พวกเรามาตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน | โปรโมทสิ้นค้าที่จีน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พวกเรามาตรวจความพร้อมก่อนไปตลาดจีน | โปรโมทสิ้นค้าที่จีน  (อ่าน 9 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SEO.No1
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14253


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 18, 2019, 02:22:20 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

     ในปีให้หลังเราคงจะมองเห็นรวมทั้งได้ยินข่าวเกี่ยวกับการเจริญเติบโตของตลาดจีนกันหลายคราว การตลาดจีน

ไม่ว่าจะเป็นปริมาณนักเดินทางจีนที่มาเที่ยวในไทยมากขึ้นเรื่อยๆโดยตลอด รวมทั้งเรื่องราวของนักธุรกิจจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยและก็ประเทศเ
พื่อนบ้านมากขึ้น ทั้งยังยังได้ยินว่าจีนได้ปัดกวาดซื้อผลไม้ไทยอาทิเช่น ทุเรียน ไปจนหมดตลาด
แล้วก็เพราะเหตุว่าข่าวสารนี้เองก็เลยทำให้เราตื่นเต้นและอยากจะคว้าโอกาสบุกตลาดดินแดนมังกร.
 
หลายๆคนรู้สึกว่าขอแค่ 1% ของตลาดจีนก็พอเพียงแล้วซึ่งฟังมองไม่ยากเย็นสักเท่าไหร่ แต่ว่าในความจริงนั้นมันง่ายแบบนั้นจริงหรอ?
 
     ภายหลังที่ได้ศึกษาธุรกิจไทยเยอะมากๆที่อุตสาหะบุกตลาดจีนทั้งที่เสร็จและก็ล้มเหลว
ทำให้พวกเราพยายามค้นหาเหตุผลเพื่อจะตอบคำถามที่ว่า “อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายในตลาดจีนได้?” สิ่งที่พวกเราศึกษาและทำการค้นพบ คือ
มีเหตุมีผลหลายสิ่งหลายอย่างประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งค่อนข้างจะที่จะไม่เหมือนกันออกไปตามแต่ละธุรกิจแต่ก็ยังมีบางสิ่งที่คล้ายคลึงกัน
และเป็นเหตุผลที่ชอบได้ยินซ้ำๆซากๆไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหนก็ตาม
ก็เลยดูได้ว่ามันเป็นเหตุผลสำคัญที่ธุรกิจจะต้องจัดแจงแล้วก็เตรียมให้ดีก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดจีนครับ ขออนุญาตสรุปให้ฟังดังนี้ขอรับ บริการการตลาดออนไลน์จีน
 
Product Market Fit
สินค้าควรเป็นที่สิ่งอยากได้ของชาวจีน
 

         
 
     จริงอยู่ที่ชาวจีนนั้นมีเยอะมาก แต่ว่าไม่ใช่ว่าเค้าจะซื้อทุกอย่างที่วางขายอยู่หน้าร้านค้า
หลายท่านติดกับเพราะว่าคิดเพียงแค่ว่าการนำผลิตภัณฑ์ไปวางขายตามร้านค้าที่ชาวจีนนิยมอาทิ อาทิเช่น

     ร้านขายของฝากหรือร้านขายของปลอดภาษีจะมีผลให้มียอดจำหน่ายมากขึ้นมาทันคราว แต่อันที่จริงแล้วยังมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคนซื้อ และทั้งยังเงินที่ยังจมกับค่า
สต๊อกผลิตภัณฑ์ที่ต้องตระเตรียมไว้ให้ร้านต่างๆเพียงแต่ด้วยเหตุว่าสินค้าไม่ตรงตามความอยากของคนจีน
 

     ฟังดูอย่างกับว่าเป็นความทราบทั่วไปสำหรับนักธุรกิจอย่างเรา ที่จะจะต้องทำสินค้าให้ตรงตามความอยากของลูกค้า
แม้กระนั้นคนไม่ใช่น้อยอาจจะตกใจถ้าผมกล่าวว่ามีหลายบริษัทที่ล้มเหลวเพราะว่าไม่รู้จักว่าคนซื้อปรารถนาอะไร
 
