โรคมะเร็ง-อาการ-สาเหตุ-การรักษา-การรักษา-วิธีการป้องกัน-เเละ สมุนไพร

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โรคมะเร็ง-อาการ-สาเหตุ-การรักษา-การรักษา-วิธีการป้องกัน-เเละ สมุนไพร  (อ่าน 13 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iampropostweb
Drift King
*****

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 37259


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 27, 2018, 08:40:49 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


โรคมะเร็ง (Canaer)[/b][/color][/size][/b]

  • โรคมะเร็งเป็นอย่างไร โรคมะเร็ง คือ โรคที่มีความผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่างๆของร่างกาย โดยมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของเซลล์ ทำให้เกิดเป็นเซลล์มะเร็งที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่อยู่ภายใต้อำนาจบังคับที่เหมาะสม ผลคือ การเกิดเป็นก้อนเนื้อมะเร็งที่เติบโตก่อกวนหลักการทำงานของเซลล์ธรรมดาในอวัยวะ นอกเหนือจากนั้นยังสามารถแพร่กระจายแพร่ขยายไปยังอวัยวะอื่นได้โดยผ่านระบบกระแสโลหิตหรือน้ำเหลืองของเราเป็นตัวน้ำอสุจิ โรคมะเร็งอาจมีไม่เหมือนกันได้มากมาย ตามตำแหน่งของอวัยวะที่เป็นแหล่งกำเนิดของมะเร็ง แล้วก็ชนิดของเนื้อเยื่อที่อยู่ข้างในอวัยวะนั้นๆโดยอวัยวะที่มีการตรวจพบเซลล์ของโรคมะเร็ง ดังเช่นว่า โรคมะเร็งตับ มะเร็งปอด โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวโรคมะเร็งสมอง โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งไส้ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งผิวหนัง โรคมะเร็งรังไข่ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งกระดูก มะเร็งหลอดอาหาร โรคมะเร็งลิ้น มะเร็งช่องปากแล้วก็คอ มะเร็งท่อน้ำดีรวมทั้งถุงน้ำดี โรคมะเร็งหลอดลม โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โรคมะเร็งตับอ่อน มะเร็งไต มะเร็งไทรอยด์ โรคมะเร็งโพรงมดลูก รวมทั้งโรคมะเร็งพบได้บ่อยในเด็กไทย เรียงจากลำดับแรก 4 ลำดับ เป็นต้นว่า โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งสมอง และก็โรคมะเร็งนิวโรบลาสโตมา
  • สิ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง มีต้นเหตุจากสิ่งแวดล้อมหรือ ภายนอกร่างกาย ซึ่งในขณะนี้เชื่อกันว่าโรคมะเร็ง ส่วนมาก เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากต้นเหตุยกตัวอย่างเช่น
  • สารก่อมะเร็งที่ปนเปื้อนในอาหารแล้วก็เครื่องดื่ม ดังเช่นว่า สารพิษจาก เชื้อราที่มีชื่อ อัลฟาทอกซิน (Alfatoxin) สารก่อมะเร็งที่เกิดขึ้นจากการปิ้ง ย่าง พวกไฮโดคาร์บอน (Hydrocarbon) สารเคมีที่ใช้ในวิธีการถนอมอาหาร ชื่อไนโตรซามิน (Nitosamine) สีผสมอาหารที่มาจากสีย้อมผ้า
  • บุหรี่ เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง การสูบยาสูบหรือการอยู่ในบริเวณที่มีควันบุหรี่ นำมาซึ่งการทำให้เป็นโรคมะเร็ง และโรคระบบฟุตบาทหายใจต่างๆแล้วก็ถึงแก่ชีวิตได้
  • แอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ได้โอกาสเป็นมะเร็งในโพรงปาก คอ หลอดของกิน และก็กล่องเสียงได้ นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังไปทำลายตับ และมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งตับได้
  • ฮอร์โมน เพศหญิงที่ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนควบคุมอาการร้อนวูบวาบ หรืออาการเสื่อมของกระดูก ซึ่งมักจะเกิดในวัยหมดระดู จากการเรียนรู้พบว่า การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ได้โอกาสเป็นมะเร็งมดลูก และก็โรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น
  • รังสี รังสีเอกซเรย์ที่ใช้สำหรับการวินิจฉัยโรค เพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ แม้จะมีปริมาณเพียงนิดหน่อย แต่หากได้รับรังสีซ้ำๆกันหลายๆครั้ง อาจจะเป็นผลให้ทำให้เป็นอันตรายได้
  • แสงสว่างอุลตร้าไวโอเล็ต แสงสว่างจากพระอาทิตย์ หรือจากแหล่งอื่นๆบางทีอาจทำลายผิวหนังรวมทั้งส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้นจำเป็นจะต้องหลบหลีกการเช็ดกแดดในระยะเวลา 11.00-15.00 น. เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่แสงแดดแรงจัด
  • มีเหตุมาจากความไม่ดีเหมือนปกติภายในร่างกาย ซึ่งมีเป็นส่วนน้อย อย่างเช่น เด็กที่มีความพิกลพิการ มาแต่ว่า เกิดได้โอกาสเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ฯลฯ การมีภูมิต้านทานที่บกพร่องและก็ภาวะ ทุพโภชนาการ อาทิเช่น การขาดไวตามินบางประเภท ยกตัวอย่างเช่น ไวตามินเอ ซี

