Advertisement
หนอนตายหยากชื่อสมุนไพร หนอนตายหยากชื่อวิทยาศาสตร์ ชื่อแคว้นStemonaaphylla Craib เครือปรุง (ลำปาง)Stemonaburkillii Prain ปงมดง่าม โป่งมดง่าม (เชียงใหม่)Stemonacollinsae Craib หนอนตายหยาก (ภาคกลาง) ปงช้าง (ภาคเหนือ) กระเพียดช้าง (ภาคอีสาน)Stemonacurtisii Hook. f. รากลิง (จังหวัดพัทลุง) หนอนตายหยาก[/i][/color]
Stemonagriffithiana Kurz - (พบที่จังหวัดแพร่)Stemonakerrii Craib - (พบที่จังหวัดเชียงใหม่)Stemonaphyllantha Gangep. - (พบที่จังหวัดเพชรบุรีแล้วก็ภูเก็ต)Stemonatuberosa Lour. หนอนตายหยาก (แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์) กะเพียด (ประจวบคีรีขันธ์,ชลบุรี) Stemona cochichinensis - ป้อมดง่าม , ปังสามสิบ (ภาคเหนือ) กระเพียดหนู , สลอดเชียงคำ (ภาคอีสาน)ชื่อสามัญ Stemona sp.ตระกูล Stemonaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ / ชื่อแคว้น มีแถลงการณ์ว่า หนอนตายหยอกเย้าที่เป็น พืชสกุล Stemona มีอยู่ราว ราวๆ 30 ชนิด ซึ่งศูนย์ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แบ่งแยกประเภทของ
หนอนตายหยากโดยใช้เครื่องหมายโมเลกุลพิจารณาลายพิมพ์ดีเอ็นเอ ร่วมกับการแบ่งด้วยอนุกรมวิธาน โดยพิเคราะห์จากใบรวมทั้งดอก สามารถจัดหมวดหมู่ได้ 9 ประเภท เป็น
นอกนั้นบางตำราเรียนยังมี
หนอนตายหยาก ชื่อ Clitorea hanceana Hemsl วงศ์ Leguminosae (Fabaceae) – Papilionoideae จึงอาจทำให้กำเนิดความสับสนในการศึกษาเรียนรู้ข้อมูล ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงมีความจำเป็นที่จะจะต้องทำการศึกษาเรียนรู้ศึกษาค้นคว้าสำรวจและระบุชื่อวิทยาศาสตร์ให้แจ่มแจ้งถัดไป เพราะแต่ละสกุลและก็จำพวกประเภทอาจมีสารออกฤทธิ์ที่มีโภคทรัพย์และก็ปริมาณแตกต่าง
ถิ่นเกิดหนอนตายหยากหนอนตายหยากพบในบริเวณเอเชียทิศตะวันออกและเอเซียอาคเนย์ แล้วก็ทางด้านเหนือของประเทศออสเตรเลีย ยิ่งกว่านั้นยังเจอกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆดังเช่น ประเทศญี่ปุ่น จีน ฮอลแลนด์ ประเทศฟิลิปปินส์ ฯ สำหรับเมืองไทยพบพืชสกุลนี้ในภาคต่างๆของประเทศ โดยพบได้มากรอบๆป่าดิบชื้น ป่าผลักใบ และก็ดงไผ่
ลักษณะทั่วไปมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะมีรายละเอียดต่างกันน้อย แม้กระนั้นลักษณะทางพฤกษศาสตร์ที่มีเช่นกันคือ มีลักษณะเป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี มีเหล้าหรือหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดินตั้งตรงหรือเลื้อย ใบเลี้ยงลำพัง เรียบสลับหรืออยู่ตรงกันข้ามกันเป็นคู่หรือเป็นวงรอบข้อ เส้นใบหลายเส้น ออกมาจากโคนใบขนานกันไปตามความยาวของแผ่นใบ ดอกออกเป็นดอกลำพังหรืออกเป็นช่อสั้นๆตามซอกใบ มีกลีบ 4 กลีบ เรียงกัน 2 วง เกสรตัวผู้ 4 อัน ก้านเกสรตัวผู้สั้นมาก เกสรตัวเมีย 1 อัน รังไข่อยู่เหนือชั้นต่างๆของดอก ผลเป็นแบบผลแห้งแก่แล้วแตก
