Advertisement
การขึ้นรูปโลหะ เป็นกระบวนการผลิตกลุ่มใหญ่ในอุตสาหกรรม เพราะวัสดุหรือวัตถุดิบต่างๆ ในกลุ่มโลหะนั้น ก่อนจะนำมาใช้งานได้ก็ต้องผ่านกระบวนการขึ้นรูปหรือแปรรูปมาเสียก่อน เช่น เหล็กแผ่นที่ใช้ทำงานโลหะตามสั่ง เหล็กกล่องที่ใช้ทำตู้เหล็ก เหล็กแผ่นที่ใช้ทำขาฉิ่งเหล็ก สแตนเลสแผ่นที่ใช้ทำโต๊ะ สเตนเลสที่ใช้ทำขาฉิ่งสแตนเลส ชิ้นงานเหล่านี้ล้วนมีการขึ้นรูปมาก่อนทั้งสิ้น
โดยหลักการขึ้นรูปโลหะนั้นจะเป็นการใช้พฤติกรรมของโลหะในช่วงของความเป็นพลาสติกในการขึ้นรูปร่างชิ้นงาน โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ในการเปลี่ยนรูป เช่น การพันช์และดาย สร้างความเค้นให้กับชิ้นงานจนเลยจุดครากของโลหะชิ้นงาน และทำให้โลหะเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปตามที่ต้องการในที่สุด ความเค้นที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างนั้น โดยมากจะเป็นความเค้นกด (Compressive Stress) อย่างไรก็ดี บางกระบวนการก็ต้องใช้การยืดและดึง (Stretch), การตัด (Cut), หรือการเฉือน (Shear) ซึ่งการจะทำให้การขึ้นรูปมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องรู้ถึงคุณสมบัติของวัสดุเสียก่อน ว่ามีความแข็งแรงที่จุดครากเท่าไหร่ มีความเหนียวเท่าไหร่ และมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการขึ้นรูปที่เท่าไหร่
โลหะเป็นวัสดุที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เนื่องจากโลหะเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน จึงเห็นได้ว่าโลหะถูกนำมาขึ้นรูปเป็นวัสดุทรงต่างๆ ซึ่งการขึ้นรูปโลหะ สามารถแบ่งได้ 2 วิธีใหญ่
1. การขึ้นรูปแบบร้อน (Hot Working) เป็นกระบวนการที่ทำให้วัสดุหรือโลหะได้รับแรงกลที่อุณหภูมิสูงซึ่งมี 7 วิธี ได้แก่
- การตีขึ้นรูป
- การรีดร้อน
- การดึงและกดขึ้นรูป
- การเชื่อมต่อท่อ
- การแทงขึ้นรูป
- การเคลื่อนไหลขึ้นรูป
- การหมุนขึ้นรูป
2. การขึ้นรูปแบบเย็น (Cold Working)
- การดัดงอ
- การีดเย็น
- การอัดรีด
- การบิดงอ
- การีดขึ้นรูป
- การตัดยึด
- การงอตรง
- การตีขึ้นรูป
- การขึ้นรูปพิมพ์ลึก
- การกระแทกขึ้นรูป
- การแทงขึ้นรูป
ที.เอส.พี.พรอสเปอร์ เอ็นจิเนียริ่ง บจก.รับขึ้นรูปชิ้นงานตามแ