Advertisement
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ (The Prehistoric Periods) ตามหลักความจริง สมัยก่อนประวัติศาสตร์แปลว่า สมัยที่เกิดขึ้นก่อนการบันทึกเรื่องราวต่างๆโดยมนุษย์ ซึ่งข้อมูลที่พวกเราได้มานั้นมาจากนักโบราณคดี ตำนาน และก็จารีตที่ตกทอดต่อกันมา
ยุคหินเก่า ยุคหินกลาง และยุคหินใหม่ (Paleolithic, Mesolithic and Neolithic Periods)
ยุคหินเก่า ยุคหินกลาง และยุคหินใหม่ เป็นยุคหินที่อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมในสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน โดยเฉพาะตอนแรกเริ่มของยุคหินใหม่ที่มีการเปลี่นแปลงครั้งยิ่งใหญ่ จากวิธีทางการดำรงชีวิตแบบร่อนเร่พเนจรมาเป็นการดำรงชีวิตในหมู่บ้านและก็มีอาชีพทำการเกษตร
ยุคสำริด (The Bronze Age 3000 – 1100 B.C.) (หลังยุคหินและก่อนสมัยเหล็ก) ระบบการแบ่งยุคเป็นแถวคิดมาจากระดับการพัฒนาของมนุษยชาติ เริ่มจากยุคหิน ต่อมายุคสำริดแล้วก็ยุคเหล็ก ซึ่งเวลานี้คำว่า “อุตสาหกรรม อวกาศหรือปรมาณู” ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งในโลกเดี๋ยวนี้ก็ถูกตั้งให้อยู่ในบรรทัดฐานเดียวกัน ตามหลักหลักเกณฑ์ในโบราณคดี สมัยสำริดแบ่งได้เป็นสมัยย่อยๆ3 สมัย คือ ต้น กลาง ปลาย อารยธรรมมิโนอัน(Minoan) บนเกาะครีต (Crete) เป็นอารยธรรมที่ดั้งเดิมที่สุดในบรรดาอารยธรรมกรีก เข้ามามีอำนาจปกคลุมในช่วงต้นรวมทั้งกึ่งกลางของยุค ซึ่งบังอารยธรรมไมซีแนเอียน (Mycenaean) ที่มีผลกระทบอยู่บนแผ่นดินใหญ่ของกรีซในช่วงปลายของยุคสำริด
ยุคเหล็กตอนต้น (The Early Iron Age 1100 – 900 B.C.) อารยธรรมไมซีแนเอียน (Mycenaean) ได้พังทลายในช่วงท้ายของสมัยสำริด ซึ่งทำให้ศูนย์กลางเมืองที่ใหญ่โตรโหฐานหายไปกับการต่ำลงของปริมาณสามัญชนในสิ่งแวดล้อมพื้นที่ใกล้เคียง วัฒนธรรมก็ทรุดโทรม เช่น ศิลปะสำหรับในการเขียน การขาดแคลุกลี้ลุกลนข้อมูลที่เกิดขึ้นในยุคนี้ทำให้ยากแก่การเข้าใจของความเคลื่อนไหวระยะเวลา ครั้งคราวยุคนี้ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ยุคมืด (Dark Age)” ในจารีตภาษากรีกโบราณได้กล่าวไว้ว่า ทหารเผ่าดอเรียน (Dorian) ได้ล่วงล้ำทางตอนใต้ของกรีซ ก็เลยได้เฉดหัวไล่พวกไมซีแนเหม็นเบื่อทั้งหลายแหล่ออกไป ในเวลาถัดมาไม่นาน ได้บังคับให้ชาวภาษากรีกออกไปจากที่ที่อยู่ ให้ย้ายไปอยู่กับทวีปเอเชียไมเนอร์ (ดินแดนทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปเอเชียที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียกับยุโรป แหลมอานาโตเลีย) ตามที่สมมุติไว้ว่า นำโดยผู้สืบสาย Ion ของเอเธนส์ และไปตั้งรกรากใหม่ตามริมตลิ่งไอโอเนียน (Ionian)