ส่วนการแยกชนิดของสายพันธุ์ที่สามารถแยกได้ด้วยลักษณะด้านกายภาพซึ่งสามารถมองเห็นได้ คือ จำต้องมองที่ราก ใบและดอกเป็นหลัก (ซึ่งต้องอาศัยการเล่าเรียนค้นคว้ารวมถึงจะต้องอาศัยการแยกลายพิมพ์ดีเอ็นเอ แล้วก็อันดับวิธานเป็นสำคัญ)
แขนขยายพันธุ์เป็นพืชที่พบมากป่าแล้วก็ในตอนนี้ยังไม่นิยมเอามาเพาะปลูกในเชิงพาณิชมากเท่าไรนักในการนำมาใช้ประโยชน์ต่างๆก็เป็นการขุดมาจากป่าเสียเป็นส่วนมาก มีกล่าวว่ามีการทดลองปลูกพบว่า การขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด จะมีอัตราการรอคอยดสูงที่สุด
องค์ประกอบทางเคมีมีหลายสายพันธุ์ซึ่งแต่ละสายพันธุ์อาจมีสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน แต่ได้มีการศึกษาวิจัยบางฉบับบอกว่า สายพันธุ์ S.collinsae Craib รากเจอแอลคาลอยด์ stemonine, tuberostemonine, stemonidine, isostemonidine สารอื่นที่เจอ ตัวอย่างเช่น rotenoid compound, stemonacetal, stemonal, stemonone ส่วนสายพันธุ์ S.tuberrosa Lour พบว่ามีกรุ๊ปสารอัลคาลอยด์ เป็น stemonidine , tuberstemonine , isotuberstemonine , hypotuberstemonine รวมทั้ง oxatuberstemonine.
ผลดี/คุณประโยชน์หนอนตายหยาก[/i]ได้ถูกประยุกต์ใช้ผลดีตามภูมิปัญญาชาวบ้าน มาตั้งแต่อดีตกาลโดยใช้ฆ่าเห็บเหาในสัตว์จำพวกโคแล้วก็กระบือ บางจำพวกใช้ฆ่าหนอน หรือใส่ไว้ในไหปลาร้าเพื่อกันหนอนแมลงวันและแมลงศัตรูพืช ในการเกษตรอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะเป็นทางเลือดของกรรมวิธีการควบคุมศัตรูพืชแทนการใช้สารเคมีสังเคราะห์ เพื่อเห็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีความปลอดภัยจากสารเคมีหลงเหลือ
นอกเหนือจากนี้ ยังมีการนำรากบางสารพัดธุ์มาใช้เป็นยาทางการแพทย์แผนโบราณ โดยมีแถลงการณ์ว่า ในประเทศจีนนำครึ้มยตายหยากสารพัดธ์ S.tuberosa Lour. มาใช้ร่วมกันสมุนไพรชนิดอื่น เป็นยาแก้ไอรวมทั้งขับเสมหะ ยาขับลม ยาถ่ายพยาธิ รักษาวัณโรค โดยในหนังสือเรียนหมอแผนจีนบอกว่า เหง้ามีรสขมเปียกแฉะ เป็นยาร้อนน้อย เป็นพิษนิดหน่อย ออกฤทธิ์ต่อปอดและก็ม้าม ใช้เป็นยาแก้ไอเย็น ไอเรื้อรัง หลอดลมอักเสบ อาการไอสาเหตุจากเป็นวัณโรค
