เปราะหอม เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าทึ่ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปราะหอม เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าทึ่ง  (อ่าน 30 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ำพ
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 39


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2019, 05:59:17 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


เปราะหอม
ชื่อสมุนไพร เปราะหอม
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ว่านแผ่นดินเย็น,ว่านตีนดิน(ภาคเหนือ),หอมเปราะ เปราะหอมขาว,เปราะหอมแดง(ภาคกลาง)เปราะ(ภาคใต้),ว่านหอม(พิษณุโลก),กระชายหอม,เสน่ห์จันทร์หอม(ตาก),ซู(แม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Kaempferia galanga linn.
ชื่อสามัญ Sand ginger, Resurrection lily, Aromatic ginger
ตระกูล ZINGIBERACEAE
ถิ่นกำเนิดเปราะหอม
เปราะหอมเป็นพืชพื้นถิ่นที่มีถิ่นเกิดในทวีปเอเชียโดยมีเขตการกระจายประเภทตั้งแต่ประเทศอินเดีย ประเทศในเอเซียอาคเนย์ คาบสมุทรมลายู และก็ชาว รวมถึงในจีนตอนใต้และก็ไต้หวัน โดยพบบ่อยในดงไผ่ ป่าดงดิบ รวมทั้งป่าผลัดใบ สำหรับในประเทศไทยสามารถเจอได้ทุกภาค แต่พบบ่อยทางภาคเหนือ
ลักษณะทั่วไปเปราะหอม
เปราะหอมจัดเป็นไม้ลงหัวหรือพืชล้มลุก มีลำต้นใต้ดินจำพวกไรโซม (Rhizome) ลักษณะเป็นเหง้าแง่งกลมรูปไข่สีเหลืองอ่อนมีเยื่อบางๆรูปสามเหลี่ยมหุ้มห่อโคน เหง้าแก่สีน้ำตาล เนื้อในหัวสีขาวหรือขาวเหลือง มีสีเหลืองเข้มตามขอบนอกแล้วก็มีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะบุคคล สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ผ่านปีหรือหลายปี ใบเป็นใบผู้เดียว แทงขึ้นมาจากหัวหรือเหง้าใต้ดินราวๆ 2-3 ใบ โดยใบอ่อนมีลักษณะม้วนเป็นกระบอกออกมาแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยแผ่ราบบนหน้าดิน หรือวางตัวอยู่ในแนวระดับเหนือพื้นดินเล็กน้อย เนื้อใบค่อนข้างจะหนา ลักษณะของใบเป็นรูปค่อนข้างจะกลมหรือเป็นรูปไข่ป้อม มีขนาดกว้างราวๆ 5-10 ซม.และยาวประมาณ 7-15 ซม. ปลายใบแหลม ส่วนโคนใบมนหรือบางทีอาจเว้านิดหน่อย ครั้งคราวบางทีอาจพบว่าขอบของใบมีสีแดงคล้ำๆมีขนอ่อนๆอยู่รอบๆท้องใบ โดยท้องใบนั้นแม้มีสีแดงจะเรียกว่า ถ้ามีสีขาวจะเรียกว่า ส่วนก้านใบมีลักษณะเป็นกาบ มีความยาวโดยประมาณ 1-3 ซม. ดอกออกเป็นช่อ ซึ่งดอกกึ่งกลางระหว่างใบ โดยมีดอกย่อยได้ตั้งแต่ 6-10 ดอก แม้กระนั้นดอกจะทยอยบานทีละ 1-2 ดอก ดอกมีความยาวโดยประมาณ 2-4 เซนติเมตร ลักษณะดอกมี 4 กลีบ 2 กลีบ บนมีสีขาว 2 กลีบ ล่างแต้มด้วยสีม่วงเหลือง ผลเป็นแบบผลแห้งแตกได้ ภายในมีเม็ดกลม 12 เมล็ด
การขยายพันธุ์