รวมทั้งมูลเหตุด้านกรรมพันธุ์ มะเร็งบางจำพวก ยกตัวอย่างเช่น มะเร็งเต้านม โรคมะเร็งรังไข่ และโรคมะเร็งไส้ มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้กับบุคคลภายในครอบครัวที่มีประวัติเป็นมะเร็งดังที่กล่าวถึงแล้วสาเหตุของมะเร็งที่สำคัญๆในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น

  • มะเร็งที่ผิวหนัง ต้นเหตุเกิดจากถูกแดดหรือแสงอุลตราไวโอเลตแล้วก็เป็นผลมาจากพวกสารหนู หรือการดูแลและรักษาโดยใช้ยาที่เข้าน้ำมันดิน ยาไทย-จีน ซึ่งน้ำมันดินเป็นส่วนประกอบ สำหรับเล็บรวมทั้งขน ไม่เป็นโรคมะเร็ง
  • มะเร็งที่ปอด ปัจจัยเป็นผลมาจากหายใจในอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ มีฝุ่นที่มีสารพวกไฮโดรคาร์บอน ได้แก่ ควันดำจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือเขม่าจากโรงงาน สำหรับยาสูบ ส่งผลทำให้มีการเกิดโรคมะเร็งปอดได้
  • โรคมะเร็งที่โพรงปาก มักจะเกิดขึ้นจากการระคายเคืองเรื้อรัง ได้แก่ กินเหล้าเพียวๆรับประทานหมาก แล้วรักษาสุขภาพไม่สะอาดด้วย รวมทั้งที่สำคัญเป็นยาฉุน การบดของกินแล้วมีการระคาย ดังเช่นว่า ฟันเก หรือใส่ฟันปลอมไม่กระชับ ทำให้เป็นแผลเล็กๆตราบจนกระทั่งเป็นโรคมะเร็งได้
  • โรคมะเร็งที่หลอดอาหาร โดยมากเกิดขึ้นจากการระคายเรื้อรัง การกินของร้อน ได้แก่ จิบชา กาแฟร้อนๆ
  • โรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร ส่วนมากมีเหตุที่เกิดจากสารไนโตรซามีนส์ ดังเช่น ทานอาหารพวกโปรตีนหมัก สารที่เข้าดินประสิวที่ใช้สำหรับในการทำให้เนื้อมีสีแดง เนื้อเปื่อย และ ดี.ดี.ครั้ง.ซึ่งเมื่อเข้าไปภายในร่างกายแล้ว มันจะกลายเป็นไดเมธิลไนโตรซามีนส์ พวกที่กินผักที่มี ดี.ดี.หน. นอกเหนือจากที่จะตายจาก ดี.ดี.ครั้ง. แล้ว ยังบางทีอาจตายจากมะเร็งได้อีกด้วย
  • มะเร็งที่ลำไส้เล็ก-ใหญ่ สาเหตุคล้ายคลึงกันกับโรคมะเร็งที่กระเพาะ
  • โรคมะเร็งที่เต้านม ปัจจัยมีต้นเหตุมาจากเชื้อไวรัส แต่ก่อนมั่นใจว่ามีต้นเหตุมาจากด้านเชื้อชาติและการกระทบกระแทกที่เต้านม
  • โรคมะเร็งที่ตับ ต้นเหตุเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากไนโตรซามีนต์ อะฟล่าท็อกสิน แล้วก็จากพยาธิใบไม้ในตับ แล้วก็จากโรคตับแข็ง
  • มะเร็งปากมดลูก มีต้นเหตุที่เกิดจากไวรัส และจากการระคายเคืองเรื้อรัง ตัวอย่างเช่น ผู้ที่ออกลูกบ่อยๆร่วมประเวณีบ่อยๆหรือคนที่เป็นผู้หญิงหากิน รวมทั้งผู้ที่ไม่รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ
  • โรคมะเร็งของกระเพาะปัสสาวะ จำนวนมากมีต้นเหตุที่เกิดจากยาสูบ สีย้อมผ้าที่ใช้ผสมของกิน นอกจากนั้นพวกโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลิวคีเมีย), มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (ลิมโฟม่า) ก็เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อไวรัสเหมือนกัน
