Advertisement
“ประเทศนี้มีอะไรน่าดึงดูด มีที่แห่งไหนให้ไปเที่ยวบ้างนะ”
ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีก็อาจจะเคยคิดอย่างงี้เพราะเหตุว่าคิดภาพไม่ออกจริงๆว่าประเทศโคลอมเบีย เป็นอย่างไร ปลอดภัยแล้วก็น่าไปเที่ยวหรือเปล่า ตกลงว่าก่อนที่จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้รู้จัก มารู้ข้อมูลพื้นฐานของโคลัมเบียสักเล็กน้อย
ประเทศโคลอมเบีย (Colombia) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐโคลอมเบีย มีขนาดราว 2 เท่าของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางเหนือสุดของทวีปอเมริกาใต้จึงเป็นหนทางกิจการค้าสำคัญมาตั้งแต่สมัยอาณานิคม โดยมีเมืองคาตาเฮน่าเป็นเมืองสำคัญ และก็เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างทวีปอเมริกาเหนือกับอเมริกาใต้
สภาพภูมิศาสตร์ของโคลอมเบีย แบ่งเป็น 5 เขต คือ เขตริมตลิ่งแปซิฟิค (เมืองสำคัญ เป็น บารังคิล่ารวมทั้งคาตาเฮน่า) เขตเทือกเขาแอนดีส ซึ่งเป็นเขตประชากรหนาแน่น (เมืองสำคัญ เป็น โบโกต้า เมเดลิน และเจ้าแม่กาลี), เขตท้องทุ่งที่ราบ, เขตป่าแอมะชอน รวมทั้ง เกาะต่างๆมองเห็นได้ว่ามีความหลากหลายมากๆชายหาดก็งาม มีภูเขาสูงภูเขาไฟ ป่าดงดิบ ไร่กาแฟ อื่นๆอีกมากมาย
ทีนี่มาดูกันดีกว่าว่าประเทศนี้มีอะไรน่าเที่ยว มีไหนน่าสนใจบ้าง ขอบอกครบสมบูรณ์อีกทั้งธรรมชาติประวัติศาสตร์ และก็ วัฒนธรรม
1. กรุงโบโกต้า (Bogota) เมืองหลวงของประเทศที่เก่าแก่มีประวัติภูมิหลังนานกว่า 5 ศตวรรษ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโคลอมเบีย อากาศหนาวเย็นตลอดปีเนื่องจากว่าตั้งอยู่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 2,600 เมตร เมื่อมาถึงเมืองหลวงโบโกต้าจำเป็นต้องไม่พลาดที่จะมาเดินเล่นที่ ย่านแคนเดอลาเรีย (La Candelaria) เขตประวัติศาสตร์ที่ได้มีการรักษารวมทั้งบูรณะตึกและก็สิ่งปลูกสร้างเก่าแก่นับร้อยปี รวมทั้งโบสถ์ที่มีอายุกว่า 400 ปีอย่างโบสถ์ซานฟรานซิสโก (San Francisco Church)
2. ยอดเขามองดูเซอร์รัต (Monserrate) เป็นเทือกเขาที่สูงกว่า 3,152 เมตร ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางเมืองหลวง บนยอดเขามีโบสถ์ดั้งเดิม รวมทั้งนับว่าเป็นจุดสำหรับเพื่อชมวิวที่งามที่สุดในเมืองโบโกต้า การไปท่องเที่ยวยอดดอยแห่งนี้ต้องขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไป
3. พิพิธภัณฑสถานทองคำ (Gold Museum – El Museo del Oro) เป็นพิพิธภัณฑ์ทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้านในจัดแสดงของใช้ เครื่องเพชรพลอย และก็ข้าวของเครื่องใช้ที่ทำมาจากทองคำในตอนPre-Hispanic มีชิ้นงานล้ำค่าจัดแสดงกว่า55,000 ชิ้น ยิ่งไปกว่านี้ที่ชั้นสองรวมทั้งชั้นสามของพิพิธภัณฑสถานยังนำเสนอสิ่งของในอดีตที่ขุดเจอในโคลอมเบียซึ่งชี้แจงถึงวัฒนธรรมและก็การดำเนินชีวิตของชนเผ่าประจำถิ่นในสมัยก่อน
4. วิหารเกลือซีปากีรา (Salt Cathedral of Zipaquira) ตั้งอยู่ที่เมือง ซิปขว้างคิวล่า(Zipaquira) วิหารเกลือแห่งนี้เจาะเข้าไปข้างในเหมืองเกลือใต้ดินลงไปราว 200 เมตร โดยเดิมเป็นเพียงแค่อุโมงค์เหมืองเกลือปกติแต่กรรมกรเหมืองแร่กันพื้นที่บางส่วนไว้เป็นสถานที่สำหรับสวดมนต์ไหว้พระเพื่ออ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้าให้คุ้มครองป้องกันระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในเหมือง ด้านในมืดและก็กระจัดกระจายไปด้วยกลิ่นกำมะถัน เมื่อเดินเข้าไปตามทางแคบๆจะเห็นแท่นบูชาตั้งอยู่สุดที่หมาย วิหารที่นี้สูง 22 เมตร ด้านในจุคนได้ถึง 8,000 คน ตอนนี้ เหมืองเกลือที่นี้ไม่ได้ผลิตเกลือแล้ว เหลือเพียงแค่แต่วิหารไว้เป็นสถานที่เที่ยว