เปราะหอมสามารถเพาะพันธุ์โดยการใช้เหง้า หรือหัวซึ่งแพร่พันธุ์คล้ายกับกระชาย โดยการนำหัวที่มีอายุ 1-2 ปี ขุดมาราวมกราคม แล้วนำมาใส่ภาชนะโปร่งๆเอาไว้ในที่ร่ม ไม่ต้องล้างน้ำ พอถึงตอนราวสิ้นเดือนเมษายน จะเริ่มแตกตาขึ้นมาบ้างแล้วจึงจัดเตรียมใช้ปลูกต่อไป
ดังนี้เป็นพืชชอบแสงตะวันน้อย จึงปลูกตามสวนผลไม้ อย่างเช่น ส่วนกล้วย และงามยางพารา เป็นต้น โดยการทำแปลงเล็กๆพวกเราจะฟันดินขึ้นยกเป็นแปลง ขนาดกว้าง 1 เมตร ความยาว สุดแต่พื้นที่แล้วก็หว่านปุ๋ยมูลสัตว์ หรือปุ๋ยธรรมชาติก็ได้แล้วสับรวมผสมกันคละเคล้าให้ทั่วแปลง
ส่วนวิธีการปลูกจะนำหัวที่จัดเตรียมไว้ที่ศีรษะติดกัน แยกออกเป็นหัวเดียว นำไปฝังบนแปลงที่เตรียมไว้ห่างกัน 15-20 เซนติเมตร แล้วกลบดินนำฟาง หรือหญ้าแห้งมาปกคลุมไว้ รดน้ำให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอด สำหรับการเก็บเกี่ยวสามารถเก็บเกี่ยว(ขุด)ได้เมื่อมีอายุได้ 1 ปีขึ้นไป โดยนิยมขุดโดยประมาณเดือน ธ.ค.-เมษายน เนื่องจากว่าเป็นตอนๆที่เหง้าสะสมสารอาหารแล้วก็สารออกฤทธิ์สูงที่สุด
ส่วนประกอบทางเคมี
ในเปราะหอม เจอสารเคมีหลายแบบ ได้แก่ chlorogenic acid, vanillic acid, Uinnanic acid, Cinnamic acid ethyl ester เป็นต้น นอกจากนั้นในน้ำมันหอมระเหยยังน้ำมันหอมระเหยที่มี cinnamic acid, borneol , camphor , cineol , camphene , anistic acid
สรรพคุเปราะหอม[/url][/size]
ในประเทศไทยได้มีการใช้ประโยชน์มาตั้งแต่ในอดีตแล้ว เช่น หัวของมีกลิ่นหอมสดชื่นใช้แต่งอาหาร ในภาคใต้นิยมใส่ในน้ำพริกเพื่อให้มีกลิ่นหอมสดชื่น ใบอ่อนใช้จิ้มน้ำพริก แล้วก็ชาวล้านนา ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องปรุงลาบ ที่เรีกว่า พริกลาบ หรือ น้ำพริกลาบ และก็ยำต่างๆเช่น ยำจิ๊นไก่ ยำเห็ดฟาง ยำกบ ใบใช้กินเป็นผักแกล้ม มีกลิ่นหอมสดชื่น หรือใช้ทำหมกปลาหรือใส่แกงปลา ส่วนหัวประยุกต์ใช้ปรุงเป็นเครื่องเทศสำหรับทำแกงหรือนำมาตำใส่เครื่องแกง
ในตอนนี้ยังได้มีการนำหัวหรือเหง้าของมาแปรรูปทำเป็นน้ำมันหอมระเหย สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งหน้าต่างๆได้แก่ แป้งฝุ่น แป้งพัฟผสมรองพื้น เจลแต้มสิว สบู่ ยาสระผม ครีมสำหรับนวดดูแลผม เป็นโลชั่นป้องกันแสงแดด หรือใช้ทำเป็นน้ำยาบ้วนปากเป็นต้น
ในการนำมาใช้ในด้านสมุนไพรนั้นมีการนำมาใช้เป็นสมุนไพรตามตำรายาไทย ซึ่งระบุถึงคุณประโยชน์ว่า หัวใต้ดิน รสเผ็ดขม สุมหัวเด็ก แก้หวัดคัดจมูก รับประทานขับลมในลำไส้ แก้เสมหะ เจริญไฟธาตุ แก้ลงท้อง แก้ท้องเฟ้อ แก้กำเดา แก้เลือดซึ่งเจือด้วยลมพิษ ดอกรสหอมร้อน แก้เด็กนอนตกใจผวา ร้องไห้ตาโพลง ตาช้อนเหลือบดูสูง ใบ แก้เกลื้อนช้าง ต้นรสเผ็ดขม ขับเลือดเน่าของสตรี แก้ท้องขึ้น ท้องอืด
