|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2018, 04:32:44 pm » |
|
วิธีรักษาตาไก่ชนด้วยน้ำมะนาว วิธีรักษาตาไก่ชนด้วยน้ำมะนาว ช่วงแรกถ้าตาไก่เกิดอาการตาอักเสบ อาจจะเกิดได้หลายสาเหตุ ไก่โดนตีกระทบตา หรือไก่โดนตีตาแตก หรือไก่ตาติดเชื้อมา ถ้าไก่มีอาการแบบนี้ให้เราสังเกตุเลย จะมีสีขาว เป็นก้อนเมือกขาวๆข้างในตา ให้เราทำการบีบก้อนเมือกขาวๆออกให้หมดก่อนนะครับ พอบีบออกหมดแล้ว ให้เตรียมน้ำมะนาว พอได้แล้วให้หยอดน้ำมะนาวลงไปในตาไก่ สัก 3-5 หยด พอหยดเสร็จก็ปล่อยไก่ตามธรรมชาติได้เลย
พอถึงตอนเย็น เราก็บีบน้ำมะนาวใส่ตาไก่อีกครั้งหนึ่ง ก่อนเข้านอน พอถึง 2-3 วันผ่านไป ให้เราสังเกตุดูว่ายังมีเมือกสีขาวๆในตาไก่อีกไหม ถ้าหากยังมีเหลืออยู่ก็ให้บีบออกให้หมด ถ้าบีบออกไม่หมดมันก็จะงอกขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ แต่ให้เราค่อยๆทำไป 2 วัน ทำ 1 ครั้ง หรือ 3 วัน ทำครั้งน้ำมะนาว จะช่วยป้องกันตาอักเสบ ช่วยค่าเชื้อโรคในดวงตาไก่ได้ เมื่อเรารักษาไปเรื่อย เราจะสังเกตุว่าเมือกสีขาวๆก็จะเริ่มหมดไป ตาไก่ก็จะเริ่มดีขึ้น
แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2018, 12:41:03 pm » |
|
ความเชื่อเรื่องสีของไก่กับคนเลี้ยงว่าถูกโฉลกกันหรือไม่? ความเชื่อเรื่องสีของไก่กับคนเลี้ยงว่าถูกโฉลกกันหรือไม่?
ไก่สีมงคลเหมือนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยเสริมบารมี เลี้ยงไว้จะนำโชคลาภมาสู่เจ้าของ เป็นความเชื่อมาแต่โบราณ ใครประสบก็เชื่อ คนไม่เชื่อก็ไม่นำมาเป็นสมบัติ จึงไม่เห็นผล ในทางตรงกันข้าม ก็มีไก่ที่เลี้ยงไว้จะทำให้เกิดอาเพศแก่เจ้าของ และบ้านที่อยู่อาศัย ห้ามเข้าไปใกล้ ห้ามแตะต้อง จะเป็นอัปมงคลแก่ตัว โบราณสังเกตุจดจำพบเห็นมาแล้วว่าจริง จึงได้สั่งสอนลูกหลานสืบต่อกันมา กลายเป็นตำราโบราณตกทอดมาถึงปัจจุบันไก่สีมงคล
1.ไก่สีดำแซมขาว จะมีค่า แคล้วคลาด คุ้มบ้าน คุ้มไฟ คุ้มอันตราย แก่เจ้าของ
2.ไก่สีขาวแซมดำ ขอบตาขาวดวงตาดำ จะให้อำนาจวาสนา บารมีแก่เจ้าของ
3.ไก่สีขาว เป็นสีแห่งเทพเจ้า ความบริสุทธิ์ ให้เลี้ยงไว้ในบ้านจะนำโชคลาภ ให้คุณแก่เจ้าของ
4.ไก่สีเทา เป็นสีแห่งปราชญ์ ใครเลี้ยงไว้ในบ้านลูกหลานจะเรียนหนังสือเก่ง สำเร็จเป็นปราชญ์เป็นบัณฑิตนักวิชาการครูบาอาจารย์ สอนคนได้
5.ไก่สีเขียวอมดำ เป็นสีแห่งชัยชนะ เข้มแข็ง แข็งแรง ใครเลี้ยงไว้จะทำให้ไม่เจ็บป่วย ถ้าเจ็บป่วยอยู่จะหายไปอย่าปาฏิหาริย์ และจะชนะภัย ชนะศัตรู
6.ไก่สีแดง เป็นสีแห่งความรัก ความจริงใจ ถ้าเลี้ยงไว้ในบ้านจะเกิดความรักใคร่ ปรองดองกันไม่มีขัดแย้งทะเลาะเบาะแว้งกัน ผัวเมียจะรักกันไม่นอกใจ
แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2018, 04:35:47 pm » |
|
สูตรยาโด๊ปสำหรับบ่อนป่า…ง่ายๆประหยัด..แต่ได้ผลดี 100% วิธีผสมทำยาโด๊ปไก่ชนไล่แข็งใช้เอง ทุกซุ้มก่อนที่จะนำไก่ตัวเก่งออกชนในไฟค์แพงๆจะต้องนำไก่ออกชนไล่แข็งหรือไล่อันตามบ่อนป่าหรือบ่อนชมรมในการชนแต่ละครั้งก็จะติดเดิมพัน 550-1100และ2200 ราคาน่าจะอยู่ประมาณนี้เนื่องจากการชนแต่ละครั้งราคาเดิมพันไม่สูงจะใช้ยาโด๊ปที่มีราคาสูงดูแล้วก็จะไม่คุ้มกับค่าเดิมพัน
วัตถุดิบที่จะต้องใช้