ความต้องการของลูกค้าจีนมีมากมายแตกต่างออกไป
ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าแผนการที่พวกเราต้องการจะจับ และก็มันไม่สามารถอธิบายให้ครบภายในบทความเดียวได้
แต่ว่าผมมีทางลัดมาบอกที่ใครๆก็สามารถทำเป็น ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาสำหรับเพื่อการวิเคราะห์และการลองผิดลองถูกไปได้มากมายทีเดียว
วิธีซึ่งก็คือแนวทางการทำโฟกัสกลุ่มกับลูกค้าคนจีน
 
การทำโฟกัสกรุ๊ปจะมีผลให้ได้เรียนรู้และก็รู้เรื่องลูกค้าจีนเยอะขึ้น และสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าให้ตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของชาวจีนได้อย่างเที่ยงตรง
ตั้งแต่เรื่องของลักษณะของสินค้า รส ความรู้สึกในการใช้ และรวมทั้งคุณลักษณะเด่นของสินค้าในสายตาของลูกค้าก่อนที่จะลงทุนทำการตลาด
 
USP - Unique Selling Point
ผลิตภัณฑ์จะต้องมีคุณลักษณะเด่นแน่ชัด
 
เมื่อคิดที่จะทำผลิตภัณฑ์ขายให้กับคนจีนหลายคนชอบมองผลิตภัณฑ์ที่ขายดิบขายดีและก๊อปปี้ตามนั้น ไม่ว่าจะคือผลไม้อบแห้ง หมอนยางพารา กระเป๋า
ของกำนัลหรือเครื่องแต่งหน้า ล้วนแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีในตลาดอยู่ไม่น้อย แต่หากพวกเรามาดูในความเป็นจริงแล้วจำนวนมากบริษัทพวกนั้น คือ
บริษัทที่มีวิถีทางการจำหน่ายสินค้าเป็นของตนเองอาทิ ได้แก่ เถ้าแก่ค้าที่มีทัวร์มาลงอยู่แล้วหรือเป็นเจ้าของเองเลยก็ตาม

เพราะว่าเขาสามารถบังคับให้ทัวร์จีนซื้อได้ แต่ในทางกลับกันสำหรับบริษัทที่ไม่ได้เป็นเจ้าของหนทางการจำหน่ายแบบปิด
ควรต้องแข่งกับสินค้าที่อยู่ในตลาดทั่วไป
ดังนั้นกระบวนการทำผลิตภัณฑ์ที่ซ้ำจะไม่อาจจะยั่วยวนใจความพึงพอใจแล้วก็แปลงพฤติกรรมผู้บริโภคให้มาซื้อสินค้าเราได้เลย
คนซื้อจีนส่วนมากจะกระทำเช็คราคาและก็ผลิตภัณฑ์คู่แข่งขันในตลาดทางออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตาม
หรือไม่ก็ตกลงใจจากการบอกปากต่อปาก ซึ่งแสดงว่าบริษัทที่จะต้องการจะแย่งรูปทรงของตลาดจากผลิตภัณฑ์เดิมที่มีวางจำหน่ายอยู่ในตลาดอยู่แล้ว
จะต้องกระทำปรับปรุงให้ลูกค้าเห็นจุดเด่นด้วยของใหม่ที่น่าดึงดูดถึงจะบรรลุผลสำเร็จได้
 
Clever Pricing Strategy
กำหนดราคาอย่างฉลาด

     อีกสาเหตุที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจของลูกค้าจีน เป็น ราคา แน่นอนนะครับว่าลูกค้าจีนก็ได้ไม่ได้มีความแตกต่างกับลูกค้าอื่นๆ
ที่จะจำเป็นต้องกระทำการตรวจสอบราคาก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อ ไม่ใช่ว่าเค้าต้องการจ่ายตลาดที่เหมาะสมสุด แม้กระนั้นการตรวจสอบราคาคือการทำเค้าให้แน่ใจว่าตนเองจะไม่โดนหลอก

     จำเป็นต้องเข้าใจครับว่าในประเทศจีนนั้นมีนักต้มตุ๋นและก็มีผลิตภัณฑ์เลียนแบบมากมายเยอะแยะ
ทำให้ผู้ใช้จีนนั้นจึงควรระมัดระวังสำหรับเพื่อการจับจ่ายซื้อของเป็นอย่างยิ่งเพื่อไม่ให้โดนหลอก
ลูกค้าจีนจึงนิยมที่จะซื้อของจากต่างแดนจากร้านรวงที่น่าเชื่อถือเพราะเหตุว่ามีความคิดว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จะดีมากยิ่งกว่าของจีนอย่างแน่แท้
ลูกค้าออนไลน์ส่วนมากที่สั่งซื้อของจากไทยจะบังคับให้ผู้ส่งของนั้นถ่ายรูปกรรมวิธีการส่งโดยให้ติดสติ๊กเกอร์หรือเขียนเนื้อความลงบนกล่องเพื่อ
แน่ใจว่ากล่องนั้นมาจากประเทศไทยจริงๆไม่ใช่ส่งมาจากไหนสักที่หนึ่งในจีน
 