ส่วนคุณประโยชน์ตามภูมิปัญญาแพทย์พื้นบ้าน ใช้เหง้า แก้หวัดคัดจมูก ขับลมในไส้ น้ำคั้นจากใบและเหง้าใช้ป้ายคอเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ ใช้ล้างศีรษะเพื่อคุ้มครองมิให้กำเนิดรังแค แล้วก็ในบัญชียาจากสมุนไพรที่มีการใช้ตามองค์วิชาความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา เจาะจงการใช้เหง้า ในยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏในตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของเหง้าร่วมกับสมุนไพรประเภทอื่นๆในตำรับ มีสรรพคุณ ทุเลาอาการท้องอืดเฟ้อ และอาการอุจจาระธาตุทุพพลภาพ ท้องเดินที่ไม่ติดเชื้อ แล้วก็เจาะจงการใช้เหง้าร่วมกับสมุนไพรอื่นๆใน “ตำรับยาเขียวหอม” สรรพคุณ ทุเลาอาการไข้ ร้อนในอยากดื่มน้ำ แก้พิษฝึก พิษอีสุกอีใส (ทุเลาลักษณะของการมีไข้จากหัด และก็อีสุกอีใส)
ต้นแบบ/ขนาดวิธีการใช้
ทั้งขาว และก็แดง ใช้เหง้าสด 10-15 กรัม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆหัวสดใช้ 1/2-1 กำมือ ต้มกับน้ำ 1 ถ้วยแก้ว ดื่ม 1-2 ครั้ง ช่วยรักษาอาการต่างๆตามคุณประโยชน์ที่กล่าวถึงไปแล้ว ใบใช้คั้นเอาน้ำทาแก้กลาก รวมทั้งโรคเกลื้อนช้าง ใช้เป็นยาแก้ปวดศีรษะ ระงับความเครียด ด้วยการใช้อีกทั้งหัวและใบเอามาตำ ใส่น้ำเพียงพอเปียก แล้วเอาไปชุบประยุกต์ใช้คลุมหัว หรือจะใช้เฉพาะหัวเอามาตำคั้นเอาน้ำไปผสมกับแป้งหรือนหูเสือ ก็จะได้แป้งดินสอพองไว้ทาขมับแก้ลักษณะของการปวดหัว ด้วยการใช้หัวตากแห้งบดผสมลงในยาหอม ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงประสาท หัวเปราะหอมเอามาต้มหรือชงรับประทาน จะช่วยสำหรับเพื่อการนอนหลับ และก็ช่วยลดความเครียดได้ น้ำคั้นจากใบและก็เหง้าใช้ป้ายคอ ช่วยทุเลาอาการเจ็บคอ ช่วยทุเลาลักษณะของการปวด ด้วยการใช้หัวเอามาโขลกหรือทุบใส่น้ำให้พอเปียกแฉะ นำผ้ามาชุบแล้วก็ใช้พันรอบๆที่มีอาการปวดบวม หรือนำมาใช้ทำเป็นลูกประคบ รวมทั้งเอามาเคี่ยวกับน้ำมันไว้ใช้ทาแก้อาการปวดเมื่อยล้าก็ได้
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์กระตุ้นการนอนหลับ การเรียนรู้ฤทธิ์กระตุ้นการนอนของสารสกัดเฮกเซนของ รวมทั้งสารบริสุทธิ์ 2 จำพวกอาทิเช่น compound 1: ethyl trans-p-methoxycinnamate รวมทั้ง compound 2: ethyl cinnamate โดยให้สารสกัดในขนาด 0.001, 0.01, 0.1, 0.5, 1, 1.5 แล้วก็ 10 มก. และก็ใช้ lavender oil ความเข้มข้น 0.05 มิลลิกรัม เป็นสารมาตรฐาน ทดลองในหนูถีบจักรเพศผู้อายุ 5 อาทิตย์ ละลายสารทดสอบด้วย triethylcitrate แล้วก็หยดลงบนกระดาษกรอง ที่วางเอาไว้ในแท็งค์ ให้หนูดมกลิ่นสารทดสอบภายในแทงค์ และกระทำการติดตามการตอบสนองทางด้านพฤติกรรมของหนูในการเดินข้ามจากด้านหนึ่งของแท็งค์มายังอีกบริเวณหนึ่ง ตรงเวลา 60 นาที ผลการทดลองพบว่าสารสกัดเฮกเซนของในขนาด 1.5 รวมทั้ง 10 มก. แสดงฤทธิ์กระตุ้นการนอนหลับ (ทำให้หนูหยุดอยู่ที่มุมแท็งค์ ลดการเคลื่อนไหว) ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.01 แล้วก็ p < 0.05, เป็นลำดับ) นอกเหนือจากนั้น compound 1 และก็ 2 ยังมีฤทธิ์ กระตุ้นการนอน เมื่อให้ในขนาด 0.0014 มิลลิกรัม และก็ 0.0012 มิลลิกรัม เป็นลำดับ
ฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส การทดสอบสารสกัดน้ำ รวมทั้งเมทานอลของ สำหรับการยั้งเชื้อ human immunodeficiency virus type 1 reverse transcriptase (HIV-1 rt) และ proteases จาก human immunodeficiency virus type 1 (HIV-1), hepatitis C virus (HCV) แล้วก็ human cytomegalovirus (HCMV) จากผลของการทดสอบพบว่า สารสกัดเมทานอลสามารถยั้ง protease ทั้งสามจำพวกได้ดิบได้ดี (Protease เป็นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีที่สำคัญของเชื้อไวรัสสำหรับเพื่อการแยก gag-pol polyprotein ให้เป็น reverse transcriptase, protease รวมทั้ง integase ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญของเชื้อไวรัส HIV การยับยั้งรูปแบบการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีนี้จะยั้งการรับเชื้อได้) การทดสอบสารบริสุทธิ์ 4-methoxy cinnamic acid ethyl ester และ 4-methoxy cinnamic acid ที่แยกได้จากเปราะหอม ต่อการยับยั้ง alpha-glucosidase (เนื่องจากว่าอนุภาคเชื้อไวรัสเมื่อไปสู่ร่างกายในขั้นแรกจะมีการเกาะติดระหว่างไกลโคโปรตีนของเชื้อ gp120 กับ CD4 receptor ซึ่งเป็น T-helper lymphocyte ของ host ในขั้นตอนนี้ถ้ายั้งการทำงานของ alpha-glucosidase ทำให้การสังเคราะห์ไกลโคโปรตีนของเชื้อไม่สมบูรณ์) จากการทดสอบพบว่า สารบริสุทธิ์อีกทั้ง 2 ชนิด สามารถยับยั้งลักษณะการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี alpha-glucosidase ได้สูงยิ่งกว่าสารมาตรฐาน 1-deoxynojirimycin โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.05±0.03 และก็ 0.04±0.01 mM, deoxynojirimycin มีค่า IC50 พอๆกับ 5.60±0.42 mM
ฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ เรียนฤทธิ์ต้านทานจุลินทรีย์ของน้ำมันหอมระเหยโดยทดสอบกับเชื้อ 7 จำพวก คือ E. coli, S.aureus, P.aeruginosa, B.subtills, S.faecalis, C.albicans แล้วก็ M. gypseum พบว่าน้ำมันหอมระเหยสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อที่นำมาซึ่งแผลฝีหนอง S. aureus ได้ดิบได้ดี รวมทั้งสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ E.coli (ที่ส่งผลให้เกิดท้องร่วง อาหารเป็นพิษ) จากการเรียนรู้ส่วนประกอบทางเคมีพบว่าน้ำมันหอมระเหย มีส่วนประกอบหลักทางเคมี คือ (Z)-ethyl cinnamate จำนวนร้อยละ 46.60, 1,8’ cineole ปริมาณร้อยละ 17.40 รวมทั้ง delta-3-carene จำนวนร้อยละ 11.19 การศึกษาเล่าเรียนองค์ประกอบทางเคมี และก็ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ของน้ำมันหอมระเหยในเหง้าของที่กลั่นด้วยน้ำ พินิจพิจารณาส่วนประกอบทางเคมีด้วยแนวทาง gas chromatography สารสำคัญที่แยกได้ อาทิเช่น ethyl-p-methoxycinnamate (31.77%), methylcinnamate (23.23%), carvone (11.13%), eucalyptol (9.59%) และก็ pentadecane (6.41%) การทดสอบฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียด้วยวิธี agar disc diffusion พบว่าสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้หลายประเภท โดยให้ค่า inhibition zone พอๆกับ 8.0 - 31.0 มม. ในการทดลองความเป็นพิษต่อไรทะเล (Brine shrimp toxicity test) ให้ค่าความเข้มข้นที่ทำให้ไรทะเลตายครึ่งเดียว LC50 พอๆกับ 26.84 μg/ml ในระหว่างที่น้ำมันหอมระเหยไม่มีฤทธิ์สำหรับการต้านทานอนุมูลอิสระ DPPH ในหลอดทดลอง ซึ่งเป็นวิธีทางเคมี (IC50>100 μg/ml)
ฤทธิ์แก้ไข้ ทุเลาปวด อักเสบ การทดสอบฤทธิ์หยุดปวด ลดไข้ รวมทั้งต่อต้านการอักเสบ ของสารสกัดเมทานอลของขนาด 50, 100 รวมทั้ง 200 มิลลิกรัม/กิโล ในหนูถีบจักร รวมทั้งหนูขาวเพศผู้ โดยทดลองฤทธิ์หยุดปวดด้วยแนวทาง writhing, formalin, hot plate แล้วก็ tail flick ทดลองฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบด้วยการฉีด carrageenan บริเวณอุ้งเท้าข้างหลังของหนู เพื่อรั้งนำให้มีการบวม รวมทั้งใช้ cotton pellet เพื่อเหนี่ยวนำการสร้าง granuloma ส่วนการศึกษาเล่าเรียนฤทธิ์ลดไข้ใช้ brewer’s yeast เหนี่ยวนำให้เกิดไข้ เมื่อให้สารสกัดขนาด 50,100 และก็ 200 มิลลิกรัม/กก.ทางปาก พบว่าสารสกัดมีฤทธิ์ยั้งการเกิด abdominal writhing ได้ 42.75% ,59.57% แล้วก็ 70.60% ตามลำดับ และก็ลดเวลาการเลียอุ้งเท้ารอบๆที่ฉีด formalin ในตอนต้น หรือลักษณะของการปวดแบบกะทันหัน (early phase) ได้ 28.77%, 32.56% และ 53.48% รวมทั้งช่วงปลาย หรือระยะอักเสบ (late phase) ได้ 68.94%, 78.76% และ 78.50% ตามลำดับ สารสกัดทุกขนาดทำให้ช่วงเวลาเริ่มการโต้ตอบต่อความเจ็บของสัตว์ทดลองมากขึ้น ทั้งใน hot plate และ tail flick tests โดยเริ่มสนองตอบต่อความเจ็บที่เวลา 45 นาที เมื่อให้ naloxone (2 มก/กก) สามารถต้านฤทธิ์หยุดปวดของ morphine (5 มก/กก) แล้วก็สารสกัด (200 มก/กก) สำหรับในการทดสอบ hot plate และ tail flick test ได้ ส่วนการทดลองเพื่อเรียนฤทธิ์สำหรับเพื่อการลดไข้ พบว่าสารสกัดไม่มีฤทธิ์สำหรับในการลดไข้ เมื่อทดสอบด้วยวิธีการฉีด brewer’s yeast เพื่อรั้งนำให้เกิดไข้ในหนูขาว ในการทดสอบความเป็นพิษเฉียบพลัน เมื่อให้สารสกัดเมทานอลขนาดสูงสุด 5 mg/kg พบว่าไม่ทำให้สัตว์ทดลองตาย และไม่แสดงอาการความเป็นพิษจากสารสกัด โดยสรุปสารสกัดเมทานอล มีฤทธิ์ระงับปวดอีกทั้งในระบบประสาทศูนย์กลางระดับสมองและก็ไขสันหลัง โดยสารสกัดออกฤทธิ์เล็กน้อยที่ opioid receptor รวมทั้งระบบประสาทส่วนปลาย จากผลการทดลองในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ทำให้เห็นว่า สารสกัดเมทานอลของเปราะหอมมีฤทธิ์ยับยั้งปวด แล้วก็ต่อต้านการอักเสบได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ แม้กระนั้นไม่มีฤทธิ์ในการลดไข้
