งาขาวที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถมีสรรพคุณเเละประโยชน์ที่สามารถรักษาโรคได้ด

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: งาขาวที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถมีสรรพคุณเเละประโยชน์ที่สามารถรักษาโรคได้ด  (อ่าน 11 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
numtanf225611
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2018, 11:46:39 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
งาขา[/size][/b]
ชื่อสมุนไพร งาขาว
ชื่ออื่นๆ/ชื่อเขตแดน นีโซไอยู่มั้ว (จีน) ซะแปะ ซะเจี่ย (เมื่อน)
ชื่อสามัญ Sesame seeds (white)
ชื่อวิทยาศาสตร์   Sesamum  orientale Linn.
ตระกูล PEDALIACEAE
ถิ่นเกิด
[url=http://www.disthai.com/16941074/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7-]งาขาว
มีบ้านเกิดเช่นเดียวกันกับ งาดำหมายถึงงาขาวเป็นไม้ล้มลุกที่มีมาแต่ว่าโบราณ มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปีย ต่อมาก็ถูกนำเข้าไปยังอินเดีย จีน รวมถึงแถบแอฟริกาเหนือและก็ทวีปเอเชียใต้ ในราวราว 2000 ปี ก่อนคริศตกาลและในศตวรรษที่ 17 ได้ถูกนำเข้าไปในทวีปอเมริกาส่วนในประเทศไทย งา ก็มีชื่อเสียงกันมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งทางยา ของกิน และก็เครื่องแต่งตัว
ลักษณะทั่วไป
งาขาว เป็นไม้ล้มลุกที่แก่ฤดูเดียว มีลำต้นตั้งตรงถึงยอด สูงประมาณ 50-150 เซนติเมตร ลำต้นไม่แตกกิ่งกิ้งก้าน แต่บางพันธุ์อาจมีการแตกกิ่งกิ่งก้านสาขา ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ เป็นสี่เหลี่ยม มีขนสั้นๆปกคลุมดก ลำต้นมีร่องยาวตามความสูงของลำต้น เปลือกลำต้นบาง สีเขียวเข้มหรือมีสีอมม่วง สามารถดึงลอกเป็นเส้นได้
ใบงาขาว ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงกันข้ามกันตามความสูงของลำต้น ประกอบด้วยก้านใบทรงกลมสีเขียวหรือสีม่วงแดง ยาวราว 5 เซนติเมตร ส่วนแผ่นใบมีลักษณะเป็นรูปหอกยาว กว้างราวๆ 3-5 เซนติเมตร ยาวโดยประมาณ 8-15 ซม. โคนใบมน เป็นฐานกว้าง รวมทั้งค่อยเรียวลงจนถึงปลายใบแหลม แผ่นใบมีสีเขียวสด มีร่องตามเส้นแขนงใบ ขอบใบเรียบหรือเป็นหยัก
ดอกงาขาวเป็นดอกผู้เดียวหรือเป็นกรุ๊ปบริเวณซอกใบ 1-3 ดอก มีก้านดอกสั้น ประมาณ 3-5 มม. ถัดมาเป็นกลีบรองดอกสีเขียว ปริมาณ 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันห่อหุ้มฐานดอก ถัดมาเป็นกลีบที่มีลักษณะเป็นกรวยยาว กลีบดอกไม้อ่อนมีสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่หรือบานจะมีสีขาว ยาวเป็นทรงกรวย โดยประมาณ 4-5 ซม. ปลายกลีบห้อยลงดิน และก็แยกออกเป็น 2 กลีบ คือ กลีบด้านล่างที่ยาวกว่า แล้วก็กลีบบนที่มีปลายหยักเป็น 3 แฉก ต่อมาภายในดอกจะมีสีกลีบภายในเป็นสีเหลือง มีเกสรตัวผู้ 4 อัน แบ่งเป็น 2 คู่ แต่งละคู่ยาวแตกต่างกันส่วนเกสรตัวเมียมี 1 อัน ยาว 1.5-2 ซม. ปลายก้านเกสรแยกออกเป็น 2-4 แฉก ดังนี้ ดอกงาขาวจะเริ่มบานในช่วงเวลาเช้า และก็กลีบจะหล่นลงดินในเวลาเย็น
