Advertisement
ท่องเที่ยวอยุธยา กันไหมออเจ้า เพราะว่าเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนไหนกันแน่ที่ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับละครเรื่องบุพเพสันนิวาส เพราะเหตุว่าเดี๋ยวนี้ไม่ว่าหันไปทางไหนก็แทบได้ยินแต่คำกล่าวเจ้าค่ะเจ้าขา แม่หญิงการะเกดอย่างงั้นหรือคุณพี่หมื่นอย่างงี้ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าหากใครๆจะต้องการใส่ชุดไทย คลุมสไบ ทดลองสวมวิญญาณแม่หญิงการะเกดตามรอยละครบุพเพสันนิวาสกันดูบ้าง ด้วยเหตุนั้นตัวข้าที่ใบหน้าสวยไม่แพ้แม่หญิงการะเกด ซ้ำยังมีจิตใจอันแสนดีงาม จึงได้เก็บรวบรวมสถานที่ต่างๆที่น่าสะกดรอยมาให้ออเจ้าทั้งหลายได้เพลิดเพลินกันดังต่อไปนี้เลยเจ้าค่ะ
ท่องเที่ยวอยุธยา บุพเพสันนิวาส หรือหากผู้ใดกันต้องการจะท่องเที่ยววัด สัก 9 วัดที่อยุธยา
#1 ป้อมเพชร
ป้อมเพชรเป็นป้อมป้อมเดียวที่ยังเหลืออยู่ จากทั้งปวง 29 ป้อม ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำที่เป็นจุดบรรจบกันระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสัก ตัวป้อมมีทรงหกเหลี่ยม ฝาผนังก่อด้วยอิฐสลับด้วยศิลาแลง ใช้เป็นที่ตั้งปืนใหญ่ ถือเป็นป้อมปราการชั้นเลิศในสมัยนั้นเลยล่ะเจ้าค่ะ
#2 วัดพุทไธศวรรย์
วัดพุทไธศวรรย์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญในเรื่องบุพเพสันนิวาส ตามเรื่องราววัดนี้จะเป็นสถานที่ฝึกหัดกระบี่ฝึกหัดคาถาของศิษย์คุณครูชีปะขาว รวมถึงหมื่นเพราะเทวา (ตอนหลังเลื่อนยศเป็นขุนศรีวิสารถ้อยคำ) รวมทั้งหมื่นเรืองราชซื่อสัตย์ภักดี การะเกดได้ลอดผ่านม่านคาถาอาคมของอาจารย์ชีปะขาวเข้ามายังรอบๆวัดแห่งนี้
วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศตะวันตก รอบๆตำบลสำเภาล่ม อำเภอจังหวัดอยุธยา เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ทำขึ้นในสมัยพระผู้เป็นเจ้าอู่ทอง หรือสมเด็จพระรามาหัวหน้าที่ 1 เมื่อปี พุทธศักราช 1896 เป็นพระอารามหลวงที่พระองค์โปรดให้ผลิตขึ้นเพื่อเป็นพระราชที่ระลึกนึกถึงสำหรับเพื่อการสถาปนากรุงศรีอยุธยา แล้วก็เมื่อครั้งที่เสียกรุงศรีอยุธยาในปี พุทธศักราช 2310 วัดนี้มิได้ถูกกองทัพพม่าทำลายเท่าไรนัก ตอนนี้จึงยังมีสภาพค่อนข้างจะบริบูรณ์ สิ่งที่เด่นภายในวัด ก็คือ ปรางค์พระประธาน มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบเขมรสีขาวสวยสดงดงาม นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งอื่นๆที่น่าเที่ยวดู เป็นต้นว่า มณฑป 2 หลังที่อยู่ด้านข้างของปรางค์พระประธาน, โบสถ์, กลุ่มพระเจดีย์สิบสององค์, วิหารพระนอน, พระตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์, พระนอน เป็นต้น