ถึงแม้ราคาของผลิตภัณฑ์เมืองนอกจะสูงยิ่งกว่าของในประเทศจีนก็ตาม แต่ว่าถ้าเกิดสามารถสร้างความเชื่อมั่นถึงคุณภาพที่ดีมากกว่าได้
ผู้ซื้อจีนก็ยอมจ่ายนะครับ
 
ส่วนราคาจะตั้งอยู่ที่เท่าไหร่นั้นขึ้นกับผลิตภัณฑ์คู่ปรับและก็กลุ่มเป้าหมายที่อยากครับ เมื่อพวกเราหาคู่แข่งของผลิตภัณฑ์เราเจอแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมเราน่าจะต้องทำเปรียบเทียบราคาเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งขันในตลาดได้
 
     กรรมวิธีการเปรียบเทียบราคาที่เยี่ยมที่สุด เป็น การค้นหาในออนไลน์ขอรับ
วิธีกล้วยๆเป็นการไปที่เว็บ Taobao.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของจีนที่ใหญ่ที่สุด ที่เป็นส่วนหนึ่งของอาลีบาบากลุ่มครับ
การค้นหาในเว็บไซต์นี้จะก่อให้พวกเราเห็นราคาตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งที่มีเอเจนหรือบุคคลธรรมดาขายอยู่ จนถึงร้านขายของที่เป็นทางการของ TMall ก็เลยทำให้พวกเราสามารถกำหนดราคาได้เหมาะสมอย่างยิ่งขึ้นครับผม
 
     อีกแนวทางหนึ่งของการเปรียบเทียบราคา คือ การค้นหาใน Baidu ครับ ซึ่งเป็น Search Engine ลำดับที่หนึ่งของจีน
ซึ่งละม้ายกับวิธีที่ชาวไทยใช้เป็นใช้ Google ค้นหาเพื่อมองรีวิวหรือเทียบราคาสินค้า
ผู้ใช้จีนจะใช้เว็บไซต์แห่งนี้สำหรับในการหาข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
ซึ่งผลของการค้นหาอันดับแรกๆจำนวนมากจะเป็นเว็บไซต์หรือกระทู้ที่มีลูกค้ารายอื่นเขียนรีวิวสินค้าไว้
จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นักธุรกิจไทยควรให้ความเอาใจใส่ในการค้นหาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสินค้าของคู่แข่ง และก็จะก่อให้การตั้งอุบายนั้นใส่
คล้องและเหมาะสมกับตลาดจีนครับผม
 
สินค้าที่บรรลุความสำเร็จไม่มีความจำเป็นต้องมีราคาที่ถูกกว่าคู่ปรับในตลาด
แต่ว่าต้องมีราคาที่เหมาะสมรวมทั้งสามารถโชว์คุณลักษณะเด่นของสินค้าออกมาได้อย่างแจ่มแจ้ง บริการการตลาดออนไลน์จีน
 
 
 
Competitive Cost Structure
เงินลงทุนจำเป็นต้องต่ำจริง
 
         
 
     หลังจากที่พวกเราได้ดูกรติดอยู่ค้าปลีกซึ่งถือได้ว่าราคาแพงสุดที่จะวางขายในท้องตลาดแล้ว สิ่งถัดมาที่เราจำต้องดูก็คือต้นทุนทั้งหมดทั้งปวง
ตั้งแต่ต้นทุนการสร้างจนกระทั่งต้นทุนการโฆษณารวมทั้งแนวทางการขาย
 
ฟังดูเหมือนเป็นความรู้ทั่วๆไปสำหรับในการทำธุรกิจอยู่แล้วว่าถ้าเกิดเงินลงทุนยิ่งสูงผลกำไรก็ยิ่งน้อย แล้วจะมีผลให้ชิงชัยกับคู่ปรปักษ์ในตลาดยาก
แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วน้อยผู้ที่จะเห็นด้วยว่าสินค้าอะไรบางอย่างเมื่อนึกถึงทุนแล้วไม่เหมาะในการขายในตลาดจีน
 
