สัตววัตถุ ไก่ป่า

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัตววัตถุ ไก่ป่า  (อ่าน 14 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
watamon
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 654


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: ธันวาคม 11, 2017, 08:44:30 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[b]สมุนไพร[/b][/i][/b].com/wp-content/uploads/2017/09/%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2.jpg" alt="" border="0" />
ไก่ป่[/b]
ไก่ป่าฯลฯเชื้อสายของไก่บ้าน
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus (Linnaeus)
อยู่ในตระกูล Phasianidae
มีชื่อสามัญว่า red jungle fowl
มีบ้านเกิดเมืองนอน แถบทวีปเอเชียใต้ (ศรีลังกาและก็ประเทศอินเดีย) มาทางทิศตะวันออก จนถึงหมู่เกาะมลายู
ไก่ป่าที่พบในประเทศไทยมีเพียงแต่ประเภทเดียวเป็น Gallus gallus (Linnaeus) จำพวกนี้มีหน้าสีแดง ไม่มีขน หงอนสีแดง มีเหนียงสีแดงรวมทั้งติ่งหูอย่างละคู่ ขนบริเวณคอ ข้างหลัง ถึงบั้นท้ายมีสีส้ม ขนปีกสีเขียวเป็นมันขลิบสีส้มใต้ท้องสีน้ำเงินดำ หางโค้งลาด ปลายพริ้ว สีเขียวแซมดำรวมทั้งสีน้ำเงินเข้มเป็นมัน ความยาวของตัววัดจากปลายปากถึงปลายหางราว ๖๐ ซม. เพศผู้หนัก ๘๐๐ – ๑๓๐๐ กรัม ไก่ป่าเพศผู้มีลักษณะสำคัญที่แตกต่างจากนกอื่นๆคือ
๑.มีหงอนบนหัวที่เป็นเนื้อ ไม่ใช่หงอนที่กระเป๋านขน
๒.มีเหนียงเป็นเนื้อห้อยลงมาทั้งสองข้างของโคนปากและคาง
๓.มีหน้ารวมทั้งคอเป็นหนังเกลี้ยงๆ ไม่มีขน
๔.โดยธรรมดาขนตามตัวมีสีสวยงาม มีขนหาง ๑๔ – ๑๖ เส้นตั้งเรียงกันเป็นสันสูงกึ่งกลาง คู่กลางยาวกว่าคู่ อื่น ปลายแหลมรวมทั้งอ่อนโค้ง เรียก หางกะลวย
๕.แข้งมีเดือยข้างละอันเป็นอาวุธ
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2/]ไก่ป่[/b]ตัวเมียมักมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ ขนไม่งดงาม สีไม่ฉูดฉาด หน้าแข้งไม่มีเดือย หงอนแล้วก็เหนียงเล็กมากมาย หรือบางตัวแทบจะเป็นศูนย์ ไก่ป่าอาศัยตามพุ่มเล็กๆในป่าทั่วไป บินได้เร็ว แม้กระนั้นในระดับที่ถือว่าต่ำๆและระยะทางสั้นๆเป็นประจำอยู่เป็นฝูงใหญ่หมดทั้งตัวผู้และก็ตัวเมียรวมกันราว ๕๐ ตัว แต่จะแยกเป็นฝูงเล็กๆในฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งตัวผู้ต้องต่อสู้กันเพื่อครองพื้นที่และก็ฉกชิงตัวเมียกันตัวละ ๓ – ๕ ตัว หลังสืบพันธุ์แล้วตัวเมียจะทำรังเป็นหลุมตื้นๆบนพื้นดินหรือบนกองใบไม้แห้งๆในที่ปลอดภัย  แล้วออกไข่คราวละ ๕ – ๖ ฟอง ไข่สีขาวหรือน้ำตาล ใช้เวลาฟักราว ๒๑ วัน ลูกไก่ป่าอายุ ๘ วันก็เริ่มบินเกาะตามก้านไม้ได้ รวมทั้งเมื่ออายุโดยประมาณ ๑๐ วัน ก็เริ่มบินได้ในระยะทางสั้นๆ

ไก่ป่าที่เจอในประเทศไทยมี ๒ ประเภทย่อย คือ
๑. ไก่ป่าติ่งหูขาว หรือ ไก่ป่าอีสาน (Cochin Chinese red jungle foml) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus gallus (Linnaeus) มีติ่งหูสีขาว พบบ่อยทางภาคทิศตะวันออกและก็ภาคอีสาน
๒. ไก่ป่าติ่งหูแดง หรือ ไก่ป่าชนิดเมียนมาร์ (Burmese red jungle fowl) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gallus gallus  spadiceus (Bonnaterre) มีติ่งหูสีแดง พบได้ทั่วไปทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก และก็ภาคใต้
ผลดีทางยา
[url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร
โบราณไทยใช้ตับไก่เป็นอีกทั้งของกินและเป็นยา  ตำราเรียนสรรพคุณยาโบราณบันทึกไว้ว่า  ตับไก่ใช้แก้โรคตาฝ้าตาฝ้า ปัจจุบันนี้พึ่งจะทราบดีว่าโรคนี้เกิดจากการขาดวิตามินเอ ซึ่งพบได้ทั่วไปในตับไก่ หมอแผนไทยรู้จักใช้เปลือกไก่ฟัก ไข่แดง ตับไก่ และเล็บไก่ป่า เป็นเครื่องยามานานแล้ว ตำราเรียนโบราณว่า ไข่แดงมีรสมัน คาว มีสรรพคุณชูกำลังสร้างความรุ่งโรจน์ให้แก่ร่างกาย ตับไก่มีรสมัน คาว มีคุณประโยชน์บำรุงเลือด แก้โลหิตจาง บำรุงร่างกายให้แข็งแรง แก้โรคตาฝ้าตาฝ้า แล้วก็เล็บไก่ป่าใช้แก้พิษไข้ ไข้รอยดำ ไข้หัวทุกชนิด นอกจากไข่ขาวยังใช้เป็นตัวยาแต่งทางเภสัชกรรมสำหรับทำยาขี้ผึ้ง ตามที่ปรากฏในยาขนานที่ ๗๙ ใน ตำราเรียนพระยาพระนารายณ์ ดังนี้
ขนานหนึ่ง ให้เอาพิมเสน ๒ สลึง การบูร ๓ สลึง มาตะกี่ ๕ สลึง ชันตะคียน กำยาน สิ่งละ ๗ สลึง สีปากขาว ๑๐ ตำลึง น้ำมันที่ทำจากมะพร้าวอันใหม่ดีนั้นครึ่งทนาน ต้มขึ้นร่วมกันให้สุกดี  แล้วกรองกากออกเสีย เอาไว้ให้เย็น จึงเอาไข่ไก่ มัวแต่ไข่ขาว ๒ ลูก เอาเหล้ากลั่นราวจอกหนึ่ง กวนกับไข่ให้สบกันดี แล้วจึงแบ่งออกให้เป็น ๓ ภาคๆหนึ่งนั้น เอาน้ำทะแลงไซ้ ๓ สลึง การบูร ๓ สลึง กวนเข้าด้วยกันให้สบก็ดีแล้ว เป็นสีปากแดง ก็เลยเอาขี้ผึ้งขาวภาค ๑ นั้น มากวนด้วยจุที่สีพอสมควร เป็นขี้ผึ้งเขียว ภาคหนึ่งเป็นสีผึ้งขาว ปิดแก้เพ่งพิศม์ แสบร้อนให้เย็น

Tags : สมุนไพร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