5. ไร่กาแฟที่เมืองฟูซาซูกา (Fusagasuga) ถ้าหากไปถึงโคลอมเบียแล้วต้องไปเยี่ยมไร่กาแฟและก็ชมขั้นตอนการผลิตกาแฟให้ได้เพราะว่าประเทศนี้ผลิตกาแฟเพื่อส่งออกมากมายเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก บราซิล รวมทั้งเวียดนาม กาแฟที่มีชื่อเป็น ซูรีโม (Suremo) เป็นกาแฟอาราบิก้าที่รสดีผ่านแนวทางการล้างโดยวิธีแบบแฉะ ไม่มีรสเปรี้ยว ผสมโดย “สตาร์บัค”
เมืองฟูซาซูกาเป็นเมืองโบราณที่สร้างตั้งแต่สมัยอาณานิคม ไร่กาแฟที่เมืองนี้อยู่บนแนวเขาที่มีอากาศเย็นทั้งปีเนื่องจากว่าอยู่สูงขึ้นยิ่งกว่าระดับน้ำทะเล 1,765 เมตร
6. งานคาร์นิวัลแห่งเมืองบาร์รังกียา (Carnival of Barranquilla) ขบวนในเทศกาลของชาวคาทอลิคที่ยิ่งใหญ่รองจากที่เมืองริโอฯ แต่ละปีมีผู้เข้าร่วมงานกว่า1,500,000 คน นับว่าเป็นงานคาร์นิวัลที่ไม่เหมือนที่แหน่งใดในโลกจนกระทั่งองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) ชมเชยให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมด้ามจับจะต้องไม่ได้” เมื่อปี 2003
เมืองบาร์รังกียา (Barranquilla) เป็นเมืองท่าอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ใกล้กับสมุทรแคริบเบียน สามารถเดินเล่นชมสถาปัตยกรรมแบบอาร์ทเดคโค่ (Art Deco) แล้วก็สถานที่สำคัญๆของเมือง
7. เมืองคาร์ตาเฮที่นา (Cartagena) ประตูสู่แคริบเบี้ยนใต้ นับได้ว่าเป็นเมืองที่ดั้งเดิมที่สุดเมืองหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปีค.ศ 1984 ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของโคลอมเบียเนื่องจากเป็นเมืองท่าเทียบเรือสำราญล่องทะเลแคยึดเบี้ยน นอกจากมี ริมทะเลโบกาเกรนเด้(Bocagrande) อันขึ้นชื่อลือชาแล้ว ยังมี เกาะโรซาริโอ(Rosario Islands), เขตเมืองเก่าที่การ์ตาเคนา (Old Town), หอสังเกตการณ์โตเร เด เรลอค (Torre de Reloj) ซึ่งเป็นหอนาฬิกาที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองการ์ตาเคนา, บริเวณเคทเซมานี (Getsemaní), จตุรัสปลาซ่า เดซาน เปโดร (Plaza de San Pedro) จตุรัสที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง, รูปปั้นหญิงอ้วน (La gordita) รังสรรค์โดยนักแสดงชาวโคลอมเบียที่โด่งดังสุดยอด, มหาวิหารที่เมืองการ์ตาเคนา (Catedral de Cartagena) มหาวิหารที่สำคัญที่สุดของเมือง ฯลฯ
8. แม่น้ำ 5 สี (The River of the Five Colors) ได้รับการชื่นชมว่าเป็นแม่น้ำที่งามที่สุดในโลก รู้จักกันในชื่อ “แม่น้ำคาโญ่ คริสตาเลส” (Caño Cristales) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติSerranía de la Macarena ในเมือง ลา มาการีนา (La Macarena) ที่จริงแล้วสีที่เห็นโดยยิ่งไปกว่านั้นสีแดง สีชมพู และก็สีเขียวมีสาเหตุจากพืชใต้น้ำ เป็น หญ้ามอสและก็สาหร่ายที่เจริญเติบโตบนหินและก็รอบๆน้ำตกหรือที่ๆน้ำไหลแรงในแม่น้ำตื้นๆก็เลยทำให้มองเห็นว่าแม่น้ำมีหลายสี แม่น้ำ 5 สีจะสวยงามที่สุดในตอนกันยายน-พฤศจิกายน
นี่แค่ส่วนหนึ่งส่วนใดแค่นั้นโคลอมเบียยังไม่ที่เที่ยวอีกเพียบเลยที่รอให้คุณไปรู้จักด้วยตัวเอง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
taimodskinlolขอบคุณบทความจาก :
[url]http://www.taimodskinlol.com/golden-tour-slot-คาสิโนออนไลน์-scr888/[/url]
Tags : taimodskinlol