โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) - อาการ, สาเหตุ, การรักษา-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 22 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หนุ่มน้อยคอยรัก007
Jr. Member
**

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 76


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 21, 2018, 02:22:15 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
1.โรคไข้หวัดใหญ[/color]เป็นอย่างไร  ไข้หวัดใหญ่ หรือ ฟลู (Influenza , Flu) เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ระบบทางเท้าหายใจเช่นเดียวกับโรคไข้หวัด แต่ว่าเกิดจากไวรัสคนละชนิดแล้วก็มีความร้ายแรงสูงยิ่งกว่าโรคไข้หวัดธรรมดามาก แล้วก็เป็นอีกโรคหนึ่งพบบ่อยในทุกกลุ่มวัยอีกทั้งในเด็กจนกระทั่ง ถึงคนวัยชรา และได้โอกาสเกิดโรคใกล้เคียงกันทั้งยังในเพศหญิงและในเพศชาย  โดยมีลักษณะทางคลินิกที่สำคัญเป็น เป็นไข้สูงแบบทันที ปวดหัว ปวดเมื่อยกล้าม เหน็ดเหนื่อย ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่สำคัญที่สุดโรคหนึ่งในกรุ๊ปโรคติดเชื้ออุบัติใหม่รวมทั้งโรคติดเชื้อเกิดซ้ำ เนื่องมาจากมีการระบาดใหญ่ทั่วทั้งโลก (pandemic) มาแล้วบ่อย แต่ละครั้งเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางดูเหมือนจะทุกทวีป ทำให้มีคนป่วยแล้วก็เสียชีวิตนับล้านคน

  • สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดใหญ่มีเหตุที่เกิดจากการต่อว่าดเชื้อ ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ที่มีชื่อเรียกว่า อินฟลูเอนซาเชื้อไวรัส (Influenza virus) เป็น RNA เชื้อไวรัส อยู่ในเครือญาติ Orthomyxoviridae ที่เจออยู่ในสารคัดหลั่งของคนเจ็บ ดังเช่น น้ำมูก น้ำลาย และก็เสลด ฯลฯ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีทั้งสิ้น 3 ชนิดเป็นเชื้อ influenza A, B และก็ C และ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จำพวก A เป็นชนิดที่ท้าทายให้มีการระบาดอย่าง กว้างใหญ่ทั่วโลก จำพวก B ท้าทายให้มีการระบาดในพื้นที่ระดับภูมิภาค ส่วนจำพวก C มักเป็นการติดโรคที่ออกอาการ น้อยหรือเปล่าออกอาการ และไม่ท้าให้มีการระบาด เชื้อไวรัสประเภท A แบ่งเป็นชนิดย่อย (subtype) ตามความไม่เหมือนของโปรตีนของเชื้อไวรัสที่เรียกว่า hemagglutinin (H) และ neuraminidase (N) ประเภทย่อยของเชื้อไวรัส A ที่ค้นพบว่าเป็นต้นเหตุของการติดเชื้อในคนที่เจอในขณะนี้อย่างเช่น A(H1N1), A(H1N2), A(H3N2), A(H5N1) และ A(H9N2) ส่วนไวรัสชนิด B รวมทั้ง C ไม่มีแบ่งเป็นชนิดย่อย
  • อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ อาการจะเริ่มข้างหลังได้รับเชื้อ 1-4 วัน คนเจ็บจะเป็นไข้สูงแบบฉับพลัน ( 38 ซ ในคนแก่ ส่วนในเด็กมักจะสูงขึ้นมากยิ่งกว่านี้) ปวดหัว หนาวสั่น เมื่อยกล้ามเนื้อ เหน็ดเหนื่อยมาก ปวดกระบอกตาเวลาตาขยับเขยื้อน มีน้ำตาไหลเมื่อมีแสงสว่าง แล้วก็อาจเจออาการคัดจมูก เจ็บคอ ถ้ามีอาการป่วยเป็นระยะเวลานานอาจจะมีอาการไอจากหลอดลมอักเสบ (post viral bronchitis) อาการจะรุนแรงแล้วก็ป่วยไข้นานกว่าหวัดปกติ (common cold) ผู้เจ็บป่วยจำนวนมากจะหายปกติภายใน 1-2 อาทิตย์ แต่มีบางรายที่มีอาการรุนแรง เนื่องมาจากมีภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญเป็น ปอดบวม ซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตได้
  • กรุ๊ปบุคคลเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่