เนื่องจากการขายผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดจีนควรจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหมายคือ ค่าขนส่ง ภาษี
ค่าคอมมิชชั่นให้ผู้แทน รวมทั้งรวมถึงวิถีทางวิธีขายอื่นๆ ผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าแล้วก็ความน่าจะเป็นไปได้ของแนวทางการขายสินค้าไปสู่ตลาดจีน โปรโมทสิ้นค้าที่จีน
ค่าขนส่งและก็ภาษีนั้นหาได้อย่างไม่ยากเย็น โดยขึ้นอยู่กับขนาด จำพวกของสินค้า แล้วก็ช่องทางการขนส่ง แม้กระนั้นสิ่งที่นักธุรกิจหลายๆคนลืมพิจารณาถึง คือ
ค่าคอมมิชชั่น โน่นคือราคาขายส่งพื้นที่เอเจนอยากนำไปขายในจีน โดยบริษัทสามารถหาหนทางการจำหน่ายโดยตรงได้เป็นต้นว่า ดังเช่นว่า
ไปเปิดร้านค้าในเมืองจีนหรือตามสถานที่เที่ยวต่างๆที่นักเดินทางจีนไป โดยวิธีนี้จะไม่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่น
ทั้งยังสามารถตรึงราคาการขายได้เอง แต่ว่าวิธีการแบบนี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบมากเท่าไรนักเนื่องจากว่าจำเป็นต้องใช้งบประมาณอย่างใหญ่โตสำหรับในการเปิดร้านค้าให้มากพอ
เพื่อยั่วยวนใจลูกค้าจีนอีกทั้งยังจะต้องมีค่าการตลาดเพื่อที่จะสร้างร้านรวงในแต่ละสาขาให้มีชื่อเสียง
แต่ว่าแนวทางที่นิยมรวมทั้งง่ายดายกว่านั้นเป็นการหาตัวแทนการจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศไทยหรือในจีนเอง KOL influence
เพราะเอเจนกลุ่มนี้มีร้านค้าเป็นพันธมิตรเยอะอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีลูกค้าประจำที่พร้อมรวมทั้งยอมที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอยู่แล้ว
เอเจนส่วนมากอยากสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจึงควรต่อรองรวมทั้งไตร่ตรองอย่างละเอียดอีกที
ค่าคอมมิชชั่นหรือส่วนต่างราคาเป็นอีกปัจจัยหลักที่เอเจนจะรับและก็ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน
โฆษณาสินค้าเราหรือเปล่า แม้จะไม่มีมาตรฐานกลางเกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่น แต่ว่าโดยส่วนมากแล้วจะขึ้นกับชนิดของผลิตภัณฑ์ ยกตัวอย่าง ดังเช่นว่า
เครื่องสำอาง ค่าคอมมิชชั่นในตลาดจะอยู่ที่โดยประมาณ 30-50% ของราคาขายปลีก ส่วนบริการต่างๆรวมถึงการท่องเที่ยว
จะอยู่ที่ประมาณ 10%-40% ของราคาขายปลีก ฯลฯ
 
 
Strategic Sales Channel
วางขายให้ถูกจุด
 
         

     หนทางแนวทางการขายมีอยู่หลายวิธีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ในเว็บไซต์ชั้นนำของจีน, ผ่านทางโซเชียลมีเดียของจีนเอง หรือจะเป็นแบบออฟไลน์
โดยวางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายของฝากที่คนจีนนิยมเข้าก็สามารถทำได้
แน่นอนนะครับว่ามีช่องทางวิธีขายยิ่งมากมายยิ่งดี จะก่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้จากหลายหลายทาง
แม้กระนั้นสิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องคิดถึงก็คือค่าครองชีพและเงินทุนของวิถีทางต่างๆนี้เปรียบเทียบกับยอดขายที่คาดว่าจะได้รับ
เพื่อจะดูว่าคุ้มสำหรับเพื่อการลงขายในวิถีทางนั้นนั้นหรือไม่
แม้กระทั่งมีงบประมานสำหรับเพื่อการลงทุนสูงก็ตามทีเราก็ไม่ควรละเลยที่จะวิเคราะห์วิถีทางต่างๆว่าคุ้มหรือเปล่าด้วย
เพื่อจะได้ตัดทางที่ไม่มีความจำเป็นออกไป และจะได้ย้ายงบประมาณส่วนนี้ไปใช้กับส่วนอื่นที่เป็นประโยชน์ได้มากกว่า ได้แก่
การลงทุนสำหรับในการตลาดฯลฯ
 