ฤทธิ์รักษาแผล การเรียนฤทธิ์สำหรับเพื่อการรักษาแผลของสารสกัดเอทานอลของในแผลผ่าตัด (excision wound) แผลเปิดที่เกิดจากการตัดผิวหนังส่วน full thickness ออกไป (incision wound) และก็แผลที่มีเนื้อตาย (dead space wound) การทดสอบแบ่งสัตว์ทดสอบออกเป็น 4 กรุ๊ป กลุ่มที่ 1 ได้รับ 2 มิลลิลิตรของ gum acacia 2% กรุ๊ปที่ 2 ได้รับสารสกัด300 mg/kg กลุ่มที่ 3 ได้รับยามาตรฐาน dexamethasone 0.17 mg/kg กลุ่มที่ 4 ได้รับ dexamethasone 0.17 mg/kg และ  300 mg/kg มีพารามิเตอร์สำหรับในการติดตามผลการทดลอง คือ การเพิ่มขึ้นของ breaking strength (incision wound; บ่งถึงความแข็งแรงของแผล) การสร้างเซลล์เยื่อบุผิว การปิดของแผล (excision wound) การเพิ่มขึ้นของเนื้อเยื่อ (granulation tissue), breaking strength, hydroxyproline content (กรุ๊ปแผลที่มีเนื้อตาย) การสร้างคอลลาเจนที่แผล วัดจากปริมาณ hydroxyproline ผลของการทดสอบพบว่า กลุ่มแผล incision wound ที่ได้รับ dexamethasone มี breaking strength ลดลง แต่ว่าถ้าได้รับ dexamethasone ร่วมกับสารสกัดจะมี breaking strengthมากขึ้น กรุ๊ปแผลผ่าตัดเจอการเพิ่มขึ้นของเปอร์เซ็นต์การปิดของแผล เฉพาะกลุ่ม และลดระยะเวลาสำหรับการการสร้างเซลล์เยื่อบุผิว และก็ในแผลอีกทั้งสามชนิดนั้นพบว่าใช้ช่วงเวลาสำหรับในการหายของแผลเมื่อให้สารสกัดเร็วกว่า dexamethasone
ฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็ก น้ำต้ม ความเข้ม 1:5 ทำให้กล้ามเนื้อเรียบของลำไส้เล็กหย่อนยานตัว แล้วก็มีฤทธิ์ยั้งการหดตัวของลำไส้เล็กที่เพราะเหตุว่า Ach และก็ Histamine ได้
การเรียนรู้ทางพิษวิทยา
การทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัดเหง้าด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (คิดเป็น 1,515 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) รวมทั้งให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล ตรวจไม่เจออาการเป็นพิษ
การเรียนรู้ด้านพิษวิทยาของสารสกัดโดยการศึกษาด้านการระคายเคืองต่อผิวหนัง โดยใช้สารสกัดเฮกเซนจากเหง้า ปริมาณ 0.5 ml (ความเข้มข้น 250 mg/ml) ทาบนผิวหนังกระต่าย ตรงเวลา 4 ชั่วโมง แล้วเช็ดถูออก จากนั้นสังเกตอาการบวม แดง ที่ผิวหนัง ตั้งแต่เวลา 30-60 นาที หลังให้สารทดสอบ แล้วก็จากนั้นอีก 24, 48, 72 ชั่วโมง พบว่าไม่มีการเคืองต่อผิวหนังในเวลาที่ทดลอง การทดลองพิษเฉียบพลันของสารสกัดเอทานอลจากเหง้าโดยให้สารสกัดขนาด 5 g/kg แก่หนูแรท ครั้งเดียว ไม่พบการถึงแก่กรรม หรือการเกิดพิษใดต่อสภาพร่างกาย รวมทั้งอวัยวะและก็เนื้อเยื่อ การทดลองพิษครึ่งทันควัน โดยให้สารสกัดขนาด 25, 50 รวมทั้ง 100 mg/kg แต่ละวัน ตรงเวลา 28 วัน ผลวิจัยไม่เจอความแตกต่างจากปกติของน้ำหนักตัว อวัยวะ รวมทั้งเยื่อ ค่าชีวเคมีในเลือด และระดับเอนไซม์ตับธรรมดา แต่ว่าการให้ในขนาด 50 และก็ 100 mg/kg พบว่าทำให้ระดับ lymphocyte (เม็ดเลือดขาว) ลดน้อยลง
