Advertisement
[b]สมุนไพร[/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%99.jpg" alt="" border="0" />
อีแอ่[/b]
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%99/]อีแอ่[/color] เป็นชื่อไทยแท้ของนก ๒ สกุล (เดี๋ยวนี้คนประเทศไทยมีความเห็นว่าชื่อ “อีแอ่น” ไม่สุภาพไหมเนื่องจาก จึงเปลี่ยนเป็นชื่อ“นางแอ่น” หรือ“นกแอ่น” เหมือนกันกับ“
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%AD%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2/]อีก[/b]” เป็น “นกกา” หรือ “
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%87/]อีแร้ง” เป็น “นกแร้ง”)หมายถึงตระกูล Apodidae (ชั้น Apodiformes) กับวงศ์ Hirundinidae (ชั้น Passeriformes)
อีแอ่นรับประทานรังเป็นนกในตระกูล Apodidae ส่วนนกในวงศ์ Hirundinidae หลายประเภทเรียก “อีแอ่น” เช่นกัน แต่นกที่จัดอยู่ในวงศ์ข้างหลังนี้สร้างรังด้วยดิน ไม่มีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมอยู่อย่างใด รวมทั้งนกตาพอง (Pseudochelidon sirintarae Thonglongya) ที่มีผู้ตั้งชื่อให้ใหม่เป็นนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร อันเป็นนกถิ่นเดียวของไทย พบที่บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ตอนนี้เป็นนกหายากแล้วก็มีจำนวนน้อยหรือบางทีอาจจะสิ้นพันธุ์ไปแล้งก็ได้
๕.อีแอ่นหิมาลัย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Colocalia brevirostris (Horsfield) มีชื่อสามัญว่า Himalayan swiftlet ประเภทนี้ทำรังด้วยหญ้าแล้วก็พืชชนิดต่างๆมีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมเพียงนิดหน่อย อีแอ่น ๒ ชนิดแรก คือ อีแอ่นกินรังกับอีแอ่นกินรังสะโพกขาว สร้างรังด้วยน้ำลายล้วนๆจึงเป็น
รังนกที่มีคุณภาพบรรเจิด เป็นที่รู้จักกันมานานและก็เป็นที่เรียกร้องของตลาด มีราคาแพงมาก ส่วนรังของอีแอ่นประเภทอื่นในสกุลเดียวกันนี้ไม่เป็นที่นิยมของตลาด โดยยิ่งไปกว่านั้น ๒ ประเภทข้างหลัง เป็น อีแอ่นท้องขาวและก็อีแอ่นหิมาลัย
อีแอ่นกินรังเป็นนกที่อาศัยอยู่ในถ้ำหินปูนหรือถ้ำหินทรายตามเกาะต่างๆตามสมุทรหรือตามริมฝั่งต่างๆหรืออาจพักอยู่ตามสิ่งปลูกสร้างต่างๆดังเช่น อาคาร โบสถ์ และก็บินออกจากถิ่นในเวลาเช้ามืด ไปหากินตามแหล่งน้ำในช่องเขาหรือตามป่า โดยบินไม่หยุดทั้งวัน ห่อนกลับมายังถิ่นที่อยู่ในเวลาเย็นหรือเย็น นกพวกนี้สามารถบินโดยใช้เสียงสะท้อนกลับ (echolocation) ก็เลยไม่ชนกับเครื่องกีดขวางใดๆแม้ว่าถิ่นที่อยู่มืดตึดตื๋อ ราวปริมาณร้อยละ ๘0 ของอาหารเป็นแมลง โดยเฉพาะมดมีปีก ในฤดูฝนนั้น อาหารของนกเหล่านี้เป็นนกแทบทั้งหมด อีแอ่นรับประทานรังที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชข้อมูลตั้งแต่นี้ต่อไปสำเร็จงานของการศึกษาเรียนรู้วิจัยของรศ.โอภาส ขอบเขตต์ ราชบัณฑิต ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนก ซึ่งได้รายงานต่อห้องประชุมราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ที่ราชบัณฑิตยสถาน ตอนวันที่ ๗ พ.ย. พ.ศ.๒๕๔๔ ในหัวข้อเรื่อง “อีแอ่นกินรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช” ก่อนที่ท่านกำลังจะถึงแก่บาปเพียงแต่ ๕ เดือนเศษ