ในประเทศลาวนำ S. collinsae Craib มาใช้สำหรับในการกำจัดปาราสิตภายนอกร่างกาย ได้แก่ หมัดและก็เหา ส่วนประเทศไทยใช้พืชนี้สำหรับการกำจัดแมลง ใช้เป็นยาทาภายนอกสำหรับแผลที่เกิดขึ้นมาจากหนอนหรือตัวอ่อนของแมลงบางชนิด และก็เป็นยาต้มเพื่อกินแก้โรคผื่นคัน เหมือนกับตำราไทยที่บอกว่า ราก รสเมาเบื่อ ปรุงยารับประทาน แก้โรคผิวหนังผื่นคันน้ำเหลืองเสีย รมหัวริดสีดวงให้ฝ่อแห้งไป พอกทาแก้โรคผิวหนัง ฆ่าหิดเหา ฆ่าเชื้อพยาธิด้านใน มะเร็งตับ ตำผสมน้ำฆ่าแมลง ตีละเอียดแช่น้ำฟอกล้างผม ฆ่าเหา พอกแผลต่างๆฆ่าหนอน รวมทั้งใช้ทำลายหิดได้ นำรากมาโขลกบีบเอาน้ำหยอดแผลวัวควายซึ่งมีหนอนไช หนอนจะตายหมด
แบบเรียนยาสมุนไพรพื้นบ้านใช้ ราก ต้มน้ำ ถ่ายพยาธิตัวจี๊ด นำรากผสมกับหญ้าหวายทุ่งนาและก็ชะอม ต้มน้ำกิน ถ่ายพยาธิตัวจี๊ด หรือ คั้นน้ำพอก แก้หิดเหา แบบ/ขนาดการใช้
ในการจะใช้รากมารับประทานเป็นยาสมุนไพรนั้น จะใช้ได้เป็นบางสายพันธุ์แค่นั้น แล้วก็ควรจะมีวิธีการทำลายพิษ โดยนำรากมาล้างให้สะอาดแลวนำมาลวกหรือนึ่งจนถึงไม่เห็นแกนสีขาวที่รากแล้วนำไปตากแห้ง และหั่นให้มีขนาดเล็กก่อนนำไปปรุงเป็นตำรายาหรือบางตำราก็นำมาเชื่อมกับน้ำผึ้งก่อนใช้ประโยชน์ ด้วยเหตุว่ารากสดของมีพิษ ถ้าเกิดไม่ผ่านกรรมวิธีการทำลายพิษก่อนอาจจะส่งผลให้ทำให้เป็นอันตรายถึงตายได้ โดยสายพันธุ์ที่นิยมประยุกต์ใช้ทำเป็นยาสมุนไพร ดังเช่นว่า S.tuberosa Lour. , S. collinsae Craib , S.sessilfolia (Miq) , S. japonica (BJ) Miq. ฯลฯ ส่วนแบบอย่างวิธีการใช้มีหลายวิธี ดังต่อไปนี้
ใช้รักษาเหา ด้วยการใช้รากสดประมาณ 3-4 ราก ที่ล้างน้ำสะอาดแล้ว นำมาตำผสมกับน้ำใช้ชโลมเส้นผมทิ้งเอาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยสระออกให้สะอาด โดยให้ทำติดต่อกันราว 2-3 วัน
ใช้เป็นยาแก้ปวดฟัน ให้ใช้รากสด 1 ราก ที่ล้างสะอาดแล้ว เอามาหั่นตำอย่างระมัดระวัง เพิ่มเกลือ 1/2 ช้อนชา ใช้อมราว 10-15 นาที แล้วบ้วนทิ้ง ทำอย่างนี้ต่อเนื่องกันประมาณ 2-4 ครั้ง
ใช้ฆ่าพยาธิตัวแบน ทั้งยังพยาธิเส้นด้าย พยาธิใบไม้ในตับ พยาธิปากขอ พยาธิตัวจี๊ด ด้วยการใช้รากแห้งที่ผ่านการเตรียมยามาแล้ว 2 ราก นำมาต้มกับน้ำดื่มติดต่อกันราว 15-20 วัน (ราก) ส่วนวิธีใช้ถ่ายพยาธิปากขอ ให้ใช้รากหรือเหง้า 100 กรัม แบ่งต้ม 4 ครั้ง จากนั้นนำมาสกัดจนถึงเหลือ 30 ซีซี ใช้กินครั้งละ 15 ซีซี โดยให้กินติดกัน 2 วัน
ใช้รากมาต้มกับยาฉุนรมริดสีดวงทวารหนักจะมีผลให้หัวแห้งฝ่อ ใช้รักษาโรคผิวหนัง โยนำรากที่ผ่านการเตรียมยาแล้ว 50-100 กรัม ไปต้มแล้วใช้อาบนอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของตัวยาอีกหลายตำรับอาทิเช่น ยาตัดรากอุปะทม , ยาแก้ดีลมแลกำทายใจ เจือกันอีกทั้งสาม , ยาแก้ดีกำเดา ฯลฯ
การศึกษาทางเภสัชวิทยารายงานการเรียนฤทธิ์ของสารสกัด
