คู่มือโรคพิษสุนัขบ้าฉบับบริบูรณ์: สาเหตุ อาการ การดูแลและรักษา การป้องกัน วัคซีน

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คู่มือโรคพิษสุนัขบ้าฉบับบริบูรณ์: สาเหตุ อาการ การดูแลและรักษา การป้องกัน วัคซีน  (อ่าน 14 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
adzposter
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14640


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มกราคม 13, 2020, 06:21:23 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

หยุด! โรคติดเชื้อร้ายแรงที่ยังไม่มียารักษา แต่สามารถคุ้มครองได้ด้วยการฉีดยา
 โรคพิษสุนัขบ้า หรือบางคราวเรียก โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดเชื้อโรครุนแรง พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกหมวดหมู่ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว โค ควาย หนู กระต่าย ค้างคาว แล้วก็สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ความน่ากลัวของโรคพิษสุนัขบ้าคือ มีลักษณะต่อระบบประสาท ดังเช่น เส้นประสาท สมอง มีการดำเนินโรคอย่างรวดเร็วแล้วก็นำไปสู่การเสียชีวิตได้ภายในช่วงระยะเวลาไม่กี่วัน ที่สำคัญปัจจุบันนี้โรคพิษสุนัขบ้ายังไม่มียารักษามีแต่วัคซีนคุ้มครองโรคเพียงแค่นั้น
 
 เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าติดต่อมาสู่คนได้ยังไง?
 โรคพิษสุนัขบ้าเกิดขึ้นได้เนื่องมาจาก เชื้อไวรัสแรบีส์ (Rabies) ซึ่งเชื้อนี้อยู่ในน้ำลายของสัตว์เลือดอุ่นที่เป็นโรค ทำให้โรคพิษสุนัขบ้าติดต่อโดยการสัมผัสกับน้ำลายจากการถูกข่วน กัด หรือเลียบริเวณที่มีบาดแผล ผิวหนังถลอก หรือถูกเลาะริเวณเยื่ออ่อน ดังเช่น เยื่อบุตา หรือปาก ฯลฯ
 ยิ่งกว่านั้น การกินของดิบๆจากสัตว์ที่เป็นโรคโรคพิษสุนัขบ้าก็สามารถทำให้ติดโรคได้
 
 เมืองไทยพบโรคพิษสุนัขบ้าในหมามากที่สุด รองลงมาเป็นแมว
 
 หากถูกสุนัขกัดและไม่ทราบดีว่าหมาตัวนั้นเป็นโรคกลัวน้ำไหม ให้คิดไว้ก่อนว่าหมาตัวนั้นเป็นโรค โดยอัตราการเป็นโรคข้างหลังถูกกัดอยู่ที่ 35% รวมทั้งรอบๆที่ถูกกัดก็มีผลไม่เหมือนกัน ถ้าถูกกัดรอบๆขามีโอกาสเป็นโรคราว 21% ถ้าเกิดถูกกัดที่บริเวณใบหน้าจะได้โอกาสเป็นโรคถึง 88% หากเป็นแผลตื้น หรือแผลถลอกปอกเปิกจะได้โอกาสเป็นโรคน้อยกว่าแผลลึก
 
 
 อาการของโรคกลัวน้ำในคน
 ภายหลังจากได้รับเชื้อโรคกลัวน้ำผู้เจ็บป่วยจะแสดงอาการโดยเฉลี่ยราวๆ 3 อาทิตย์ ถึง 3 เดือน ในบางรายบางทีอาจใช้เวลานานนับเป็นเวลาหลายปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ถูกกัด ขนาด จำนวนแล้วก็ความลึกของรอยแผลรวมถึงภูมิต้านทานของผู้ที่ถูกสัตว์กัด ลักษณะของโรคโรคกลัวน้ำแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังต่อไปนี้
 
 1. ระยะเริ่มต้น
 คนป่วยจะมีลักษณะที่ไม่มีการเฉพาะเจาะจง
 เป็นต้นว่า ไข้ต่ำๆเจ็บคอ ปวดหัว หมดแรง ไม่อยากกินอาหาร เมื่อยตามตัว หนาวสั่น อาเจียนอาเจียน กระวายกระวน นอนไม่หลับ ในบางรายอาจมีลักษณะการเจ็บ เสียวแปลบเหมือนเข็มทิ่มแทง หรือคันอย่างยิ่งบริเวณที่ถูกกัด ซึ่งเป็นลักษณะที่เจาะจงของโรคระยะนี้มีเวลาโดยประมาณ 2-10 วัน
 