  • อาการของโรคมะเร็ง สำหรับในระยะแรกของการเกิดโรคมะเร็งขึ้นภายในร่างกายนั้นกล่าวได้ว่าแทบไม่มีอาการอะไรส่อเค้า หรือบอกให้ผู้เจ็บป่วยรู้ได้เลยว่ากำลังเผชิญกับโรคมะเร็งนี้อยู่ ทำให้กว่าที่จะรู้ตัวก็สายเกินแก้ เมื่อเป็นประสักระยะหนึ่ง คนที่มีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งโดยมากมักจะเริ่มรู้สึกหมดแรงง่าย เบื่ออาหาร รับประทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็ว ผอมบางซูบ น้ำหนักลด ร่างกายเริ่มดูทรุดโทรมลง ไม่สดชื่นรู้สึกดีเหมือนเดิม รวมทั้งเมื่ออยู่ในระยะที่มะเร็งเริ่มขยายเพิ่มมากขึ้นก็จะเริ่มปรากฏอาการอย่างชัดเจนในเวลานี้ จะรู้สึกปวดและก็ทรมาทรกรรมมหาศาลตามจุดต่างๆที่เกิดโรคมะเร็งขึ้น ทั้งนี้จะมีลักษณะมากมายน้อยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับโรคมะเร็งที่เป็นว่าเป็นโรคมะเร็งประเภทใด ชนิดไหน และการกระจายของเซลล์มะเร็งด้านในนั้นไปเบียดบังอวัยวะส่วนใดบ้าง


  • ไอมีเสมหะผสมเลือด เป็นลักษณะของโรคมะเร็งปอด
  • ไอเรื้อรังและก็มีเสียงแหบ เป็นอาการของโรคโรคมะเร็งกล่องเสียงหรือโรคมะเร็งปอดโดยไม่มีอาการของไข้หวัด คือ จับไข้ มีน้ำมูก แล้วก็มีเสลดมาก่อนหน้า
  • ลูบคลำก้อนเหมาะเต้านมหรือที่อื่นของร่างกายที่ไม่เคยลูบคลำได้มาก่อนเป็นลักษณะของโรคมะเร็งเต้านมและก็เร็งอื่น
  • อุจจาระลำบาก ท้องผูกสลับกับท้องเดิน เป็นอาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดมีอาการตลอดมากกว่า 2 สัปดาห์ ร่วมกับน้ำหนักลด
  • มูกหรือเลือดออกทางทวารหนักหรือช่องคลอด เป็นลักษณะของมะเร็งทางนรีเวช ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งปากมดลูก หรือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนไส้ตรง
  • ปัสสาวะมีเลือดผสม บางทีอาจเป็นลักษณะโรคโรคมะเร็งทางเท้าฉี่ อาทิเช่น กระเพาะปัสสาวะต่อมลูกหมาก
  • น้ำหนักลดลงโดยไม่มีมูลเหตุ
  • ไข้เรื้อรัง ไข้ที่เป็นมาเป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ เป็นลักษณะของโรคมะเร็งเม็ดเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง
  • ปวดเรียกตัวหรือที่กระดูก โดยยิ่งไปกว่านั้นลักษณะของการปวดที่ต่อเนื่อง แล้วก็มีอาการปวดช่วงกลางคืนเป็นอาการของโรคมะเร็งแพร่กระจายเข้ากระดูกได้
  • อ่อนแรง เบื่อข้าว เป็นลักษณะของโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ กระเพาะอาหารลำไส้ใหญ่ ตับอ่อน หรือเป็นเพียงแค่อาการที่เกิดขึ้นจากโรคมะเร็งประเภทอื่นๆ