[/b]
ข้อเสนอแนะ/ข้อควรปฏิบัติตาม
ถึงแม้จากรายงานการศึกษาทางพิษวิทยารวมทั้งการทดสอบต่างๆไม่เจอความเป็นพิษของเปราะหอม แม้กระนั้นในการใช้ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลแล้วก็ระมัดระวังในการใช้เหมือนกับสมุนไพรประเภทอื่น
เอกสารอ้างอิง
ณาตยา ธนะศิริวัฒนา, สุนิดา ณ ตะกั่วทุ่ง, ธนนันต์ ฐานะจาโร.องค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ต้านจุลชีพของน้ำมันหอมระเหยจากเปราะหอม กระชายดำ และเฒ่าหนังแห้ง.โครงการพิเศษคณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.1997.
สุภิญญา ติ๋วตระกูล, สุปรียา ยืนยงสวัสดิ์, โสภา คำมี และ ลัทธยา อัศวจารุวรรณ.การศึกษาองค์ประกอบทางเคมีและฤทธิ์ทางชีวภาพของน้ำมันหอมระเหยจากเหง้า.วารสารสงขลานครินทร์ ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.2548;27(Suppl 2):503-507.
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. 2546. ประมวลผลงานวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 1.โรงพิมพ์การศาสนา:กรุงเทพมหานคร.
Tara SV, Chandrakala S, Sachidananda A, Kurady BL, Smita S, Ganesh S. Wound healing activity of alcoholic extract of Kaempferia Galanga in wistar rats. Indian J Physiol Pharmacol.2006;50(4):384–390.
วุฒิ วุฒิธรรมเวช.(2540). สารานุกรมสมุนไพร: รวมหลักเภสัชกรรมไทย. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
Sookkongwaree K. HIV-1 reverse transcriptase inhibitors from family Zingiberaceae.  Doctoral Philosophy in Chemistry.  Bangkok, Chulalongkorn University; 2004.
Kanjanapothi D, Panthong A, Lertprasertsuke N, Taesotikul T, Rujjanawate C, Kaewpinit D, et al. Toxicity of crude rhizome extract of Kaempferia galanga L. (Proh Hom). J Ethnopharmacology. 2004;90:359–365.
Huang L, Yagura T, Chen S. Sedative activity of hexane extract of Keampferia galanga L. and its active compounds. J Ethnopharmacology. 2008;120:123-125.
Sae-Wong C.  Studies on analgesic, antipyretic and anti-inflammatory activities of methanol extract of Kaempferia galanga L. in experimental animals . Master degree (Pharmacology).  Songkla Province, Prince of Songkla University; 2007.
ขาว,แดง.กลุ่มยาขับประจำเดือน.สรรพคุณสมุนไพร 200 ชนิด.โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีฯ(ออนไลน์)
.ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี(ออนไลน์)
.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์)

Tags : สรรพคุณเปราะหอม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