           บุคลากรด้านการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวพันกับผู้เจ็บป่วยไข้หวัดใหญ่
           ผู้ที่มีโรคเรื้อรังหมายถึงปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ เส้นโลหิตสมอง ไตวาย มะเร็งที่กำลังให้เคมี บำบัดรักษา เบาหวาน ธาลัสซีภรรยา ภูมิต้านทานขาดตกบกพร่อง (รวมทั้งผู้ติดเชื้อโรคไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องที่มีลักษณะ)
           บุคคลที่แก่ 65 ปีขึ้นไป
           หญิงท้อง อายุครรภ์ 4 ข้างขึ้นไป
           ผู้ที่มีน้ำหนักมากยิ่งกว่า 100 กิโลขึ้นไป
           ผู้ทุพพลภาพทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองมิได้
           เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี

  • วิถีทางอาการรักษโรคไข้หวัดใหญ่ การวิเคราะห์โรคโดยอาการทางสถานพยาบาลยังมีข้อกำหนด เนื่องจากว่าอาการคล้ายโรคติดเชื้อทางเดิน หายใจจากไวรัสประเภทอื่น การวินิจฉัยควรใช้ การตรวจทางห้องทดลองเพื่อยืนยันการวิเคราะห์โรค อาทิเช่นตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในเสมหะที่ป้ายหรือดูดจากจมูกหรือลำคอ หรือ ตรวจพบแอนติเจนของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ใน epithelial cell จาก nasopharyngeal secretion โดยแนวทาง fluorescent antibody หรือ ตรวจเจอว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับภูมิต้านทานต่อเชื้อในซีรั่มอย่างน้อย 4 เท่าในระยะเฉียบพลันรวมทั้งระยะพักฟื้น โดยแนวทาง haemaglutination inhibition (HI) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐาน หรือ complement fixation (CF) หรือ Enzyme - linked immunosorbent assay (ELISA)และการใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาช่วย ตัวอย่างเช่น ขณะที่มีการแพร่ระบาดของโรค ไข้หวัดใหญ่ คนเจ็บที่มีลักษณะน้อย ให้การรักษาตามอาการ ดังเช่นว่า ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาละลายเสมหะ ฯลฯ การให้ยาต่อต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยทันทีหลังจากที่มีลักษณะอาการช่วยลดความร้ายแรงแล้วก็อัตราตายในผู้เจ็บป่วย ยาต่อต้านเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ ดังเช่นว่า ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) และก็ซานาไม่เวียร์ (Zanamivir) การพินิจพิเคราะห์เลือกใช้ตัวไหน ขึ้นกับข้อมูลความไวของยาต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในแต่ละประเทศส่วนการให้ยาต้านทานไวรัส amantadine hydrochloride หรือยา rimantidine hydrochloride ด้านใน 48 ชั่วโมง นาน 3-5 วัน จะช่วยลดอาการและก็จำนวนเชื้อไวรัสประเภท A ในสารคัดเลือกหลั่งที่ทางเดินหายใจได้ ขนาดยาที่ใช้ในเด็กอายุ 1-9 ปี ให้ขนาด 5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน แบ่งให้ 2 ครั้ง สำหรับคนเจ็บอายุ 9 ปีขึ้นไปให้ขนาด 100 มก. วันละ 2 ครั้ง (แต่ถ้าหากคนไข้น้ำหนักน้อยกว่า 45 กก. ให้ใช้ขนาดเดียวกับเด็กอายุ 1-9 ปี) นาน 2-5 วัน สำหรับผู้ป่วยอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือคนที่ลักษณะการทำงานของตับแล้วก็ไตแตกต่างจากปกติ จำเป็นต้องลดปริมาณยาลง ในพักหลังๆของการดูแลและรักษาด้วยยาต้านเชื้อไวรัส อาจพบการดื้อยาตามด้วยการแพร่โรคไปยังบุคคลอื่นได้ กรณีนี้บางทีอาจต้องให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสแก่ผู้เสี่ยงโรคสูงที่อยู่รวมกันเป็นกรุ๊ป ถ้ามีลักษณะอาการแทรกซ้อนจากเชื้อแบคทีเรียจำต้องให้ยาปฏิชีวนะด้วย และควรหลบหลีกยาลดไข้พวก salicylates เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค Reye's syndrome