โดยทั่วไปโรคมะเร็งมี 4 ระยะ ดังเช่น ระยะที่ 1-4 ซึ่งทั้ง 4 ระยะ ส่วนโรคมะเร็งระยะศูนย์ (0) ยังไม่จัดเป็นโรคมะเร็งอย่างแท้จริง ด้วยเหตุว่าเซลล์เพียงมีลักษณะเป็นมะเร็ง แต่ว่ายังไม่มีการรุกราน (Invasive) ขาดทุนเยื่อข้างเคียง

  • ระยะที่ 1: ก้อนเนื้อหรือแผลโรคมะเร็งมีขนาดเล็ก ยังไม่ขยาย
  • ระยะที่ 2: ก้อนหรือแผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มแพร่กระจายภายในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ
  • ระยะที่ 3: ก้อนหรือแผลมะเร็งขนาดใหญ่ขึ้น เริ่มแผ่ขยายเข้าเนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างๆ รวมทั้งลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้เยื่อหรืออวัยวะที่เป็นโรคมะเร็ง
  • ระยะที่ 4: ก้อนหรือแผลมะเร็งขนาดโตมากมาย ซึ่งลุกลามเข้าเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้กัน จนกระทั่งทะ ลุ แล้วก็เข้าต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ใกล้ก้อนโรคมะเร็ง โดยเจอต่อมน้ำเหลืองโตลูบคลำได้ และก็/หรือ แพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต หรือสายน้ำเหลือง ไปยังเนื้อเยื่อ/อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป ตัวอย่างเช่น ปอด ตับ สมอง กระดูก ไขกระดูก ต่อมหมวกไต ต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ในช่องอก ต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า
  • ปัจจัยเสี่ยงที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ที่ สำคัญ มี 2 ข้อ

ข้อ แรก คือ ต้นเหตุจากสิ่งแวดล้อมด้านนอกร่างกาย ยกตัวอย่างเช่น สารก่อโรคมะเร็งที่แปดเปื้อน ในอาหาร อากาศ เครื่องดื่ม ยารักษาโรค ฯลฯ แล้วก็การได้รับรังสี เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย และก็พยาธิบางประเภท
ข้อลำดับที่สองเป็นเช่นปัจจัยภายในร่างกาย เป็นต้นว่า ความแตกต่างจากปกติทางพันธุกรรม ความผิดพลาดของระบบภูมิต้านทาน รวมทั้งสภาวะทุพโภชนา ฯลฯ   
 