 2. ระยะที่มีลักษณะอาการทางสมอง
 คนเจ็บจะมีอาการงวยงง ตะลีตะลาน กระวนกระวาย อยู่ไม่นิ่ง อาการจะเยอะขึ้นเรื่อยๆหากมีเสียงดัง หรือถูกสัมผัสเนื้อตัว ร้องไห้ น้ำลายสอ เหงื่ออกมากมาย มีอาการกลัวลม เพียงแค่ลองเป่าลม หรือโบกลมผ่านเบาๆก็จะผวา
 
 จากนั้นคนเจ็บอาจมีอาการชักรวมทั้งเป็นอัมพาต รวมทั้งมีลักษณะอาการกลัวน้ำ เวลากินน้ำจะปวดเกร็งกล้ามคอ ทำให้กลืนทุกข์ยากลำบาก ไม่กล้ากินน้ำ แม้กระนั้นยังรู้สึกตัว มีสติ สนทนาได้ ระยะนี้มีลักษณะอาการโดยประมาณ 2-7 วัน
 
 3. ระยะด้านหลัง
 คนป่วยบางทีอาจหมดสติรวมทั้งเป็นอัมพาตก่อนที่จะมีสภาวะหายใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้น โคม่า และก็เสียชีวิตในระยะเวลาเพียงไม่นาน
 
 ระดับการสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าขององค์การอนามัยโลก
 แบ่งได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
 
 สัมผัสโรคระดับ 1 สัมผัสสัตว์โดยผิวหนังธรรมดา ไม่มีรอยแผล
 สัมผัสโรคระดับ 2 สัตว์กัด หรือข่วน เป็นรอยฟกช้ำ เป็นแผลถลอกปอกเปิก สัตว์เลียบาดแผล บริโภคสินค้าจากสัตว์ที่สงสัยว่าเป็นโรคกลัวน้ำโดยไม่ทำให้สุก
 สัมผัสโรคระดับ 3 สัตว์กัด หรือข่วนทะลุผ่านผิวหนัง มีเลือดไหลชัดเจน น้ำลายสัตว์ถูกเยื่อบุ หรือรอยแผลเปิด แล้วก็ค้างคาวกัด หรือข่วน
 คำเสนอแนะเรื่องการรักษาผู้ถูกสัตว์ที่สงสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัด
 หากสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อ คุณควรปฏิบัติดดังนี้
 
 1. การล้างแผล
 ล้างแผลด้วยน้ำ แล้วถูด้วยสบู่หลายๆครั้งในทันที ที่สำคัญจำเป็นต้องล้างทุกแผลรวมทั้งลึกถึงตูดแผลนานอย่างน้อย 15 นาที แต่ระวังอย่าให้แผลช้ำ หลังจากนั้นขัดถูแผลด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ดังเช่น โพวิโดน ไอโอดีน หรือ ฮิบิเทนในน้ำ หากไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์ 70%
 
 2. การให้ยาปฏิชีวินะ
 ผู้ที่ถูกหมาหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ควรไปพบหมอ เนื่องจากอาจจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อเพื่อรักษาการติดเชื้อโรคหรือเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
 
 3. การรับวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคบาดทะยัก
 ถ้าเกิดเคยได้รับวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคบาดทะยักมาแล้วขั้นต่ำ 3 ครั้ง และเข็มในที่สุดยาวนานกว่า 5 ปี มาแล้ว จำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคบาดทะยักกระตุ้น 1 เข็ม
 แม้กระนั้นถ้าเกิดไม่เคยได้รับวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคบาดทะยักมาก่อน หรือได้รับไม่ครบ 3 เข็ม จำต้องได้รับวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคบาดทะยัก 3 ครั้งหรือ 1 หลักสูตร
 
 4. การรับวัคซีนแบบก่อนการสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า
 สามารถฉีดได้ในกรณีที่ต้องการสร้างภูมิต้านทาน หรือเป็นคนที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงสำหรับในการสัมผัสโรคคลอดเวลา หรือเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดพลาด
 
 5. การตรวจสมองสัตว์
 การส่งไปเพื่อทำการตรวจสมองในกรณีที่สัตว์ตาย ควรนำซากสัตว์ส่งไปทำการตรวจด้านใน 1 วัน และแช่แข็งเพื่อไม่ให้สมองเน่า ส่วนกรณีซากสัตว์เน่า หรือสัตว์ที่กัดมีประวัติอาการเหมือนโรคพิษสุนัขบ้า ถึงแม้ว่าผลการตรวจสมองสัตว์ได้ผลลบ บางทีอาจได้รับการดูแลและรักษาแบบภายหลังสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า
 
 ดังนี้ สังกัดดุลยพินิจของหมอผู้รักษา
 
 6. การดูแลและรักษาภายหลังสัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า
 จะฉีดยาโรคกลัวน้ำในกรณีสัมผัสโรคระดับ 2 และก็กรณีสัมผัสโรคระดับ 3 และจะให้ Rabies immuneglobulin เพิ่มอีก ในกรณีที่เป็นการสัมผัสโรคระดับ 3 เพราะมีการเสี่ยงสำหรับในการติดโรคโรคพิษสุนัขบ้าสูง
 
 ทั้งนี้ เนื้อหาแนวทางการฉีดวัคซีนขึ้นกับประวัติการฉีดวัคซีนโรคกลัวน้ำเดิมของคนป่วยด้วย
 
 กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากไม่เคยได้รับวัคซีนพิษสุนัขบ้ามาก่อนเลยให้เริ่มฉีดยาใหม่ให้ครบ 1 คอร์ส แต่ว่าหากได้รับวัคซีนเข็มในที่สุดด้านใน 6 เดือน ให้ฉีดกระตุ้น 1 เข็ม ส่วนในกรณีที่ได้รับวัคซีนเข็มสุดท้ายมานานกว่า 6 เดือน ให้ฉีดกระตุ้น 2 เข็ม
 
 ในเรื่องที่ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามต้นแขน หรือฉีดวัคซีนเข้าในหนังรอบๆต้นแขน ทั้งยังถ้าเป็นคนไข้ที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนแม้จะเป็นการสัมผัสโรคระดับ 3 ก็ไม่มีความจำเป็นต้องฉีด Rabies immuneglobulin ด้วยเหตุว่าผู้เจ็บป่วยมีภูมิต้านทานอยู่แล้ว
 
 แต่ ซึ่งถ้าหากว่าถูกหมา แมว หรือสัตว์เลือดอุ่นอื่นๆกัด ควรจะไปพบแพทย์ที่โรงหมอเพื่อรักษารวมทั้งให้แพทย์เป็นผู้พิจารณากรรมวิธีการรักษาอย่างเร่งด่วน
 
 โรคพิษสุนัขบ้าในหมารวมทั้งแมว
 อาจเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า โรคพิษสุนัขบ้านั้นเป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ รวมทั้งเป็นโรคที่อันตรายรุนแรงถึงชีวิต แต่ว่าบางบุคคลอาจจะประมาทมีความรู้สึกว่าโดนหมาแล้วก็แมวจรจัดข่วนนิดนึงบางครั้งก็อาจจะไม่เป็นอะไร
 
 ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย หากว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะแพร่ผ่านทางเรือลายโดยการกัดเสียส่วนใหญ่ แม้กระนั้นการเช็ดกหมาแล้วก็แมวที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าข่วน หรือเลาะริเวณที่มีแผล ก็สามารถทำให้เราติดโรคกลัวน้ำได้ด้วยเหมือนกัน
 
 ฉะนั้นถ้าโดนสุนัขและแมวจรจัดข่วน โดยยิ่งไปกว่านั้นข่วนกระทั่งเลือดไหล ข่มใจเย็นเด็ดขาด ควรจะรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดยาปกป้องโรคพิษสุนัขบ้าทันที
 
 อาการของหมารวมทั้งแมวที่ถูกสงสัยว่า เป็นโรคพิษสุนัขบ้า
 เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย เริ่มแรกเชื้อจะอาศัยที่กล้ามเนื้อหรือเยื่อบริเวณที่ถูกกัด ไปสู่กระแสเลือด และก็เบาๆลามไปสู่ระบบประสาทต่างๆไม่ว่าจะมีลักษณะเป็นเส้นประสาทส่วนปลาย หรือระบบประสาทส่วนกลาง อย่างเช่น สมอง เป็นต้น
 
 ภายหลังจากถูกกัด โรคบางทีอาจใช้เวลาเป็น 1-3 เดือนในการพัฒนา แต่เมื่อพ้นสภาวะเบื้องต้นไปแล้ว บางทีอาจพัฒนาไปสู่ระยะกระจายเชื้อที่สัตว์จะแสดงอาการโกรธ (Furious stage) แล้วก็ระยะท้ายที่สัตว์จะเป็นอัมพาต (Paralytic stage) โดยทั้งสองระยะบางทีอาจเป็นพร้อมกันได้
 
 อาการที่สำคัญของโรคพิษสุนัขบ้า ดังเช่นว่า ซ่อนตัวตามุมมืด ไม่กินอาหาร แล้วหลังจากนั้นราว 48 ชั่วโมง จะมีลักษณะกระสับกระสาย นิสัยเปลี่ยนแปลงอย่างเฉียบพลัน มีความโหดร้ายกัดคนไปทั่ว
 
 ต่อมาจะเริ่มมีอาการทางประสาท ได้แก่ ชักกระตุก มีสภาวะอัมพาตทั้งตัว เดินไม่ได้ อ้าปากค้าง กรามข้างล่างห้อย กลืนน้ำหรืออาหารทุกข์ยากลำบาก กล่องเสียงหรือฟันกรามล่างเป็นอัมพาต น้ำลายย้อย บางตัวอาจพบว่าน้ำลายฟูมปาก กลัวน้ำ และตายภายใน 2-3 วัน
 
 การวินิจฉัยแล้วก็การตรวจโรคพิษสุนัขบ้า
 ถ้าเกิดสงสัยว่าหมาหรือแมวของท่านเป็นโรคโรคพิษสุนัขบ้า ให้จองจำสัตว์ไว้ แต่ถ้าหากว่าแสดงอาการดุมาก บางทีอาจจำเป็นต้องติดต่อข้าราชการกรมปศุสัตว์เพื่อวางยาสลบ หรือจับ
 
 เมื่อผ่านไป 10 วัน ถ้าอาการปกติดีมีความหมายว่ามิได้เป็นโรคโรคกลัวน้ำ แต่ว่าหากมีลักษณะอาการแสดงตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น สัตว์ชอบตายในเวลา 1 อาทิตย์ถัดมา
 
 การวิเคราะห์ยืนยันที่สามารถทำได้ในตอนนี้จะใช้แนวทางผ่าซากเพื่อหาเชื้อโรคที่ปรากฏอยู่ในสมองส่วนเซรีเบลลัม (Cerebellum) ส่วนการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อยังไม่สามารถที่จะทำเป็น
 
 การดูแลรักษาและก็การฉีดวัคซีนคุ้มครองโรคพิษสุนัขบ้า
 คนหรือสัตว์เลี้ยงที่ถูกสุนัขที่สงสัยว่าจะเป็นโรคกัด ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและรีบพาไปโรงหมอ
 
 โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคซึ่งสามารถฉีดยาภายหลังจากการเช็ดกกัดเพื่อคุ้มครองป้องกันโรคได้ เนื่องจากว่าการพัฒนาของภูมิต้านทานโรคนั้นเร็วกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่สามารถทำเป็นอีกทั้งในสัตว์และในคน แม้กระนั้นควรต้องไปฉีดยาบ่อยครั้ง เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่วมกับการป้องกันโรคบาดทะยัก
 
 แม้กระนั้นแม้สุนัขหรือแมวตัวนั้นออกอาการทางระบบประสาท หรือออกอาการนิสัยไม่ดี มีความหมายว่าเชื้อได้เข้าไปยังสมองแล้ว ในช่วงนี้ให้ขังสัตว์เอาไว้ ไม่ให้ไปกระจายเชื้อสู่สัตว์หรือคนอื่นๆถัดไป สัตว์จะตายเองภายในเวลาราว 1 อาทิตย์
 
 การฉีดยาคุ้มครองปกป้องโรคพิษสุนัขบ้าหลังถูกกัด
 วัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคพิษสุนัขบ้า ที่ฉีดได้หลังติดเชื้อ มี 2 สูตร เช่น
 
