เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 17 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
duooitt01vg
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 7


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 07, 2018, 05:06:28 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
เห็ดหลินจื[/size][/b]
เห็ดหลินจือ รักษาโรคโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งการค้นคว้าที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนไข้มะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีส่วนสำหรับการยัยยั้งรูปแบบการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเยอะแยะถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่ช่วยเหลือให้ใช้เห็ดหลินจือในการรักษาโรคมะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อพินิจพิจารณาเปรียบเทียบจากการรวบงานศึกษาวิจัยที่เรียนรู้ประสิทธิผลของ[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
เพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าผู้เจ็บป่วยสนองตอบต่อการรักษาด้วยเคมีบำบัดรักษาหรือรังสีบรรเทาก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่ว่าเมื่อทดลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับในการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงประการใด
นอกจากนี้ จาการทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยพบว่ามีงานค้นคว้า 4 ชิ้นที่ส่งผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจสัมพันธ์ต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ดียิ่งขึ้น และก็ในเวลาเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากงานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว ก็เลยอาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่ใช้ในการพิสูจน์ทางคุณสมบัติรวมทั้งคุณประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง การวิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดสอบในผู้ป่วยบางกลุ่มแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรทำงานทดสอบถัดไปเพื่อได้เห็นผลลัพ์ที่กระจ่างและมีคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลและรักษาผู้เจ็บป่วยมะเร็งได้ในอนาคต
ภาวะต่อมลูกหมากโต รวมทั้งการเจ็บป่วยในระบบทางเท้าฉี่
มีกระบวนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในคนเจ็บเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะฉี่ขัดข้อง ข้างหลังการทดสอบกว่า 12 อาทิตย์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ คนเจ็บต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ดียิ่งขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของผู้ป่วยจากการตอบปัญหา กลับไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การทดลองดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างแจ้งพอเพียง จึงควรมีการค้นคว้าทดลองในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่เด่นชัดสำหรับในการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลและรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพอะไรก็แล้วแต่ที่เกี่ยวเนื่อง
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลการทดสอบด้านการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนป่วยโรคเบาหวานจำพวก 2 ร่วมทดลองกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะสนับสนุนผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับเพื่อการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานวิจัยพวกนั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนเจ็บบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเสีย หรือท้องผูก
ดังนั้นควรต้องมีการค้นคว้าทดลองถึงคุณภาพของเห็ดหลินจือในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อคุ้มครองและการดูแลรักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจต่อไป รวมถึงให้ได้การแจ่มกระจ่างชัดดเจนในด้านดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมากขึ้น อันเป็นผลดีต่อแนวทางการรักษาคุ้มครองโรคหลอดเลือดหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวโยงถัดไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมในการบริโรคเห็ดหลินจืออย่างแน่ชัด เนื่องประสิทธิผลรวมทั้งผลข้างคียงจากการบริโภค เพราะฉะนั้น ลูกค้า ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค เนื่องจากว่าหากแม้เห็ดหลินจือในแต่ละรูปแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างบางทีอาจส่งผลใกล้กันที่ทำให้เป็นอันตรายต่อสภาพร่างกายได้เช่นกัน
[/b]
โดยทั่วไป ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันได้แก่
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นคนซื้อก็ควรศึกษาค้นคว้าเนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอความเห็นแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการบริโภค โดยเฉพาะ ควรระมัดระวังในด้านปริมาณรวมทั้งแบบอย่างเห็ดหลินจือที่บริโภค ด้วยเหตุว่าบางทีอาจเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ในวันหลัง
โดยข้อควรไตร่ตรองสำหรับการบริโภคเห็ดหลินจือยกตัวอย่างเช่น
ผู้ซื้อทั่วไป.......
-ควรบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะเป็นผลให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อเกิดผลข้างเคียงได้ อาทิเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ปั่นป่วน ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวนเห็ดหลินจือ[/url]อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์ขยายพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจส่งผลให้กำเนิดอาการแพ้
ผู้ที่พึงระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเป็นพิษ
คนที่ครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ยังไม่มีการรับรองผลข้างเคียงที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้ในกรุ๊ปผู้บริโภคนี้แต่ผู้ที่ตั้งครรภ์รวมทั้งคนที่กำลังให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพของตนเองและก็ลูกน้อย
ผู้ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนเจ็บบางรายที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด เพราะฉะนั้น เพื่อลดความเสี่ยง ผู้เจ็บป่วยควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
คนที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันเลือดต่ำ เห็ดหลินจืออาจนำมาซึ่งการทำให้ความดันโลหิตต่ำลง ด้วยเหตุนั้น คนไข้ภาวการณ์ความดันเลือดต่ำควรต้องหลบหลีกการบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมากบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุนั้นคนไข้สภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่ควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้ป่วยบางราย โดยยิ่งไปกว่านั้นในผู้ที่มีสภาวะเลือกออกไม่ดีเหมือนปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