1.ลิโพ 1 ขวด 2.ยาทันใจ 2 ซอง 3.ยาขยายหลอดลม ขนาด 2.5 ครึ่งเม็ด(หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป) 4.น้ำหวานเฮลซ์บลูบอยสีแดง
วิธีการทำ
1.นำยาทันใจเทผสมกับลิโพ แล้วเขย่าให้เข้ากันและบดยาขยายหลอดลมผสมตามลงไปและเขย่าให้เข้ากัน 2.จะสังเกตเห็นว่ายาทันใจยาขยายหลอดลมจะไม่เข้ากันเท่าไรแต่ไม่ต้องตกใจ 3.ปล่อยทิ้งไว้จนกว่ายาทันใจและยาขยายหลอดลมจะตกผลึกแยกชั้นกับลิโพ(ประมาณ 1 อาทิตย์)แล้วรินออกเอาแต่นำส่วนที่เป็นผลึกทิ้งไป 4.เก็บแช่ตู้เย็นไว้เวลาจะใช้ให้ผสมเฮลซ์บลูบอย 1ต่อ 1และให้ไก่กินก่อนออกชน 1 หลอดหรือช่วงพักยกเท่านี้ไก่ท่านก็จะบินดีกำลังไม่ตกและทนต่อบาดแผลไม่แสดงอาการเจ็บออกมา”
แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2018, 03:54:14 pm » |
|
เทคนิคการแก้ไข ไก่อาการทางประสาทขนาดเข้าชน เทคนิคการแก้ไข ไก่อาการทางประสาทขนาดเข้าชนอาการทางประสาท หมายถึง ไก่แสดงอาการเหม่อลอย เบลอ เกร็ง กระตุก หลอน เอียง ชักดิ้น ตื่นตระหนก จิกตัวเอง อัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น1.ถูกตีเข้าจุดสำคัญ เช่น บ้องหู แสกหน้า ตาท้ายเสนียด สันคอ หนอกคอ สันหลัง ไข่หลัง เต้าคอน้อย 2.ถูกแทงเข้าประสาท จุดประสาทสำคัญๆ เช่น กกหู รูหูหรือหูดำ ข้อต่อหัว ดุมปีก แนวสันหลัง ปั้นขา ตา 3.ระแวงตัวเอง เช่น ไก่ยอมสี ที่ยังไม่ชินกับสีของตัวเอง เช่นไก่สีเหลืองย้อมดำ มักจะจิกหลังตัวเอง เวลาเข้าชนคิดว่าตัวเองเป็นตัวอื่นจากสาเหตุดังกล่าวนี้ อาจทำให้ไก่เกิดอาการทางประสาทได้ มือน้ำจะต้องรู้วิธีป้องกันแก้ไขได้ เช่น1.ไก่ระแวงจิกตัวเอง เกิดจากการย้อมสีไก่ให้สีผิดแผกแตกต่างไปจากสีเดิม ไก่จะจำสีตัวเองไม่ได้คิดว่าเป็นไก่ตัวอื่นจะระแวงระวังทำให้ไม่มีโอกาสป้องกันตัว ยิ่งขณะชนจะคิดว่าโดนรุมทำร้ายอาจถอดใจหนีได้ง่าย ถ้ายอมต้องใช่เวลาให้ไก่เคยชินกับสีน้อมอย่างน้อย 15 วัน2.ไก่เหม่อลอย เบลอ หลอน เกิดจากไก่ถูกตีเข้าบริเวณหัว เข้าจุดประสาทบริเวณหัวด้านบนและด้านข้าง สมองกระทบกระเทือนมีเลือดคั่งในสมองในหัวมีอาการเหมือนหนักหัว มึนงง ไม่รู้สึก ให้มือนำไขหัวเอาเลือดคั่งในสมองในหัวออกให้หมด จะโดยใช่ไซริงดูดออกหรือให้มือรีดออกหรือปากดูดออกก็ได้ไก่จะหายจากอาการหนักหัว เหม่อลอย เบลอได้3.ไก่เกิดการเกร็งกระตุก แสดงว่าถูกตีเข้าจุดปะสารทตานอกเอี้ยงจะชาเกร็ง ตัวแข็งที่มีอาการชักกระตุกจุดที่มักจะโดนตีแล้วเกร็งจะอยู่แถวๆบ้องหู ทักดอกไม่ ท้ายเสนียดปละบริเวณข้อต่อ เช่นดุมปีก ให้มือน้ำนวดบีบเส้นบริเวณที่โดนตีเบาๆคลึงไปแล้วประคบด้วยร้อนผ่านๆอย่าขยี้จับยึดเส้นสายดึงดัด-คลึงก็จะหายจากอาการเกร็ง กระตุกได้4.ไก่เกิดอาการเอียง ไก่มักจะโดนตีบริเวณบ้อง กกหู ทำให้ในหูเสียถ่วงดุล จะทรงตัวไม่ตรงหรือทรงตัวไม่อยู่ เกิดอาการเอียง เป๋ เซเสียประสาทถ้าไก่เอียงทางซ้ายให้แก้ทางขวาให้ หรือถ้าไก่เอียงทางขวาให้แก้ทางซ้าย สลับทางกันโดยการนวด-คลึงดึงประคบๆจนหว่าจะหายจากอาการเอียงให้ปล่อยให้ไก่เดินดู ถ้าไก่ไม่หายให้เอาโคนขนไก่แหย่เข้าไปในรูหูไก่ ปล่อยให้ไก่เดินไก่จะสะบัดหัวเพื่อจะให้ขนเสียบหูหลุด จะทำให้ถ่วงดุลในหูสมดุล ประสาทกลับเข้าที่ก็จะหายจากอาการเอียงได้5.