Advertisement
งูเห่[/b]
งูเห่าเป็นงูมีพิษขนาดปานกลางถึงขั้นใหญ่
มีชื่อวิทยาศาสตร์ Naja naja kaouthia Lessonมีชื่อสามัญว่า Thai cobra หรือ common cobra หรือ Siamwse cobraจัดอยู่ในสกุล Elapidae งูเห่าหม้อ หรือ งูเห่าไทยก็เรียกงูเห่าไทยที่โตเต็มที่มีความยาวราว ๑๓๐ ซม. วัดขนาดผ่านศูนย์กลางของลำตัวราว ๕ เซนติเมตร มีลวดลายสีสันผิดแผกแตกต่างออกไปในแต่ละตัว สีที่พบได้ทั่วไปคือสีเทนดำ นอกเหนือจากนี้อาจมีสีน้ำตาลเข้ม เขียวหม่นหมอง หรืออมเขียว มักมีสีเดียวกันตลอดทั้งลำตัว ลวดลายบนตัวมีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะลวดลายที่คอหรือ “ดอกจัน”งูเห่าไทยที่พบได้ทั่วไปมีดอกจันเป็นวงกลมวงเดียว จึงมีชื่อเรียกในภาษษอังกฤษว่า monocellate cobra บางชนิดมีดอกจันวโลภลมตัดกัน ๒ วงคล้ายแว่นตา เรียกงูเห่าแว่น บางประเภทมีดอกจันรูโป้ปดอกส้านหรือลายตาอ้อย เรียกงูเห่าดอกส้าน บางชนิดมีลายดอกจันเป็นรูปอานม้า ก็เรียกงูเห่าอานม้า งูเห่าพ้นพิษ งูเห่าอีกกลุ่มหนึ่ง เรียกงูเห่าพ้นพิษ (spitting cobra) ที่พบในประเทศไทยมี ๓ จำพวก ดังเช่น
๑.งูเห่าด่างพ่นพิษ (black and white spitting cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naja naja siamensis Nutphandชนิดย่อยนี้มีลักษณะคล้ายงูเห่าไทย แต่ว่าขนาดเล็กกว่า ลำตัวยาวราว ๘๐ เซนติเมตร ว่อง ปราดเปรี่ยว รวมทั้งดุกว่างูเห่าไทย พ่นพิษได้ไกลราว ๒ เมตร ลำตัวมีสีไม่แน่นอน สีด่างถึงขาว ดอกจันรูปตัวยู (U) ในภาษาอังกฤษ บางที่เรียก งูเห่าเรื้อน พบบ่อยในภาคตะวันตกแล้วก็ตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองไทย ดังเช่นที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดอ่างทอง สุพรรณบุรี และตาก นอกจากนั้นยังบางทีอาจพบทางภาคตะวันออกด้วย อาทิเช่น เมืองจันท์ จังหวัดชลบุรี งูที่เจอบริเวณนี้มักไม่มีลายด่างขาว
๒.งูเห่าทองคำพ่นพิษ (going spitting cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naja naja sumatranus Varงูประเภทย่อยนี้มีลำตัวยาวราว ๙๐ ซม. มีสีเหลืองปลอดทั้งตัว บางตัวอาจมีสีเหลืองอมเขียว ไม่มีลายสีอื่นๆ ไม่มีดอกจันบนข้างหลังคอรวมทั้งท้องสีขาว ภาคใต้กล่าวได้ว่างูเห่าปลวก งูจำพวกนี้มีน้ย พบเฉพาะทางภาคใต้ของประเทศไทย ตัวอย่างเช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง รวมทั้งจังหวัดสตูล
๓.งูเห่าอีสานพ่นพิษ (isan spitting cobra)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naja naja isanensis (Nutphand)งูประเภทย่อยนี้ลำตัวเล็กกว่าชนิดย่อยอื่นๆ ยาวราว ๖๐-๗๐ ซม. ดุ ว่อง ปราดเปรี่ยว พ่นพิษเก่งมากมาย มีสีเขียวอมเทา เขียวอมน้ำตาล หรือเขียวหม่นหมองหมดทั้งตัว ไม่มีลายกระจ่างแจ้ง มักไม่มีดอกจัน แต่ว่าบางตัวอาจมีดอกจันรูปตัวยู(U) ในภาษาอังกฤษกระจ่างกว่างูเห่าด่างพ่นพิษ พบมากทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไทย บางถิ่นเรียก งูเห่าเป่าตา
