กระทู้ล่าสุดของ: มม

[/b]
บัวบ�[/size][/b]
ใบบัวบก เป็นพืชสมุนไพรที่เจริญเติบโตในแถบอินเดีย แอฟริกา รวมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใบรวมทั้งลำต้นนำมาใช้เป็นยารักษาโรคตามแพทย์แผนโบราณของประเทศอินเดียและก็จีนมาอย่างช้านาน ใช้รักษาหลายโรค ได้แก่ โรคซิฟิลิส โรคหอบหืด หรือโรคสะเก็ดเงิน และก็ยังนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย
ใบบัวบก
ใบ[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบกประกอบด้วยสารออกฤทธิ์หลักที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพร่างกายอยู่หลายแบบ ตัวอย่างเช่น ซาโปนิน (Saponin) หรือไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenoids) เอเชียติเตียนวัวไซด์ (Asiaticoside) กรดเอเชียติก (Asiatic Acid) มาเดแคสโซไซด์ (Madecassoside) และก็กรดมาดีค้างสสิค (Madecassic Acid) จึงทำให้ประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ โดยมั่นใจว่ามีสรรพคุณหลายแบบ ดังเช่นว่า ทุเลาอาการอักเสบ ถ้าเกิดใช้กินอาจมีคุณลักษณะช่วยลดระดับความดันโลหิตในหลอดโลหิตดำ แล้วก็นำมาใช้รักษาโรคหรืออาการที่มีเหตุที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิตต่างๆเช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ การต่อว่าดเชื้อที่ระบบทางเท้าฉี่ โรคงูสวัด โรคเรื้อน อหิวาตกโรค โรคบิด โรคเท้าช้าง วัณโรค โรคพยาธิใบไม้ในเลือด ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีความเห็นกันว่าถ้าใช้ใบบัวบกทาที่ผิวหนังบางทีอาจช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับการสมานรอยแผล ลดลางเลือนรอยแผลเป็น รวมถึงปัญหาท้องลายที่มีต้นเหตุที่เกิดจากการตั้งท้อง แม้กระนั้นสิ่งที่ใช้พิสูจน์หรือหลักฐานด้านการแพทย์มีมากน้อยมีมากมายน้อยเพียงใดที่จะช่วยรับรองความศรัทธา สรรพคุณ และความปลอดภัยของใบบัวบกในการรักษาโรคพวกนี้
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่บางทีอาจสำเร็จ
เส้นโลหิตขอด มีการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งรายงานว่าใบบัวบกอาจมีส่วนช่วยทำนุบำรุงและก็สร้างสมดุลในการเติบโตของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissues) เพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นเลือด ส่งผลต่อความดันในเส้นเลือดฝอยและเส้นโลหิตขอด ลดอัตราการกรองของเส้นเลือดฝอยโดยปรับแก้การไหลเวียนของโลหิต นอกจากนั้น ยังมีการเรียนโดยการทบทวนงานศึกษาค้นคว้าวิจัยที่เกี่ยวข้อง 8 ชิ้นเกี่ยวกับการดูแลรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบกในคนไข้ที่มีปัญหาเส้นเลือดขอดเรื้อรัง พบว่าลักษณะของการปวดขา ขาหนัก และก็อาการบวมน้ำบรรเทาลงอย่างเป็นจริงเป็นจัง แม้สารสกัดจากใบบัวบกบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการผู้เจ็บป่วยเส้นโลหิตขอดเรื้อรังลงได้ แม้กระนั้นจากการวิจัยบอกว่าบทสรุปข้างต้นจำต้องแปลความหมายด้วยความระแวดระวังเพราะข้อจำกัดต่างๆของงานศึกษาเรียนรู้ และยังจึงควรศึกษาเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อหาหลักฐานที่มีความถูกต้องแน่ใจและก็มีคุณภาพมากพอสำหรับการประเมินประสิทธิภาพการรักษาโดยใช้สารสกัดจากใบบัวบก
การดูแลและรักษาด้วยใบบัวบกที่เป็นได้ แม้กระนั้นยังมีหลักฐานเกื้อหนุนไม่พอ
โรคเส้นโลหิตแดงแข็ง (Atherosclerosis) ใบบัวบกอาจช่วยสำหรับเพื่อการลดจำนวนไขมันในเส้นโลหิตได้ จากการศึกษาชิ้นหนึ่งโดยให้อาสาสมัครโรคหลอดเลือดแดงแข็งที่ไม่ออกอาการกรุ๊ปหนึ่งกินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกตรงเวลา 6 เดือน และอีกกลุ่มไม่รับประทาน แล้วตรวจหาความหนาแน่นของไขมันหรือพลัค (Plagues) ที่เกาะอยู่ตามเยื่อบุของเส้นเลือด พบว่า ระดับคอเลสเตอรอลของอาสาสมัคร 2 กรุ๊ปไม่ต่างกัน แต่ในกลุ่มที่กินอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกพบว่า อนุมูลอิสระในเลือดลดน้อยลง จำนวนไขมันหรือพลัคที่เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอแล้วก็ขาลดลง รวมทั้งลักษณะของพลัคความครึ้มแล้วก็ความยาวก็ลดลงด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังไม่เจออาการที่ไม่พึงประสงค์ สามารถทนต่ออาการข้างๆได้ รวมทั้งมีการบันทึกผลการตรวจเลือดเป็นประจำ ด้วยเหตุว่าหลักฐานเกื้อหนุนคุณลักษณะของใบบัวบกต่อโรคเส้นเลือดแดงแข็งยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นที่จะต้องศึกษาต่อไป
คุ้มครองลิ่มเลือด การกินใบบัวบกบางทีอาจช่วยคุ้มครองปกป้องการเกิดลิ่มเลือดที่ขาซึ่งมีต้นเหตุมาจากการขึ้นรถเรือบินเป็นระยะเวลานาน จากหลักฐานที่ได้รับการพัฒนาชี้แนะว่าใบบัวบกบางทีอาจช่วยลดของเหลวและก็เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตในคนที่ขึ้นรถเครื่องบินติดต่อกันนานกว่า 3 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แจ้งชัดว่าการศึกษาชิ้นนี้จะซึ่งก็คือการลดการสั่งสมของลิ่มเลือด เพราะเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการปกป้องลิ่มเลือดยังน้อยเกินไป จึงควรต้องศึกษาต่อไป
กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ในผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวาน งานศึกษาค้นคว้าวิจัยหนึ่งให้ผู้เจ็บป่วยโรคเบาหวานที่มีปัญหาเกี่ยวกับหลอดเลือดฝอยปริมาณ 50 คน กินสารสกัดจากใบบัวบกซึ่งมีสารตรีเทอร์พีนอยด์เป็นสาระสำคัญ ขนาด 60 มิลลิกรัม 2 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก พบว่าสารสามเทอร์พีนอยด์ของใบบัวบกมีประโยชน์ต่อการไหลเวียนเลือดในหลอดเลือดฝอยของผู้เจ็บป่วยเบาหวาน แม้กระนั้นหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อการไหลเวียนของโลหิตยังน้อยเกินไป ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