ไก่เกิดอาการชักดิ้น สาเหตุมาจากการถูกตีเข้าบริเวณเหลี่ยมคิ้ว เหลี่ยมตา-แสกตา ด้วยปลายนิ้วจะชักดิ้นวิ่งเตลิดแบบบังคับตัวเองไม่ได้ เส้นเอ็นเส้นประสาทจะพลิกค้างให้มือน้ำคลึง-นวด-ประคบ บริเวณดังกล่าวและนวดตัวให้ทั่ว หรือให้ไก่กระพือปีกว่ายอากาศ คือ จับสร้อยระย้าหางและโคนหางยกขึ้นห้อยไก่ลงไก่จะกระพือปีกและซอยขา จะช่วยให้อาการทางประสาทหายได้เร็ว และให้ดัดคอดัดปีกโดยเอามือหนึ่งจับหัวไก่สอดไปใต้คาง กำหัวไว้อีกมือดันคอขึ้นละดึงคอลง ยืดคอออก การดัดปีกให้เอามือคลี่ปีกออกแล้วเอาอีกมือกดปีกไว้ ทำทั้ง2ข้างและใช่มือทั้ง2ข้างสอดเข้าไปใต้ปีกประกบกันดันให้หลังสันปีกชนกัน และรวบยกขึ้นแค่ปลายนิ้วไก่จดฟื้นทำ 2-3 ครั้ง ก็หายจากอาการชักดิ้นได้ แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2018, 01:07:16 pm » |
|
โรคหวัดหน้าบวม…. ภัยร้ายไก่ชน โรคหวัดหน้าบวม…เกิดจากอะไร???
รักษายังไงให้หายขาด???
โรคหวัดในไก่ชนนั้นเป็นโรคทางระบบหายใจ มักพบมากในฤดูหนาว ฤดูฝน หรือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย โดยสาเหตุของโรคหวัดในไก่ชนนั้นส่วนใหญ่จะเกิดจากเชื้อ ไวรัส และมีบางครั้งอาจเกิดจากเชื้อ แบคทีเรีย ได้เหมือนกัน อาการป่วยของไก่ชนนั้นผู้ที่ทำการเลี้ยงมักจะสังเกตได้ด้วยวิธีง่ายๆคือ ไก่ชนจะมีน้ำมูกใสๆไหลออกทางจมูกของไก่ ไก่จะน้ำตาไหลเล็กน้อยต่อมาน้ำมูกจะค่อยๆ ข้นเปลี่ยนเป็นสีขาวใสๆเป็นสีเหลืองเหลืองจับเป็นคราบอยู่ที่รูจมูกทั้งสองข้าง อาการของไก่ชนที่เลี้ยงไว้นั้นจะแสดงอาการออกมา โดยการหายใจลำบาก หายใจดัง โดยเฉพาะเวลากลางคืนจะได้ยินชัดเจนหรือมีอาการไอหรือจามบ่อยๆ
ถ้าเป็นอย่างรุนแรงไก่จะแสดงอาการหน้าและตาบวมหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า(โรคหน้าบวม) ตาบวมปิด น้ำตาไหลมากถ้าไม่ได้รับการรักษาให้หายขาดจะมีก้อนหนองสีเหลืองคล้ายเนยแข็งเกิดขึ้นที่แยงหัวตาและในช่องปากและอาจทำให้ไก่ตาบอดได้ เมื่อเชื้อหวัดตกลงไปในกระเพาะหรือลำไส้ ไก่จะมีอาการท้องเสีย ขี้เขียว ขี้ขาว ซึ่งเป็นโรคในระบบทางเดินอาหาร เป็นอาการของไก่ที่ติดเชื้อแบคทีเรียจำพวก ซัลโมแนลล่า ซ้ำเติมเข้าไปอีก” จนทำให้ไก่ชนเครียดและล้มตายในที่สุด…
.แนะนำ..วิธีการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ ” เอ็กซ์ตร้าชัวร์ “
1.แยกขัง หรือย้ายไก่ตัวที่มีอาการติดเชื้อหวัดหน้าบวมออกจากฝูงหรือบริเวณไก่เลี้ยงชน
2.วันแรก เริ่มต้นด้วยการซีด เอ็กซ์ตร้าชัวร์ สีขาว 1 cc. กินแม็กวัน 1 เม็ด
3.วันที่สอง สังเกตุดูอาการ ถ้าหน้าไก่หายบวมแล้ว ให้กินแม็กวัน 1 เม็ดต่อไปอีก 2-3 วัน
หากวันที่ 2 ยังมีอาการหน้าบวม หรือมีน้ำตาไหลอยู่ให้
ซีดเอ็กซ์ตร้าชัวร์ สีขาว 1 cc. กินแม็ก วัน 1 เม็ด4.เอ็กซ์ตร้าชัวร์ ตัวยาสามารถตอบสนองโรคหวัดหน้าบวมได้เป็นอย่างดี เห็นผลตั้งแต่เข็มแรกที่ฉีด ปกติแล้วหวัดหน้าบวม น้ำมูก น้ำตาไหล หลังจากได้รับยาวันแรกไป วันที่ 2 ไก่จะฟิ้นตัวได้เร็วมาก อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2018, 05:35:31 pm » |
|
7 เชิงเหนือเชิง ของไก่ชน เทคนิคดูเชิงเหนือเชิง ของไก่ชน
