Advertisement
นิทานเรื่องพญาคันคาก เป็นนิทานพื้นบ้านภาคอีสานแล้วก็เป็นตำนานบั้งไฟพญานาค คำว่า “คันคาก” เป็นคำลาวภาคอีสานแล้วก็สองฝั่งโขง ตรงกับคำไทยแถบที่ลุ่มเจ้าพระยาภาคกลางว่า “คางคก” มีคำบอกเล่าดั้งเดิมตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ จารบนใบลานเป็นอักษรไทยน้อย เรื่องพญาคันค้างมือบกัถนเพื่อขอน้ำฝนให้ตกต้องตามฤดู มีความพิสดารบันเทิงใจต่างกันตามแต่ละเขตแดน …แม้กระนั้นเนื้อหารายละเอียดสำคัญตรงกัน
คันคากเป็นราชา
พญา คันคาก เป็นราชาครองบ้านครองเมืองชมพู บรรดาชาติบ้านเมืองบริวารใหญ่น้อย พร้อมใจกันบังคมก้มให้พญาคันคากถ้วนทั่วทุกหัวระแ หง จนลืมส่งสการไหว้สาฟ้าแถนเหมือนแต่ก่อน …ผีฟ้า “พญาแถน” เป็นใหญ่อยู่เมืองแมนแดนสวรรค์ ครั้นเมื่อฝูงชนทั้งหลายแหล่ไปภักดีต่อ พญาคันคากหมดสิ้น ผีฟ้าพญาแถนเลยโกรธ ก็ไม่ส่งน้ำฟ้าน้ำฝนร่วงลงมาให้ประเทศชาติแว่นแคว้นใหญ่น้อยกระทั่งเกิดความแห้งทุกหย่อมหญ้าร้ายแรง
พญาคันคากเห็นความทุกข์ยากของขี้ข้าบ้านพสกนิกร ก็มุดลงไปเมืองบาดาลนาค แล้วถามไถ่ความนัยว่าเพราะอะไรถึงกำเนิดภัยแล้ งแห้งน้ำมานานปี …พญานาคจอมบาดาล ก็เลยบอกเหตุว่าเนื่องจากผีฟ้าพญาแถนไม่ให้นาคทั้งหลายแหล่ขึ้นไปเล่นน้ำบนสวรรค์เหมือนแต่ก่อน น้ำเลยไม่แตก ฉานซ่านกระเด็นกระเด็นกระเด้งเป็นฝนฝอยตกลงมาเลี้ยงโลกมนุษย์ เมืองชมพูและก็บริวารเลยอนาถาแสนทุรกันดาร ด้วยแถนฟ้าเคืองอารมณ์เสียผู้คนที่ไม่บัตรพลีดีไหว้ มัวแต่ไปบังคมพญาคันคากนั้นแล…พญาคันคากรู้ความตามจริงก็ยิ่งโกรธพิโรธนัก สั่งให้พญานาคผู้เป็นเมืองบริวารทำทางถนนหนทางจากเมืองชมพูขึ้นไปเมืองแถนแดนสรวงสวรรค์
คางคกยกรบ
พญานาคพร้อมนาคบริวาร พากันแผ่พังพานพวนขนดแล้วขดขนขุนเทือกเขาทุกเขตแคว้นดินแดนมนุษย์เอามาต่อเข้าด้วยกัน บรรดาปล วกระดมขนดินมาถมพอกภูเขา ให้เป็นทางถนนด้นดั้นถึงเมืองแถนในทันทีทันใด …ฝูงพญานาคครุฑยุดพญานาคมาพร้อม ทั้งฝูงต่อ ฝูงแตน รวมทั้งมิ้ม ผึ้ง มอด มด ทั้งหมดทั้งนั้นมาพร้อมเพรียงกันด้วยสรรพสัตว์สารพัด เสือราชสีห์ กระทิง แรด ในปฐพี เมื่อสารพัดสารพันสัตว์มาชุมนุมสามัคคีพร้อมกันแล้ว พญาคันคากก็สั่งให้เดินขบวน ล้วนไพร่พลโยธีไปตามทางถนนคราวเหินเดินเป็นหมวดหมู่แถวแนว ตรงแน่วขึ้นไปเมืองแถนดินแดนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้าพู้นแล