ผลของงาขาวเรียกว่า ฝัก ฝักอ่อนมีลักษณะทรงกระบอกค่อนข้างกลม ปลายฝักเป็นจะงอยแหลม เมื่อฝักใหญ่จะแบ่งเป็นร่องๆตามความยาวของฝัก ยาวประมาณ 2-3 ซม. เปลือกฝักดก มีสีเขียว รวมทั้งมีขนปกคลุม เมื่อฝักแก่เปลี่ยนเป็นสีดำอมเทา แล้วก็ปริแตก ทำให้เมล็ดหล่นลงดิน  ด้านในฝักมีเม็ดขนาดเล็กสีขาวมากมาย เรียงซ้อนแยกกันในแต่ละร่องพู เมล็ดมีรูปไข่ เปลือกเม็ดบางมีสีขาว มีกลิ่นหอมหวน ใน 1 ฝัก จะมีเม็ดราวๆ 70-100 เมล็ด
การขยายพันธุ์
                งาขาว ที่ปลูกกันทั่วๆไปมี 6 จำพวก ยกตัวอย่างเช่น

  • พันธุ์เมืองเลย ปลูกมากที่จังหวัดเลยและบริเวณชายแดนไทย-ลาว และก็ช่วงจังหวัดเลยถึงอุตรดิตถ์
  • จำพวกเชียงใหม่ ปลูกมากมายที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่
  • จำพวกชัยบาดาลหรือสมอทอด ปลูกมากมายที่จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดลพบุรี แต่ตอนนี้มีจำนวนน้อยมาก
  • จำพวกร้อยเอ็ด.1
  • ประเภทมข.1
  • ประเภทมหาสารคาม 60 มีเขตช่วยเหลือการปลูก ดังเช่น จังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ พิษณุโลก แล้วก็กาญจนบุรี

งาเป็นพืชเขตร้อนถูกใจอาการร้อนรวมทั้งแดดจ้า อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต โดยประมาณ 27-30 องศาเซลเซียส รังเกียจอากาศหนาวเย็น ถ้าอุณหภูมิต่ำยิ่งกว่า 20 องศาเซลเซียส การงอกจะช้าลง หรือ บางครั้งก็อาจจะชะงักการเติบโต แต่ว่าหากอุณหภูมิสูงยิ่งกว่า 40 องศาเซลเซียสจะทำให้การผสมเกสรติดยากการสร้างฝักเป็นไปได้ช้า
   ฤดูปลูก

  • ต้นหน้าฝน เริ่มปลูกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เดือนเมษายน รวมทั้งเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ปลายเดือน เดือนเมษายน-มิถุนายน จำนวนมากจะปลูกภายในพื้นที่นาก่อนการปลูกข้าว มีพื้นที่ปลูกประมาณปริมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ปลูกงาทั้งประเทศ แหล่งปลูกงาต้นหน้าฝนดังเช่น จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จังหวัดนครราชสีมา สระบุรี จังหวัดลพบุรี นครสวรรค์ จังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย จังหวัดลำพูน น่าน รวมทั้งสุราษฏร์ธานี