    6.การติดต่อของโรคไข้หวัดใหญ่ ระยะฟักตัวของโรค ระยะฟักตัวของโรคมักจะสั้น 1 - 4 วัน แต่ว่าโดยเฉลี่ยแล้วโดยประมาณ เฉลี่ย 2 วัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนของไวรัสที่ ได้รับ การติดต่อ เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้เจ็บป่วยแพร่ติดต่อไปยังคนอื่นๆโดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไปแม้อยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก  และผู้เจ็บป่วยสามารถแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงก่อนมีอาการรวมทั้งจะแพร่ระบาดต่อไปอีก 3-5 คราวหน้ามีลักษณะอาการในคนแก่ ส่วนในเด็กบางทีอาจแพร่เชื้อได้เป็นเวลายาวนานกว่า 7 วัน ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แต่ไม่มีอาการก็สามารถแพร่ระบาดตอนนั้นได้เช่นเดียวกัน ในช่วงศตวรรษก่อนหน้านี้มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั้งโลก 4 ครั้งคือ

  • พ.ศ. 2461 - 2462 Spanish flu จากเชื้อไวรัส A(H1N1) เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด สามัญชนทั้งโลกเจ็บป่วยจำนวนร้อยละ 50 และก็ตายสูงถึง 20 ล้านคน
  • พ.ศ. 2500 - 2501 Asian flu จากไวรัส A(H2N2) โดยเริ่มตรวจเจอในประเทศจีน
  • พ.ศ. 2511 - 2512 Hong Kong flu จากไวรัส A(H3N2) เริ่มตรวจพบในประเทศฮ่องกง
  • พุทธศักราช 2520 - 2521 Influenza A (H1N1) กลับมาระบาดใหญ่อีกครั้ง แยกได้จากผู้ป่วยในสหภาพโซเวียต จึงเรียก Russian flu แต่มีบ้านเกิดจากจีน

7.การปฏิบัติตนเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ การดูแลตนเอง เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่เป็นเมื่อเป็นไข้ ควรจะหยุดโรงเรียนหรือหยุดงาน แยกตัวรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้จากคนอื่น เพื่อพักผ่อนและก็คุ้มครองการแพร่ระบาดสู่คนอื่น พักให้มากมายๆรักษาสุขอนามัยฐานราก  เพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ลดโอกาสกำเนิดโรคข้างเคียงหรือแทรกซ้อน พยายามกินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ในทุกเมื่อเชื่อวันกินน้ำสะอาดให้มากมายๆอย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้วเมื่อไม่มีโรคจะต้องจำกัดน้ำ กินยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามหมอเสนอแนะ ไม่ควรรับประทานยาแอสไพรินเพราะว่าอาจมีการแพ้ ดังที่กล่าวมาข้างต้น ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆแล้วก็ทุกคราวก่อนที่จะรับประทานอาหารและข้างหลังเข้าห้องสุขา  ใช้ทิชชู่สำหรับในการสั่งน้ำมูกหรือขัดปาก ไม่ควรใช้ผ้าที่มีไว้สำหรับเช็ดหน้า ต่อไปทิ้งทิชชู่ให้ถูกสุขลักษณะ  รู้จักใช้หน้ากากอนามัย งดบุหรี่ หลบหลีกควันจากบุหรี่ เพราะว่าเป็นต้นเหตุให้อาการรุนแรงขึ้น ควรรีบพบหมอเมื่อ ไข้สูงเกิน 39 - 40 องศาเซียลเซียส และไข้ไม่ต่ำลงข้างหลังได้ยาลดไข้ภายใน 1 - 2 วัน  กินน้ำได้น้อยหรือทานอาหารได้น้อย ไอมาก มีเสลด รวมทั้ง/หรือ เสมหะมีสีเหลืองหรือเขียว ซึ่งแปลว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียสอดแทรก เป็นโรคหืด ด้วยเหตุว่าโรคหืดมักกำเริบและก็ควบคุมเองมิได้ อาการต่างๆชั่วช้าลง หอบเหน็ดเหนื่อยร่วมกับไอมาก บางทีอาจร่วมกับนอนราบไม่ได้ เนื่องจากว่าเป็นอาการแทรกซ้อนจากปอดอักเสบ เจ็บทรวงอกมากมายร่วมกับหายใจขัด เหนื่อย เพราะเหตุว่าเป็นอาการจากอาการแทรกจากเยื่อห่อหุ้มหัวใจ หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ชัก ซึม งงมาก แขน/ขาอ่อนแรง บางทีอาจร่วมกับปวดศีรษะร้ายแรง และคอแข็ง เนื่องจากเป็นอาการเข้าแทรกจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  หรือ สมองอักเสบ

