Advertisement
อาการแพ้ท้อง ระหว่างท้อง กับ 10 อาการแพ้ท้องที่ม่าม้าควรจะทราบ เพื่อต่อกรกับอาการต่างๆในระหว่างแพ้ท้องได้
อาการแพ้ท้อง ระหว่างมีครรภ์
- แพ้ท้องดีมากยิ่งกว่าไม่แพ้จริงไหม -
อาการแพ้ท้อง(Morning sickness) เป็นอาการหรือความรู้สึกที่ไม่สบายที่เกิดขึ้นกับหญิงมีครรภ์มากกว่า 80-90% ว่าที่คุณแม่ที่กำลังคิดแผนอยากตั้งครรภ์ หรือ แม่ที่กำลังตั้งครรภ์จึงมีเรื่องมีราวที่กลุ้มใจเช่นเดียวกัน คือ อาการแพ้ท้อง ซึ่งโดยมากมักมีลักษณะคลื่นไส้อาเจียน ตาลายศีรษะ เหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนแรงมากกว่าปกติ แต่อาการพวกนี้จะดียิ่งขึ้นเมื่อแก่ครรภ์มากกว่า 3 เดือน อาการแพ้ท้องอาจมีความร้ายแรงต่างกัน และก็อาการต่างกัน ซึ่งมีมูลเหตุการแพ้จาก
อาการคนท้อง[/b]
เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้ที่ อาการคนท้อง
http://www.konthong.com3 ต้นเหตุ ดังต่อไปนี้
1. ร่างกายหรูหราฮอร์โมนเอสโตรเจนและก็ฮอร์โมนเอชซีจี (HCG – Human chorionic gonadotropin) ที่เกลื่อนกลาดสร้างสูงขึ้น
2. อาการกังวลระหว่างท้อง และก็สภาพความพร้อมของร่างกายและจิตใจคุณแม่
3. ต้นเหตุอื่นๆเช่น ระบบประสาทอัตโนมัติบกพร่อง ทำให้สมดุลฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยน
- การแพ้ท้องก็มีข้อดีนะ-
แม้ว่าการแพ้ท้องอาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกไม่เป็นสุข แต่การแพ้ท้องเป็นกลไกของร่างกายที่
สร้างปฏิกิริยาสนองตอบต่อสิ่งแวดล้อมของคุณแม่เพื่อป้องกันอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการจะมีมากในตอน 3 เดือนแรกซึ่งเป็นช่วงที่สำคัญมากสำหรับในการสร้างอวัยวะสำคัญของลูก เป็นต้นว่า สมอง หัวใจ ปอด แขนขา เป็นต้น ร่างกายก็เลยปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้สึกว่าเกิดอันตรายต่อเด็กทารกน้อยในท้องคุณแม่ ยกตัวอย่างเช่น เหม็นน้ำหอมที่เคยใช้ เหม็นของกินบางอย่าง เป็นต้น อาการแพ้แบบนี้แม้จะสร้างความทรมานม่าม้าได้แม้กระนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี ที่แสดงว่าลูกน้อยในท้องพวกเราจะมีความแข็งแรงรวมทั้งไม่มีอันตรายแล้วยังปลอดภัยจากอันตราย ด้วยเหตุว่าเป็นปฏิกิริยาการไม่ยอมรับของกินที่เป็นพิษหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นโทษของลูกนั่นเอง ครรภ์เป็นพิษ
10 อาการแพ้ท้องที่ม่าม้าควรจะรู้และก็เตรียมความพร้อมจัดการ
1. อาการแพ้ท้องในแม่นั้น เกิดได้หลายอาการแล้วก็ต่างกันในแต่ละคน หรือม่าม้าบางคนบางทีอาจไม่มีอาการแพ้เลยก็ได้ ดังนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยของระดับของฮอร์โมน ความรู้สึกกลุ้มใจ ตลอดจนสภาพความแข็งแรงของร่างกายร่วมด้วย ซึ่งโดยทั่วไปจะมี อาการแพ้ท้อง 10 อาการดังนี้
2. อาการเหม็น หรือไวต่อกลิ่นมากยิ่งขึ้น ดังเช่น เหม็นของกินบางประเภท น้ำหอม บางเวลาเหม็นกลิ่นเต่าป๊ะป๋า แต่กลับชอบกลิ่นบางสิ่งบางอย่างอย่างเช่น กลิ่นข้าวหุงสุกใหม่ๆ
อาการคลื่นใส้อ้วก ผะอืด ผะอม อึดอัดท้องแล้วก็ทรวงอกจนกระทั่งอยากจะอาเจียนออกมา แม้ว่าจะท้องว่าง
3. ปวดแสบลิ้นปี่ ฮอร์โมนตอนท้องจะก่อให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารคลายตัวทำให้น้ำย่อยไหลย้อนกลับไปขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ และเวลาที่ม่าม้าอาเจียน รับประทานอาหารได้น้อย น้ำย่อยที่คลื่นไส้ออกมาจะทำให้แสบหลอดอาหารและก็ขมที่ลิ้นได้
4. ความชื่นชอบสำหรับการรับประทานเปลี่ยนไป เช่น อยากรับประทานอาหารแปลกๆหรือ อาหารที่มีรสเปรี้ยว
5. อาการเหน็ดเหนื่อย เพราะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สูงขึ้นส่งผลทำให้กล้ามเนื้อภายในร่างกายคลายตัวอาหารคนท้อง