  • ปลายฤดูฝน เริ่มปลูกตั้งแต่ก.ค.-สิงหาคม รวมทั้งเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่สิ้นเดือน พ.ย.-ธ.ค. โดยมากจะปลูกเอาไว้ในภาวะพื้นที่ไร่หรือที่ดอน ปลูกหลังการเก็บเกี่ยวพืชไร่ มีพื้นที่ปลูกโดยประมาณจำนวนร้อยละ 30 ของพื้นที่ปลูกงาทั่วประเทศ แหล่งปลูกงาปลายฤดูฝนที่สำคัญ อย่างเช่น จังหวัด จังหวัดกาญจนบุรี พิษณุโลก สุพรรณบุรี เพชรบูรณ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งเลย
ส่วนการปลูกงาขาวนั้นสามารถทำได้ดังนี้

  • การเตรียมดิน การเตรียมดินเป็นสาเหตุที่สำคัญสำหรับเพื่อการปลูกงาเนื่องจากว่าเมล็ดงามีขนาดเล็ก จะต้องมีการเตรียมดินให้ร่วนซุย จะช่วยให้งาผลิออกก้าวหน้าและมีความสม่ำเสมอ การไถกระพรวนจะมากหรือน้อยครั้งขึ้นกับองค์ประกอบและชนิดของเนื้อดิน ถ้าเกิดเป็นดินร่วนทรายจะไถ 1-2 ครั้ง ส่วนดินเหนียวจะต้องไถมากมายครั้งกว่าดินร่วนซุยโดยไถ 2-3 ครั้ง เพื่อย่อยดินอย่างละเอียดจะให้ผลผลิตสูงกว่าไถเพียงแต่ครั้งเดียว
  • แนวทางปลูก การปลูกงาขาวมีอยู่ 2 วิธีคือ
  • การปลูกแบบหว่าน เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกงาด้วยแนวทางแบบนี้ โดยภายหลังจัดแจงดินก็ดีแล้ว จะใช้เม็ดงาหว่านให้กระจายบ่อย อัตราเมล็ดพันธุ์ 1-2 กก./ไร่
  • การปลูกแบบโรยเป็นแถว สำหรับการทำร่องสำหรับโรยเมล็ด จำนวนมากใช้คราดกาแถว ระยะระหว่างแถว 50 เซนติเมตร อัตราเมล็ดพันธุ์ 2-3 กิโล/ไร่ การปลูกเป็นแถวจะให้ผลผลิตสูงขึ้นยิ่งกว่าการปลูกแบบหว่าน
  • การใส่ปุ๋ย ดินทรายหรือดินร่วนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ให้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ในอัตรา 20-30 กิโลกรัม/ไร่ ดินร่วมผสมดินเหนียว ใช้ปุ๋ยสูตร 20-20-0 ในอัตรา 20-25 โล/ไร่
  • การดูแลและรักษา การปลูกงาขาวไม่อยากดูแลเท่าไรนัก ข้างหลังการหว่านเมล็ดแล้วเกษตรกรจะปล่อยให้งาเติบโตตามธรรมชาติ แต่ว่ามั่นตรวจสอบแปลงเป็นระยะ ถ้าเกิดเจอโรคหรือแมลงระบาดให้ฉีดพ่นด้วยสารกำจัดศัตรูพืช ส่วนการปลูกไว้ในหน้าแล้งหรือพื้นที่ออกจะแห้งอาจมีการให้น้ำเป็นระยะ
  • การเก็บเกี่ยวผลิตผล งาขาวแก่เก็บเกี่ยวประมาณ 70-120 วัน หลังปลูก ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ รวมทั้งเริ่มเก็บฝักได้ในระยะฝักแก่สีเหลืองหรือน้ำตาลอมดำ ใบมีสีเหลือง และหล่นใกล้หมด รวมทั้งเก็บในระยะที่เปลือกฝักยังไม่ปริแตก การเก็บเกี่ยวงาขาวจะใช้วิธีถอนต้น ก่อนเด็ดฝักแยกออกจากลำต้น แล้วตีให้ฝักแตกแยกขัดแย้งเมล็ดงาออก ซึ่งบางทีอาจใช้ไม้ตีหรือใช้เครื่องตีแยกฝัก

