ตอบปัญหาข้องใจเกี่ยวกับกวาวเครือขาว by คุณหมอศักดากรหมอหนุ่มผู้ใจดี

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบปัญหาข้องใจเกี่ยวกับกวาวเครือขาว by คุณหมอศักดากรหมอหนุ่มผู้ใจดี  (อ่าน 39 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ittipan1989
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 25925


ดูรายละเอียด










« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2016, 08:35:37 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

สวัสดีคร๊าฟวันนี้ตัวผมจะมาบอกเรื่องสมุนไพรกวาวเครือขาว ก่อนอื่นหมอขอโทษด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาที่หมอตอบคำถาม ในส่วนของข้อมูลเพิ่มเติมไว้ครั้งก่อนหน้านี้ หมอยังไม่ได้ข้อมูลครบ หมอขอตอบและพูดในที่นี้เลยละกันนะครับ อาจยาวนิดนึง แต่เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นของผู้ที่บริโภคสมุนไพรกวาวเครือขาวอยู่ ซึ่งโดยปกติแล้วในร่างกายของสตรีจะมีการหลั่งฮอร์โมน FSH จากต่อมใต้สมองส่วนหน้า มากระตุ้นรังไข่ให้สร้างฟองไข่ และ เป็นผลให้สร้างฮฮร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีผลกับการกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาตัวขึ้น ต่อมาเมื่อไข่เจริญเต็มที่และพร้อมจะตกไข่ ซึ่งก็จะประมาณช่วงกลางรอบเดือน หรือ ประมาณ 14 วันนับจากวันที่ประจำเดือนมารอบสุดท้าย หลังจากตกไข่แล้ว เปลีอกไข่ ที่เรียกว่า corpus luteal cyst นั้น จะสร้างฮอร์โมนที่เรียกว่า โปรเจสโตรโรน ที่ออกฤทธิ์เพื่อทำเยื่อบุโพรงมดลูกให้หนาตัวขึ้น เปลี่ยนแปลงให้พร้อมกับการฝังตัวของไข่ที่อาจจะผสมกับอสุจิหากมีเพศสัมพันธ์ แต่หากไม่มีการปฎิสนธิ corpus luteal cyst นั้น ก็จะสลายตัวไปใน 14 วัน ทำให้ระดับฮอร์โมน โปรเจสโตรโรน ลดลง เป็นผลต่อให้เยื่อบุมดลูกที่หนาตัวนั้น หลุดลอกตัวออกมาเป็นเลือดประจำเดือนให้เห็นกัน ในทุกๆรอบนั่นเองคับ แต่หากมีสารหรือปัจจัยอะไรก็ตาม มายับยั้งกระบวนการดังกล่าว เช่น ความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือพร่องฮอร์โมน เป็นต้น อย่างที่หมอกล่าวไป จะมีผลต่อการหลั่ง FSH ที่สมอง ทำให้ไม่มีตัวมากระตุ้นการเจริญของไข่ ทำให้ไม่เกิดการตกไข่ครับ เช่นเดียวกันกับยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือดต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในหัวกวาวเครือขาวนั้น จะมีสารที่ออกฤทธิ์สำคัญ ที่เป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในเพศผู้หญิง ที่เรียกว่า phytoestrogens ตัวนี้จะมีผลในแง่ยับยั้งไม่ให้มีการตกไข่ เนื่องจากร่างกายจะรู้สึกว่า มีฮอร์โมนตัวนี้แล้ว ก็เลย มีการยับยั้งไม่ให้เกิดการเจริญเติบโตของไข่ทำให้ไม่มีการตกของไข่ และ ยังมีผลกระตุ้นเยื่อบุโพรงมดลูกให้เจริญไปเรื่อยๆอีกด้วย ซึ่งในยาหรือสารต่างๆนั้น ปริมาณของ phytoestrogens ไม่เท่ากัน และ ไม่เหมือนกับการกระตุ้นจากร่างกาย อาจมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูก อาจเจริญเติบโต หนาตัว แบ่งตัว ไปเรื่อยๆ ตราบเท่าที่ทานอยู่ ผลสุดท้ายทำให้ ไข่ไม่ตก และ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวจาการกระตุ้นจาก phytoestrogens เป็นผลให้ไม่มีประจำเดือน ประจำเดือนไม่มา ต่อมา เมื่อหนาตัวจนร่างกายไม่สามารถสร้างเลือดไปเลี้ยงได้เพียงพอ ก็จะเกิดการสลายตัวออกมา (progesterone breakthrough bleeding) อย่างมาก อาจเป็นผลให้ เลือดออกมาปริมาณมากๆ หลายๆวันได้ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงในสตรีที่เข้าวัยทองแล้ว เมื่อได้รับสารจำพวกนี้แล้ว อาจทำให้เกิดการพัฒนาของเนื้อเยื่อที่ผิดปกติได้ อาจก่อให้เกิดการแตกตัวที่ผิดปกติ ซึ่งปัจจัยนี้ ก่อให้เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ครับ โดยสรุปแล้วตามความเห็นของหมอ สาเหตุของเลือดประจำเดือนไม่มา หรือ มาช้าในแต่ละครั้งนั้นน่าจะเกิดจากภาวะความเครียด และ มีปัจจัยจากสาร phytoestrogens นี้ร่วมด้วย หมอคิดว่า หากความเครียดลดน้อยลง ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ และ ไม่มีสารอื่นมารบกวนการทำงานตามธรรมชาติ ประจำเดือนก็จะมาตามปกตินะครับ หมอมีขอแนะสำหรับผู้หญิงที่กำลังกินกวาวเครือขาวอีกนิดหนึ่งครับ โดยปัจจุบันมีความสะดวกใช้กวาวเครือขาวมากขึ้น มีการผลิตกวาวเครือขาวแคปซูลออกมาวางขายตามท้องตลาด มีทั้งตัวแทนขายกวาวเครือขาวมากมาย โดยมีผู้ผลิตหลายเจ้าที่ขายกวาวเครือขาว[/b]แคปซูล ทั้งนี้ผู้บริโภคควรศึกษาดูกว่า ร้านไหนที่ขายกวาวเครือขาวแคปซูลแล้วได้รับการรับรองจากทะเบียนยาหรือว่า อย. เพื่อความปลอดภัยกับตัวผู้บริโภคเอง วันนี้ขออนุญาติไปก่อนนะครับ หวังว่าจะได้สาระไม่น้อยนะครับ Thanks ครับ บายๆครับ

Tags : กวาวเครือขาว



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