1.แข้งเปล่า เหนือ เท้าบ่าแข้งเปล่า เป็นไก่ที่ออกแข้งโดยไม่ต้องจับตี บินเตะไปเลย เชิงเท้าบ่า เป็นไก่ที่เอาไหล่ชนกันแล้วยืดคอไปจิกบ่าคู่ต่อสู้แล้วตีเข้าท้องหรือหน้าอกแข้งเปล่าเหนือเท้าบ่าตรงไหน ตามความเข้าใจของผมนะ ไก่เชิงเท้าบ่าก็แน่นอนต้องเดินเข้ามาประชิดตัวถึงจะได้ออกอาวุทแต่ก่อนที่จะมาใกล้ตัวไก่เชิงแข้งเปล่า โดนเตะก่อน นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
2.เท้าบ่า เหนือ ลงจิกขาเชิงเท้าบ่า เป็นไก่ที่เอาไหล่ชนกันแล้วยืดคอไปจิกบ่าคู่ต่อสู้แล้วตีเข้าท้องหรือหน้าอก เชิงลงจิกขา ก็น่าจะเป็นไก่หัวต่ำ มุดลงข้างล่าง คอยจิก กินแข้งกินขา อาจจะมีจับเตะบ้างหรือจิกอย่างเดียวเท้าบ่าเหนือลงจิกขาตรงไหน ตามความเข้าใจของผมเช่นเคย ไก่ลงจิกขานั้นแน่นอนต้องมุดเข้าไปหาคู่ต่อสู้แต่ถ้าเจอกับไก่เชิงเท้าบ่าแล้วก่อนจะจิกแข้งจิกขาก็โดนจับบ่าตีตัวหักไปก่อนล่ะครับ นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
3.ลงจิกขา เหนือ มัดปีกเชิงลงจิกขา ก็น่าจะเป็นไก่หัวต่ำ มุดลงข้างล่าง คอยจิก กินแข้งกินขา อาจจะมีจับเตะบ้างหรือจิกอย่างเดียว เชิงมัดปีก ก็น่าจะเป็นไก่เข้าปีกแล้วจับหัว จับสร้อยคอ ตีหน้าขา ตีซี่โครง ตีหลังง่อนก็ว่ากันไปเชิงลงจิกขาเหนือเชิงมัดปีกตรงไหน ตามความเข้าใจผมเช่นเคย แน่นอนเราคงพูดถึงไก่เชิงมัดปีก มันก็มีแค่เข้าปีกแล้วตีอย่างเดียว เวลามันไปเจอไก่ลงจิกแข้งจิกขา มันก็ไม่รู้ทำอะไร ยืน งงๆ หน้ามึนๆ มองหาปีกอยู่ไหน ปีกอยู่ไหน มัวแต่หาปีก ก็โดนจิกแข้งจิกขา ฉีกขาดกันไปหมดล่ะ นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
4.มัดปีก เหนือ เชิงบนเชิงมัดปีก ก็น่าจะเป็นไก่เข้าปีกแล้วจับหัว จับสร้อยคอ ตีหน้าขา ตีซี่โครง ตีหลังง่อนก็ว่ากันไป เชิงบน ก็น่าจะเป็นไก่เชิงแบบกอดเกี่ยวหัวสูงเล็มตีหูนอก หรือ กันคอบนเลี้ยวตีไก่มัดปีกจะเหนือไก่เชิงบนตรงไหน ตามความเข้าใจผมเช่นเคย ไก่เชิงบนก็น่าจะเป็นไก่พยายามหาหูนอก หรือเลี้ยงคอตี แต่เวลาเจอไก่เข้าปีก ก็ไม่รู้จะหาหัว หาหูที่ไหน ไก่เข้าปีกก็เข้าปีกตีเอาตีเอา นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
5.เชิงบน เหนือ ม้าล่อเชิงบน ก็น่าจะเป็นไก่เชิงแบบกอดเกี่ยวหัวสูงเล็มตีหูนอก หรือ กันคอบนเลี้ยวตี ม้าล่อ แน่นอนมันก็เหมือนม้า วิ่งอย่างเดียว หลอกวิ่งให้คู่ต่อสู้เหนื่อยแล้วกลับมาตี หรือขณะวิ่ง ก็ออกอาวุท ออกตีซอก ตีลำตัวบ้างไก่เชิงบนเหนือม้าล่อตรงไหน ตามความเข้าใจผมเช่นเคย แน่นอนไก่ม้าล่อเวลาวิ่งๆไปถ้าจะมาออกอาวุทก็คงหนีไม่พ้นการประชันหน้ากัน ถ้าไก่ม้าล่อมาเจอชิงบน มันก็จะโดนเชิงบน เล็มตีหูนอก กันคอซ้าย ขาว ตี นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
6.ม้าล่อ เหนือ หน้าตรงม้าล่อ แน่นอนมันก็เหมือนม้า วิ่งอย่างเดียว หลอกวิ่งให้คู่ต่อสู้เหนื่อยแล้วกลับมาตี หรือขณะวิ่ง ก็ออกอาวุท ออกตีซอก ตีลำตัวบ้างหน้าตรง ก็น่าจะเป็นไก่ที่เดินเข้าหน้าคู่ต่อสู้อย่างเดียว แบบว่า เดินหน้าฆ่าลูกเดียวม้าล่อเหนือหน้าตรงตรงไหน ตามความเข้าใจผมเช่นเคย แน่นอนเชิงหน้าตรง ก็คงเดินเข้าหาคู่ต่อสู้ตรงๆตามเชิงที่ติดตัวมา ถ้าไปเจอม้าล่อ ก็เสร็จสิครับ ม้าล่อก็ออกลีลา โชว์ความเทพ หลอกตบ หลอกเตะอย่างเดียว นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