ส่วนประกอบทางเคมี เมล็ดงาขาวมีน้ำมัน 44-58% โปรตีน 18-25% ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่มีคุณค่าทางโภชนาการเช่นเดียวกับถั่วเหลืองคาร์โบไฮเดรตโดยประมาณ 13.5% และก็ขี้เถ้า 5% (Borchani et al.,2010) น้ำมันงาประมาณ 50% เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงโดดเดี่ยว 35% และก็อีก 44% เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ช่วงเวลาที่ 45% ของกากงาประกอบด้วยโปรตีน 20% (Ghandi, 2009) ส่วนองค์ประกอบทางเคมีที่มีในเม็ดงาขาวนั้นก็มีเหมือนกับงาดำ อย่างเช่น กรดไขมันตัวอย่างเช่น oleic acid, linoleic acid, palmitic acid, stearic acid, สารกรุ๊ป lignan, ชื่อ sesamol, d-sesamin, sesamolin, สารอื่นๆเช่น sitosterol  ส่วนคุณค่าทางโภชนาการของงาขาวมีดังนี้
[/b]
คุณค่าทางโภชนาการงาขาว (งาขาวดิบ 100 กรัม)
                งาขาวดิบ             
น้ำ                           3.9          กรัม
พลังงาน                 658         กิโลแคลอรี่
โปรตีน                    20.9        กรัม
ไขมัน                       57.1        กรัม
คาร์โบไฮเดรต                        15.0        กรัม
ใยอาหาร                                4.6          กรัม
ขี้เถ้า                           3.1          กรัม
แคลเซียม                               86           มิลลิกรัม
เหล็ก                       7.4          มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส                              650         มิลลิกรัม
เบต้า แคโรทีน                        0              มิลลิกรัม
ไทอะมีน                 1.08        มิลลิกรัม
ไรโบฟลาวิน                           0.11        มิลลิกรัม
ไนอะซีน                  3.3          มก.
 
ผลดี/คุณประโยชน์
งาขาวใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหวาน อาทิ กระยาสาดข้าวเหนียวแดง หรือใช้ตกแต่งขนมปังหรือของหวานต่างๆรวมถึงใช้สกัดน้ำมันงาสำหรับใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆเป็นต้นว่า ใช้สำหรับเตรียมอาหาร โดยยิ่งไปกว่านั้นของกินประเภททอดต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารเสริม  ใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ยกตัวอย่างเช่น โลชั่นดูแลผิว น้ำหอม สบู่ ฯลฯ ใช้ในอุตสาหกรรมยา รวมทั้งอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการผลิตช็อกโกแลต การผลิตเนยเทียม เป็นต้น  ใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารสัตว์  ใช้ทารักษาแผล  ใช้ทาผม ช่วยทำให้ผมมันเงา ใช้ทารักษาโรผิวหนัง ผดผื่นคัน มีการศึกษาค้นคว้าในงาขาวพบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับถั่วเหลืองแล้วก็ใช่แล้วพบว่า มีไขมันสูงยิ่งกว่าถั่วเหลืองประมาณ 3 เท่า รวมทั้งสูงยิ่งกว่าไข่ ราวๆ 4-6 เท่า มีโปรตีนสูงขึ้นยิ่งกว่าไข่ประมาณ 5% แต่ว่าต่ำกว่าถั่วเหลืองราวๆ 2 เท่า