6. ลักษณะของการปวดศรีษะ จากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป แล้วก็การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
7. อาการง่วงตลอดระยะเวลา ร่างกายอยากได้พัก
8. อารมณ์แปรปรวน จิตใจอ่อนไหว เครียด ตื่นตระหนกง่าย
9. ลักษณะของการปวดปัสสาวะเป็นประจำเกิดขึ้นจากระดับฮอร์โมนที่มากขึ้น จะเป็นในระยะแรกๆแล้วก็พักหลังมดลูกที่ขยายขนาดขึ้นจะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้ปวดเยี่ยวเป็นประจำ
10. อาการผื่นคัน หรือผิวหนังแพ้ได้ง่าย ดังเช่นว่าแม่บางบุคคลเป็นผื่นผื่น หรือ เป็นกระและฝ้าตามใบหน้า
- วิธีจัดการกับอาการแพ้ท้อง -
อาการแพ้ท้องในม่าม้านั้น มีได้ตั้งแต่อาการเล็กน้อย ไปจนถึงร้ายแรงจนถึงจะต้องนอนในโรงหมอ บางคนเริ่มแพ้ท้องตั้งแต่ตั้งท้องยาวไปถึงใกล้คลอดก็มี ซึ่งเรามีแนวทางการจัดการแล้วก็บรรเทาอาการแพ้ท้องที่แม่มีครรภ์สามารถทำได้ง่ายแล้วก็ได้ผล สามารถเป็นสุขกับการท้องได้ ดังต่อไปนี้คะ
1. สวมเสื้อผ้าที่หลวมโปร่งสบาย เพื่อร่างกายได้ผ่อนคลายเต็มกำลัง
2. งดเครื่องดื่มเย็น ชี้แนะดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆหลังตื่นนอนรุ่งเช้า ดื่มน้ำขิงลดอาการอึดอัดผะอืดผะอมและขับลมได้
3. ถ้าเกิดต้องการรับประทานอาหารรสเปรี้ยวแนะนำทานผลไม้รสเปรี้ยวมากยิ่งกว่าจะระลึกถึงของกินมักดองที่ไม่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย
4. ทานขนมปังกรอบหรือแครกเกอร์เช้าตรู่หลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้ว คุ้มครองท้องว่างและลดลักษณะของการปวดแสบท้องและก็หลอดของกิน
5. ทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย รวมทั้งของกินอุ่นๆสดใหม่เสมอ แล้วก็ แบ่งมื้ออาหารออกเป็น 5-6
มื้อต่อวันเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
6. รักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการมีลูกอม หรือขนมปังชิ้นเล็กพกประจำตัว น้ำผลไม้ไว้
กินเป็นของหวานระหว่างมื้อ อาการใกล้คลอด
7. หากิจบาปที่มักจะทำคลายเครียด อย่างเช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือบันเทิงใจๆ
8. เลี่ยงการใช้น้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น
9. หลังตื่นนอนห้ามลุกทันที รอคอยร่างกายปรับสภาพอย่างน้อย 5 นาที แล้วก็หาจังหวะพักหลับในช่วงกลางวัน
10. เลี่ยงสถานที่ร้อน อบอ้าว ผู้คนยัดเยียด
ส่วนแม่ที่มีอาการแพ้ท้องมากกว่าธรรมดา นั้น มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม เป็นให้ดูอาการรวมทั้งระดับความรุนแรงสำหรับในการแพ้ แล้วกระทำดังต่อไปนี้คะอาการแพ้ท้อง
1.แม่ที่มีลักษณะอาการนิดหน่อย ดังเช่น อาเจียน อยากจะอาเจียน แต่ยังเพียงพอทานได้ ควรจะทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เน้นของกินที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ยกตัวอย่างเช่น น้ำผลไม้สด น้ำขิง เลี่ยงอาหารรสจัด ของกินที่มีไขมันสูง หรือ ของกินกลิ่นฉุนๆ
2.ม่าม้าที่มีอาการปานกลาง มีลักษณะตั้งแต่อาเจียนรุนแรง เวียนศีรษะอยู่บ่อยๆรวมทั้งกินอาหารได้น้อย เสนอแนะให้ไปขอความเห็นหมอ บางทีอาจจะต้องขอรับยาบรรเทาอาการ อาทิเช่น ยาแก้วิงเวียน ยาช่วยสำหรับการย่อยและขับลม ลดอาการผะอืดผะอม อาการคนท้อง ฯลฯ
3.ม่าม้าที่มีลักษณะร้ายแรง จนไม่สามารถทานอาหารได้ มีอาการอ้วกอ้วกตลอดทั้งวัน อ่อนเพลีย จนถึงน้ำหนักลด ปากแห้งตลอดระยะเวลาซึ่งมาจากร่างกายได้รับน้ำและก็ของกินไม่เพียงพอ เสนอแนะให้ไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เนื่องจากบางทีอาจต้องไปนอนรักษาอาการในโรงพยาบาลอย่างเช่น ให้ น้ำเกลือชดเชยน้ำและเกลือแร่ ด้วยเหตุว่าถ้าปล่อยไว้จะเกิดอันตรายต่อลูกน้อยขา
แหล่งที่มา บทความอาการคนท้อง
http://www.konthong.comTags : อาหารคนท้อง
