบประมาณในการซื้อ ไปกระทั่งถึงการใช้งานของผู้อยู่อาศัยและที่สำคัญคืออย่าประมาทกับอุบัติเหตุอย่างเด็ดขาดนะขอรับ
Tags : เตาไฟฟ้า,เตาไฟฟ้า ราคา,เตาไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี