ความไม่เหมือนระหว่างข้าวหอมมะลิ 105 รวมทั้ง หอมมะลิ กข 15

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความไม่เหมือนระหว่างข้าวหอมมะลิ 105 รวมทั้ง หอมมะลิ กข 15  (อ่าน 19 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Petchchacha
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25869


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: มีนาคม 15, 2020, 10:24:07 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

ความแตกต่างระหว่างข้าวหอมมะลิ 105 และ หอมมะลิ กข 15

ข้าวหอมมะลิ เป็นสายพันธุ์ข้าวที่มีบ้านเกิดเมืองนอนในไทยมีลักษณะกลิ่นหอมยวนใจคล้ายใบเตยเป็นประเภทข้าวที่ปลูกได้คุณภาพดีที่สุดในไทยหากเทียบกับการปลูกภายในประเทศอื่นๆแล้วก็เป็นประเภทข้าวที่ทำให้ข้าวไทยเป็นสินค้าส่งออกที่รู้จักไปทั่วโลก

เมื่อปี พ.ศ. 2497 นายเสนาะ สีหเนิน พนักงานข้าว จังหวัดฉะเชิงเทราได้สะสมประเภทข้าวหอมในเขตอำเภอบางคล้า ได้จำนวน 199 รวงแล้ว ดร.เสื้อครุย บุณยสิงห์ (ผู้อำนวยการกองบำรุงชนิดข้าวในเวลานั้น) ได้ส่งไปปลูกคัดเลือกประเภทบริสุทธิ์และเปรียบพันธุ์ที่สถานีทดสอบข้าวโคกสำโรง (ในตอนนี้เป็นสถานีข้าวลพบุรี) ทำงานคัดชนิดโดยนักวิชาการเกษตรชื่อนายมังกร จูมทอง ภายใต้การดูและของนายโอภาส พลศิลป หัวหน้าสถานีทดสอบข้าวโคกสำโรงจวบจนกระทั่งปี พุทธศักราช 2502 ได้จำพวกบริสุทธิ์ข้าวขาวดอกมะลิ 4-2-105105 (หมายเลข 4 เป็นอำเภอที่เก็บมาอำเภอบางคล้า ลำดับที่ 2 หมายความว่าชื่อจำพวกข้าวที่เก็บในอำเภอนั้น เป็น พันธุ์หอมมะลิ รวมทั้ง เลขลำดับ 105 คือ ตำแหน่งรวงข้าวของประเภทหอมมะลิที่เก็บในที่นั้น รวงที่ 105) รวมทั้งคณะกรรมการพิจารณาประเภทข้าวได้อนุมัติให้เป็นประเภทผลักดันแก่เกษตรกร ช่วงวันที่ 25 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2502 โดยเกษตรกรทั่วไปเรียกว่า “ขาวดอกมะลิ 105 ถัดมาได้มีการปรับปรุงแก้ไขชนิดข้าว ขาวดอกมะลิ 105 จนได้ข้าวจำพวก กข 15 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ประกาศให้ ข้าวทั้ง 2 ประเภทเป็นข้าวหอมมะลิไทย

ลักษณะเฉพาะเจาะจงของกลิ่นหอมยวนใจมะลิ

ความหอมของข้าวหอมมะลิ เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากสารระเหยชื่อ 2-acetyl-1-pyroline ซึ่งเป็นสารที่ระเหยหายไปได้
การดูแลและรักษาความหอมของข้าวหอมมะลิให้คงอยู่นานนั้นจะต้องเก็บข้าวเอาไว้ภายในที่เย็น อุณหภูมิราว 15 องศาเซลเซียส เก็บข้าวเปลือกที่มีความชื้นต่ำ 14-15% ลดความชื้นข้าวเปลือกที่อุณหภูมิไม่สูงเกินความจำเป็น นักการเกษตรกรบางคนพูดว่า การใช้ปุ๋ยโปแตสเซียมในการปลูกมีทิศทางช่วยทำให้ข้าวมีกลิ่นหอมยวนใจเยอะขึ้นเรื่อยๆ (ยังไม่มีข้อมูลการันตี)

ข้าวขาวดอกมะลิ 105 เป็นข้าวไวแสงสว่าง

ข้าวไวต่อช่วงแสง เป็น ข้าวที่จะออกรวงเมื่อแสงตะวันลดลงจากช่วงเวลาปกติ ซึ่งผู้คนจำนวนมากอาจสงสัยแล้วเพราะเหตุใดจำเป็นต้องปลูก ในเมื่อมันควบคุมยากที่ต้องปลูกข้าวไวแสงสว่างเพราะว่าข้าวหลายสายพันธุ์ที่มีคุณลักษณะเด่นๆ
มันเป็นข้าวที่ถูกควบคุมด้วยยีน หรือพันธุกรรมที่ตกค้างมาจากจำพวกป่า หรือจำพวกเริ่มแรกที่เกิดขึ้นจากการปรับตัวตามธรรมชาติ เพื่อให้ดำรงเผ่าพันธุ์ตัวเองไว้ได้ ดังเช่นว่า ข้าวขาวดอกมะลิ 105 แล้วก็ข้าวกข15 ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณสมบัติ นุ่มหอม และเป็นที่ต้องการของตลาดแสงตะวันปกติที่ส่องถึงผิวโลกของประเทศไทยเราคิดคำนวณที่ 12 ชั่วโมง ส่วนข้าวไวต่อช่วงแสงสว่างเป็นข้าวที่จะออกดอกเมื่อโดนแสงน้อยกว่า 12 ชั่วโมง โดยข้าวไวต่อตอนแสงสว่างมี 2 แบบ ข้าวไวน้อยต่อช่วงแสง จะมีดอกเมื่อความยาวช่วงกลางวันราว 11 ชั่วโมง 40-50 นาที รวมทั้งข้าวไวมากมายต่อช่วงแสง จะออกดอกเมื่อความยาวตอนกลางวันราว 11 ชั่วโมง 10-20 นาที

ดังนั้นเมื่อเลือกปลูกข้าวพันธุ์ที่ไวต่อตอนแสงสว่างไม่ว่าจะเริ่มปลูกเมื่อใดก็ตาม เมื่อถึงตอนหน้าหนาวของเมืองไทย ซึ่งเป็นช่วงที่กลางวันสั้นกว่ายามค่ำคืน ข้าวก็จะมีดอกทันที จึงเป็นสาเหตุของคำว่า “ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ”(12 สิงหาคม – 5 ธ.ค.) เนื่องจากว่าประเภทข้าวที่เราปลูก คือ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และข้าว กข15 ซึ่งเป็นข้าวหนักมีอายุการเก็บเกี่ยว มากกว่า 120 วัน แม้เราปลูกเร็วเกินความจำเป็นก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับในการดูแลมากขึ้น
แม้ปลูกช้าเหลือเกิน ข้าวก็จะไม่สามารถสะสมของกินได้สุดกำลังก่อนออกรวง ทำให้ผลผลิตน้อยลงนั่นเอง

ลักษณะของสายพันธุ์

– นิยมปลูกในช่วงฤดูนาปี จะมีกลิ่นหอมสดชื่นมาก เมื่อพบภาวะน้ำแห้งและก็อากาศเย็น
– เป็นข้าวที่ไวต่อตอนแสง เป็นข้าวหนัก คุณภาพดี
– เก็บเกี่ยวได้ราวช่วงเวลากลางเดือน พฤศจิกายน อายุจนกระทั่งเก็บเกี่ยวโดยประมาณ 120 วัน
– ผลผลิตโดยประมาณ 363 กกต่อไร่ (แม้กระนั้นถ้าดูแลดีก็ได้ผลิตผลสูงขึ้นกว่านี้ได้)
– ทนต่อภาวะดินเค็ม ดินเปรี้ยว ความแล้ง ได้ดิบได้ดี
– พื้นที่เสนอแนะสำหรับเพื่อการปลูก ภาคอิสานแล้วก็เหนือตอนบน
– จำนวน อะไม่โลสต่ำเป็นราว 12-17% (ยิ่งมีค่าต่ำเท่าไหร่ ยิ่งมีความหอมมาก)

จุดเด่น
– มีกลิ่นหอม นุ่ม อร่อย ถึงแม้ตอนข้าวสวยแล้วก็เย็น หากเก็บเป็นข้าวเปลือก
– เมือนำมาสีเป็นข้าวสารก็ยังคงความอ่อนนุ่มหอมไว้ได้

หอมมะลิ ประเภท กข 15 (ที่เรียกว่า หอมมะลิ ได้จากการปรับแต่งพันธุ์โดยการใช้รังสีชักชวนให้เกิดการกลายพันธุ์ ของข้าวหอมมะลิ 105) รับประกันสายพันธุ์เมื่อ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2521

ลักษณะของสายพันธุ์
– นิยมนำมาปลูกในฤดูนาปี จะมีกลิ่นหอมยวนใจมากมาย เมื่อพบภาวการณ์น้ำแห้งและเย็น แม้กระนั้นเป็นข้าวจำพวกเบาให้ผลผลิตได้มาก
– จะสุกแล้วก็สามารถเกี่ยวได้ก่อนข้าวหอมมะลิ 105 ราว 20 วัน
– -ผลผลิต โดยประมาณ 560 กก.ต่อไร่
– ทนแล้งและดินเค็ม ดินเปรี้ยว ได้ดี
– ปลูกในพื้นที่ภาคอิสาน
– ปริมาณอมิโลส 14-17 % (ยิ่งมีค่าต่ำเยอะแค่ไหน ยิ่งมีความหอมมาก)

ข้อเด่น
– มีกลิ่นหอมหวน นุ่ม เสมือนข้าวหอมมะลิ 105[/b] แม้กระนั้นกลิ่นจะหอมน้อยกว่า เพราะการปรับแก้สายพันธุ์

ข้าวหอมอุบล ชื่อเรียก กข31(ปทุมธานี 80) รับประกันสายพันธุ์ ช่วงวันที่ 6 เดือนมีนาคม 2550

รูปแบบของสายพันธุ์
– เป็นข้าวเจ้าไม่ไวต่อตอนแสงสว่าง เม็ดสั้น เป็นข้าวนาปรังอายุเก็บเกี่ยวแน่ๆราว 110 วัน
– ผลผลิตเฉลี่ย 738 กิโลต่อไร่ (นาหว่านน้ำตม)
– จำนวนอมิโลสสูง (27.3 – 29.8 %)
– มีกลิ่นหอมและก็นุ่มเวลาหุงเสร็จใหม่ๆแม้กระนั้นจะหยาบเมื่ออาหารมื้อเย็นตัวลง

Tags : ข้าวหอมมะลิ,ข้าวหอมมะลิ 105



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