     หนทางออนไลน์ในประเทศจีนมีอยู่จำนวนมากหลายเว็บไซต์อาทิเช่น เป็นต้นว่า Taobao,
TMall, JD.com, Kaola รวมทั้ง VIP.com ซึ่งมีความไม่เหมือนกันเล็กน้อยและก็มีคุณลักษณะเด่นที่ไม่เหมือนกัน
เนื่องมาจากเว็บไซต์ส่วนมากไม่มีคุณค่ารายปีหรือค่าใช้สอยอื่นๆจำนวนมาก
จึงทำให้เราสามารถนำสินค้าขายตามหนทางพวกนี้ได้โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องความคุ้มราคาของแต่ละช่องทาง
เมื่อก่อนที่พวกเราจะเสียเวลาศึกษาเล่าเรียนหาวิธีสมัครแล้วก็หาคนมาบริหารร้านค้าออนไลน์ต่างๆกลุ่มนี้
พวกเราจะต้องไม่ลืมว่าเมื่อวางขายผลิตภัณฑ์สำเร็จแล้วเราควรมีพนักงานรอดูแลแล้วก็บริหารออเดอร์สินค้า
ซึ่งมีความหมายว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างหรือค่าเสียเวลาของพนักงานที่มีหน้าที่สำหรับขายด้วย
ถ้ามีหลายหนทางจะทำให้การบริหารจัดการนั้นยากขึ้นรวมทั้งใช้เวลาที่มากกว่า ด้วยเหตุนี้สำหรับเพื่อการเริ่มเราไม่สมควรมีหนทางแนวทางการขายมากเกินความจำเป็น
โดยมากแล้วจะอยู่ที่1ถึง2หนทางก็เพียงพอแล้ว
 
     สำหรับช่องทางออฟไลน์ก็มีอยู่หลายหนทางร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นร้านของพวกเราเอง ร้านที่พวกเราฝากขายหรือเป็นร้านรวงที่ลูกค้าซื้อไปขายอีกที
โดยเหตุนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถานที่ตั้ง
ก่อนที่จะพวกเราจะตกลงใจวางขายผลิตภัณฑ์ที่ไหนก็แล้วแต่ เราจำเป็นต้องคำนึงถึงสถานที่ตั้งแล้วก็ชนิดลูกค้าที่จะเข้ามาในร้าน
เราคงจะทราบกันอยู่แล้วกันอยู่แล้วว่าถ้าร้านอยู่ไกลจากสถานที่เที่ยว หรือที่พักอาศัยของคนจีนก็จะก่อให้จำนวนลูกค้าน้อย
แต่ว่าที่แปลกไปกว่านั้นเป็นคนไม่ใช่น้อยมีความคิดว่าหากเปิดร้านขายสินค้าในรอบๆที่ทัวร์จีนชอบลงก็คงจะดี โดยยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นสถานที่ที่ทัวร์ลงโดยตลอด ดังเช่นว่า
สวนนงนุช วัดพระแก้ว ร้านขายหมอนยางพาราRubber Land ซึ่งมีจำนวนคนจีนต่อวันไม่น้อยกว่า 20,000 คน
ก็น่าจะทำให้ร้านที่อยู่บริเวณใกล้ๆนั้นมีลูกค้าเข้าเป็นเยอะมากๆเช่นกันใช่หรือไม่