พญานาคกับพญาแถนรบรากันสนั่นหวั่นไหวเหมือนเสียงฟ้าร้อง กระทั่งพญาแถนยกมือขึ้นบังคมพนมไหว้ยอม ขอเป็นเมืองส่วยซื่อตรงแต่งน้ำฟ้า หาฝนตกลงเมืองมนุษย์ทุกปี แล้วร้องเชิญพญาคันคากเข้าเมืองแถน
คันคากอบรมแถน
ในคุ้มหลวงเมืองแถน บรรดาบริวารพญาแถนทั้งลูก ภรรยาและก็นางพญา วิงวอนต่อพญาคันคากที่นั่งเมืองแถนว่า อย่าพิฆาตต่อสู้ บั่นเกล้าชาวแถนเลย จะยอมเป็นเราช่วงใช้ไปนิรันดร
พญาคันคากมีใจเมตตา แล้วเจรจาติเตียนบ่มนิสัยพญาแถนให้ปฏิบัติตนธรรม ต้องเอาใจใส่ดูแลทั้งยังชาวแถนและชาวมนูษ ย์จนสุดใจดินหัวใจฟ้า ด้วยโลกนี้มีอีกทั้ง ดิน ต้นหญ้าและฟ้าแถน ต้องพึ่งพาอาศัยกันมั่นคงถึงจะยังอยู่ได้เลวทรามฟ้าดิน ถึงฤดูเดือนปีนาคต้ องขึ้นมาเล่นน้ำบนฟ้าก็อย่าห้ามปราม เพราะนาคจะได้พ่นน้ำกระแทกคลื่น ดื่นดกตกเป็นฝอยฝนตกไปอุปถัมภ์เอี้ยงดูหมู่มนุษย์ ทำไร่ไถนา ได้พืชพันธุ์ว่านยาของกินอุดมสมบูรณ์ หากไม่มีน้ำฟ้าน้ำฝน คนภายในเมืองมนุษย์สุดทุกข์ยากลำบาก จะได้ยากโหยหิวลิ้นดังราไฟ เมื่อไม่มีพืชพันธุ์ว่านยาอาหารเลี้ยงชีวังสังขาร แล้วจะเอาอะไรส่งสักการสังเวยให้แถนรับประทานบนฟ้า แถนฟ้าก็จะต้องเงือดงดเว้นอดตายไ ม่สุขสบาย เว้นเสียแต่คนทั้งหลายแล้ว ในเมืองมนุษย์ยังมีพืชและก็สัตว์ จำต้องอาศัยน้ำฝนน้ำฟ้าจากเมืองแถน ถ้าเกิดสลดขาดแคลนเสียแ ล้วก็จำเป็นต้องเดือดร้อนสารพัด ทั้งยังสัตว์รวมทั้งพืชเป็นเปี่ยมล้น พวกเราเองพญาคันคาก เป็น คางคกสัตว์ไม่มีขน ยังจะต้องดูแลเผื่อแผ่เกื้อหนุนจุนเจือฝูงม นุษย์ ญาติเราทั้งปวงก็ล้วนสัตว์บริสุทธิ์ที่พิทักษ์รักษาผู้คนให้สุขสบายอุดมสมบูรณ์เสมอกัน ท่านซึ่งเป็นพญาแถนควรจำเป็ นเยี่ยง อย่างอย่าเบียดเบียนคนอื่นๆให้ลำบาก แถนฟ้าต้องไว้หน้าที่ปล่อยน้ำฟ้าน้ำฝนให้ตกต้องตามฤดู ไม่งั้นจะขึ้นมาลงอาญาอีกให้สาสม
พญาแถนถามคำถามว่าจะทราบได้อย่างไรว่าเมืองมนุษย์อยากน้ำตอนไหน ขณะใด
พญาคันคากตอบว่าจะส่งสัญญาณให้ พญานาคขี่บั้งไฟ ขึ้นมาอย่างเร็ว เมื่อได้ยินเสียงแล้วแลเห็นบั้งไฟมีหัวพญานาค ก็ใ ห้ไขน้ำทำฝนตกลงเมืองมนุษย์โดยทันที
พญาแถนก้มรับคำอบรมของพญาคันคากทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง แล้วสั่งให้ไพร่พลลูกภรรยาตระเตรียมสำรับอาหารอุปการะกองทัพ พญาคันคากไม่เคยทราบข้าว เลยถามคำถามว่ามันเป็นอย่างไร …พญาแถนพูดว่าเมืองฟ้าเมืองแถนมีข้าวปลูกไว้กินเป็นข้าวหอมอร่อยมาก แล้วอธิบายสรรพคุณยืดยาว