ที่ตั้งของครัวควรจะหันไปในด้านที่รับแสงและลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่องประตู

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่ตั้งของครัวควรจะหันไปในด้านที่รับแสงและลมให้ผ่านเข้ามาในห้องครัวตามช่องประตู  (อ่าน 16 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
teeratum123
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 20032


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มิถุนายน 09, 2019, 02:56:33 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ทีมสถาปนิกมากฝีมือประสบการณ์สูงทั้งทั้งประเทศไทยและเทศ ออกแบบบ้าน ห้องนอน ห้องครัว ซ่อมซ่อมต่อเติม  renovate บ้าน คุยต่อรองได้
 
 
ตำแหน่งที่ตั้งของครัวนั้นขึ้นกับขนาดพื้นที่ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นครัวเปิดแบบอยู่ภายในตัวบ้านซึ่งสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างสม่ำเสมอหรือเลือกครัวแบบปิด บางทีอาจตั้งอยู่นอกบ้าน เเต่ไม่ว่าจะห้องครัวแบบไหนก็ควรหันไปในด้านที่รับแสงรวมทั้งลมให้ผ่านเข้ามาในครัวตามช่องประตู หน้าต่าง รวมทั้งช่องแสงสว่าง  รับเหมาต่อเติมบ้าน[/i] รีโนเวทให้บริการับต่อเติมบ้าน[/u][/url]

ทิศของเเสงกับครัว
เเนวคิดหลักก็คือครัวควรจะอยู่ในทิศที่มีเเสงสว่างส่องเข้าถึงได้ เพื่อให้เเสงแดดได้ฆ่าเชื้อโรคต่างๆและก็ไล่ความชื้นด้านในห้องครัว โดยยิ่งไปกว่านั้นรอบๆอ่างล้างถ้วยชามควรจะอยู่ใกล้กับช่องหน้าต่าง จะได้ช่วยให้อากาศระบายและระบายกลิ่นต่างๆเวลาปรุงอาหาร นอกจากนั้นยังทำให้ครัวเย็นสบาย
...มาดูผลจากการตั้งห้องครัวในเเต่ละด้านกันดีกว่า…
- เเสงทางทิศเหนือให้ความสว่างกับห้องครัวได้ตลอดทั้งวัน เเต่ไม่กำเนิดความร้อน เพราะเหตุว่าไม่ใช่ทิศทางโคจรของดวงตะวัน
- เเสงทางทิศใต้ชอบส่องห้องครัวในช่วงฤดูหนาว เเละจะให้เเสงพอเหมาะพอควรในฤดูร้อน การที่ทำช่องเเสงบนหลังคาทางใต้จะช่วยทำให้ครัวได้รับเเสงในฤดูหนาวได้สุดกำลัง เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวดวงตะวันจะอ้อมไปทิศใต้
- เเสงทางทิศตะวันออก ห้องครัวที่หันไปทางทิศนี้จะได้รับเเสงแดดรุ่งเช้า ทำให้ห้องได้รับเเสงสว่างและความร้อนเพราะเหตุว่าเป็นด้านที่พระอาทิตย์ขึ้น
- เเสงทางทิศตะวันตก ห้องครัวจะได้รับแดดบ่ายจนถึงเย็นก็จะไม่ค่อยสะดวกสบายถ้าทำอาหารในช่วงนี้ ถ้าเกิดมีหน้าต่างใช้มูลี่ปรับเเสงหรือม่านบัง หรือจะปลูกต้นไม้เพื่อลดแสงกับความร้อนก็ได้

ตำแหน่งที่สมควรของครัวในบ้าน
โดยทั่วไปชาวตะวันออกมั่นใจว่าตำแหน่งที่สมควรสำหรับห้องครัวที่สุดในบ้านคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่รับแสงและลมได้อย่างพอเหมาะพอควร ส่วนถ้าเป็นความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จะชอบให้ห้องครัวอยู่ทางทิศตะวันออกแล้วก็ทิศใต้ เพราะเหตุว่าทางทิศตะวันออกห้องครัวจะได้รับเเสงแดดตั้งเเต่ตอนเช้าถึงเที่ยง เเละเวลาเย็นจะเย็นสบายเวลาปรุงอาหาร ส่วนทิศใต้นั้นมีลมพัดผ่าน ทำให้อากาศถ่ายระบายได้สะดวก
สำหรับใครกันแน่ที่กำลังสร้างบ้าน ช่วงนี้คงจะตกลงใจเลือกได้เเล้วใช่มั้ยขาว่าจะสร้างครัวไว้ทางด้านไหนดี ถูกใจแบบไหนก็เลือกอย่างนั้นได้เลย สิ่งสำคัญเลยก็คือแสงเเละลมควรต้องส่องผ่านเข้าไปในครัว เพื่อช่วยระบายอากาศ ไม่ให้กลิ่นหลงเหลือในครัวนะคะ
 