7.หน้าตรง เหนือ ตั้งโด่หน้าตรง ก็น่าจะเป็นไก่ที่เดินเข้าหน้าคู่ต่อสู้อย่างเดียว แบบว่า เดินหน้าฆ่าลูกเดียว ตั้งโด่ ก็น่าจะเป็นไก่แบบว่า เข้ามาเลยถ้าเข้ามาโดนจับเตะแน่ หรือถ้าเป็นการเข้าหาก็เหมือนแบบว่า เดินโชว์คอ เข้าไปหาหรือกระโดดแบบผีจีน อะไรประมาณนั้นหน้าตรงเหนือตั้งโด่ตรงไหน ตามความเข้าใจผมเช่นเคย ไก่เชิงตั้งโด่ คงเป็นไก่ที่แบบว่าคงไม่มีอะไรเลยล่ะครับ แบบว่า โชว์คอตั้งโด่ รอให้คู่ต่อสู้เข้ามาหาแล้วจะเตะ หรือถ้าไม่เข้าคงกระโดดหรือเดินหน้าตั้งๆไปหาแน่ ถ้ามาเจอไก่หน้าตรง คงเสร็จสิครับ ไก่หน้าตรงก็จับเตะ ล็อกซ้ายล็อกขวา หรือยิงแข้งหน้า เข้าใส่ นี่ล่ะครับทำให้แพ้เชิงกันไป
แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 03, 2018, 02:59:36 pm » |
|
5 เทคนิคสำหรับไก่ชนใช้ออกอาวุธเวลาชนกัน 5 อย่างสำหรับไก่ชนใช้ออกอาวุธเวลาชนกันวันนี้ผมจะนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับการเตะของไก่ ว่าไก่ตัวล่ะตัวจะเอาส่วนไหนเตะกันบ้าง สำหรับไก่นั้น เวลาบินเตะ จะแตะสองแข้งเข้าหากัน แบบว่า คล้ายๆกับเราใช้มือตบหน้า แต่ไก่นั้น จะใช้ส่วนไหนเตะก็แล้วแต่ความสามารถของไก่เลย1.เตะโดยใช้เดือย สำหรับการเตะโดยใช้เดือยนั้น เวลาไก่จับเตะหรือบินเตะ จะใช้ส่วนที่เป็นเดือย จัดการคู่ต่อสู้ให้เกิดบาดแผล ส่วนเดือยนี้จะเป็นส่วนที่ตีเจ็บที่สุด ถ้าไก่ตัวไหนใช้เดือยจัดๆ มีโอกาสเก็บคู่ต่อสู้ได้ไว ไม่ว่าจะตีแบบปล่อยเดือย หรือทับเดือย เพราะเดือยเป็นส่วนที่แข็งที่สุดของแข้งล่ะ2.เตะโดยใช้ก้อย สำหรับการเตะโดยใช้ก้อยนั้น เวลาไก่จับเตะหรือบินเตะ จะเอาส่วนบริเวณโคนของนิ้วก้อย และรวมไปถึงนิ้วก้อยทั้งนิ้ว จัดการคู่ต่อสู้ให้เกิดบาดแผล ถ้าไก่ตัวไหนที่ใช้ก้อยตีจัดๆ ก็จะเปิดบาดแผลได้กว้างและลึกเช่นกัน ตัวอย่างมักจะมีให้เห็น เวลาเราปล้ำกันที่บ้าน เราพันตออย่างดี แต่ลืมพันก้อย แต่เห็นว่า มีการแทงและเปิดบาดแผลกว้างหลายที่ หรือบางตัวใช้ก้อยแม่นๆละเตะถูกจังหวะอาจจะแทงตาบอดได้ เพราะฉะนั้นถ้าไก่ตัวไหนที่ใช้ก้อยตีดีๆ เวลาตีที่บ่อน ถ้าจะทับเดือบตี ก็อย่าไปกังวล เพราะไก่เราใช้ก้อยแทงได้3.เตะโดยใช้ปลายนิ้ว สำหรับการเตะโดยการปลายนิ้วนั้น เวลาไก่จับเตะหรือบินเตะ จะเอาส่วนบริเวณที่เป็นปลายนิ้วเตะ ส่วนมากจะเป็นนิ้วกลาง ถ้าเวลาเราเห็นไก่ชนกันมักจะได้ยินเสียง ดัง ป๊อกๆแปกๆ เหมือนไก่เอานิ้วเขี่ย ไก่ที่ใช้ปลายนิ้วเตะมักจะเป็นไก่เปิดแผลไม่ลึก ทำให้คู่ต่อสู้ไม่เจ็บมากนัก4.เตะโดยใช้หน้าแข้ง สำหรับการเตะโดยใช้หน้าแข้งนั้น เวลาไก่จับเตะหรือบินเตะ จะเอาส่วนที่อยู่บนเหนือเดือย จัดการคู่ต่อสู้ให้เกิดบาดแผล แต่สำหรับไก่ที่ใช้ส่วนนี้เตะนั้น มักจะไม่เห็นใครเอาออกชนในบ่อนเท่าไหร่ เพราะเป็นไก่ตีไม่เจ็บ เปิดแผลได้น้อย หรือแทบไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ไก่ตัวไหนใช้หน้าแข้งเตะ คัดทิ้งได้คัดออกไปได้เลย ถ้าเอาเข้าไปตีในบ่อน มีโอกาสแพ้สูง5.