งูเห่าอีก พบมากที่จังหวัดสุพรรณบุรี จำพวกนี้ลำตัวมีสีนวลและไม่มีดอกจัน เรียกงูเห่าสีนวล
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naja kaouthia suphandensis (Nutphand) ผลดีทางยา[url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/]สมุนไพร[/u][/url] แพทย์แผนไทยรู้จักใช้รอยเปื้อนงูเห่า กระดูกงูเห่า ดีงูเห่า และก็น้ำมันงูเห่า นอกนั้นหมอตามบ้านนอกยังคงใช้งูเห่าตลอดตัวปิ้งไฟจนแห้งกรอบ ดองเหล้ารับประทานแก้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว แก้ปวดหลัง รวมทั้งแก้ผอมบางในสตรีข้างหลังคลอดบุตร และใช้หัวงูเห่าสุมไฟให้เป็นถ่าน ปรุงเป็นยาแก้ชาชักในเด็ก ลดความอ้วน ว่ามีรสเย็นและเมา
๑.คราบเปื้อนงูเห่า เป็นรอยเปื้อนที่งูเห่าลอกทิ้งไว้ ในพระคัมภีร์ปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่งที่เข้า “รอยเปื้อนงูเห่า” เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ ภาคหนึ่งยาใช้ภายนอกตัวกุมาร กันสรรพโรคทั้งมวล แลจะจับไข้อภิฆาฎดีแล้ว โอปักกะไม่กาพาธก็ดีแล้ว ท่าน ให้เอาใบมะชน คราบเปื้อนงูเห่า หอมแดง สาบนกแร้งสาบกา ขนเม่น ไพลดำ ไพลเหลือง บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำนมวัว ทาตัวกุมาร จ่ายความมัวหมองโทษทั้งปวงดีนัก
๒.กระดูกงูเห่า มีรสเมา ร้อน แก้พิษเลือดลม แก้จุกเสียด แก้ษนัย แก้เมื่อย แก้ชางต้นตานขโมย รวมทั้งปรุงเป็นยาแก้แผลเนื้อร้ายต่างๆ ในพระคัมภีร์จินดาร์ให้ยาอีกขนานหนึ่งเข้า “กระดูกงูเห่า” เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ ยาใช้ภายนอกท้องแก้ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ขนานนี้ท่านให้เอาใบหนาด ๑
ใบคนทีส[/b] ๑ ใบประคำไก่ ๑ ใบผักเค็ด ๑ ใบผักเสี้ยนผี ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ เมล็ดในสะบ้ามอญ ๑ มดยอบ ๑ กำยานผี ๑ ตรีกะฎุก ๑ สานส้ม ๑ โปตัสเซี่ยมไนเตรดขาว ๑ บอแร็ก ๑
[url=http://www.disthai.com/16484907/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B3] กระชาย ๑
กระทื[/b] ๑
[url=http://www.disthai.com/16488307/%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A5]ไพล ๑ หอม ๑
กระเทีย[/b] ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%82%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2/]ขมิ้นอ้อ[/b] ๑ กระดูกงูเหลือม ๑ กระดูกงูเห่า ๑ กระดูกห่าน ๑ กระดูกแกงเลียงผา ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%8C/]มหาหิงคุ์ ๑
ยาดำ ๑ รงทอง ๑ รวมยา ๒๘ สิ่งนี้ ทำเปนจูณ บดทำแท่ง ละลายน้ำมะกรูดทาท้อง แก้ท้องรุ้งพุงมาร แก้มารกระไษยลม แก้ไส้พองเอาเท่าเทียมกัน ท้องใหญ่ ท้องขึ้นท้องเขียว อุจจาระปัสสาวะไม่ออก ลมทักขิณคุณ ลมประวาตคุณ หายสิ้น