#3 วัดไชยวัฒนาราม
ลำดับแรกเป็นสถานที่ที่จะพลาดไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะเหตุว่าวัดชัยวัฒนารามเป็นวัดที่มีความสำคัญกับหลายๆเรื่องในเรื่องทั้งดีและก็ร้าย หรือสถานะการณ์หวานๆอย่างเวลาที่แม่หญิงการะเกดเห็นวัดชัยวัฒนารามและก็ตะลึงงันในความสวยสดงดงามระหว่างทางขณะนั่งเรือกลับเรือนกับคุณพี่หมื่น
วัดชัยวัฒนารามตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ผลิตขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าวังทองรวมทั้งเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของในหลวงสืบต่อมาหลังจากนั้นทุกท่าน ข้อดีภายในวัดมีอีกทั้งพระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ อุโบสถ พระประธาน เมรุมาศ ภาพปูนปั้น แล้วก็ระเบียงคด ถ้ามีโอกาสได้ไปเยี่ยมดูแล้ว ไม่สมควรพลาดที่จะตรวจสอบให้ครบทุกซอกทุกมุมนะเจ้าคะ
#4 วัดพระราม
วัดพระรามก็เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของละครเรื่องบุพเพสันนิวาสด้วยค่ะ กระเป๋านอีกขณะที่สำคัญของเรื่องเลย โดยขุนศรีวิสารถ้อยคำ (หมื่นสุนทรเทวดา) จะพาเกศาสุรางค์ท่องเที่ยวดูงานแข่งเรือ และงานก่อกองทรายที่วัดแห่งนี้ มีฉากฟินๆอยู่เวลานี้มากมายเลย เกศาสุรางค์ก็เริ่มหวั่นไหวกับขุนศรีวิสารคำพูด ก็ตอนไปดูแข่งขันเรือนี่แหละ ^^
สำหรับวัดพระราม ก็มีประวัติไม่ธรรมดาสิ่งเดียวกันจ้ะ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัดที่ใหญ่โตโอ่อ่าของอยุธยาเลยทีเดียว วัดนี้ผลิตขึ้นโดยสมเด็จพระราเมศวร ราวปี พุทธศักราช 1912 พระองค์ขอความปรานีเกล้าให้สร้างวัดนี้ในรอบๆที่เผาศพศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทองคำ) พระราชบิดา โดยตัววัดนั้นมีสถาปัตยกรรมที่งามตามแบบศิลปะยุคอยุธยาตอนต้น มีพระปรางค์ใหญ่อยู่กึ่งกลาง คล้ายกับศิลปะจากเขมร มีบึงน้ำกว้างขวางอยู่หน้าวัด หรือที่เรียกกันว่าบ่อน้ำพระรามนั่นเอง นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวชมที่นี่ได้ทุกวี่วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
#5 สะพานบ้านดินสอ
สะพานบ้านดินสอ เป็นอีกสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา แล้วก็จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ก็มีฉากที่ขุนศรีวิสารววาจา ได้พาเกศสุรางค์ไปเลือกซื้อดินสอไม้และสมุดที่ป่า (ตลาด) บ้านดินสอ
ปัจจุบันสะพานบ้านดินสอ ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา มีลักษณะเป็นสะพานก้อนอิฐมอญ ทอดข้ามผ่านคลองฉะไกรน้อย เพื่อเชื่อมระหว่างป่าดินสอและวัดบรมพุทธาราม ด้านล่างของสะพานเป็นทางลอดเรือโค้งไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้เรือเล็กเดินทางไปๆมาๆได้ แต่ว่าเดี๋ยวนี้หลงเหลือเพียงแค่ซากสะพานแค่นั้น ตัวคลองฉะไกรน้อยก็หลงเหลือเป็นเพียงสระเล็กๆรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ร่มรื่น
