รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ไหมว่ากระเทียมนั้นมีสรรพคุณ-เเละประโยชน์อย่างมากๆ  (อ่าน 8 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
t5t45y56
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2018, 02:41:03 pm »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement

[/b]
กระเทีย[/size][/b]
กระเทียมกับคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย[/b] เป็นพืชล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกันกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมประยุกต์ใช้เป็นเครื่องปรุงทำกับข้าว กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านี้กระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ดังเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) รวมทั้งซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย
กระเทียม
หลายท่านอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว ซึ่งมีต้นเหตุที่เกิดจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกจากจะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่โดดเด่นแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ แล้วก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆดีขึ้น โดยที่หลายท่านเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวโยงกับหัวใจและก็เส้นเลือด ความดันเลือด คอเลสเตอรอล บรรเทาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดโรคทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมหล่นอีกด้วย
ดังนี้ข้อพิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยยืนยันคุณประโยชน์ คุณประโยชน์ แล้วก็ความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีหน้าที่หรือส่วนช่วยสำหรับการรักษาโรคพวกนี้
ความดันเลือดสูง อัลลิซินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่พบได้ในกระเทียมสดหรือสินค้าเสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงตัวในเส้นโลหิตและทำให้หลอดเลือดขยายตัวและก็ทำให้ระดับความดันโลหิตลดลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้คนเจ็บที่หรูหราความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มิลลิกรัม ตรงเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดลดน้อยลงมากกว่าเมื่อเทียบกับคนไข้ที่กินยาหลอก ก็เลยอาจจะกล่าวว่าการกินกระเทียมบ่มสกัดอาจมีความสามารถสำหรับการรักษาคนเจ็บความดันโลหิตสูงได้ดียิ่งไปกว่ายาหลอก
ต่อให้มีการทดลองอีก 2 ชิ้นที่ชี้ให้เห็นถึงความสามารถของกระเทียมในการลดระดับความดันโลหิตได้ดีมากว่าการใช้ยาหลอก แต่เพราะว่าผลการทดสอบบางทีอาจยังไม่ถูกต้องแม่นยำเพียงพอที่จะสรุปประสิทธิภาพของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในคนไข้ความดันเลือดสูง จึงยังจึงควรศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันคุณภาพที่แจ่มชัดเพิ่มขึ้น
มะเร็ง ความข้องเกี่ยวของการบริโภคกระเทียมและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังคลุมเครือและก็ยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้ชาวจีนทั้งหมดศชายรวมทั้งเพศหญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารปริมาณกว่า 5,000 คน กินสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยการทำการทดสอบเป็นเวลา 5 ปี และเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอกแล้วพบว่ากรุ๊ปที่รับประทานสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดลง 33 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารลดน้อยลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แม้กระนั้น มีการทำการศึกษาเรียนรู้อีก 19 ชิ้นทำให้เห็นว่า ยังไม่เจอหลักฐานที่น่าเชื่อถือเหมาะจะช่วยส่งเสริมความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมต่อความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และก็มีหลักฐานที่ออกจะจำกัดที่เกื้อหนุนว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกล่องเสียง โรคมะเร็งในโพรงปาก หรือโรคมะเร็งรังไข่
ดังนี้สถาบันมะเร็งแห่งชาติสหรัฐฯ (NCI) ได้พูดว่ากระเทียมเป็นผักชนิดหนึ่งที่อาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง แต่ยังมีต้นเหตุอื่นๆดังเช่นว่า ลักษณะของสินค้าที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่นานัปการ อาจจะส่งผลให้พิสูจน์ถึงสมรรถนะของกระเทียมได้ยาก และเมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้คุณภาพของกระเทียมสิ้นสุดไปได้เหมือนกัน