เว้นเสียแต่ฮวงจุ้ยที่เหมาะสำหรับสร้างบ้านแล้ว เจ้าของบ้านควรทราบด้วยว่า ฮวงจุ้ยลักษณะไหน ที่ไม่ควรไปสร้างบ้านในบริเวณนั้น

1. มีกระแสลมแรงพัดผ่านตลอดเวลา พลังของลมจะพัดพาทรัพย์สินเงินไม่ให้เหลือเก็บ แม้กระนั้นถ้าหากไม่มีลมพัดเลย พลังงานที่ดีก็จะไม่เวียน ฮวงจุ้ยที่ดีคือมีลมพัดผ่าน อากาศถ่ายเทดี แม้กระนั้นไม่ใช่พัดแรงตลอดเวลา

2. มืดรวมทั้งเย็น มีความหมายว่ามีพลังหยินมากจนเกินความจำเป็น ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ง่าย รวมทั้งเป็นที่อยู่ของวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานที่ไม่ดี ไม่ควรอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์

3. ทางชันพุ่งเข้าพบประตู ราวกับสร้างบ้านบนปลายอาวุธ มีแต่อันตราย ไม่ใช่เรื่องดี

4. ถนนหนทางพุ่งเข้าบ้าน เป็นลักษณะของทางสามแพร่งหรือทางผีผ่าน ยิ่งถนนยาว มีรถยนต์มากมาย ยิ่งอันตราย

5. ใกล้ทางโค้ง คล้ายรูปเคียวโดยยิ่งไปกว่านั้นสะพาน หรือวงเวียน เห็นรถยนต์หรือสิ่งที่จะเข้ามาในบ้านได้ยาก อาจอันตรายทั้งจากขโมยลักขโมยและก็เป็นจุดดักพลังงานที่ไม่ดี

6. ประชิดด้วยอาคารสูง ทั้งยังซ้ายขวาหรือ หน้าหลัง ในลักษณะเหมือนหนีบบ้านที่อยู่ตรงกลาง ไม่ดี เนื่องจากเป็นรูปแบบของโลงศพ บ้านที่อยู่กึ่งกลางเป็นศพ ตาย ไม่มีทางรู้สึกตัวพอๆกับทำมาหากินไม่ขึ้น

7. มุมแหลมของบ้านข้างๆพุ่งเข้าพบตัวบ้าน รูปแบบนี้เป็นลักษณะของศรพิฆาต พลังของความคิดร้ายต่างๆจะพุ่งเข้ามาที่บ้าน

8. ด้านหน้าบ้าน เป็นสถานีตำรวจ ศาลเจ้า คุกสถานที่ดับไฟ สถานที่กลุ่มนี้เป็นแหล่งรวมของเรื่องทุกข์เข็ญแล้วก็ความเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งจะส่งผลมาถึงคนในบ้านด้วย

9. ที่ดินทางเข้าน้ำ ถือว่าไม่เป็นมงคล เพราะเหตุว่าน้ำไหลตลอดเวลา เก็บทรัพย์ไม่ได้ อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกกัดเซาะและน้ำหลากอีกด้วย

10. มีต้นไม้ยืนต้น เสาไฟ หรือเสาหลัก ขวางตรงประตูหน้าบ้าน ข้าวของกลุ่มนี้ถือเป็นสิ่งอัปมงคล ไม่ควรให้ตั้งอยู่หน้าบ้าน

11. มีคลอง ร่องน้ำ ไหลผ่านตัวบ้าน ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย

12. มีแอ่งกึ่งกลางบ้าน หรือกลางตัวบ้านเป็นหลุมบ่อ กลางบ้านเป็นหัวใจของพลังงานในบ้าน ถ้ายุบหรือเป็นหลุมลงไปย่อมไม่เป็นมงคล
 
ไม้แต่ละชนิดมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน จึงควรรู้จักลักษณะเฉาพะตัวของไม้ที่นิยมใช้กันในบ้านพวกเรา เพื่อจะได้เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้แรงงาน โดยเรียงลำดับความแข็งแรงของแก่นไม้จากมากมายไปน้อย
ไม้แดง เนื้อไม้มีสีแดงเรื่อๆถึงสีน้ำตาลอมแดง เนื้อละเอียดพอสมควร เนื้อเหนียวแข็งแรงรวมทั้งแข็งแรง แต่ว่ายืดหดตัวค่อนข้างมากมาย ก็เลยต้องผ่านการอบมาอย่างดี นิยมใช้ก่อสรา้งในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง ดังเช่นว่าพื้น วงกบประตูหน้าต่าง เครื่องตกแต่งบ้าน ถ้าปูพื้นจะต้องเว้นขอบพื้นให้ห่างจากผนักมากยิ่งกว่าไม้จำพวกอื่น