หนอนตายหยากต่อสัตว์ทดลอง กล่าวว่า ยาชงสกัดด้วยอีเทอร์ จะได้ปริมาณอัลคาลอยด์สูง มีฤทธิ์ฆ่าพยาธิไส้เดือนได้มากกว่ายาชงสกัดด้วยแอลกอฮอล์ และสารสกัดหนอยตายหยากที่สกัดด้วยแอลกอฮอล์ที่อยู่ในรูปของยาครีม จะมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการกำจัดเหาได้ดียิ่งไปกว่าในรูปของยาน้ำ รวมทั้งฤทธิ์หลงเหลือเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์แค่นั้น รวมทั้งมีรายงานศึกษาผลของ 6-deoxyclitoriacetal ซึ่งเป็นสาร retonoids ที่สกัดได้จากรากต่อการยุบตัวของกล้ามเนื้อเรียบจากอวัยวะต่างๆที่แยกจากกายของตัวทดลองพบว่า 6-deoxyclitoriacetal 0.2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร สามารถลดการยุบตัวของกล้ามเนื้อเรียบของมดลูกหนูขาวทั้งที่เกิดขึ้นเองหรือมีเหตุที่เกิดจากการกระตุ้นด้วย serotonin แล้วก็ norepinephrine แบบความเข้มข้นสะสม รวมทั้งยังสามารถลดการยุบตัวของกล้ามเรียบของเส้นโลหิตแดงใหญ่ของหนูขาวจากการกระตุ้นด้วยสารละลายแคลเซียมคลอไรด์แบบความเข้มข้นสะสม ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถส่งผลต่อการหกตัวของกล้ามเนื้อเรียบลำไส้เล็กส่วน ileum ของหนูตะเภา เมื่อมีการกระตุ้นด้วย acetylcholine จากผลการทดลองทั้งสิ้นแสดงให้เห็นว่า 6-deoxyclitoriacetal มีฤทธิ์ยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อเรียบจากอวัยวะต่างๆรวมทั้งกลไกของการยับยั้งการหดตัวนี้เป็นแบบไม่ได้มีการเฉพาะเจาะจง
นอกจากนั้นยังมีรายงานการศึกษาเรียนรู้วิจัยอื่นๆอีกอย่างเช่น สมุนไพรสามารถยับยั้งการไอของสัตว์ทดสอบได้ แล้วก็มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลางของระบบหายใจ ทำให้การหายใจได้ผลช้าลง
[/b]
การศึกษาทางพิษวิทยาการเรียนรู้ความเป็นพิษทันควันของ สารพัดธุ์ S.curtisii Hook. F.HC ในหนูถีบจักร โดยการป้อนสารสกัดจากรากขนาด 0.25-80 กรัม/กก. น้ำหนักตัว เป็นเวลา 14 วัน แล้วก็ขนาด 10 กรัม/กก. น้ำหนักตัว เป็นเวลา 30 วัน สำหรับทดลองความเป็นพิษครึ่งกระทันหันของ ไม่พบความเป็นพิษของสารสกัด
ข้อแนะนำ/ข้อควรคำนึงราก
[url=https://www.disthai.com/17049469/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81]หนอนตายหยา[/i]มีพิษ ถ้าหากรับประทานเข้าไปโดยไม่ผ่านแนวทางการทำลายพิษก่อน จะมีผลให้เมา แล้วก็อาจถึงตายได้
การจะนำมาใช้ต้องหารือผู้ที่มีความชำนาญก่อนเสมอ เพราะเหตุว่า มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งมีบางสายพันธุ์เท่านั้นที่มีสรรพคุณทางยา
ไม่สมควรใช้เป็นยาสมุนไพรในปริมาณที่มากและก็ใช้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกระทั่งเหลือเกิน เนื่องจากบางทีอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้
คนไข้ที่มีโรคประจำตัวรวมทั้งสตรีตั้งท้องไม่ควรใช้หนอดตายหยาก ด้วยเหตุว่าอาจส่งผลให้โรคที่เป็นอยู่กำเริบเสิบสานหรือส่งผลต่อท้องได้