พญาคันคากเลยสั่งให้พญาแถนเอาข้าวลงไปปลูกลงในเมืองมนุษย์ รวงข้างให้ยาวแค่วา เมล็ดข้าวเท่ามะพร้าว ต้นข้าวเท่าลำตาลก็พอแล้ว …พญาแถนรับคำแล้วบอกเพิ่มเติมอีกว่า ข้าวพวกนี้เมื่อโตสุดกำลังเมล็ดข้าวจะหล่นจากรวงเอง แล้วจะแล่นไปเข้ายุ้งฉางข้าวเองขอให้มนุษย์ทำ ยุ้งฉางเยียข้าว คอยไว้เท่านั้น …เมื่อเสร็จพร้อมสรรพแล้ว พญาคันคากก็พาสารพัดสัตว์ ไพร่พลทั้งหลายแหล่ ลงจากเมืองแถนดินแดนฟ้า กลับสู่ดินแดนเมืองชมพูตามเส้นทางเดิมที่ปลวกทำไว้
คนทำลายโลกมนุษย์
ครั้นพญาคันคากละร่างคางคกรูปคนสิ้นอายุขัยแล้วสิ้นพระชนม์ เมื่อเป็นเวลายาวนานกาลระบุความอุดมสมบูรณ์ก็เริ่มแปลก ผู้คนในชม พูทวีปต่างประมาทขาดสำรวมกระทั่งรวนเรแล้วขี้คร้านเหตุเพราะความสบายสบายที่พญาแถนบันดาล ผู้คนลืมทำ ยุ้งเลียเล้าข้ าวให้พร้อมเสร็จตามเวลาระบุ เมื่อเมล็ดข้าวสุก จึงหล่นเกลื่อนกลาดเรี่ยราดเรี่ยตามที่นาไร่ เมื่อไม่มีที่อยู่ก็บินหาที่พำนักพักพิงในเรือนนอนของมนุษย์ เขาก็พากันเอาพร้า มีดขวานข่มเหงรังแกเมล็ดข้าวจนปี้คละเคล้าแตกตัดกระจัดกระจาย เหลือเมล็ดเท่ากรวดหินดินทรายเล็กน้อยต่อจากนั้นเป็นต้นมา
ทางถนนหนทางที่ปลวกทำไว้ให้พญาคันคากขึ้นไปหาฟ้าแถนแต่ก่อน มีเถาวัลย์กาดเกี่ยวข้องแน่นหนาไม่สั่นคลอน ถาวรเป็นนิรันดรให้ผู้คนเดินทางไปๆมาๆ พญาแถนพินิจพิเคราะห์ว่า มนุษย์ไม่ซื่อตรง ล้วนลุ่มหลงแม้กระนั้นความสบายบริโภคซึ่งอันตราย เบียดเบียนกันเองไม่เกรงใค รราวกับปลาใหญ่กินปลาเล็กทุกบริเวณ ผีฟ้าพญาแถนก็โก่งศรร่อนธนูสู่ทางถนนหนทางเถาวัลย์กาด หนทางปลวกของพญาคันคากก็ขาดสะบั้นถล่มทลายกระจาย เป็นภูเขาภูเขาน้อยใหญ่ในชมพูทวีปแต่นั้นมา
ผีฟ้าพญาแถนแดนสวางสวงสังเวียนบนสวรรค์ ก็ลงทัณฑ์ทัณฑ์มนุษย์ทั้งหลายที่มักเกียจคร้าน ก็เลยไม่ปลุกจำพวกข้าวทิพย์ให้มนุษย์เหมือนแต่ก่อน มนุษย์จะต้องหักร้างถางพงในป่าดอนแล้วถางไถปลูกข้าวรับประทานเองอย่างทรมาณสาหัสแม้กระนั้นนั้นมา
พญาคันคากจากไป พญาแถนก็ไม่กลับมา ฤดูเดือนเคลื่อนไม่คงทน น้ำฟ้าน้ำฝนขาดตกบกพร่อง แม่น้ำลำคลองเ น่าเหม็นก่อให้เกิดอันตราย สุมทุมป่าดงพงไพรฉิบหาย ล้วนมีเหตุจากความสะเพร่าของคนเราตั้งแต่ตอนนั้นจนกระทั่งถึงตอนนี้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
alwaadnews.comเครดิต :
[url]http://www.alwaadnews.com/บาคาร่า-คาสิโนออนไลน์แบ/[/url]
Tags :
http://www.alwaadnews.com,alwaadnews.com,alwaadnews