นอกเหนือจากนั้นโปรตีนในงาขาวยังต่างจากพืชตระกูลถั่วและก็พืชให้น้ำมันอื่นๆเพราะเหตุว่ามีกรดอะมิโนที่จำเป็นซึ่งพืชดังกล่าวขาดแคลน อย่างเช่น การบูชายัญไธโอนินและก็ซีสว่ากล่าวน แต่งาขาวมีไลซีนต่ำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวบางทีอาจใช้งาเป็นอาหารเสริมพวกอาหารถั่วต่างๆเมื่อใช้เป็นอาหาร หรือใช้เสริมโปรตีนจากเนื้อสัตว์ซึ่งราคาแพงแพง ยิ่งกว่านั้นยังใช้เสริมอาหารพวกเมล็ดพืช กล้วย และก็ของกินแป้งอื่นๆได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนั้นเมล็ดงาขาวยังประกอบไปด้วย เกลือแร่ 4.1 – 6.5 % ที่สำคัญเป็น เหล็ก ไอโอดีน สังกะสี เซเลเนียม แคลเซียม รวมทั้งธาตุฟอสฟอรัส โดยจะมีแคลเซียมมากกว่าพืชทั่วไปราว 20 เท่า ส่วนคุณประโยชน์ทางยาของงาขาวนั้น ตำราเรียนยาไทยระบุว่า งาขาวมีรสฝาด หวาน ขม ทำให้น้ำดี กำเริบเสิบสาน น้ำมันใช้หุงเป็นน้ำมันใส่บาดแผลเจริญ การหุงน้ำมันจำเป็นต้องใช้งาสดตำคั้นเอาน้ำ โดยใช้น้ำคั้นใบรวมทั้งเถาตำลึง บอระเพ็ด ขมิ้นอ้อย  ไพล เอาน้ำมาอย่างละ 1 ถ้วย แล้วใส่น้ำมันงาลงไป 1 ถ้วย ตั้งไฟต้มไปกระทั่งเหลือ 1 ถ้วย เอาน้ำมันที่ได้ปรุงด้วยสีเสียดเทศและก็ไทยสิ่งละบางส่วน หลอมตะกั่วนมให้ละลายเทลงในน้ำมัน แล้วเอาขึ้นหลอมอีกจนได้ 3 ครั้ง ทิ้งตะกั่วเอาไว้ในนั้น ใช้น้ำมันใส่แผลจะช่วยรักษาแผลได้ดิบได้ดีมากมาย
 ส่วนสรรพคุณทางยาของงาขาวนั้น ตำรายาไทยระบุว่า สารเซซาไม่นในเม็ดงาขาวสามารถลดระดับ LDL-cholesterol ในกระแสเลือดของคน (ซึ่ง LDL-cholesterol เป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งโรค Athersclerosis (ไขมันตันในเส้นเลือด)  บรรเทาอาการของโรคคิดสีดวงทวาร (Hemmorhoids) ได้ โดยกรดไขมันในน้ำมันงา เป็นต้นว่า Linoleic acid , oleic acid , palmatic acid , stearic acid , สามารถบรรเทาลักษณะของโรคริดสีดวงทวารได้
ทั้งนี้มีการศึกษาวิจัยน้ำมันงาพบว่าน้ำมันงาเป็นแหล่งของสารอาหาร ตัวอย่างเช่น กรดไขมันโอเมก้า 6 ฟลาโวนอยด์ ฟลีนอลิค สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินแล้วก็เส้นใย ซึ่งมีความสำคัญสำหรับในการต่อต้านโรคมะเร็ง รวมทั้งสนับสนุนสุขภาพ
แบบ/ขนาดวิธีการใช้ เช่นเดียวกับงาดำ เป็นในการนำงาขาวมาใช้ประโยชน์โดยมากจะเอาไปใช้ผลดีด้านของกินและก็สินค้าเสริมความสวยสดงดงามมากยิ่งกว่าด้านการดูแลและรักษาโรคแต่ว่าก็มีการนำไปใช้ตามตำรายาไทยอยู่บ้าง เช่น

  • แก้ปัสสาวะหรืออุจจาระขัด นำเมล็ดงา 20 – 30 กรัม หรือ 1 – 2 ช้อน ต้มแล้วนำน้ำมาดื่มในขณะท้องว่าง
  • ความดันโลหิตสูง เม็ดงาขาว น้ำส้ม  ซีอิ้ว รวมทั้งน้ำผึ้งอย่างละ 30 กรัม ผสมกับไข่ขาว 1 ฟอง คนจนเข้ากันดี ต้มด้วยไฟอ่อนๆจนสุก รับประทานวันละ 3 ครั้งบ่อยๆ