เอกสารอ้างอิงมณฑา วงศ์มณีโรจน์.การเพิ่มประสิทธิภาคการชักนำราก (Stemona collinsae Craib) ในสภาพปลอดเชื้อและการนำต้นออกปลูกวารสารการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.ปีที่6 ฉบับที่ 1.มกราคม-เมษายน 2551.หน้า 65-71
ฌุฉัตรา วีระฉัตร.2528.ผลของสารสกัด (Stemona collinsae Craib) ต่อสัตว์น้ำบางชนิด.วิทยานิพนธ์ปริญญาโท สาขาสิ่งแวดล้อม บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 41 หน้า.
กองวิจัยทางแพทย์.2527. สมุนไพรพื้นบ้านตอนที่1.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์.กรุงเทพฯ131 หน้า
Burkill I.H. 1935. Dictionary of the Economic Products of the Malay Peninsula. 2 vols., Oxford University Press, London. 2402 p.
ประคอง พันธุ์อุไร.อุษาวดี ธำรง ผลชีวัน บุญล้วน พันธุมจินดา ทวีผล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา และสุวรรณา จารุนุช 2523.สารสกัดจากรากเพื่อใช้ฆ่าเหา.กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์,กรุงเทพฯ.16หน้า.
ผศ.ดร.ดริยาภรณ์ พงษ์รัตน์และคณะ .การศึกษาการผลิต และการขยายพันธุ์.รายงานการวิจัยคณะเกษตรศาสตร์และคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
การะเกด สายบรรดาศักดิ์ 2540 ฤทธิ์ของ 6- deoxyclitoriacetal จากรากต่อกล้ามเนื้อเรียบ.วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาเภสัชวิทยา บัณฑิตวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.119 หน้า.
นันทวัน บุณยะประภัสร.อรนุช โชคชัยเจริญพร.สมุนไพรไม้พื้นบ้าน (5) มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ พ.ศ.2543.หน้า 118-22.
บุณย์ธนิสร์ โอทกานนท์.2494.การศึกษาทางเภสัชวิทยาของ.ในรายงานการวิจัยเพื่อปริญญาเภสัชศาสตร์บัณฑิต.คณะเภสัชศาสตร์,มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์.8 หน้า.
หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีน ที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. (วิทยา บุญวรพัฒน์). “”. หน้า 608.
วีเชียร กีรตินิจกาล..ศูนย์ความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช.เอกสารประกอบการจัดนิทรรศการงานเกษตร ประจำปี 2548.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จตุจักร กรุงเทพฯ.
บุญชู ธรรมทัศนานนท์.ว่านรักษาโรค.คอลัมน์การรักษาพื้นบ้าน.นิตยสารหมดชาวบ้าน เล่มที่20.ธันวาคม2523.
.ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี(ออนไลน์)
รากของ.กระดานถาม-ตอบ สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
Tags : ประโยชน์หนอนตายหยาก, สรรพคุณหนอนตายหยาก