#6 วัดพระคริสตประจักษ์ (วัดเกาะใหญ่)
นอกจากสถาปัตยกรรมแบบพุทธศาสนิกชนแล้ว ลองมาชมสถาปัตยกรรมแบบคาทอลิกกันบ้างดียิ่งกว่าเจ้าค่ะ วัดพระคริสตปรากฏชัดเจนตั้งอยู่ที่อำเภอบางไทย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเยี่ยมในฉากพิธีแต่งงานของฟอลคอนกับแม่มะลิ ตัวโบสถ์ข้างนอกเป็นสีครีมสว่างสะอาดตา ส่วนด้านในก็มีภาพวาดประณีตสวยงามบอกเล่าเรื่องราวของพระเยซูคริสต์เจ้า พูดได้ว่าสวยสดงดงามอีกทั้งภายนอกรวมทั้งด้านในเลยนะเจ้าคะ
#7 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาเป็นแหล่งเก็บรวบรวมรวมทั้งรักษาโบราณศิลปวัตถุอันล้ำค่าล้นหลามเลยนะเจ้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องทองคำ พระพุทธรูป พระแสงสว่างขรรค์ หรือพระเครื่อง โดยการจัดแสดงถูกแบ่งได้เป็น 3 อาคาร ตึกแรกจัดโชว์โบราณศิลปวัตถุที่ศึกษาค้นพบจากโบราณสถานในจ.พระนครศรีอยุธยา อาคารที่ 2 แสดงโบราณศิลปวัตถุที่เจอในประเทศไทยเป็นลำดับอายุยุค ตั้งแต่ตั้งยุคทวารวดีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
แล้วก็ถ้าได้เห็นเรือนไทยที่ปลูกอยู่กลางน้ำ ออเจ้าก็ไม่ต้องสับสนกันไป นั่นนับเป็นตึกที่ 3 ด้านในเรือนจะมีการแสดงศิลปะพื้นบ้านในชีวิตประจำวันของชาวไทยในอดีตสมัย เรียกได้ว่าแค่มาที่นี่ที่เดียว ออเจ้าจะได้เก่งประวัติศาสตร์ต่างๆไม่แพ้แม่หญิงการะเกดเชียวล่ะ
การตระเวนสะกดรอยบุพเพสันนิวาสตลอดทั้งวันคงทำให้ออเจ้าเพลียไม่น้อยเลยใช่ไหมเจ้าคะ ข้าว่าออเจ้าทั้งหลายแหล่ลองหาที่ซ่อนแดดอีกทั้งมีบรรยากาศดีๆพักผ่อนกันดีกว่าเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน ซึ่งถ้าหากเลือกบ้านพักที่เราจะแนะนำต่อแต่นี้ไปก็แจ๋วไปเลยนะ
3 ที่พัก อยุธยา แบบได้บรรยากาศ Vintage สุดๆ
#1 นิวาส อยุธยา
นิวาส อยุธยา ตั้งอยู่ในเขตเมืองโบราณของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีทั้งๆที่พักแบบหอพักทั่วๆไปและก็แบบโรงแรม ทุกห้องตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยๆแม้กระนั้นคงจะความสะดวกสบายไว้ครบครันเลยเจ้าค่ะ แถมโลเคชั่นก็ยังง่ายต่อการเดินทางไปวัดมหาธาตุที่อยู่ห่างเพียงแค่ 500 เมตร หากต้องการเดินแค่ 10 นาทีก็ถึง หรือถ้าหากต้องการไปวัดไชยวัฒนารามก็ไม่ได้ไกลนัก เพราะเหตุว่าวัดอยู่ห่างออกไปแค่ 3.6 กิโล
ที่พักใกล้ที่เที่ยวขนาดนี้ ราคาเริ่มต้นสวยมากมาย 680 บาทเพียงแค่นั้น พึงพอใจไปจงพร้อมรับเงินคืนอีก 6.5%