  • การคุ้มครองป้องกันเองจากไข้หวัดใหญ่ รักษาร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานโรคได้ดิบได้ดี โดยการบริหารร่างกาย บ่อยรวมทั้งพักให้เพียงพอ อยู่ในที่ที่อากาศระบายได้ดี เลี่ยงความเคร่งเครียด บุหรี่ สุรารวมทั้งยาเสพติด และก็ระวังรักษาร่างกายให้อบอุ่นในตอนอากาศหนาวเย็น หรืออากาศเปลี่ยน กินอาหารที่เป็นประโยชน์ ผัก และผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและก็วิตามินพอเพียง ในช่วงที่มีการระบาดของโรค ควรจะเลี่ยงการเข้าไปในที่ที่มีผู้คนแออัด ยกตัวอย่างเช่น ห้าง สถานบันเทิง งานมหรสพ รวมทั้งการใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือลูกบิดประตู เป็นต้น แต่หากหลบหลีกไม่ได้ ควรจะสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่หรือทามือด้วยแอลกอฮอล์เพื่อกำจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากการสัมผัสถูกเสลดของคนไข้ แล้วก็อย่าใช้นิ้วมือขยี้ตาหรือแคะไชจมูกถ้ายังมิได้ล้างมือให้สะอาด คนเจ็บควรจะแยกตัวออกห่างจากคนอื่น อย่านอนปนเปหรือคลุกคลีสนิทสนมกับผู้อื่น เวลาไอหรือจามควรจะใช้ผ้าปิดปากรวมทั้งจมูกเสมอ เวลาเข้าไปในที่ที่มีคนอยู่กันมากมายๆควรสวมหน้ากากอนามัยด้วยทุกคราว ส่วนการฉีดยาคุ้มครองปกป้องโรคไข้หวัดใหญ่นั้น โดยธรรมดาถ้าไม่มีการระบาดโรค แพทย์จะไม่ชี้แนะให้ฉีดวัคซีนแก่ราษฎรทั่วไป ยกเว้นในคนที่อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงดังที่กล่าวมาข้างต้น คนแก่ (แก่กว่า 65 ปี) ผู้ที่มีอายุต่ำยิ่งกว่า 19 ปีที่จำต้องรับประทานยาแอสไพรินเสมอๆ สตรีท้องที่คาดว่าอายุท้องปิ้งเข้าไตรมาสที่ 2 ขึ้นไปในตอนที่มีการระบาดของโรค คนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้ที่จำต้องเดินไปในถิ่นที่มีการระบาดของโรค ผู้ที่มีกิจกรรมจำเป็นที่ไม่สามารถหยุดงานได้ (อย่างเช่น ดารา นักกีฬา นักทัศนาจร ตำรวจ ข้าราชการบริการสังคม เด็กนักเรียนหรือนิสิตที่อยู่รวมกัน รวมถึงคนที่อาศัยอยู่ในสถานพักฟื้น สถานสงเคราะห์คนแก่) ผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ (ได้แก่ ผู้เจ็บป่วยเอดส์ ผู้ป่วยที่ได้รับยาสเตียรอยด์ ผู้ป่วยรังสีรักษาหรือเคมีบรรเทา) คนป่วยที่เป็นโรคเรื้อรัง (เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคเลือด) ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ควรได้รับการฉีดยาคุ้มครองป้องกันไข้หวัดใหญ่
  • สมุนไพรประเภทไหนที่สามารถช่วยทุเลา/รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ได้
สมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านทานไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Herbs with anti-influenza activity) มีสมุนไพร        
                พลูคาว / ผักคาวตอง (Houttuynia cordata) จากการศึกษาเล่าเรียนในหลอดทดลอง น้ำมันระเหยผู้กระทำลั่นพลูคาวสดมีฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส ไข้หวัดใหญ่ เริม (Herpes simplex virus type 1) ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่อง (HIV-1) โดยสารสำคัญในน้ำมันระเหยจากพลูคาวที่มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัสดังกล่าว ดังเช่น methyl n-nonyl ketone, laurly aldehyde, capryl aldehyde
                Epigallocatechin (EGCG) ในชาเขียว EGCG เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสูงที่สุดในชาเขียว EGCG ขนาดต่ำในหลอดทดสอบมีฤทธิ์ ยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทั้งยังจำพวก A และ B เข้าเซลล์& ลดการต่อว่าดเชื้อของเซลล์เพาะเลี้ยงจากไตหมาได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง
                ใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ใบเตยมีสารจำพวกเลกติน (lectin) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นโปรตีน ชื่อ Pandanin ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ ไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H1N1) อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งเชื้อได้ 50% (EC50) เท่ากับ15.63 microM
                สาร Aloe emodin Aloe emodin = สารแอนทราควิโนน (anthraquinone) ที่เจอได้ในยางว่านหางจระเข้ เมื่อนำสาร Aloe emodin มาผสมกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ในหลอดทดลองนาน 15 นาที ที่ 37 องศาเซลเซียส สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ นอกจากนั้น สาร aloe emodin ยังยั้งเชื้อไวรัสที่ก่อโรคเริม แล้วก็งูสวัดได้อีกด้วย
สมุนไพรกระตุ้นภูมิต้านทาน (Immunomodulator / Immunostimulant)
                กระเทียม  Aged Garlic Extract (AGE) มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน AGEเป็นผลิตภัณฑ์กระเทียมจัดเตรียมโดยการแช่กระเทียมที่หั่นหรือสับใน 15-20% แอลกอฮอล์แล้วทิ้งเอาไว้เป็นเวลายาวนานมากกว่า 10 เดือน ที่อุณหภูมิปกติแล้วนำมาทำให้เข้มข้น เมื่อให้ AGE ทางปากแก่หนูถีบจักร 10 วันก่อนให้เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่แก่หนูโดยการหยอดทางจมูก มีประสิทธิผลสำหรับเพื่อการปกป้องไข้หวัดใหญ่ได้ดิบได้ดีเท่าการให้วัคซีน
                สินค้าเสริมของกินกระเทียมที่มีสาร allicin มีการทำการค้นคว้าในอาสาสมัคร 146 คน โดยให้กลุ่มควบคุมได้รับยาหลอก รวมทั้งกลุ่มทดลองได้รับกระเทียมกินวันละ 1 แคปซูล นาน 12 อาทิตย์ ระหว่างฤดูหนาว (พฤศจิกายน - ก.พ.) แล้วก็ให้คะแนนสุขภาพ แล้วก็อาการหวัดแต่ละวัน พบว่า กลุ่มที่ได้รับกระเทียมได้โอกาสเป็นหวัดน้อยกว่ากรุ๊ปยาหลอก รวมทั้งเมื่อเป็นหวัดแล้วหายเร็วกว่า
                โสม (Ginseng)    สารสกัดโสมอเมริกันที่จดสิทธิบัตรแล้ว (CVT-E002) โดยทดสอบให้สารสกัดนี้ ขนาด 200 มก. วันละ 2 ครั้งหรือยาหลอกแก่คนแก่ที่อาศัยอยู่รวมกันคนไม่ใช่น้อย (institutional setting) ปริมาณรวม 198 คน ระหว่างฤดูการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (หน้าหนาวปี 2543 -44) เพื่อศึกษาเล่าเรียนประสิทธิผลสำหรับการคุ้มครองปกป้องการป่วยด้วยโรคฟุตบาทหายใจอย่างเฉียบพลัน (Acute Respiratory Illness, ARI) พบว่า อุบัติการณ์ของไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับการตรวจรับรองทางห้องทดลองของกลุ่ม ยาหลอกสูงยิ่งกว่ากรุ๊ปที่ได้รับสารสกัดโสมอย่างมีนัยสำคัญ (7/101 แล้วก็ 1/97) แล้วก็การต่ำลงของการเสี่ยงจากการป่วยด้วยโรค ARI ในกรุ๊ปที่ได้รับยา CVT-E002 เท่ากับ 89%
เอกสารอ้างอิง

  • Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, D., Hausen, S., Longo, D., and Jamesson, J.(2001). Harrrison’ s:Principles of internal medicine. New York. McGraw-Hill. http://www.disthai.com/[/b]
  • ”สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่-H1n1 (1 มกราคม – 26 ธันวาคม 2558)” สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • ดร.ภก.อัญชลี จูฑะพุทธิ.สรุปการบรรยายประชุมวิชาการกรมพัฒน์เรื่อง”สมุนไพร:ไข้หวัดใหญ่-ไข้หวัดนก.”ณ.ห้องประชุมเบญจกูล กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก.วันที่ 28 ธันวาคม 2548
  • (นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ).”ไข้หวัดใหญ่(lnfluenza/Flu).หนังสือตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป2.หน้า 393-396
  • “ไข้หวัดใหญ่”คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล.(ออนไลน์).เข้าถึงได้จาก
  • ไข้หวัดใหญ่.กลุ่มระบาดวิทยา/โรคติดต่อ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข
  • โรคไข้หวัดใหญ่แนวทางการดำเนินการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลปี2559.แนวทางการเฝ้าระวังโรคติดต่อในสถานศึกษา 2559 กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