มีหลายร้านที่ทำเช่นนั้นแม้กระนั้นท้ายที่สุดจะต้องปิดตัวลงเนื่องจากไม่มีลูกค้าเข้ามาเลยซักคน และนี่เองเป็นหลุมพรางที่หลายต่อผู้คนจำนวนมากเข้าใจผิดดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน
การกำหนดตำแหน่งของร้านนั้นสำคัญมากและก็เราจำเป็นต้องดูว่าลูกค้าที่พวกเราอุตสาหะเย้ายวนใจเข้ามานั้นเป็นคนใดกัน
ในกรณีนี้ถ้าอยากได้ล่อใจนักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์นับว่าเป็นไปได้ยากมากมาย เพราะแต่ละทัวร์ควรมีการวางเป้าหมายมาอยู่แล้วว่าจำเป็นต้องไปไหน
ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวแล้วก็สถานที่ Shopping ซึ่งพวกสถานที่นั้นได้ถูกระบุคิดแผนไว้อย่างชัดเจนแล้ว แม้ร้านรวงของพวกเราจะอยู่ตรงทางผ่าน
ของลูกทัวร์ แต่ว่าลูกทัวร์ก็จะไม่อาจจะเข้ามาจับจ่ายซื้อของในร้านเราได้เลยหากพวกเรามิได้ตกลงกับไกด์หรือบริษัททัวร์ไว้ก่อน
โดยปกติทุกหนทุกแห่งที่ไกด์พาทัวร์ลงต้องมีผลประโยชน์ให้กับทางไกด์หรือบริษัททัวร์เสมอ
ซึ่งส่วนใหญ่ค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่โดยประมาณ 5% ถึง 40% ร่วมกัน สำหรับการที่พวกเราจะเย้ายวนใจไกด์ให้นำทัวร์มาลงในร้านค้าของเราได้นั้นขึ้นกับหลายปัจจั
ยมาก โดยส่วนมากแล้วเวลาของแต่ละทัวร์จะออกจะน้อยอยู่แล้ว ซึ่งทำให้เขานั้นเพิ่มร้านรวงใหม่ๆได้ออกจะยาก
เพราะเหตุว่าถ้าหากจำเป็นที่จะต้องมาลงในร้านของเรา ไกด์จำเป็นที่จะต้องกระทำการแปลงแผนกำครั้งดการหรือยกเลิกการไปร้านรวงเก่า
ซึ่งมีความหมายว่าร้านค้าของเราจะต้องมีจุดที่ดึงดูดมากยิ่งกว่าร้านเดิม เช่น
ให้ค่าคอมมิชชั่นที่มากกว่าหรือสินค้าที่น่าสนใจ ทั้งทัวร์บางกรุ๊ปจะโดนห้ามไม่ให้แปลงแผนการหรือเพิ่มร้านขายของใหม่ๆเข้าไป
ถ้าร้านขายของพวกนั้นมีผลิตภัณฑ์ขายดีของคนจีน
ด้วยเหตุผลนี้เองก็เลยทำให้ร้านที่อยากลูกค้าทัวร์จีนจำเป็นต้องศึกษาค้นคว้าแล้วก็ทำการบ้านละเอียดพอสมควร
ซึ่งในขณะนี้มีน้อยรายที่สามารถทำเช่นนี้ได้
 
แต่ว่าที่น่าดึงดูดไปกว่านั้นคือในทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวอิสระเข้ามาในประเทศไทยเยอะแยะในปีที่ผ่านมา
ตลาดนักท่องเที่ยวอิสระนี้ยังไม่มีใครสามารถครอบครองตลาดได้ทั้งปวงเพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นตลาดที่ค่อนข้างจะใหม่
อีกทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะกระจายตัวกันไปตามสถานที่ต่างๆตามสิ่งที่มีความต้องการของแต่ละกรุ๊ปลูกค้า
ความมีโชคของนักการตลาดที่อยากเย้ายวนใจลูกค้ากลุ่มนี้ก็ เป็น มีช่องทางในการหาข้อมูลเพื่อประกอบกิจการตกลงใจนั้นก็คือทางออนไลน์นั่นเอง
ซึ่งมีความหมายว่าหากร้านของเราอยู่ในตำแหน่งที่เดินทางไปง่าย พวกเราสามารถใช้การตลาดช่วยโปรโมทให้มีคนรู้จักกันร้านได้มากขึ้น
โดยมุ่งเน้นการใช้งานเครื่องมือออนไลน์
 
หน้าร้านค้าอีกแบบ เป็น ร้านขายของที่ค้าส่งให้กับเอเจนคนจีนในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่อยู่ถนนหนทางราษฎรบำเพ็ญ
หรือกระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆที่มีชาวจีนอยู่เยอะแยะ ยกตัวอย่างเช่น หน้ามหาวิทยาลัย ซึ่งร้านรวงพวกนี้นอกเหนือจากการที่จะมีคนบริการซึ่งสามารถพูดภาษาจีน
ยังมีการร่วมมือกับการขนส่งที่จะช่วยส่งของไปถึงเป้าหมายในจีนได้ง่ายๆแล้วก็รวดเร็วทันใจ
โดยหากผลิตภัณฑ์ของพวกเราเป็นที่ชื่นชอบของคนจีนเอเจนกลุ่มนี้จะเป็นคนช่วยกระจายขายของและขนส่งให้กับรายย่อยด้วย
โดยนับว่าเป็นแนวทางที่สบายสำหรับผู้ครอบครองสินค้าเลยทีเดียว
 