แผลโรคเบาหวาน มีการทำการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถแล้วก็ผลกระทบของการกินสารสกัดจากใบบัวบกต่อแผลโรคเบาหวาน โดยแบ่งผู้ป่วยเบาหวานจำนวน 200 คนออกเป็น 2 กรุ๊ป โดยกรุ๊ปหนึ่งรับประทานสารทวีปเอเชียว่ากล่าวโคไซด์ซึ่งเป็นสกัดจากใบบัวบกขนาด 50 มก. และอีกกรุ๊ปรับประทานยาหลอกจำนวน 2 แคปซูลหลังมื้ออาหารวันละ 3 ครั้ง และมีการประเมินผลทุก 7 วัน พบว่าแผลของคนป่วยที่กินสารสกัดจากใบบัวบกมีการหดรั้ง (Wound Contraction) ที่ดีมากยิ่งกว่าและไม่เจอผลข้างเคียง หรือกล่าวได้ว่าสารสกัดจากใบบัวบกอาจมีคุณภาพสำหรับการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดผลข้างเคียง แต่เหตุเพราะหลักฐานช่วยเหลือคุณสมบัติของใบบัวบกต่อการดูแลและรักษาแผลเบาหวานยังไม่พอ ก็เลยจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
รอยแผล สารออกฤทธิ์ของใบบัวบก ยกตัวอย่างเช่น เอเชียตำหนิวัวไซด์ กรดทวีปเอเชียติเตียนก มาเดแคสโซไซด์ แล้วก็กรดมาดีค้างสสิค เป็นสารช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายในร่างกายและอาจมีประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการรักษาแผลต่างๆทั้งแผลขนาดเล็ก แผลไฟเผา แผลจากโรคสะเก็ดเงินหรือโรคหนังแข็ง รวมถึงแผลแบบนูน ซึ่งจากการค้นคว้าวิจัยชิ้นหนึ่งได้เสนอแนะว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบกบริเวณผิวหนังภายหลังจากเย็บแผลแล้ว 2 ครั้งต่อวัน สม่ำเสมอนาน 6-8 อาทิตย์ บางทีอาจช่วยลดการเกิดรอยแผลได้ รวมทั้งแผลเป็นแบบนูนหรือคีลอยด์ แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าหลักฐานช่วยเหลือคุณลักษณะของใบบัวบกต่อรอยแผลยังไม่พอ จึงจำเป็นต้องศึกษาต่อไป
ท้องลาย จากการมีครรภ์ ได้มีงานศึกษาเรียนรู้เสนอแนะให้คนที่กำลังตั้งท้องทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี และก็คอลลาเจน บ่อยๆทุกวันในตอน 6 เดือนสุดท้ายก่อนการคลอด ซึ่งบางทีอาจช่วยปัญหารอยแตกได้ นอกเหนือจากนั้น ยังมีการทดลองโดยให้หญิงตั้งครรภ์จำนวน 100 คน ทาครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบบัวบก วิตามินอี รวมทั้งคอลลาเจน-อีลาสติน ไฮโดรไลเซท ทาบริเวณผิวหนังที่มีรอยแตกเปรียบเทียบกับการใช้ยาหลอก พบว่าการทาครีมที่มีส่วนผสมของใบบัวบกอาจจะส่งผลให้กำเนิดรอยแตกหรือท้องลายน้อยกว่าในกรุ๊ปที่ใช้ยาหลอก แม้กระนั้นเพราะเหตุว่าหลักฐานส่งเสริมคุณสมบัติของใบบัวบกต่อรอยแตกหรือท้องลายยังไม่แน่นอน ก็เลยจำเป็นจะต้องศึกษาต่อไป
ลดความกังวลใจ การรักษาแบบแพทย์แผนจีนมีการนำใบบัวบกมาใช้เพื่อบรรเทาอาการซึมเศร้าและความหนักใจ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเล่าเรียนทดสอบชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับประสิทธิภาพของใบบัวบกสำหรับการลดความรู้สึกวิตกกังวล โดยสุ่มให้อาสาสมัครกินใบบัวบกในปริมาณ 12 กรัมหรือรับประทานยาหลอก จากผลของการทดลองทำให้เห็นว่าใ�บัวบก[/url]มีฤทธิ์ต่อต้านความกลุ้มใจ ช่วยลดความตึงเครียด แต่ยังคงต้องเรียนเพิ่มต่อไปถึงสมรรถนะของใบบัวบกสำหรับในการรักษาโรควิตก
โรครวมทั้งอาการอื่นๆเช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ ต่อมทอนซิลอักเสบ เป็นลมแดด การติดเชื้อฟุตบาทปัสสาวะ โรคตับอักเสบ โรคดีซ่าน ท้องเสีย ของกินไม่ย่อย ซึ่งยังจำเป็นต้องทำการวิจัยหาสมรรถนะและความปลอดภัยในการรักษาต่อไป
[/b]
ความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานใบบัวบก
 การใช้สารสกัดจากใบบัวบกทาบริเวณผิวหนังอาจมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ว่าการกินใบบัวบกอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ผู้ที่กำลังตั้งท้อง หรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะว่ายังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์พอเพียงที่จะสนับสนุนถึงเรื่องความปลอดภัยทั้งยังต่อเด็ก คุณแม่ หรือทารกในครรภ์
การรับประทานใบบัวบกบางทีอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อตับ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นโรคตับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับตับไม่สมควรกินใบบัวบก ด้วยเหตุว่าอาจจะก่อให้อาการต่างๆห่วยลงได้ รวมทั้งไม่สมควรรับประทานใบบัวบกร่วมกับยาที่มีผลต่อตับในกลุ่มกลุ่มนี้ อย่างเช่น พาราเซตามอล อะมิโอดาโรน คาร์บามาซีป่ายปีน ไอโซไนอะสิด ซิมวาสแตติเตียนน ฯลฯ
การรับประทานใบบัวบกในจำนวนมากอาจจะส่งผลให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอนได้มากกว่าธรรมดา หรือถ้าเกิดกินร่วมกับยานอนหลับหรือยาความกลุ้มใจน้อยลง ได้แก่ โคลนาซีแพม ลอราซีแพม ฟิโนบาร์บิทอล และก็โซลพิเดม
ควรจะหยุดกินใบบัวบกอย่างต่ำ 2 อาทิตย์สำหรับคนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากว่าอาจเกิดปฏิกิริยากับยาที่ใช้สำหรับการผ่าตัดและอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงหงาวหาวนอนได้มากขึ้น
ควรหารือแพทย์ก่อนกินใบบัวบก หากอยู่ในช่วงการใช้ยาหรืออาหารเสริมจำพวกอื่นๆอยู่เป็นประจำ เพราะอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ปรารถนาถ้ารับประทานใบบัวบกในระหว่างการดูแลรักษาของคนป่วยโรคตื่นตระหนก คนไข้เบาหวาน ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง คนไข้อัลไซเมอร์ รวมทั้งผู้ที่ใช้ยานอนหลับหรือยาคลายความกลุ้มใจ และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเหตุว่าอาจส่งผลให้กดประสาทเยอะขึ้น http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรบัวบก

[/b]
บัวบ�[/size][/b]
ใบบัวบกสมุนไพรจีนโบราณที่ได้ยินชื่อกันมานาน นี่คือ คุณประโยชน์ของใบบัวบกที่ทราบแล้วต้องรักเจ้าสมุนไพรนี้มากกว่าเดิม
          มั่นใจว่าคนไม่ใช่น้อยก็น่าจะเคยทราบกันมานักต่อนักว่าเวลาช้ำในให้ดื่มน้ำใบบัวบก ด้วยเหตุว่าจะช่วยทำให้หายจากอาการช้ำในเร็วขึ้น แม้กระนั้นหารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วเจ้าสมุนไพรที่มีนามว่าใบ[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบ�[/b] ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่ประยุกต์ใช้กันตั้งแต่โบราณนั้นก็ยังมีสรรพคุณอื่นๆอีกมากมาย ช่วยทำนุบำรุงสุขภาพ รักษาโรค หรือแม้กระทั้งช่วยบำรุงรักษาความสวยงาม อยากทราบกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าใบบัวบก สมุนไพรที่ชักชวนให้รู้สึกเหม็นเขียวจะมีคุณประโยชน์อะไรดีๆอีกบ้าง ถ้าอย่างนั้นทดลองไปดูที่เราจับมานำเสนอในวันนี้กันดีกว่า บอกได้คำเดียวเลยว่า รู้และเข้าใจดีแล้วจะต้องลืมกลิ่นเขียวๆพวกนั้นไปเลยแน่ๆ