โดยเหตุนั้นผู้ที่เสี่ยงต่อการ เป็นโรคโรคมะเร็งเป็นผู้ที่มีความประพฤติปฏิบัติดังนี้
คนที่ดูดบุหรี่  ทั้งบุหรี่มวนเอง ยาสูบ กล้องยาเส้น หรือการบดยาสูบ จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเป็นโรคโรคมะเร็งปอด มะเร็งในโพรงปาก กล่องเสียง มะเร็ง หลอดของกิน มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ และก็มะเร็งของตับอ่อน
ผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ สามารถทำให้มีการเกิดตับอักเสบและก็ตับแข็ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งตับตามมา นอกนั้น สุรายังเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งในโพรงปากรวมทั้งคอ
ผู้ที่ติดโรค ไวรัสบางจำพวก ได้แก่   ไวรัสตับอักเสบชนิดบีและก็ซี มีความเกี่ยวเนื่องต่อการเกิดโรคตับแข็งและโรคมะเร็งตับ ไวรัสเอปสไตน์บารร์มีความเกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งหลังโพรงจมูกหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองจำพวก Burkitt เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus) เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งปากมดลูกในหญิง หรือ มะเร็งโพรงปากแล้วก็คอ  หรือคนที่ถูกใจกินอาหารที่มี พิษ ชื่อ อัลฟาทอกซิล ที่พบจากเชื้อราที่แปดเปื้อนในของกินได้แก่ ถั่วลิสงป่น ฯลฯ ถ้าเกิดกินประจำจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งตับ แล้วก็หากได้รับทั้งยัง 2 อย่าง โอกาส จะเป็นมะเร็งตับมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงเสมอๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เต้านม ลำไส้ใหญ่ เยื่อบุมดลูก และต่อมลูกหมาก
คนที่ติดเชื้อโรคพยาธิใบไม้ตับ แล้วก็ทานอาหารที่ใส่ดิน ประสิวเป็นประจำ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
ผู้ที่มีภูมิต้านทานผิดพลาดอันมีต้นเหตุที่เกิดจากความแปลกจากกรรมพันธุ์หรือติดเชื้อโรคไวรัส โรคภูมิคุมกันบกพร่อง จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งของเส้นเลือด เป็นต้น
ผู้ที่ทานอาหารเค็ม จัด อาหารที่มีส่วนผสมโปตัสเซี่ยมไนเตรดรวมทั้งส่วนไหม้เกรียม ของอาหารบ่อยๆจะเสี่ยง ต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะ อาหารและก็ลำไส้ใหญ่
ผู้ที่มีประวัติโรคมะเร็งในครอบครัว เช่น โรคมะเร็งของเรตินา มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ แล้วก็มะเร็งลำไส้ใหญ่ชนิดที่ เป็นติ่งเนื้อ ฯลฯ
คนที่ผึ่งแดดจัดบ่อยๆจะ เป็นอันตรายจากแดดที่ มีปริมาณของแสงอุลตรา ไวโอเลต มากมาย ส่งผลทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้
สัญญาณเตือน 7 ประการ ที่อาจแสดงว่าเป็นลักษณะของโรคโรคมะเร็ง มีดังนี้

  • มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับเพื่อการอุจจาระ ปัสสาวะ ที่ไม่ปกติ เช่น มีเลือดออก ท้องเสียหรือท้องผูกไม่ปกติ
  • มีแผลเรื้อรังที่ไม่หาย โดยเป็นเป็นเวลานานมากกว่า 3 อาทิตย์
  • มีเลือดออก หรือมีสารคัดหลั่งออกมาจากรอบๆช่องต่างๆของร่างกายเปลี่ยนไปจากปกติ อาทิเช่น หัวนม, จมูก, ช่องคลอด ทวารหนัก ฯลฯ
  • คลำเจอก้อนที่เต้านม หรือที่อื่นๆของร่างกาย
  • ท้องเฟ้อ ของกินไม่ย่อย มีลักษณะอาการปวดท้อง กลืนของกินลำบาก ฯลฯ
  • ไฝหรือจุดเล็กๆตามร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่น โตขึ้น มีสีไม่ดีเหมือนปกติหรือมีเลือดออก
  • มีอาการไอที่ไม่ปกติ อย่างเช่น ไอปนเลือด ไอเรื้อรัง หรือเสียงแหบ
  • กระบวนการรักษาโรคมะเร็ง แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งได้จาก เรื่องราวอาการต่างๆของคนไข้ การตรวจร่างกาย การตรวจภาพเยื่อและก็อวัยวะที่มีลักษณะอาการด้วยเอกซเรย์ หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ เอมอาร์ไอ แต่ว่าที่ได้ผลแน่นอน คือ การตรวจเซลล์จากก้อนเนื้อเพื่อ การตรวจทางเซลล์วิทยา หรือ ตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา

วิธีรักษาโรคโรคมะเร็ง สำหรับเพื่อการรักษาโรคมะเร็งนี้ภายหลังหมอวิเคราะห์ลักษณะของโรคเสร็จแล้ว จะมีการตรวจอย่างพิถีพิถันอีกรอบว่าเซลล์มะเร็งร้ายกระจายไปอยู่ในรอบๆใดของร่างกายบ้าง เมื่อเข้าใจดีแล้วก็จะรักษาไปตามอาการ โดยโรคมะเร็งแต่ละชนิดการดูแลรักษาก็บางทีก็อาจจะแตกต่างกันออกไปบ้าง แม้กระนั้นดังนี้ก็มีวิธีที่หมอนิยมรักษากันอยู่ เป็น
การผ่าตัด โรคมะเร็งระยะเริ่มต้นโดยมากชอบใช้การผ่าตัดเป็นส่วนมาก อาทิเช่น มะเร็งศรีษะรวมทั้งคอ โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปอด โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยหมอจะกระทำผ่าตัดก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อกำจัดก้อนเนื้อร้ายที่อยู่ในร่างกายเราออกไป แต่ว่าแนวทางลักษณะนี้มิได้สามารถทำการรักษาได้กับมะเร็งทุกจำพวก และก็การผ่าตัดก็ยังไม่แน่ว่าจะหายสนิท หรือไม่ เพราะเหตุว่าเซลล์ของโรคมะเร็งบางทีอาจยังหลงเหลือหรือหลบอยู่ในร่างกาย โดยบางทีอาจเป็นเซลล์มะเร็งที่กำลังเริ่มจะกำเนิด ทำให้หมอไม่สามารถที่จะทราบหรือสังเกตเห็น เมื่อปล่อยไปสักระยะก็จะกลับเข้าสู่วังวนเดิม คือเริ่มก่อตัวขยายใหญ่ขึ้น ก็ต้องมาผ่าตัดกันใหม่อีกครั้ง แต่โดยมากกับขั้นตอนการผ่าตัดนี้แพทย์มักชี้แนะให้ทำคีโมหรือเคมีบำบัดร่วมด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางที่จะช่วยให้หายขาดจากโรคมะเร็งนี้ได้
การใช้รังสีรักษา เป็นการเปล่งแสงไปยังเซลล์ของโรคมะเร็งภายในร่างกาย เพื่อทำลายกลุ่มเซลล์ของมะเร็งนั้น สำหรับการส่องแสงนี้เป็นการรักษาแบบเฉพาะที่ โดยอาศัยต้นเหตุจากชนิดของมะเร็งที่เป็น ช่วงเวลาที่เกิดมะเร็ง ตลอดจนสุขภาพของผู้เจ็บป่วยเพราะแข็งแรงเพียงพอไหม ซึ่งถ้าหากผู้ป่วยพร้อมก็จะกระทำเปล่งแสงราว 2 – 10 นาที โดยจำเป็นต้องทำการส่องแสงสัปดาห์ละ 5 วัน รวมราวๆ 5 – 8 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ แม้กระนั้นการรักษาด้วยรังสีรักษานี้จะมีผลให้เกิดผลข้างๆขึ้น ได้
เคมีบำบัด (คีโม) สำหรับวิธีนี้ถือได้ว่าเป็นการรักษาอย่างถูกจุด แก้ที่สาเหตุโดยตรงของปัญหา เพราะเป็นการให้ยาเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งทั้งสิ้นที่อยู่ในร่างกาย แล้วก็ที่กระจายเข้าไปตามต่อมน้ำเหลืองหรือกระแสโลหิตด้วย โดยแพทย์จะนัดหมายมากระทำการตรวจร่างกายวัดความดันและก็กระทำการเจาะเลือด ซึ่งหากผลของการตรวจร่างกายผ่าน แพทย์ก็จะให้ไปทำให้คีโมซึ่งก็เหมือนกับการให้น้ำเกลือทั่วไป เพียงแค่จะต้องนอนรอหลายชั่วโมงกระทั่งตัวยาจะหมด รวมทั้งในระหว่างการให้คีโมนี้ผู้เจ็บป่วยบางบุคคลอาจกำเนิดอาการแพ้ได้ ซึ่งอาจรู้สึกเวียนหัว อ้วก หรืออ้วก และก็ผลข้างเคียงที่ตามมาภายหลังการให้คีโมโดยประมาณ 1 – 2 อาทิตย์ ผมจะเริ่มร่วง รู้สึกคลื่นไส้ อ้วก เป็นแผลในปาก แล้วก็ปริมาณเม็ดเลือดต่ำลงทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนแรง ตลอดจนบางทีอาจรู้สึกหายใจลำบาก มีผื่นขึ้น ท้องผูกถ่ายไม่ออก หรือจับไข้ เป็นต้น แต่การดูแลและรักษาด้วยวิธีนี้ก็มีค่ารักษาที่ค่อนข้างจะแพงเลยและยังจำต้องทำบ่อยครั้ง ขึ้นกับหมอเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องทำทั้งสิ้นกี่ครั้งจึงจะหายปกติ