นอกเหนือจากร้านในประเทศไทยของพวกเราเองแล้ว พวกเรายังสามารถนำสินค้าของเราไปวางตามร้านค้าที่อยู่เมืองจีนได้ด้วยสิ่งเดียวกัน บริการ การตลาดออนไลน์จีน
โดยเฉพาะร้านค้าซุปเปอร์มาร์เก็ตของไทยในมณฑลต่างๆในจีน ซุปเปอร์มาร์เก็ตบางพื้นที่มีตัวแทนที่รับสินค้าจากไทยส่งไปจีนเอง
ด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้ง่ายต่อการติดต่อและก็การติดต่อประสานงาน จำนวนมากเป็นบริษัทไทยรวมทั้งสามารถสื่อสารเป็นภาษาไทยได้ แต่ว่าจะมีความยุ่งยากบางส่วน เป็น
แนวทางนี้ต้องขอใบอนุมัติต่างๆที่เกี่ยวพันเป็นต้นว่า ดังเช่น ฉลากภาษาจีน หรือ อย.จีน ให้ถูกต้องก่อนถึงจะสามารถวางขายได้
การขอใบอนุญาตต่างๆนั้นไม่ได้ยากเกินความสามารถโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเกิดมีคนเข้าใจภาษาจีนก็สามารถติดต่อโดยตรงกับหน่วยงานที่เกี่ยวพันได้
หรือถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากยุ่งยากก็สามารถถามบริษัทที่นำเข้าของไทยให้ช่วยเขียนได้เช่นกัน
แต่อาจจะมีการต่อรองที่ว่าจำเป็นต้องให้เขาเป็นผู้จำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว
 
วิถีทางการจำหน่ายนับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นที่จะต้องทำการคิดแผนเลือกวิถีทางจำหน่ายที่ง่ายต่อการเข้าถึงของลูกค้า
โดยย้ำกรุ๊ปลูกค้าจุดมุ่งหมายเป็นหลักก่อน ด้วยเหตุว่าการกระทำการซื้อของของแต่ละกรุ๊ปลูกค้าแตกต่างกัน
 
Killer Promotional Campaign
การตลาดสุดเยี่ยม

เมื่อพวกเรามั่นใจแล้วว่าสินค้าของเราเป็นที่ต้องการของตลาดรวมทั้งสามารถแข่งขันกับคู่ปรับรายอื่นในตลาดได้
ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราคาหรือจุดแข็งอื่นๆของสินค้า สิ่งจำเป็นถัดไปที่จะจะต้องมองก็คือกระบวนการทำการตลาด จะทำอย่างไรให้คนรู้จักกัน และก็จะใช้ช่องทางไหนดี
 
การตลาดแบ่งได้สองรูปแบบ คือ ออนไลน์รวมทั้งออฟไลน์
แม้กระนั้นเนื่องมาจากการตลาดออฟไลน์โดยหลักๆแล้วไม่มีความต่างกับกระบวนการโฆษณาในไทยเพียงแต่มีค่าใช้จ่ายที่ออกจะสูง
ทำให้บริษัทส่วนมากที่เพิ่งเริ่มเจาะตลาดจีนตกลงใจที่ยังไม่ลงงบประมาณกับวิธีนี้
ด้วยเหตุผลดังกล่าวพวกเรามาดูแนวทางการทำตลาดโดยใช้อุปกรณ์ออนไลน์ในจีนกันดีกว่า เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับหลายๆบริษัทที่กำลังเริ่มที่จะก้าวเข้าไปในตลาดจีน
 