  • ทุเลาอาการไอแห้ง ไม่มีเสลด ให้นำเม็ดงา 3 – 5 ช้อน ตำบดอย่างถี่ถ้วน ก่อนผสมกับน้ำตาลทราย 2 ช้อน กิน หรือ นำผงเมล็ดงาชงน้ำร้อน แล้วก็เดิมน้ำตาลดื่ม
  • บำรุงสมอง ตำราเรียนอายุรเวทให้ใช้งาผง 1 ส่วน ผงมะขามป้อม 1 ส่วน รวมทั้งน้ำผึ้ง 1 – 2 ช้อนชา เคล้าให้ถูกกัน ปั้นเป็นลูกกลอนกิน
  • ยาอายุวัฒนะ (ญี่ปุ่น) ใช้ไข่ไก่ 1 ฟอง ชงด้วยน้ำร้อน เพิ่มเติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ รวมทั้งน้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขับพยาธิเข็มหมุด เม็ดงาขาว 50 กรัม เพิ่มน้ำต้นจนได้น้ำข้นๆกรองเอาส่วนน้ำมาปรุงด้วยน้ำตาล ดื่มขณะท้องว่างครั้งเดียวให้หมด
  • เจ็บคอ คัดจมูก แพ้อากาศ ปวดรอบเดือน นอนไม่หลับ ปวดหัว กินงาบด 1 ข้อนชาก่อนนอน
การเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา การศึกษาทางเภสัชวิทยาของงาขาวนั้นส่วนใหญ่เป็นการเรียนรู้ควบรวมไปกับงาดำ (ซึ่งเป็นการศึกษาเล่าเรียนรวมกันงาขาว งาดำ) เพราะฉะนั้นผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยทางเภสัชวิทยาของงาขาวก็เลยอย่างกับงาดำ (มองการเรียนทางเภสัชของงาดำ) แต่ว่าคนเขียนสามารถรวบรวมข้อมูลการศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยาของงามาเสริมเติมได้อีก 2 ฉบับเป็น
                การเรียนรู้ฤทธิ์ลดความเป็นพิษจากนิโคตินของสารลิกแนนจากงาในหนูแรทผิวเผือกเพศผู้ที่ได้รับพิษจากนิโคติน โดยการฉีดนิโคตินทีละ 3.5 มก./กิโลกรัมน้ำหนักตัว เข้าใต้ผิวหนัง ต่อเนื่องกัน 15 วัน ร่วมกับการป้อนของกินที่มีส่วนผสมของสารลิกแนนจากงา ขนาด 0.1 หรือ 0.2 กรัมต่ออาหาร 100 กรัม ผลการศึกษาวิจัยพบว่าสารลิกแนนจากงาช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ Low Density Lipoprotein cholesterol รวมทั้ง Very Low Density Lipoprotein cholesterol ช่วยเพิ่มปริมาณ High Density Lipoprotein cholesterol แล้วก็เอนไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งลดความเข้มข้นของผลิตผลจากการเกิดการเพอรอกสิเดชั่นของไขมันที่เพิ่มขึ้นเนื่องมาจากพิษของนิโคติน นอกเหนือจากนั้นยังพบว่าสารลิกแนนจากงาช่วยเพิ่มปริมาณ DNA และก็ป้องกันไม่ให้ DNA ในเยื่อตับถูกทำลายด้วยนิโคตินได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง แสดงให้เห็นว่าสารลิกแนนจากงาสามารถทุเลาความเป็นพิษของนิโคตินต่อการเกิดออกซิเดชั่นแล้วก็ความเป็นพิษต่อสารพัดธุกรรมในร่างกายได้ รวมทั้งการเล่าเรียนทางคลินิกเรื่องฤทธิ์ของน้ำมันงาร่วมกับยาลดความดันโลหิตสูง คนไข้ชายและหญิงที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงระดับน้อยถึงปานกลาง คือมีค่าความดันโลหิตตัวบน ≥ 140 มม.ปรอท รวมทั้งค่าความดันเลือดตัวข้างล่าง ≥ 90 มม.