อีแอ่น

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อีแอ่น  (อ่าน 55 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มม
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: มีนาคม 18, 2019, 01:33:24 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


อีแอ่น
[/size][/b]
อีแอ่นเป็นชื่อไทยแท้ของนก ๒ สกุล
(ปัจจุบันคนไทยมีความคิดเห็นว่าชื่อ “อีแอ่น” ไม่สุภาพหรือไม่เนื่องจาก จึงเปลี่ยนเป็นชื่อ“นางแอ่น” หรือ“นกแอ่น” เหมือนกันกับ“กา” เป็น “นกกา” หรือ “อีแร้ง” เป็น “นกแร้ง”) เป็น ตระกูล Apodidae (ชั้น Apodiformes) กับสกุล Hirundinidae (อันดับ Passeriformes)
อีแอ่นรับประทานรังเป็นนกในวงศ์ Apodidae ส่วนนกในสกุล Hirundinidae หลายชนิดเรียก “อีแอ่น” ด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นนกที่จัดอยู่ในวงศ์หลังนี้ทำรังด้วยดิน ไม่มีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมอยู่ประการใด และก็นกตาพอง (Pseudochelidon sirintarae Thonglongya) ที่มีผู้ตั้งชื่อให้ใหม่เป็นนกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร อันเป็นนกถิ่นเดียวของไทย พบที่สระบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันนี้เป็นนกหายากและก็มีจำนวนน้อยหรือบางทีอาจจะสิ้นพันธุ์ไปและได้
อีแอ่นหิมาลัย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Colocalia brevirostris (Horsfield) มีชื่อสามัญว่า Himalayan swiftlet จำพวกนี้ทำรังด้วยต้นหญ้ารวมทั้งพืชประเภทต่างๆมีน้ำลายเป็นตัวเชื่อมเพียงเล็กน้อย อีแอ่น ๒ จำพวกแรก คือ อีแอ่นกินรังกับอีแอ่นรับประทานรังก้นขาว ทำรังด้วยน้ำลายล้วนๆก็เลยเป็นรังนกที่มีคุณภาพบรรเจิด เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วก็เป็นที่ต้องการของตลาด แพงแพงมาก ส่วนรังของอีแอ่นประเภทอื่นในสกุลเดียวกันนี้ไม่เป็นที่นิยมของตลาด โดยยิ่งไปกว่านั้น ๒ จำพวกข้างหลัง คือ อีแอ่นท้องขาวและกอีแอ่น[/url]หิมาลัย
อีแอ่นรับประทานรังเป็นนกที่อาศัยอยู่ในถ้ำหินปูนหรือถ้ำหินทรายตามเกาะต่างๆตามทะเลหรือตามริมตลิ่งต่างๆหรืออาจพักอยู่ตามอาคารบ้านเรือนต่างๆดังเช่นว่า อาคาร โบสถ์ แล้วก็บินออกมาจากถิ่นในตอนเวลาเช้ามืด ไปพบกินตามแหล่งน้ำในหุบเขาหรือตามป่า โดยบินไม่หยุดตลอดวัน ห่อนกลับมายังถิ่นที่อยู่ในตอนเวลาเย็นหรือค่ำ นกพวกนี้สามารถบินโดยใช้เสียงสะท้อนกลับ (echolocation) จึงไม่ชนกับเครื่องกีดขวางใดๆแม้ว่าถิ่นที่อยู่มืดมิด ราวปริมาณร้อยละ ๘๐ ของของกินเป็นแมลง โดยยิ่งไปกว่านั้นมดมีปีก ในช่วงฤดูฝนนั้น ของกินของนกพวกนี้เป็นนกแทบทั้งสิ้น อีแอ่นกินรังที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชข้อมูลต่อไปนี้สำเร็จงานของการศึกษาเรียนรู้ของรศ.โอภาส ขอบเขตต์ ราชบัณฑิต ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนก ซึ่งได้รายงานต่อห้องประชุมราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ แห่งราชบัณฑิตยสถาน ตอนวันที่ ๗ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช๒๕๔๔ ในหัวข้อเรื่อง “อีแอ่นรับประทานรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช” ก่อนที่จะท่านกำลังจะถึงแก่บาปเพียงแต่ ๕ เดือนเศษ