  • การติดต่อของโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเป็นโรคที่ไม่ติดต่อจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งหรือติดต่อจากสัตว์สู่คน แต่ว่าโรคมะเร็งบางชนิดอาจมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ดังเช่นว่า มะเร็งเต้านม ถ้าเกิดมีประวัติบุคคลในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้ สมาชิกภายในครอบครัวนั้นก็อาจจะมีช่องทางเป็นโรคนี้สูงขึ้นยิ่งกว่าคนทั่วๆไปนิดหน่อย
  • การปฏิบัติตนเมื่อเป็นโรคมะเร็ง

การดูแลตัวเองในเรื่องทั่วไป รักษาสุขลักษณะอย่างเคร่งครัด เพราะว่าเป็นช่วงติดโรคได้ง่าย พักให้สุดกำลัง ถ้าอ่อนแรง ควรลาหยุดงาน แต่ว่าถ้าไม่อ่อนแรง ก็สามารถทำงานได้ แม้กระนั้นควรเป็นงานเบาๆไม่ใช้แรงงาน และสมองมาก ทำงานบ้านได้ตามกำลัง งดเว้น/เลิก บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
จำกัดเครื่องดื่มคาเฟอีนดังได้กล่าวแล้ว เลี่ยงการอยู่ในที่แออัดคับแคบด้วยเหตุว่าจะติดเชื้อได้ง่าย ยังคงจำเป็นต้อง ดูแล รักษา ควบคุมโรคร่วมอื่นๆอย่างสม่ำเสมอร่วมไปด้วยเสมอกับการดูแลรักษาโรคมะเร็ง
รักษาสุขภาพจิต ให้กำลังใจตัวเอง แล้วก็คนรอบข้าง มองโลกในด้านบวกเสมอ เจอแพทย์ตามนัดเสมอ พบหมอก่อนนัด เมื่ออาการต่างๆสารเลวลง หรือเกิดความเปลี่ยนไปจากปกติไม่ถูกไปจากเดิม หรือเมื่อกลุ้มใจในอาการ
การดูแลตัวเองในเรื่องอาหาร เมื่อทานอาหารได้น้อย ให้พากเพียรกินในปริมาณมื้อที่บ่อยขึ้น รับประทานครั้งน้อยๆแต่ว่าบ่อยๆแต่ยังต้องจำกัดของว่าง และก็อาหารเค็ม ด้วยเหตุว่าส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด และก็แนวทางการทำงานของไต ให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจว่า ของกินเป็นตัวยาสำคัญยิ่งตัวยาหนึ่ง ของการรักษาโรคมะเร็ง ทดลองเปลี่ยนแปลง ชนิดอาหารให้กินได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ได้แก่ อาหารอ่อน อาหารเหลว แม้กระนั้นควรหลบหลีกของกินทอด หรือผัด หรือมีกลิ่นรุนแรง เนื่องจากว่ามักทำให้มีการเกิดอาการอ้วก คลื่นไส้ เตรียมอาหารครั้งละน้อยๆอย่าให้กินเหลือ เพราะว่าจะได้กำเนิดกำลังใจว่ากินหมดทุกมื้อ ควรแจ้งหมอ พยาบาลเมื่อกินไม่ได้ หรือกินได้น้อย รวมทั้งควรเห็นด้วย เมื่อหมอชี้แนะการให้อาหารทางสายให้อาหาร การกินของกินที่มีประโยชน์ครบทั้งยัง 5 หมู่เป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งของกินโปรตีน (เป็นต้นว่า เนื้อ นม ไข่ ปลา ตับ) เนื่องจากสำหรับเพื่อการรักษาโรคมะเร็ง ความแข็งแรงของไขกระดูก (เม็ดเลือดต่างๆ) เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะเหตุว่าเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายตอบสนองที่ดีต่อรังสีรักษา รวมทั้งยาเคมีบรรเทา รวมถึงช่วยลดจังหวะติดเชื้อ ซึ่งการตำหนิดเชื้อในขณะกำลังรักษาโรคมะเร็งมักเป็นการติดโรคที่รุนแรง

  • การคุ้มครองตนเองจากโรคมะเร็ง วิธีคุ้มครองปกป้องโรคมะเร็งที่ดีเยี่ยมที่สุดเป็นหลบหลีกปัจจัยเสี่ยง ที่เลี่ยงได้ เป็นต้นว่า รับประทานอาหารเป็นประโยชน์ครบทั้ง 5 กลุ่มทุกวี่ทุกวัน ในจำนวนที่สมควรเป็นไม่ให้อ้วนหรือ ผอมบาง เกินไป โดยจำกัดเนื้อแดง แป้ง น้ำตาล ไขมัน เกลือ แม้กระนั้นเพิ่มผัก ผลไม้ให้มากมายๆและหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกที่เป็นอาหารปิ้งปิ้งที่มีลักษณะไหม้เกรียม ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพ เป็นประจำ รับการตรวจคัดเลือกกรองโรคมะเร็งเป็นเดี๋ยวนี้
  • สมุนไพรที่ช่วยคุ้มครองป้องกันโรคมะเร็ง สมุนไพรต่อแต่นี้ไปล้วนมีผลการทดสอบที่มีประโยชน์ต่อการดูแลรักษามะเร็ง

ฟ้าทะลายโจร(Andrographis paniculata) ในประเทศอินเดียใช้กันมานานรักษาไข้รากสาดน้อย แก้อักเสบ แก้มาเลเรีย กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สารสำคัญคือ andrographolide สามารถยั้งเซลล์ของโรคมะเร็งได้หลายประเภท
บัวบก (Centella asiatica) มีสาร asiaticoside ที่ช่วยให้แผลเรื้อรังหายได้เร็วขึ้น เพิ่มภูมิต้านทาน รวมทั้งในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งมดลูก
ขมิ้น (Curcuma longa) สารสำคัญเป็น curcumin มีฤทธิ์ต้านทานการอ็อกสิไดส์และต้านทานการอักเสบที่แรง สามารถก่อให้เกิดการถึงแก่กรรมของเซลมะเร็งหลายอย่างอาทิเช่น โรคมะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะ มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งรังไข่ และก็ยังมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อไวรัส แบคทีเรียและก็ราอีกด้วย
ว่านหางจรเข้ (Aloe vera) มีสาร aloe-emodin ที่กระตุ้น macrophage ให้กำจัดเซล์ลมะเร็ง รวมทั้งยังมี acemannan ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ว่านหางจรเข้ช่วยกระตุ้นการเจริญของเซลล์ปกติและยั้งการเจริญของเซลล์ของมะเร็ง
ทุเรียนเทศ (Anona muricata) สาร acetogenin จากผลทำให้เซลล์ของโรคมะเร็งตายได้
ดีปล[/b] (Piper longum) มี piperine ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านการอ็อกสิไดส์ทั้ง in vitro รวมทั้ง in vivo จึงเป็นส่วนประกอบของตำรับยารักษามะเร็งของอายุรเวท
บอระเพ็ด (Tinospora cordifolia) สารสำคัญจากบอระเพ็ดกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว รวมทั้งสามารถลดขนาดเนื้องอกได้ 58.8% เทียบเท่า cyclophosphamide
เอกสารอ้างอิง




GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