ปรอท อายุ 35 – 60 ปี จำนวน 50 คน ได้รับยาเพื่อการรักษาเป็นยาขับเยี่ยว hydrochlorothiazide หรือ β-blocker atenolol มานาน 1 ปีก่อนเข้าร่วมการเล่าเรียน และยังคงได้รับยานี้ตามเดิมตลอดการศึกษานี้ คนไข้จะได้รับน้ำมันงาเพื่อใช้สำหรับในการปรุงอาหารในครอบครัว 4 – 5 กิโลกรัม ต่อสมาชิกในครอบครัว 4 คน ต่อเดือน (โดยประมาณ 35 กรัม/วัน/คน) แล้วก็จำเป็นต้องใช้เฉพาะน้ำมันงาเพียงประเภทเดียวตลอด 45 วัน ต่อจากนั้นหยุดกินน้ำมันงา ให้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันที่เคยใช้อยู่เดิมอีก 45 วัน ทำตรวจร่างกาย ความดันเลือด น้ำหนักตัว, Body mass index (BMI), ระดับไขมัน อิเลคโตรไลท์ และเอนไซม์ในเลือด ก่อนการศึกษา หลังจากกินน้ำมันงา 45 วัน แล้วก็ภายหลังจากหยุดเปลืองน้ำมันงา 45 วัน พบว่า การใช้น้ำมันงาแทนที่น้ำมันชนิดอื่นสำหรับในการทำครัวในคนเจ็บความดันเลือดสูง ทำให้ค่าความดันโลหิตตัวบนแล้วก็ตัวข้างล่างกลับลงสู่ระดับธรรมดา น้ำหนักร่างกาย และ BMI ลดลง แม้กระนั้นภายหลังจากหยุดใช้น้ำมันงานค่าดังกล่าวมาแล้วข้างต้นกลับสูงขึ้น ระดับคอเลสเตอรอล, high density lipoprotein cholesterol รวมทั้ง low density lipoprotein cholesterol ในเลือดไม่มีความต่างกันเมื่อประเมินผล 3 ช่วงเวลาที่เรียน ยกเว้นระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดลดต่ำลงเมื่อใช้น้ำมันงา และก็กลับสูงมากขึ้นเมื่อหยุดใช้น้ำมันงา ระดับโซเดียมในเลือดต่ำลงเมื่อใช้น้ำมันงาและกลับสูงมากขึ้นเมื่อหยุดใช้น้ำมันงา   ระดับโปแตสเซียมในเลือดสูงมากขึ้นเมื่อใช้น้ำมันงาและก็น้อยลงสู่ค่าธรรมดาเมื่อหยุดใช้น้ำมันงา การเกิด lipid peroxidation ลดน้อยลงเมื่อใช้น้ำมันงาและก็ค่ายังคงเดิมหลังจากที่หยุดใช้น้ำมันงาแล้ว ระดับโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี catalase และก็ superoxide dismutase ในเลือดสูงมากขึ้น และก็ glutathione peroxidase ในเลือดน้อยลง เมื่อใช้น้ำมันงาแล้วก็ค่ายังคงเดิมหลังจากหยุดใช้น้ำมันงาแล้ว ระดับวิตามินซี วิตามินอี เบต้า-ติดอยู่โรทีน รวมทั้ง reduced glutathione สูงขึ้นเมื่อใช้น้ำมันงาและก็ลดน้อยลงภายหลังจากหยุดใช้น้ำมันงา จากการเรียนรู้มีความหมายว่าน้ำมันงาสามารถช่วยลดระดับความดันเลือด ลดการเกิด lipid peroxidation แล้วก็เพิ่มฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระ ในคนป่วยความดันเลือดสูงร่วมกับยาขับปัสสาวะได้
การเรียนทางพิษวิทยา การเรียนทางพิษวิทยาของงาขาวเป็นการศึกษาเล่าเรียนควบรวมไปกับงาดำ (ซึ่งเป็นการเรียนรู้รวมกันทั้งงาขาว งาดำ) ด้วยเหตุผลดังกล่าวผลการค้นคว้าทางพิษวิทยาของงาขาวก็เลยเช่นเดียวกับงาดำ (ดูการศึกษาทางพิษวิทยาของ งาดำ)
 
อแนะนำ/ข้อควรปฏิบัติตาม