ยุคเรขาคณิต (The Geometric Period 900-700 B.C.) ในตอนยุคนี้ได้มีการริเริ่มนครรัฐ รวมทั้งเอเธนส์ (Athens) โครินธ์ (Corinth) และก็สปาร์ตา (Sparta) เป็นยุคที่เริ่มเห็นการพัฒนาประเสริฐเกี่ยวกับศิลปะ ผลผลิตในรูปแบบของกระเบื้องเคลือบ รวมทั้งลุกขึ้นยืนค้าขายกับพื้นที่ใกล้เคียงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีการจัดตั้งกลุ่มในอิตาลีและก็ซิซิลี ตอนกึ่งกลางของศตวรรษที่ 8 การพัฒนาสำหรับในการเขียนนั้นได้นำยุคมืดออกมาเปลี่ยนเป็นยุคประวัติศาสตร์ที่พวกเราสามารถพูดได้อย่างถูกต้อง นักแต่งกลอนในตำนานชาวกรีกโฮเมอร์ (Homer) ซึ่งชาวภาษากรีกโบราณเชื่อกันว่าโฮเมอร์เป็นนักประวัติศาสตร์ ผู้ครอบครองมหากาพย์อีเลียด (Iliad) และโอดิสซีย์ (Odyssey) ได้แพร่กระจายไปทั่วในยุคนี้ด้วยค่ะ
สมัยโบราณ (The Archaic Period 700-480 B.C.) กรีซยุคอาร์เคอิค
ความเจริญก้าวหน้าของแต่ละนครรัฐทำให้ศูนย์กลางทางด้านการเมืองศาสนา ปรัชญา รวมทั้งการพัฒนาศิลปะเพิ่มขึ้นหลายๆเมืองในแผ่นดินใหญ่ภาษากรีก หมู่เกาะอีเจียน (Aegean Islands) และริมตลิ่งไอโอเนียนถูกควบคุมโดยทรราช ซึ่งไม่เป็นไปตามอำนาจรัฐธรรมนูญ แต่เป็นไปตามความชื่นชอบของผู้ส่งเสริมและสนับนุนมากกว่า ผลงานการบรรลุเป้าหมายในยุคนี้มองเห็นได้จาก รูปปั้นเชิงอนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมวิหารหิน รวมทั้งแผนผังสิ่งปลูกสร้างเมืองในช่วงท้ายของศตวรรษที่ 6 เมืองกรีกต่างๆที่อยู่ทางทิศตะวันออกของอีเจียนและก็เอเชียไมเนอร์ถูกอาณาจักรเปอร์เซียครอบงำ การปฏิวัติของชาวภาษากรีกที่อาศัยอยู่บนริมฝั่งไอโอเนียนล้มเหลว ทำให้มีอาการชาวอิหร่านรุกรานแผ่นดินใหญ่กรีซ 490-480 ปีก่อนคริสต์กาล ซึ่งสมัยโบราณได้จบลงอย่างเป็นทางการพร้อมทั้งความปราชัยของกองทหารอิหร่านในการศึกสาลามิส ภายหลังจากการปราบกองทหารอิหร่าน เอเธนส์กลับมามีอำนาจควบคุมนครรัฐต่างๆของกรีซหรือเรียกว่าสันนิบาตเดเลียน (Delian League) สำหรับการผนึกกำลังกันและก็จัดระเบียบวางแผนคุ้มครองป้องกันการรุกรานจากอิหร่านอีก คุ้มครองผลตอบแทนและสร้างความยั่งยืนมั่นคงให้นครรัฐของตัวเอง
ยุคคลาสสิค (The Classical Period 480-323 B.C.) ในความเห็นของนักประวัติศาสตร์ จุดสูงสุดของอารยธรรมกรีก คือวรรณคดี อักษรศาสตร์ บทละคร และก็ศิลป์ ซึ่งเจริญมากที่สุดในโลกของภาษากรีก ในตอนต้นๆของยุคคลาสสิค เอเธนส์มีอำนาจมั่งคั่ง มั่งคั่ง และก็บรรลุความสำเร็จสำหรับการนำระบบประชาธิปไตยของรัฐบาลมาเป็นหัวเรือ เอเธนส์ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยบ่อแร่เงิน โดยสันนิบาตเดเลียนใช้เป็นของกำนัลจนถึงท้ายที่สุดกลายเป็นอาณาจักรเอเธนส์อย่างแท้จริง การวางแผนงานการสร้างตึกในเอเธนส์รวมทั้งวิหารพาร์เธนอน โบสถ์ต่างๆและก็เมืองบริวารเกิดขึ้นในยุคนี้ด้วยเหมือนกัน ในช่วงท้ายของศตวรรษที่ 5 ความไม่ถูกกันของนครรัฐกรีกต่างๆนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการรบเปลโอปอนนีเซียน (Peloponnesian War) ส่งผลให้เอเธนส์ถูกบดขยี้จนกระทั่งบรรลัย ซึ่งในทศวรรษถัดมา พระผู้เป็นเจ้าฟิลิปที่ 2 ที่อาณาจักรมาซิโดเนียน (Macedonian) เริ่มเข้ามามีอำนาจดูแลจนกระทั่งบรรลุถึงที่สุดในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช
ยุคเฮเลนนิสติค (The Hellenistic Period 323- 31 B.C.) การประสมประสานระหว่างปรัชญาและวัฒนธรรมรุ่งโรจน์ของชนชั้นปกครอง ทำให้เปลี่ยนเป็นวัฒนธรรมแบบใหม่ที่เจริญยิ่งขึ้น ภายหลังพระผู้เป็นเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชตาย เมื่อพระชนมายุ 33 ปี มีกษัตริย์ดูแลกรีซสืบต่อมาอีก 3 รัชกาลจักรวรรดิถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ เอเชียไมเนอร์ อียิปต์ รวมทั้งอาณาจักรมาซิโดเนียในกรีซ แว่นแคว้นเฮเลนนิสติคเป็นศูนย์กลางของการเล่าเรียนและก็การอนุเคราะห์ในศิลปะ เป็นต้นว่า สถาบัน แล้วก็ห้องหนังสือที่อเล็กซานเดรียรวมทั้งที่เพอร์กามาอน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบรักษา รวมทั้งถ่ายทอดความเป็นนักวิชาการและงานการประพันธ์รุ่นแรกๆท้ายสุดเอเธนส์ก็เป็นศูนย์กลางทางด้านการเมืองที่สำคัญ และยังเป็นบ้านเกิดของสถานที่เรียนปรัชญาที่สำคัญอีกด้วย
สมัยโรมันในกรีซ (The Roman Period in Greece 31 B.C. – A.D. 323) สุดท้ายราชอาณาจักรเฮเลนนิสติคถูกกลืน เพราะเหตุว่าอำนาจของโรมันที่เติบโตล้ำหน้ากว่า 31 ปีก่อนคริสต์กาล ความพ่ายแพ้และก็การเสียชีวิตของแอนโทนี (Antony) แล้วก็คลีโอพัตรา (Cleopatra) ผู้ดูแลราชวงค์ปโตเลมีองค์ในที่สุด อ็อกตาเวียน (Octovian) จึงได้สะสมภาษากรีกทั้งปวงเข้าด้วยกันไปยังเขตแดนโรมัน ศูนย์การเรียนรู้และก็ศิลป์ต่างๆในรัฐเอเธนส์ โรด เดลอส เดลฟี ยังดำเนินเฟื่องฟูต่อไปในสมัยโรมัน โดยเฉพาะภายใต้การค้ำจุนของจักรพรรดิ์ฟิเฮเลนนิค มีเมืองโรมันหลักๆในทวีปเอเชียไมเนอร์ได้แก่ Hadrian, Ephesos, Pergamon รวมทั้ง Aphrodisias
สมัยไบแซนไทน์ในกรีซ (The Byzantine Period in Greece A.D. 323 – 1453) ครึ่งเดียวทางทิศตะวันออกของอาณาจักรโรมัน จักรพรรดิ์คอนสแตนตินได้ก่อตั้งเมืองหลวงใหม่ มีชื่อว่า“Nova Rome” มีความหมายว่า “โรมใหม่” (New Rome) หรือมีชื่อเสียงกันทั่วๆไปในชื่อว่า กรุงคอนสแตนติโนเปิล “Constantinople” (ปัจจุบันนี้ คืออิสตันบูล) การยอมรับด้านการเมืองและก็ความเคลื่อนไหวทางศาสนา ความเลื่อมใสของคริสตศาสนิกชน ได้เปิดทางให้อาณาจักรโรมัน ดำเนินต่อไปในแบบอย่างศาสนาคริสต์ ในปี 1204 ภายหลังที่กรุงคอนสแตนติโนเปิลถูกไล่ส่งด้วยความสามารถกองกำลังอาจารย์เสด ดินแดนของกรีซทั้งสิ้นตกอยู่ใต้กรรมสิทธิ์เวนิเชียน การถูกรุกรานทำให้อิทธิพลของอาณาจักรไบแซนไทน์ถดถอย และก็ถึงตอนสุดท้ายเมื่อเติร์กยึดครองกรุงคอนสแตนว่ากล่าวโนเปิลในปี 1453
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
[url]http://33qquu.com[/url]
ที่มา :
[url]http://33qquu.com/สัมผัส-บาคาร่า-ออนไลน์-ช/[/url]
Tags :
http://33qquu.com,33qquu.com,33qquu