#2 บ้านอู่ทองคำ แอคคอมอเดชั่น
หากอยากได้บ้านพักติดริมแม่น้ำ ต้องเลือกตรงนี้เลยนะเจ้าค่ะ เพราะบ้านอู่ทองคำอยู่ใกล้กับริมน้ำเจ้าพระยา มีระเบียงติดชายน้ำให้ออเจ้าได้มาเดินเที่ยวรับลม อีกทั้งวิวจากแม่น้ำไม่ว่าจะดูจากข้างบนห้องพักหรือจากห้องอาหารข้างล่างก็งามประทับใจไม่รู้เรื่องลืมเลยแหละเจ้าค่ะ ถ้าเกิดไม่ต้องการอุดอู้อยู่ในเกสต์เฮ้าส์ จะเช่ารถจักรยานมาปั่นเล่นตามรอยบุพเพสันนิวาสก็ได้นะเจ้าคะ ไม่ว่าจะเป็นวัดมหาธาตุ สวนประวัติศาสตร์จังหวัดอยุธยา หรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ต่างก็อยู่ใกล้บ้านพักในรัศมี 1.5 กิโลเมตรเพียงเท่านั้น หรือออเจ้าจะล่องเรือกินอาหารไทยอร่อยๆก็เจ๋ง
ที่พักติดริมแม่น้ำ ที่ราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 800 กว่าบาทแค่นั้น สนใจไปควรพร้อมรับเงินคืนอีก 6.5%
#3 อโยธยา ริเวอร์ไซด์ เฮาส์
อโยธยา ริเวอร์ไซด์ เฮาส์ จะพาให้ออเจ้าได้สัมผัสบรรยากาศบ้านไม้เรือนไทยขนานแท้ ทั้งยังอยู่ติดริมแม่น้ำที่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบหาตรงไหนไม่ได้ ห้องพักบนเรือนก็มีให้เลือกทั้งยังเตียงนอนธรรมดาแล้วก็แบบที่ปูที่นอนนอนกับพื้นแล้วหุ้มด้วยมุ้งสีขาวกันยุง หรือหากเบื่อเรือนไทยรวมทั้งยังมีห้องเช่าบนเรือที่มีลมพัดเย็นสบายให้เลือกนะเจ้าคะ ไม่ใช่คนไหนจะมีโอกาสได้มานอนพักผ่อนแบบนี้ได้ไม่ยากด้วย ส่วนห้องน้ำก็มีทั้งยังแบบที่เป็นสุขาในตัวแล้วก็ห้องอาบน้ำรวม จากอโยธยา ริเวอร์ไซด์ เฮาส์ ออเจ้าสามารถเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนาราม พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย รวมทั้งตลาดท้องน้ำวัดท่าการ้องได้ในเวลาเพียงแค่ 5 นาทีเองนะเจ้าขา
อยากนอนบรรยากาศไทยๆกางมุ้งริมแม่น้ำจะต้องตรงนี้! ราคาน้อยยิ่งกว่ากุ้ง 1 ตัว เพราะว่าเริ่มต้นแค่ 300 กว่าบาท ต่อคืนเพียงแค่นั้น! พักตรงนี้ คิดเงินไว้กินกุ้งแม่น้ำได้หลายตัวเลย พอใจไปต้องพร้อมรับเงินคืนอีก 6.5%
เมื่อทราบสถานที่ ท่องเที่ยวอยุธยา ที่จะเดินทางตามรอยละครบุพเพสันนิวาสแล้ว ก็อย่าลืมจองที่พักด้วยนะเจ้าขา โดยสามารถจองที่พักแบบรับเงินคืนได้ผ่านทาง Dealcha! ด้วยล่ะเจ้าค่ะ
ถ้าหากออเจ้ารู้จักวางแผนล่วงหน้าก็จะได้ไม่โดนพี่หมื่นแรปดุเอาว่าเป็นคนกำเริบ ไม่รู้กาลเทศะ ถ้อยคำพิกลพิการ ฟังไม่ทราบความ จิตใจหยาบกระด้างไม่มีเมตตาทาสบริวาร ไม่เอาการเอางาน ขี้คร้านตัวเป็นขน ดีแต่แต่งตัวนั่งชม้อยชายตาหน้าขาว น่าเบื่อหน่าย! นะเจ้าคะ!
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
montecitoskincareblogTags : montecitoskincareblog.com,http://www.montecitoskincareblog.com