     ก่อนจะวางแผนการตลาดได้นั้นพวกเราต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคจีนก่อนว่าอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เขาตกลงใจซื้อสินค้าของเรา 
จุดแรกที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ของผลิตภัณฑ์พวกเราโน่นก็ เป็น การโฆษณาในมุมกว้าง ซึ่งทำได้หลายวิธีเช่น กระบวนการทำคลิป viral โปรโมทในรายการ
หรือการใช้ผู้มีอิทธิพลทางด้านสังคม (KOL) แนะนำต่อก็สามารถทำเป็น
เมื่อวางแผนกรรมวิธีประชาสัมพันธ์ควรที่จะนึกถึงกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่เราต้องการจะเข้าถึงเพื่อเลือกวิถีทางที่สมควร
ตัวเลขยอดทิวทัศน์และการเข้าถึงของสื่อไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไป แม้กระนั้นจึงควรมองคุณภาพของยอดทิวทัศน์นั้นๆว่าตรงกับลูกค้าจุดหมายของเราหรือเปล่า
การตลาดแนวทางนี้ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดต่อการสร้างการรับทราบของแบรนด์โดยเฉพาะสินค้าใหม่
และจะมีผลดีต่อการตัดสินใจเมื่อลูกค้าอยากได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันนี้
 
จุดที่สองที่แบรนด์ควรจุดโฟกัส เป็น การสร้างฐานข้อมูลที่รองรับการค้นหาภาษาจีนเพื่อลูกค้าชาวจีนที่ลูกค้าต้องการซื้อสินค้า
คล้ายกับการที่ลูกค้าไทยใช้ Google สำหรับเพื่อการค้นหาสินค้ารวมทั้งข้อมูลต่างๆของสินค้าให้เยอะขึ้น
ก่อนตัดสินใจเลือกสินค้าใดผลิตภัณฑ์หนึ่งผู้ใช้จีนจะค้นหาข้อมูลเหมือนกันนี้ในแพลตฟอร์มและเว็บของจีน
โดยจะใช้ 3 ช่องทางสำคัญๆเป็น Baidu (ไป๋ตู้), Weibo (เว๋ยป๋อ), และก็ Wechat (วีแชท)โดยจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน
และก็น่าเชื่อถือบนแพลตฟอร์มพวกนี้ นอกเหนือจากเว็บไซต์ภาษาจีนแล้วเราจะต้องมีบทความบนเว็บบอร์ดมีชื่อเสียงอื่นๆด้วย บริการ การตลาดออนไลน์จีน
โดยบทความเหล่านี้จะเขียนขึ้นในมุมมองของลูกค้าที่ชี้แนะลูกค้ารายอื่นๆแทนที่จะเป็นการเขียนโดยแบรนด์เอง
การมีบทความเขียนในเว็บบอร์ดต่างๆนั้นนอกจากนั้นจะทำให้ชั้นในการค้นหาอยู่สูงขึ้นยิ่งกว่าเว็บที่พวกเราพึ่งจะสร้างใหม่
อีกทั้งยังทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆสำหรับการตกลงใจซื้อผลิตภัณฑ์เนื่องจากข้อเสนอแนะที่มาจากลูกค้าร่วมกัน
 
 
Summary
 
ทั้งผองนี้คือหกหัวข้อที่นักธุรกิจไทยจำต้องคิดถึงก่อนจะเริ่มลงมือฝ่าตลาดจีนขอรับ ถึงแม้พวกเราจะมิได้ลงลึกถึงเนื้อหาของแต่ละหัวข้อมากเท่าไรนัก
แต่ก็หวังว่าความทราบที่ตรงนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบกิจการที่คิดจะเริ่มฝ่าตลาดจีนขึ้นต้นได้ถูกครับ
ซึ่งในแต่ละหัวข้อจะมีรายละเอียดลึกซึ้งมากมายเลยทีเดียวนะครับในบทความต่อๆไปเราจะทำการเจาะลึกในแต่ละด้านครับส่วนหากคนไหนมีคำถามสามารถส่
งเข้ามาได้ครับ พวกเรายินดีชี้แจงแล้วก็ให้คำปรึกษาสุดกำลังครับผม
 
ตลาดจีนถือได้ว่าตลาดที่ใหญ่มากและมีความแตกต่างกับตลาดในหลายๆประเทศขอรับ ผู้ประกอบกิจการที่จะรู้ตลาดจีนจำเป็นจะต้องเรียนหาข้อมูลให้สุดกำลัง
เพื่อที่จะได้ก้าวเดินอย่างถาวรแล้วก็มีคุณภาพเยอะที่สุดขอรับ
แม้กระทั้งจะอ่อนเพลียแล้วก็ควรจะมีความอดทนสูงแม้กระนั้นผลสรุปเมื่อทำสำเร็จแล้วจะคุ้มแน่ๆนะครับ

ขอขอบคุณบทความ บทความการตลาดจีน https://www.levelupthailand.com

Tags : การตลาดจีน,KOL influencer,โปรโมทสิ้นค้าที่จีน



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