เตะโดยใช้ข้อแช้ง สำหรับการเตะโดยใช้ข้อแข้งนั้น เวลาไก่จับเตะหรือบินเตะ จะเอาส่วนที่อยู่บนหน้าแข้งอีกที จัดการคู่ต่อสู้ให้เกิดบาดแผล ถ้าหากพบเจอไก่ที่ใช้ส่วนนี้เตะ ให้คัดทิ้งอย่างรวกเร็ว เพราะไก่ที่ใช้ส่วนนี้เตะ เวลาเตะนั้น คู่ต่อสู้จะไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เปิดบาดแผล เตะไม่ถูกหัวคู่ต่อสู้แน่ ไก่ที่ใช้ส่วนนี้เตะมักจะพบเห็นในไก่ที่เตะไม่แม่นทั้งหลายนั้นแหละจากที่กล่าวมาข้างต้น ไก่ใช้เดือยเตะจะดีที่สุด รองมาก็เป็นไก่ใช้ก้อยเตะ รองลงมาก็เป็นไก่ใช้หน้าแข้งเตะ และข้อแข้งเตะ เรียงตามลำดับลงมา เพราะฉะนั้น ทุกท่านก็ลองสรรหาและสังเกตุการเตะของไก่ให้ดีๆว่าไก่ตัวที่ตัวเองจะซื้อหรือตัวเองเลี้ยงอยู่ ส่วนมากจะใช้ส่วนไหนบ้างที่เตะคู่ต่อสู้สำหรับการสังเกตุว่าไก่ใช้ส่วนไหนเตะ นั้นมองได้ง่ายมาก สังเกตุจากการปล้ำหนักๆสักครั้ง ถ้าคู่ต่อสู่เกิดบาดแผล ให้สังเกตุที่แข้งไก่ของเรา ว่าเลือดติดส่วนไหนมากที่สุด ไก่จะใช้ส่วนนั้นแหละเตะบ่อยที่สุด แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 04, 2018, 02:11:23 pm » |
|
ไก่เป็นโรคลุกไม่ขึ้น ขาอ่อน นอนตะแคง รักษาให้หายขาดได้ แบบง่ายๆ ไก่ลุกไม่ขึ้น ขาอ่อน นอนตะแคง ปัญหาที่ถูกถามบ่อยครั้งปัญหาหนึ่งในการให้คำปรึกษาแก่ผู้เลี้ยงไก่ชน คือ ปัญหาไก่ขาอ่อนไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งแม้ว่าปัญหานี้จะเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้ง การติดเชื้อไวรัสเช่น โรคมาเร็กซ์ โรคไวรัสข้ออักเสบ โรคสมองและไขสันหลังอักเสบ และการติดเชื้อแบคทีเรียเช่น โรคสตาฟิโลค็อคโคซิส เป็นต้นแต่สาเหตุหนึ่งที่เรามักมองข้าม ทั้งที่เป็นเรื่องพื้นฐานในการเลี้ยงดูสัตว์คือ เรื่องการขาดสารอาหาร จึงต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ขาดสารอาหาร” ไม่ใช่ “ขาดอาหาร” เข้าเรื่องกันก่อน อาการไก่ลุกไม่ขึ้น ขาอ่อน และนอนตะแคงหรือโรคกระดูกอ่อน เกิดจากการขาดวิตามิน ดี3 หรือ ฟอสฟอรัส หรือแคลเซี่ยม หรือขาดความสมดุลของแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัส(พวกหลังนี่ อาจเป็นพวกฉีดคาโตซาลมากเกินขนาด หรือเกินกว่าที่หมอบอก) ซึ่งมีผลให้ กระดูกนิ่มขนาดที่งอได้โดยไม่หัก กระดูกอกคด จะงอยปากบิดได้ ทำให้ไก่เดินไม่ได้หรือเดินผิดปกติ ต่างจากโรคไวรัสคือสังเกตได้จากมักไม่นั่งบนข้อแต่จะนอนตะแคง โดยที่ไก่ยังกินข้าวได้ และสภาพโดยทั่วไปดูปกติ วิธีแก้ไขทำได้โดย ให้วิตามิน ดี3และแคลเซี่ยม (ที่ร้านหมอยามีขาย) โดยในรายที่ขาดแคลเซี่ยมจะฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ซึ่งเมื่อได้รับแคลเซี่ยมแล้วไม่เกิน 2 วันไก่ก็จะลุกขึ้นยืนได้ บางรายแค่ 15 นาที ก็ลุกขึ้นยืนได้ ส่วนวิตามินดี3 ให้โดยการป้อนปาก หรือละลายน้ำให้กิน ซึ่งการให้แคลเซี่ยมควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนเดี๋ยวเกินจะยุ่งและเมื่อไก่เดินได้ตามปกติควรพิจารณาแก้สูตรอาหารโดยการเพิ่มอาหารที่มี ปลาป่นหรือกระดูกสัตว์ป่นเป็นส่วนประกอบอาการเหล่านี้ก็จะหายไปจากฝูงอย่างแน่นอน แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 06, 2018, 01:12:20 pm » |
|