สมุนไพร อีแอ่นกินรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประเภท Colocalia fuciphaga (Gmelin) หรือ eible – nest swiftlet ในราว ๕0 ปีที่ผ่านมา อีแอ่นกินรังได้เข้ามาอาศัยรวมทั้งสร้างรังในบ้านข้างหลังหนึ่ง ซึ่งราษฎรเรียก “บ้านร้อยปี” โดยเริ่มเข้ามาพักพิงที่ชั้น ๓ อันเป็นชั้นบนสุด เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๒ ต่อมาจำนวนนกมีเป็นจำนวนมากจนถึงรุกพื้นที่ชั้น ๒ เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๑ ซึ่งเป็นร้านรวง แม้กระนั้นปัจจุบันบ้านข้างหลังนี้มีนกอยู่เต็ม ๓ ชั้น โดยเจ้าของบ้านปิดกิจการรวมทั้งย้ายไปอยู่ที่อื่นๆ แต่กลับมาเก็บรังนกทุกเดือน โดยเฉลี่ยได้รังนกราวเดือนละ ๖ กิโล (มูลค่ากก.ละ ๕0000-๗0000 บาท) ในช่วงนั้นอีแอ่นรับประทานรังไปอาศัยอยู่บริเวณโบสถ์ของสงฆ์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ โดยที่เดิมที่ทางวัดมิได้เก็บรัง แม้กระนั้นปัจจุบันนี้คณะกรรมการวัดก็เก็บรังนกขายเช่นเดียวกับบ้านร้อยปี โดยได้รังนกเฉลี่ยราวเดือนละ ๒ กิโลกรัม
ในตอน ๕ ปีที่ผ่านมา อีแอ่นรับประทานรังรอบๆตลาดอำเภอปากพนังได้เพิ่มจำนวนขึ้น จนตราบเท่าเข้าไปอยู่ในตึกสูงๆหลายอาคารทางฝั่งด้านตะวันออก(ฝั่งบ้านร้อยปี) ส่วนฝั่งด้านตะวันตก(ฝั่งวัด) ก็มีบ้าง แต่น้อยกว่ามากมาย ตอนนี้มีการก่อสร้างอาคารสูง๑๐ชั้น มากยิ่งกว่า ๑๐อาคาร แต่ละตึกใช้เงินทุนไม่น้อยกว่า ๕ ล้านบาท โดยหวังให้อีแอ่นเข้าไปอาศัยทำรัง รวมแล้วมีตึกที่ผลิตขึ้น โดยหวังว่าอีแอ่นกินรังจะเข้าไปทำรังไม่น้อยกว่า ๕0 ตึก แต่อีแอ่นก็ไม่ได้เข้าไปอาศัยทำรังทุกอาคาร
เพราะอะไรอีแอ่นจึงเลือกอาคารใดอาคารหนึ่งเพื่อทำรัง คำตอบนี้ยังมิหาคำตอบได้แต่จากการเรียนพบว่า อีแอ่นจะเข้าไปทำรังในตึกสูงตั้งแต่ ๑-๗ ชั้น ตึกจำนวนมากมักมีสีเหลืองไข่ไก่ แต่ว่าลางตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จแล้ว ยังเป็นสีอิฐ ก็มีนกเข้าไปอาศัยและก็สร้างรัง ส่วนทิศทางการเข้าออกของอีแอ่นนั้น พบว่ามีเกือบทุกแนวทาง ไม่แน่นอน แต่ทางเข้าออกของนกโดยส่วนมากเป็นทิศใต้ค่อนไปทางทิศตะวันตก
แต่ อุณหภูมิแล้วก็ความชุ่มชื้นภายใต้ตึกน่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่นกเลือกอาศัยและทำรัง พบว่าอาคารที่นกอาศัยจะอยู่ระหว่าง ๒๖- ๒๙ องศาเซลเซียส แล้วก็ความชื้นสัมพัทธ์ไม่ต่ำกว่าปริมาณร้อยละ ๗๕ (อยู่จำนวนร้อยละ ๗๙-๘0 ) ผนังตึกจำเป็นต้องไม่น้อยกว่า ๓0 เซนติเมตร ภายในมีอ่างน้ำรอบๆหรือแทบรอบ ไม่มีหน้าต่าง แต่ว่ามีช่องลมให้นกเข้าออกขั้นต่ำ ๒ ช่อง ซึ่งอุณหภูมิและก็ความชื้นสัมพัทธ์ในอาคารกลุ่มนี้ใกล้เคียงกับถ้ำธรรมชาติที่นกจำพวกนี้ใช้เป็นที่อาศัยรวมทั้งทำรัง สำหรับเพื่อการเก็บรังนกนั้น เจ้าของบ้านเก็บก่อนที่นกจะตกไข่ คือราว ๓0 วัน ภายหลังนกเริ่มทำรัง และก็เก็บทุกๆเดือน
แต่|แต่ว่า|แม้กระนั้น}ถ้าเกิดเป็นรังที่นกตกไข่แล้ว ก็จะปล่อยให้นกตกไข่ต่อไปจนกระทั่งครบ ๒ ฟอง แล้วปลดปล่อยให้ไข่ฟัก และเลี้ยงลูกอ่อนจนลูกบินได้ก็เลยจะเก็บรัง
Tags : สมุนไพร