แก้หวัด หลายคนเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์และก็เชื้อไวรัส แล้วก็มีการประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองแล้วก็บรรเทาอาการหวัดมาอย่างช้านาน ซึ่งสอดคล้องกับการเล่าเรียนชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมแบบเป็นเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิสินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง ตรงเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครเขียนบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกลุ่มที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังพบว่าช่วงเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีจำนวนวันที่น้อยกว่า แม้กระนั้นช่วงเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของทั้ง 2 กลุ่มมีความไม่เหมือนกันเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ ถึงแม้ว่าผลของการทดสอบข้างต้นจะแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของกระเทียม แต่หลักฐานการทดลองทางสถานพยาบาลยังน้อยเกินไปรวมทั้งควรต้องเรียนรู้เสริมเติมเพื่อรับรองสมรรถนะของกระเทียมให้ชัดเจนเพิ่มขึ้น
ลดหุ่นและก็มวลไขมัน ในคนไข้สภาวะไขมันพอกตับ ที่มิได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แม้กระนั้นมักมีเหตุมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลและรักษาด้วยการกินยา การผ่าตัด หรือลดความอ้วนบางทีอาจไม่พอ ถ้าไม่ดูแลหัวข้อการทานอาหารพร้อมกันไปด้วย การกินกระเทียมจึงบางทีอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าดึงดูด เนื่องจากว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์และก็สารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติคุ้มครองภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดศชายแล้วก็ผู้หญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี ปริมาณทั้งหมด 110 คน รับประทานกระเทียมผงประเภทแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งภายในประกอบไปด้วยสารอัลซิลินขนาด 1.5 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ว่ากินกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลของการทดสอบแสดงให้เห็นว่า น้ำหนักแล้วก็มวลร่างกายต่ำลงอย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ก็เลยอาจจะกล่าวว่าการรับประทากระเทียม
บางทีอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับรวมทั้งป้องกันหรือชะลอการเกิดภาวการณ์ไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็แล้วแต่การเรียนรู้ในอนาคตยังจึงควรออกแบบการทดสอบให้ดีขึ้นแล้วก็ควรจะเพิ่มช่วงเวลาสำหรับในการทดลองเพื่อยืนยันคุณภาพของกระเทียมให้แจ้งชัดเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงขัดแย้ง จึงทำให้ยังไม่อาจจะสรุปได้อย่างชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองและการศึกษาเล่าเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยที่เกี่ยวข้องปริมาณ 29 ชิ้น ได้ทำให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้เล็กน้อย แต่ไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงมากขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอะไร จึงยังต้องเรียนเสริมเติมเพื่อหาบทสรุปรวมทั้งรับรองสมรรถนะของกระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่แจ่มแจ้งยิ่งขึ้น
[/b]
ความปลอดภัยในการกินกระเทียม
การกินกระเทียมค่อนข้างจะปลอดภัยหากรับประทานในจำนวนที่สมควร แม้กระนั้นอาจจะเป็นผลให้เป็นผลข้างๆได้ ได้แก่ ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่รอบๆปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกึ่งกลางอก อาการท้องอืด อาเจียน อ้วก หรือท้องเสีย อาการเหล่านี้อาจทวีความร้ายแรงขึ้นเมื่อรับประทานกระเทียมสด ทั้งการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งเคืองได้
ข้อควรตรึกตรองสำหรับการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะบุคคลในกลุ่มตั้งแต่นี้ต่อไป
คนที่กำลังท้องหรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมบุตร การกินกระเทียมในตอนการตั้งครรภ์ค่อนข้างไม่มีอันตรายถ้าหากกินเป็นของกินหรือในจำนวนที่เหมาะสม แต่อาจไม่ปลอดภัยหากรับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค ทั้งยังยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในตอนการท้องหรือให้นมลูก
เด็ก การกินกระเทียมในปริมาณที่เหมาะสมและในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่มีอันตรายสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจทำให้กำเนิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยของอาหาร อาจก่อให้มีการระคายที่เดินของกินได้
คนที่มีความดันโลหิตต่ำ การกินกระเทียมอาจจะทำให้ระดับความดันเลือดลดลดลงมากยิ่งกว่าปกติ
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรจะหยุดรับประทานกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 อาทิตย์ด้วยเหตุว่าอาจจะก่อให้เลือดออกมากรวมทั้งส่งผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด รวมทั้งคนที่มีภาวการณ์เลือดออกไม่ปกติไม่ควรรับประทานกระเทียม โดยยิ่งไปกว่านั้นกระเทียมสด เพราะเหตุว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค อย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เนื่องจากกระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและก็มีผลต่อสมรรถนะการทำงานของยา รวมทั้งไม่ควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อเอชไอวีหรือโรคเอดส์
ยาคุม
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/[/b][/size][/b]

Tags : สมุนไพรกระเทียม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