ไม้ปรอบเดือน เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดงอิฐเข้มมีความแข็งใกล้เคียงไม้แดง มีลวดลายสวยงามเนื้อละเอียดปานกลาง แต่งผิวแล้วก็ชักเงาได้ดี แต่ว่าคนไม่ค่อยถูกใจเนื่องจากบางเวลาสีเป็นจ้ำ

ไม้เต็ง แรกๆเนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อน แล้วจะค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลแก่แกมแดง เนื้อหยาบคายแต่ว่าสม่ำเสมอ นิยมใช้ทำส่วนประกอบอย่างคาน ตง และพื้น ในตลาดมีทั้งไม้เต็งไทยแล้วก็ไม้เต็งมาเลย์ แม้กระนั้นไม้เต็งไทยจะทนกว่า

ไม้มะค่า เนื้อไม้สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่แล้วก็จะเข้มขึ้นเมื่อทิ้งไว้นาน มีเส้นเสี้ยน เนื้อออกจะหยาบคาย แม้กระนั้นเป็นประจำ วาวเลื่อมมองเห็นลายไม้ชัดเจน ทนมอดปลวกได้ดี มีการยืดหดค่อนข้างน้อย

ไม้สัก (บางตำราจัดเป็นไม้เนื้ออ่อน) เนื้อไม้มีสีเหลืองทองคำรวมทั้งค่อยๆกลายเป็นสีน้ำตาลและน้ำตาลแก่ มีกลิ่นเสมือนหนังขัดเก่าๆมีจุดแข็งที่ลายไม้สวยสดงดงามแม้กระนั้นถ้าเกิดใช้งานหนักๆจะเป็นรอยง่ายจำเป็นจะต้องเคลือบด้วยวาร์นิชที่ช่วยทำให้ไม้ทนการขัดเช็ดมากยิ่งขึ้น
 
พื้นเส้นใยซีเมนต์

เป็นการผสมเส้นใยไม้และปูซีเมนต์ก็เลยมีความแข็งแรง ทนแดด ทนฝน แล้วก็ปลวกไม่รับประทาน เนื้อเหนียวคล้ายไม้สามารถทำสีได้ตามอยากได้ เหมือนกับไม้ อายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,000-1,300 บาท

ไม้ผสมพอลิพรอพิลีน(PE)

คือสิ่งของที่สร้างขึ้นจากเยื่อไม้ผสมกับวัสดุสังเคราะห์ประเภทพลาสติกหรือพอลิพรอพิลีน (PE) ทำให้มีผิวสัมผัส ความยืดหยุ่น และคุณลักษณะเหมือนไม้ แม้กระนั้นคงทนอย่างพลาสติกผู้ผลิตเสร็จจากโรงงาน และก็มีระบบการต่อว่าดตั้งที่สะดวก ผู้ผลิตบางรายดีไซน์ให้มีหมดทั้งตัวล๊อค ตงรวมทั้งไม้ปิดข้างๆสำเร็จรูป อายุุการใช้งาน 15 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละราว2,000 บาท

ไม้สน

เป็นไม้นำเข้า ซึ่งมีให้เลือกอีกทั้งไม้สนโตเร็ว (วงปีห่าง) ที่นิยมนำมาปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ แล้วก็ไม้สนโตช้า (วงปีถี่กว่า) ที่นิยมปลุกในประเทศแถบยุยงโปรตอนเหนือ แม้ว่าจะเป็นไม้เนื้ออ่อนแต่ว่าก็ผ่านการอบ อาบน้ำยาป้องกันแมลง รวมทั้งเพิ่มสารเคมีให้มีความทนทาน ก็เลยสามารถใช้ภายได้ มีข้อดีที่มีสีอ่อน และก็สีสันจะเปลี่ยนเป็นสีอมเทามองสวยไปอีกในลัษณะหนึ่ง อายุการใช้งาน10 ปีขึ้นไป ราคาตารางเมตรละ 1,200-1,500 บาท

แผ่นไม้พื้นระเบียบปฏิบัติสำเร็จรูป

เป็นการนำไม้เนื้อแข็งมาติดบนแผ่นตะแกรงพลาสติกพอลิพรอพิลีน มีระบบล็อกระหว่างแผ่น ส่วนใหญ่มีขนาดมาตราฐาน 30 x 30 และ 45 x 45 เซนติเมตร สามารถวางบนพื้นปูนหรือกระเบื้องเดิมได้ทันที ราคาขึ้นกับขนาดและก็ดีไซด์ ราคาแผ่นละ 150-300 บาท
 
พื้นไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต(laminated Flooring)