 สูตรฉีดเข้ากล้าม ฉีดยา 0.1 มิลลิลิตร หรือ 0.5 มิลลิลิตร สังกัดประเภทของวัคซีนใน 1 หลอดเมื่อละลายแล้ว ฉีดเข้ากล้ามต้นแขน ในวันที่ 0, 3, 7, 14 รวมทั้ง 28
 สูตรการฉีดเข้าในหนัง ฉีดวัคซีนเข้าในหนังบริเวณต้นแขน 2 ข้าง ข้างละ 1 จุด รวม 2 จุด ปริมาณจุดละ 0.1 มล. ในวันที่ 0, 3, 7 แล้วก็ 28
 การฉีดวัคซีนคุ้มครองโรคพิษสุนัขบ้าก่อนถูกกัด
 สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ คุ้มครองป้องกันที่ตัวสัตว์ กับคุ้มครองคนติดเชื้อ ดังนี้
 
 1. นำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันกลัวน้ำ
 คุณสามารถคุ้มครองโรคนี้ได้ด้วยการฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคกลัวน้ำให้สัตว์เลี้ยง
 
 วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นวัคซีนราคาไม่แพง เพราะว่ากรมปศุสัตว์มีแผนการจะมีผลให้โรคพิษสุนัขบ้าปลอดจากเมืองไทยให้ได้ ครั้งคราวอาจมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนปกป้องโรคกลัวน้ำฟรี
 
 อย่างไรก็ดี เจ้าของควรจะพาหมาหรือแมวไปฉีดยาตั้งแต่อายุ 3 เดือน แล้วก็กระตุ้นอีกรอบที่ 6 เดือน
 
 แม้ว่า คุณภาพของวัคซีนคุ้มครองปกป้องพิษสุนัขบ้าจะสามารถคุ้มครองปกป้องโรคได้นานกว่า 5 ปี แต่ว่าเนื่องด้วยประเทศไทยยังเป็นถิ่นที่มีการระบาดอยู่จึงเสนอแนะให้ฉีดวัคซีนทุกปีจึงจะไม่มีอันตราย หลายคนมักรู้เรื่องว่า โรคพิษสุนัขบ้าระบาดเฉพาะในฤดูร้อน แม้กระนั้นความจริงแล้วไม่ใช่ เชื้อไวรัสสามารถเติบโตเจริญในช่วงฤดูหนาว แม้กระนั้นสามารถติดเชื้อได้ทุกฤดู จึงควรฉีดวัคซีนในสัตว์เลี้ยงที่มีการเสี่ยงทุกตัว
 
 2. การฉีดวัคซีนคุ้มครองปกป้องโรคกลัวน้ำในคน
 วัคซีนคุ้มครองพิษสุนัขบ้า (Rabies vaccine) ควรจะฉีดในกรุ๊ปเสี่ยงที่จะถูกสัตว์กัด เช่น สัตวแพทย์แล้วก็เด็ก และควรจะฉีดก่อนสัมผัสสัตว์ การฉีดวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคกลัวน้ำก่อนสัมผัสสัตว์ มีวิธีการฉีดแตกต่างกัน
 
 ราษฎรทั่วไป
 
 ฉีดเข้ากล้ามต้นแขน 1 เข็ม ในวันที่ 0 และก็ 7
 ฉีดเข้าในหนังบริเวณต้นแขน 0.1 มิลลิลิตร/จุด ปริมาณ 2 จุด ในวันที่ 0 แล้วก็ 7 หรือ 21
 ผู้ที่มีต้นเหตุสูงในการสัมผัสโรคตลอดระยะเวลาหรือคนที่มีภูมิคุ้มกันผิดพลาด
 
 ฉีดเข้ากล้ามต้นแขน 1 เข็ม ในวันที่ 0, 7, 21 หรือ 28
 ฉีดเข้าในหนังรอบๆต้นแขน 0.1 มล./จุด จำนวน 1 จุด ในวันที่ 0, 7, 21 หรือ 28
 ผู้ที่สัมผัส หรือถูกสัตว์กัดและไม่เคยได้รับวัคซีนคุ้มครองปกป้องกลัวน้ำมาก่อนให้ฉีดอิมมูโนโกลบูลิน ถ้าเกิดเป็นแค่รอยฟกช้ำ แผลไม่มีเลือดออก ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้อิมมูโนโกลบูลิน ส่วนอาการข้างๆของอิมมูโนโกลบูลินบางทีอาจเกิดปฏิกิริยารุนแรงหรือ Serum sickness
 
 อาการข้างๆของวัคซีนป้องกันโรคกลัวน้ำที่เจอคือ บวม เจ็บ คันรอบๆที่ฉีด อาการทั่วไปที่พบเป็น ปวดหัว อาเจียนแล้วก็ปวดกล้าม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : domaci-servis

Tags : domaci-servis



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