จุดเด่นของไก่ชนพม่า จุดเด่น จุดด้อยของไก่ชนพม่า เนื่องจากไก่พม่าซึ่งมีสัญชาตญาณของไก่ป่าอยู่สูง ทำให้ไก่พม่านั้นมีความคล่องแคล่วและปราดเปรียวอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าจะนำ มาเลี้ยงอยู่ก็ตาม และในบางตัวขณะกราดน้ำต้องเอาเชือกผูกที่ขาก็มี แต่ไกพม่าก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของคนที่ชอบไก่พม่ากันอยู่ เพราะมีสีที่สวยและมีลูกตีเด็ดขาด ซึ่งบางครั้งถึงแม้ตัวละเล็กกว่า ไก่พม่าก็สามารถที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่ๆ กว่า ได้ จุดเด่นของไก่พม่า1.ไก่พม่าเป็นไก่ที่ตีหน้าตรงได้ดีเชิงตีหน้าตรงของไก่พม่านี้ จะเรียกว่าตีหน้าตรงอาชีพเลยก็ได้ หากคู่ต่อสู้เข้ามาโดยไม่ ระวัง มักจะถูกแข้งหน้าตรงเข้าเต็มๆ ทุกครั้ง2. สาดแข้งเปล่าเก่งไก่พม่าเป็นไก่ที่มีลูกนำที่ดี หรือสาดแข้งเปล่านั้นเอง ลูกสาดแข้งเปล่านี้ถือว่าเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของ ไก่พม่าที่ไม่ต้องใช้ปากจับก่อนที่จะออกแข้ง ทำให้ได้เปรียบไก่ไทยที่บางครั้งต้องใช้ปากจับจึงจะตีได้3. วางแผลได้แม่นจุดนี้ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่ดีที่สุดของไก่ชนพม่า เพราะแผลที่ไก่พม่าตีนั้นจะเป็นแผลที่เป็นจุดตายทั้งสิ้น ไม่ ว่าจะเป็นบริเวณสามเหลี่ยมซอกคอ ที่มักจะทรุด บริเวณคอที่มักบวมหรือหัก บริเวณคอเชือด บริเวณวงแดง และดวงตา ซึ่งช่วยให้ เกิดการแพ้ชนะได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเสน่ห์การตีแม่นเหล่านี้นี่เองที่ทำให้ไก่พม่าได้รับความชื่นชอบจากเซียนไก่ชนทั่วๆ ไปอย่าง ล้นหลาม4.มีปีกที่ยาวและขนใยปีกเหนียวกว่าไก่ไทยด้วยสัญชาตญาณคล้ายไก่ป่านี้เอง ทำให้ปีกของไก่ชนพม่ามีความยาวกว่าไก่ ไทย เพราะไก่พม่าต้องอาศัยการบินมากกว่า และแน่นอนกว่า คุณสมบัติดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งต่อการบินในขณะชน นอกจาก นี้แล้วใยปีกของไก่ชนพม่ายังเหนียวกว่าไก่ไทยอีกด้วย ทำให้คู่ต่อสู้เข้ามัดปีกไม่ทะลุ จึงเป็นข้อดีอีกทางหนึ่งในการป้องกันตัว5.ไก่พม่าจะมีก๊อกสองก๊อกสามตลอดอันนี้ก็นับเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของไก่ชนพม่า เพราะบางทีถูกตีล้มคว้ำล้มหงาย แต่ ไก่พม่าก็สามารถจะเปิดก๊อกสองขึ้นมาติดคู่ต่อสู้ได้ตลอดเวลา6.ไก่พม่าจะเป็นไก่ที่หลบหลีกเก่งไม่ค่อยเข้าเชิง ซึ่งลีลาเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ค่อยให้ใครเข้าขี่เชิงนัก ยกตัว อย่างเช่น หากเจอไก่กอด ไก่พม่าจะหลบหลีกด้วยการถอดหัวหรือชักลิ่มหนีการกอด หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือการถอยและสาดแข้งเปล่า ซึ่งเป็นลีลาที่ถนัดอย่างมากทีเดียว แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 07, 2018, 03:34:40 pm » |
|
การคัดไก่สายตราดผสมก๋อย แนวทางการพัฒนาให้ประสบความสำเร็จอีกแนวทางหนึ่งของการพัฒนาไก่ชนในปัจจุบันคือการพัฒนาก๋อยผสมตราดง่อน ซึ่งแนวทางนี้มีข้อคืดสำหรับนักพัฒนาที่สำคัญหลายประการคือ1. สายตราดที่เราเอามาผสมควรจะเลือกอย่างไร 2. ข้อจำกัดของไก่สายตราดมีอะไรบ้าง 3. แหล่งในการค้นหาอยู่ที่ใดคำถามทั้งหมดนี้มีข้อแนะนำที่ควรนำไปพิจารณาดังนี้1. ไก่สายตราดที่เราควรนำมาพัฒนากับก๋อยเราควรเลือกไก่สองลักษระที่สำคัญโดยคัดจากแผลตีเป็นหลักเพราะชั้นเชิงตราดนั้นใกล้เคียงกัน แผลที่ 1 คือ ไก่แผลบางคือเน้นแผลบางแม่นคม อันนี้จะช่วยเสริมความไม่คมของไก่ก๋อยได้ครับเพราะก๋อยส่วนมากตีรวบๆ แผลหนาเป็นหลักตัวไหนตีไม่ฝังก็ไปไม่ถึงดวงดาว แผลที่ 2 คือแผลหนาคือเน้นแผลหลังและสีข้าง อันนี้พัฒนากับก๋อยได้ดีมากหากเราเลือกตัวที่ออกแข้งฝัง ๆ เราจะได้ไก่ที่ตีแรงฝังแข้งอย่างยิ่ง2. ข้อจำกัดของไก่ตราดที่เราควรคำนึงคือ เหล่าไม่ดีใจน้อยอันนี้พบเห็นบ่อย ๆ สู้ไก่ยาก บางกลุ่มโครงสร้างล่ำเตี้ยโดยเฉพาะตัวดี ๆ โครงสร้างล่ำเตี้ยเวลาพัฒนากับก๋อยจะเสียเปรียบไก่รอยอื่น อันนี้ก็ต้องระวัง ไก่ตราดส่วนมากขนน้อยทำให้ปีกสั้นปีกบางอันนี้ต้องคัดกันหน่อยเลือกสกุลที่ขนปีกสวยงาม..