  • สำหรับการรับประทานงาขาวในบางรายอาจมีอาการแพ้ได้ เพราะมีสาร Sesamol ซึ่งจะมีผลให้เกิดอาการต่างๆตัวอย่างเช่น ผื่นคัน คันจมูก หายใจไม่สะดวก เปลือกตาและก็ริมฝีปากบวมแดง
  • การรับประทานงาขาวอาจจะก่อให้ระดับความดันเลือดลดต่ำเหลือเกินได้ในผุ้ทีมีความดันเลือดต่ำ
  • แม้รับประทานงาขาวมากจนถึงเกินไปอาจก่อให้เกิดการระบายท้องมากเกินไปจนถึงส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วงได้
  • แบบเรียนจีน ห้ามใช้งานในคนที่ท้องร่วงเรื้อรัง เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ มีระดูขาว หรือ หากจะใช้ควรจะใช้ในขนาดน้อย การใช้เกิน 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน อาจจะเป็นผลให้ท้องร่วงได้
  • ตำราเรียนอายุรเวท กล่าวว่า งา เป็นยาขับรอบเดือน การใช้ในสตรีมีท้องช่วงแรก (1-3 เดือน) ในขนาดที่มากจนเกินความจำเป็น อาจจะส่งผลให้แท้งได้
เอกสารอ้างอิง

  • ชยันต์  พิเชียรสุนทร , แม้นมาส  ชวลิต และ วิเชียร จีรวงส์ 2542. คำอธิบาย ตำราพระโอสถ พรนารายณ์ สำนักพิมพ์ อมรินทร์ กุมภาพันธ์ 2548
  • มนตรา ศรีษะแย้ม , นาถธิดา วีระปรียากูร , พนมพร ศรีบัวรินทร์.ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นในหลอดทดลองของเมล็ด งา ขาว ดำ และ แดง .วารสารสารเภสัชศาสตร์อีสาน.ปีที่ 10 .ฉบับที่ 2.พฤษภาคม – สิงหาคม 2557.หน้า 136-146
  • ปราณี รัตนสุวรรณ . งา ...ธัญพืชเมล็ดจิ๋วดินทรงคุณค่า.ภาควิชาเภสัชงาขาวและเภสัชพฤกษศาสตร์.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  • กรมวิชาการเกษตร.2549.รายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาด้านพืชและเทคโนโลยีการเกษตร รอบ 12 เดือน.วันที่ 20 – 24 พฤศจิกายน 2549.
  • งาขาว สรรพคุณ และการปลูกงาขาว.พืชเกษตรดอทคอม.เว็บเพื่อเกษตรกรไทยนันทวัน บุณยะประภัศร (บรรณาธิการ) 2539.สมุนไพรพื้นบ้าน(1) คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.disthai.com/[/b]
  • ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย.กองโภชนาการ กรมอนามัย.2544
  • Bowden, Jonny. The 150 Healthiest foods on earth: The surprising, unbiased truth about what you should eat and why (PAP/COM). Fair Winds Pr,2007:309-310
  • สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ปีที่ 2 ฉบับที่ 23 ประจำเดือน กันยายน 2545 บริษัท สำนักพิมพ์ยูทิไลซ์ จำกัด
  • สารลิกแนน จากงาช่วยลดพิษของนิโคติน.ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • งา,ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • ฤทธิ์ของน้ำมันงาร่วมกับยาลดความดันโลหิตสูง.ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