Advertisement
ผัดเครื่องแกง เช่นใด ไม่ให้มีกลิ่นฉุน
แม่บ้านและพ่อบ้านหลายๆคน คงจะพบกับปมปัญหาผัดเครื่องแกงแล้วมีกลิ่นฉุนกันใช่ไหมคะ แถมบางครั้งกับข้าวยังมีกลิ่นฉุนติดมาด้วย ทำให้ไม่น่าทานเอาซะเลย นั่นเป็นเพราะเวลาที่คุณผัดเครื่องแกงนั้น คุณยังผัดเครื่องแกงไม่สุกแต่ใส่เนื้อสัตว์หรือผักลงไปเลย จึงทำให้มีกลิ่นฉุน และมีกลิ่นติดอาหารมาจนทานไม่อร่อยนั่นเอง วันนี้ เราจึงนำ
เคล็ดลับคู่ครัว[/i]การผัดเครื่องแกงไม่ให้มีกลิ่นฉุน และมีรสที่เอร็ดอร่อยน่ากินมากกันค่ะ ซึ่งกรรมวิธีนี้ นอกจากการผัดเครื่องแกงแล้ว ยังสามารถนำไปใช้กับการผัดพริกสดได้อีกด้วย ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีวิธีการผัดอย่างไร
1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันในปริมาณที่พอควรไม่มากไม่น้อยจนเกินไป รอจนน้ำมันเริ่มร้อน แล้วจึงใส่เครื่องแกง และกะปิลงไป แต่ใส่กะปิ ในสัดส่วน 1:4 ของเครื่องแกงพอนะคะ เพราะหากใส่มากเกิน อาหารก็จะเค็มเกินไปหรือเหม็นกลิ่นกะปิได้ ซึ่งจะทำให้ไม่ถูกปากนั่นเอง
2. ผัดเครื่องแกงให้สุก โดยใช้ไฟอ่อนๆ เพราะหากไฟแรงเกินไปก็อาจจะทำให้เครื่องแกงไหม้ได้ จะรู้ได้อย่างใดว่าเครื่องแกงสุกดีแล้ว คุณจะต้องดูว่าเครื่องแกงมีกลิ่นหอมหรือยัง หากเครื่องแกงมีกลิ่นหอมดีแล้วก็แสดงว่าสุกแล้วค่ะ
3. เมื่อเครื่องแกงสุกดีแล้ว ให้ใส่เครื่องปรุงลงไปให้ครบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา น้ำตาล ผงชูรส หรือรสดี ชอบรสชาติแบบไหนก็ปรุงได้ตามใจชอบเลยค่ะ ผัดต่ออีกสักครู่ แล้วจึงใส่เนื้อสัตว์ลงไป จากนั้นให้เร่งไฟขึ้นมาหน่อยในระดับปานกลาง เพื่อให้เนื้อหมูสุกเร็วขึ้น แต่หากเครื่องแกงแห้ง ก็ให้หยอดน้ำเปล่าลงไปหน่อย เพียงไม่เท่าไรก็พอค่ะ เพราะหากมากเกินไป ก็จะทำให้มีรสชาติที่กร่อยได้
4. เมื่อหมูสุก ให้ใส่ผักลงไป ผัดพอผักเริ่มเหี่ยว แล้วลองรสชาติดู หากขาดอะไร ก็ให้เติมลงไป แต่หากรสชาติอร่อยพอดีแล้ว ก็ให้ปิดไฟ แล้วตักขึ้นจากกระทะได้เลยค่ะ
เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ทานผัดเครื่องแกงที่มีรสชาติอร่อย ลงตัว และไม่เหม็นฉุนอีกด้วย นอกจากนี้ การทำผัดพริกสด อย่างเช่นผัดกระเพรา ผัดพริก ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกันค่ะ รับประกันว่า อาหารจะออกมาน่าทานและไม่มีกลิ่นฉุนแน่นอน ลองไปทำกันดูนะคะ อ้อ ลืมบอกไป ตอนแรกๆที่ผัดเครื่องแกงจะยังมีกลิ่นฉุนอยู่บ้างนะคะ แต่เมื่อผัดจนเครื่องแกงสุกแล้ว กลิ่นฉุนก็จะหมดไปเองค่ะ
เคล็ดลับคู่ครัว : ในการปรุง อย่าเพิ่งใส่น้ำปลาหรือน้ำตาลมากจน เกินควร เพราะหากอาหารมีรสชาติที่หวานเกินไปหรือเค็มเกินไป จะแก้ได้ยาก ควรใส่น้ำปลาหรือน้ำตาลทีละนิดก็พอ หากขาดรสชาติใด ก็ค่อยปรุงเรื่อยๆค่ะ
เครดิต :
http://เคล็ดลับน่ารู้.com/category/เคล็ดลับคู่ครัว/Tags : เคล็ดลับคู่ครัว