ที่สำคัญเลือกแข้งขาและเกล็ดแข้งที่ดีด้วย เพราะเวลาดูไก่สกุลไทย ๆ ที่ขาดไม่ได้คือเรื่องแข้งขาและเกล็ดแข้งควรประกอบด้วยคงใช้ตำราพม่าไม่ได้3. สำหรับแหล่งพัฒนาที่น่าเชื่อถือมีดังนี้ 3.1 ตามซุ้มหรือฟาร์มอันนี้มีทั่วไป ข้อดีคือได้เหล่าที่ผ่านการคัดมาอย่างดีมีผลงานโชกโชน ข้อเสียคือความจำกัดของสายพันธุ์ยังไม่หลากหลาย บางซุ้มบางฟาร์มมีเหล่าเดียว 3.2 ในพื้นที่เพาะเลี้ยงของชาวบ้าน เน้นที่ตำบลท่าพริก อำเภอเมือง นอกจากนี้ยังหาได้แถวจันทบุรีด้วยยังมีชาวบ้านเอามาเลี้ยงจำนวนมาก แต่พอถึงระยองจะเริ่มเป็นลูกผสมกับไก่ระยองเป็นหลัก รวมทั้งที่พนัสนิคมด้วยก็นำมาผสมกับไก่พนัสเป็นหลัก เวลานำเข้าควรนำเข้าทั้งตัวผู้และตัวเมียจะง่ายแก่การพัฒนาในระยะยาวครับ ส่วน่ทานที่ชอบเรียนรัดก็ใช้เหล่าที่เขาพัฒนาไว้แล้ว แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
fifavip555webboard
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 09, 2018, 06:35:26 pm » |
|
7 แนวทางนำมาฝาก ที่เซียนไก่ชนต้องรู้ 7 แนวทางนำมาฝาก ที่เซียนไก่ชนต้องรู้ถ้าหากเราต้องการไปหาซื้อ ไก่ชน ตัวเก่งๆซักตัวแต่ไม่มีโอกาสได้ไปปล้ำซ้อมดู ก็จะมีเทคนิค และการเลือกขั้นพื้นฐาน ที่ดูไม่ยากโดยดูจากลักษณะภายนอก ง่ายๆ คือ1.ไก่ชนตัวไหนที่ไม่หากินร่วมฝูงให้เลือกเอาไว้ก่อนไก่พวกนี้จะมีปฏิภาณแก้ไขปัญหาเฉพาะ หน้าได้ ซึ่งมีโอกาสเป็นไก่เก่งได้ หรือ เลือกไก่จ่าฝูง ยืนแล้วมีสง่า มีร่องรอยการต่อสู้ตั้งแต่เล็กๆ2.ดูโครงสร้างไก่ ลองจับตอนซื้อได้เลย หากตัวเป็น 2 ท่อน หัวบานท้ายบาน จะเป็นไก่ ที่จับแล้วได้เปรียบ พลังกำลังดี อกใหญ่ ปั้นขาใหญ่ จะแสดงถึงความแข็งแกร่ง ทรหด อดทน กระดูก ปล้องคอใหญ่ชิด และจับดูตะเกียบต้องแข็งและชิดยิ่งชิดมากเท่าไรยิ่งดีถ้าตะเกียบชิด จะเป็นไก่ที่เร็ว3.เลือกดูแข้งกลมเล็กจะเป็นไก่ตีเจ็บ และเมื่อจับไก่ยกดู ไก่ต้องเหยียดขาทั้ง 2 ข้าง4.ดวงตากลมวาวเห็นเส้นเลือดตาชัดเจน ยิ่งเป็นไก่ตาคว่ำยิ่งดี เพราะพวกนี้จะดุ และ หัวใจเกินร้อย5.เลือกดูจากปาก ไก่ที่มีลักษณะปากสั้น จะเป็นไก่ที่ปากไว เวลาจิกคู่ต่อสู้จะได้เปรียบยิ่งถ้า มีร่องตรงปาก จะทำให้ไก่ตัวนั้นปากทนทาน ไม่หักแตกง่าย ส่วนไก่ที่มีลักษณะยาว ไม่มีร่อง เวลาจิกตีคู่ต่อสู้จะเสียเปรียบ และเวลานำไปชน จะทำให้ปากแตกง่าย เสียเปรียบคู่ต่อสู้6.มีความเข้ากันของขน แข้ง ตา ปาด ไปในทางเดียวกัน7.เวลาจับตัวไก่หันด้านหน้าเข้าหาเรา ไก่มักจะยันเท้าไปด้านหลังอยู่ตลอดไม่ยอมยืนนิ่งอยู่กับที่ แสดงให้เห็นได้ว่าไก่พม่าตัวนั้นเป็นไก่ที่ถอยจัดแต่ทางที่ดีหากซื้อไก่ให้ดีที่สุดควรปล้ำดู เพื่อทดสอบการวางแข้ง แผลตีแล้วค่อย มาพิจารณาส่วนอื่นทีหลัง แทงไก่ชนออน[/color] ทางเข[/url]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|