๓.ดีงูเห่า มีรสขม ร้อน ผสมยาหยอดตาแก้ตาฝ้า ตาพร่า ตาเฉอะแฉะ ตาต้อ และก็บดเป็นกระสายยาช่วยให้ฤทธิ์ยาแล่นเร็ว ในพระคู่มือปฐมจินดาร์ ให้ยาขนานหนึ่งเข้า “ดี
งูเห่[/b]” เป็นเครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้ ยาชื่ออินทรบรรจบคู่กัน ขนานนี้ท่านให้เอา
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/09/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%94/]ชะม[/b] ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%99/]พิมเส[/b]๑ จันทน์ทั้งสอง๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2/]กฤษณา ๑ กระลำภัก ๑ ขอนดอก ๑
ว่านกลีบแรด ๑ ว่านร่อนทองคำ ๑
ผลมะขามป้อม ๑ ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ กระเทียม ๑ ดี
งูเหลือ[/b] ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง เทียนดำ ๑ เทียนขาว ๑ เทียนแดง ๑ เทียนเยาวภานี ๑ เทียนบัวหลวง ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/08/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B9%8C/]ผลจันทน์ ๑
ดอกจันทน[/b] ๑
[url=http://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/2017/07/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B9/]กานพลู ๑
กระวาน ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง รวมยา ๒๓ สิ่งนี้ ทำเปนจุณ แล้วจึงเอา ดีงูเห่า ๑ ดีจระเข้ ๑
ดีตะพาบ ๑ ดี
ปลาช่อน ๑ ดี
ปลาไหล ๑ เอาสิ่งละ ๑ สลึง แช่เอาน้ำเปนกระสาย บดปั้นแท่งไว้ ละลายน้ำดอกไม้กิน แก้จนหนทาง ถ้ามิฟัง ละลายสุรากินแก้สรรพตาลทรางทั้งมวล แลแก้ชักเท้ากำมือกำ หายดีนัก
๔.น้ำมันงูเห่า ตระเตรียมได้โดยการเอาเปลวมันในตัวงูเห่าใส่ขวด ผึ่งแดดจัดๆ จนกระทั่งเปลวมันละลาย ใส่เกลือไว้ก้นขวดเล็กน้อยเพื่อกันเหม็นเน่า ในหนังสือเรียนพระยา พระนารายณ์มียาขี้ผึ้งขนานหนึ่งว่า “น้ำมันงูเห่า” เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ ขี้ผึ้งบี้พระเส้น ให้เอาชะมด ๒ ไพล พิมเสน โกฏเชียง กรุงเขมา ดีงูเหลือม จันทน์ทั้งยัง ๒ กฤษณา กระลำพัก สิ่งละเฟื้อง โกฏสอ โกฏเฉมา โกฏจุลาลำภา โกฏกัตรา
โกฏสิงคี โกฏหัวบัว มัชะกิยวาณี กระวาน กานพลู ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ เทียนดำ เทียนขาว พริกหอม พริกหาง พริกล่อน
ดีปลี ลูกกราย
ฝิ่น สีผึ้ง สิ่งละสลึง กะเทียม หอมแดง ขมิ้นอ้อย ๒ สลึง ทำเป็นจุณ ละลายน้ำมะนาว ๑๐ ใบ น้ำมันงาทนาน ๑ น้ำมันหมูหลิ่ง น้ำมันเสือ น้ำมันจระเข้ น้ำมันงูเห่า น้ำมันงูเหลือม พอเหมาะ หุงให้อาจจะแม้กระนั้นน้ำมัน จึงเอาชันรำโรง ชันห้อย ชันระนัง ใส่ลงพอสมควร กวนไปดีแล้วจึงเอาทาแพรทาผ้ามอบ ทรงปิดไว้ ที่พระเส้นอันแข็งนั้นหย่อน
Tags : สมุนไพร