เป็นหลักไม้สำเร็จรูปที่นำเศษไม้มาอัดเป็นแผ่น ปิดผิวหน้าด้วยเมลามีนเรซิน เพื่อคุ้มครองการขีดข่วน แล้วก็การยืดหดตัวของแผ่นไม้มีทั้งยังชนิดผิวหน้าเรียบและประเภทมีผิวพิ้นสัมผัส

พื้นไม้ปิดผิวด้วยแผ่นวีเนียร์(Wood Veneer Flooring)

เป็นไม้ปูพื้นที่มีลักษณะคล้ายกับไม้ลามิเนตแต่ว่ามีความแข็งแรงน้อยกว่า มีผิวหน้าเป็นแผ่นวิเนียร์ไม้จริง รองด้วยแผ่นไม้อัดหรือไม้ HDF (High Desity Fiber Board) ฉาบผิวหน้าด้วย น้ำยาเคลือบแข็งหรือสารคุ้มครองป้องกันรีงสีแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อความทนทาน

พิื้นไม้จริงแนวทางเอนจิเนียร์(Prenished Engineered Floor)

วัตถุดิบ ด้วยการใช้ผิวหน้าไม้จริงและก็เกาะติดด้านล่างด้วยแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นสูง (HDF) หรือใช้ไม้จริงที่มีคุณภาพรองลงมาวางซ้อนกันหลายๆชั้นแล้วอัดประสานด้วยการพร้อมอัดน้ำยากันปลวกแล้วก็ฉาบด้านหลังไม้เพื่อคุ้มครองปกป้องความชื้้น

พื้นไม้จริงสำเร็จรูป (Prenished Solid Floor)

เป็นไม้จริงอีกทั้งแผ่นที่ได้วิวัฒนาการผลิตให้ได้มาตรฐาน โดยผ่านกรรมวิธีการอบแห้ง อัดน้ำยากันปลวกทำสีรวมทั้งเคลือบผิวหน้ามาจากโรงงานพร้อมออกแบบระบบการปกป้องความชุ่มชื้นแล้วก็การต่อไม้เข้าลิ้นให้จัดตั้งสะดวกขึ้นก็เลยจัดตั้งได้รวดเร็ว ลดปัญหาไม้หดหรือปิดตัว อีกทั้งมีลวดลายรวมทั้งสีสันให้เลือกมากเพราะเหตุว่ามีทั้งไม้จากยุโรป สหรัฐอเมริกาและเอเซีย ราคาพื้นไม้สำเร็จรูป ตารางเมตรละ 700-2000 บาท
 
แผ่นไผ่อัด

ผลิตขึ้นจากไม้ไผ่ในประเทศ โดยเอามาผ่านกรรมวิธีการดูดอากาศ อัพน้ำยา และอบแห้ง เพื่อให้แก่นไม้แน่นและก็อยู่ตัว ก็เลยมีความแข็งแรงมากขึ้น ปลอดแมลงกันกิน นำมาผ่าซีกแล้วก็ไสตามขนาดที่อยาก อัดผสานด้วยกาวในระดับความร้อนสูงให้เป็นแผ่น รวมทั้งนำไปดัดแปลงใช้งาน ได้นานัปการ ทั้งกรุฝาผนัง ทำพื้นไม้ ฝ้าเพดานเครื่องเรือน และก็หลังคา ราคาตารางเมตรละ1,000-3,000 บาท

อุปกรณ์ชดเชยไม้พร้อมโครงคร่าวๆสำเร็จรูป

ทำจากไม้ผสอมพอลิพรอพิลีน(PE) ออกแบบให้มีหลายขนาดพร้อมโครงคร่าว สามารถเอามาประกอบตามรูปแบบที่ปรารถนาได้ เหมาะกับทำฝาผนังและก็ฝ้าเพดานทั้งด้านในและก็ภายนนอกราคาตารางเมตรละ 1,500 -2,000 บาท

แผ่นฝาผนังไม้สำเร็จรูป

เป็นไม้จริงและก็โครงพร้อมติดตั้ง ขนาด 60×60 เซนติเมตร มีอีกทั้งจำพวกฝาผนังโปร่งและฝาผนังทึบ สามารถที่จะนำมาใช้ทำฝาผนังบังตา ฝาผนังตกแต่งอีกทั้งด้านในและภายนอก ราคาตารางเมตรละ 3,500-4,300 บาท
 
ติดต่อใช้บริการได้ที่: บริษัท คอมพลีทโฮม COMPLETE HOME จำกัด
รับ: ผู้รับเหมา ต่อเติมบ้าน
โทรศัพท์: 0959502635
Email: completehomecontact@gmail.com

เครดิต : [url]http://www.completehome.co.th/[/url]

Tags : รับต่อเติมบ้าน,ต่อเติมบ้าน, renovate บ้าน



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