อีแอ่นรับประทานรังในอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประเภท Colocalia fuciphaga (Gmelin) หรือ eible – nest swiftlet ในราว ๕๐ ปีที่ผ่านมา อีแอ่นกินรังได้เข้ามาอาศัยและสร้างรังในบ้านข้างหลังหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเรียก “บ้านร้อยปี” โดยเริ่มเข้ามาพักพิงที่ชั้น ๓ อันเป็นชั้นบนสุด เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๒ ต่อมาจำนวนนกมีเป็นจำนวนมากจนกระทั่งรุกพื้นที่ชั้น ๒ เจ้าของบ้านก็เลยย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๑ ซึ่งเป็นร้านค้า แต่เดี๋ยวนี้บ้านหลังนี้มีนกอยู่เต็มทั้งยัง ๓ ชั้น โดยเจ้าของบ้านล้มเลิกกิจการและก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นๆ แต่กลับมาเก็บรังนกทุกเดือน โดยเฉลี่ยได้รังนกราวเดือนละ ๖ กิโลกรัม (ค่าโลละ ๕๐๐๐๐-๗๐๐๐๐ บาท) ในตอนนั้นอีแอ่นรับประทานรังไปอาศัยอยู่รอบๆโบสถ์ของสงฆ์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ โดยที่เดิมที่ทางวัดมิได้เก็บรัง แม้กระนั้นปัจจุบันนี้คณะกรรมการวัดก็เก็บรังนกขายเช่นเดียวกับบ้านร้อยปี โดยได้รังนกเฉลี่ยราวเดือนละ ๒ กก.
ในตอน ๕ ปีให้หลัง อีแอ่นรับประทานรังบริเวณตลาดอำเภอปากพนังได้เพิ่มขึ้น จนกว่าเข้าไปอยู่ในอาคารสูงๆหลายอาคารทางฝั่งด้านตะวันออก(ฝั่งบ้านร้อยปี) ส่วนฝั่งทางตะวันตก(ฝั่งวัด) ก็มีบ้าง แต่ว่าน้อยกว่ามากมาย ปัจจุบันมีการก่อสร้างตึกสูง๑๐ชั้น มากกว่า ๑๐ ตึก แต่ละอาคารใช้เงินลงทุนไม่น้อยกว่า ๕ ล้านบาท โดยหวังให้อีแอ่นเข้าไปอาศัยสร้างรัง รวมแล้วมีตึกที่สร้างขึ้น โดยหวังว่าอีแอ่นกินรังจะเข้าไปสร้างรังไม่น้อยกว่า ๕๐ ตึก แต่ว่าอีแอ่นก็ไม่ได้เข้าไปอาศัยทำรังทุกตึก
เพราะเหตุใดอีแอ่นจึงเลือกตึกใดตึกหนึ่งเพื่อทำรัง คำตอบนี้ยังไม่หาคำตอบได้แม้กระนั้นจากการเรียนรู้พบว่า อีแอ่นจะเข้าไปทำรังในอาคารสูงตั้งแต่ ๑-๗ ชั้น ตึกส่วนมากมักมีสีเหลืองไข่ไก่ แม้กระนั้นลางตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จแล้ว ยังเป็นสีก้อนอิฐ ก็มีนกเข้าไปอาศัยรวมทั้งทำรัง ส่วนแนวทางการเข้าออกของอีแอ่นนั้น พบว่ามีแทบทุกทิศทาง ไม่แน่นอน แต่ว่าทางเข้าออกของนกโดยส่วนมากเป็นทิศใต้ค่อนไปทางทิศตะวันตก
แม้กระนั้น อุณหภูมิและก็ความชื้นภายใต้ตึกน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่นกเลือกอาศัยแล้วก็สร้างรัง พบว่าตึกที่นกอาศัยจะอยู่ระหว่าง ๒๖- ๒๙ องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ไม่ต่ำยิ่งกว่าจำนวนร้อยละ ๗๕ (อยู่ปริมาณร้อยละ ๗๙-๘๐ ) ผนังอาคารจำต้องไม่น้อยกว่า ๓๐ ซม. ภายในมีอ่างน้ำรอบๆหรือแทบรอบ ไม่มีหน้าต่าง แม้กระนั้นมีช่องลมให้นกเข้าออกขั้นต่ำ ๒ ช่อง ซึ่งอุณหภูมิรวมทั้งความชื้นสัมพัทธ์ในตึกเหล่านี้ใกล้เคียงกับถ้ำธรรมชาติที่นกจำพวกนี้ใช้เป็นที่อาศัยแล้วก็สร้างรัง สำหรับในการเก็บรังนกนั้น เจ้าของบ้านเก็บก่อนที่นกจะออกไข่ คือราว ๓๐ วัน หลังจากนกเริ่มสร้างรัง แล้วก็เก็บทุกๆเดือน แต่ว่าถ้าเป็นรังที่นกออกไข่แล้ว ก็จะปล่อยให้นกวางไข่ถัดไปจนครบ ๒ ฟอง แล้วปลดปล่อยให้ไข่ฟัก รวมทั้งเลี้ยงลูกอ่อนกระทั่งลูกบินได้ก็เลยจะเก็บรัง



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