• ขจัดปัญหาเส้นโลหิตขอด

          เมื่อเส้นเลือดสูญเสียความยืดหยุ่นก็ทำให้หลอดโลหิตดำเกิดการฉีกขาดและทำให้เลือดไหลออกมาคั่งอยู่บริเวณขา เป็นต้นเหตุที่นำมาซึ่งอาการบวมที่เรียกว่าอาการเส้นโลหิตขอดนั่นเอง โดยมีการเรียนรู้พบว่าการกินใบบัวบก สามารถลดอาการบวมรวมทั้งกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ โดยในการศึกษาวิจัยนั้นได้กระทำทดลองกับอาสาสมัครกว่า 90 คน ที่มีอาการของเส้นโลหิตขอด รวมทั้งเมื่อรับประทานใบบัวบกเข้าไปรวมทั้งพบว่าอาการเส้นเลือดขอดนั้นดียิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับคนที่กินยาหลอก และเมื่อทำการอัลตราซาวด์ก็พบว่าผู้ที่รับประทานใบบัวบกมีการรั่วไหลของหลอดโลหิตดำลดน้อยลงจ้ะ

• รักษาแผลและก็รักษาโรคผิวหนังบางชนิด

          หนึ่งในสารสำคัญที่ส่งผลให้ใบบัวบกเปลี่ยนเป็นสมุนไพรที่มากสรรพคุณก็คือสารสามเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ที่มีการเรียนกับสัตว์แล้วพบว่าสามารถช่วยสมานบาดแผลได้ โน่นก็เป็นเพราะว่าสารดังที่กล่าวถึงมาแล้วจะปฏิบัติภารกิจสำหรับการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้กับบาดแผล รวมทั้งช่วยกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียนไปยังบริเวณบาดแผลมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บาดแผลค่อยๆหายดีขึ้นในระยะเวลาที่น้อยลง อีกทั้งสารจากใบบัวบกก็ยังช่วยคุ้มครองการเกิดแผลเป็นได้อีกด้วย วิธีใช้ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องนำใบบัวบกมาตำแล้วพอกให้ยาก เพราะเหตุว่าปัจจุบันนี้มีแบบที่เป็นครีมผสมสารสกัดไว้ทาโดยเฉพาะ แค่เพียงเลือกให้เหมาะกับจำพวกรอยแผลก็ช่วยได้มากเลยล่ะ

• ระบายความร้อน

          ความร้อนภายในร่างกายแม้สูงมากเกินไปอาจจะเป็นผลให้ร่างกายกำเนิดลักษณะของการมีไข้ ตัวร้อน อยากกินน้ำ ตลอดจนการอักเสบ ฉะนั้นการกินใบบัวบกที่มีฤทธิ์เย็น จึงสามารถช่วยลดความร้อนภายในร่างกายได้ ทั้งยังยังช่วยขับพิษร้อนออกมาจากร่างกายได้อีกด้วย

• ขับพิษร้อน รวมทั้งความชื้น

          โรคต่างๆที่เกิดจากความร้อนรวมทั้งความชุ่มชื้น อาทิ โรคดีซ่าน นิ่วในทางเดินฉี่ หรือโรคบิด สามารถบรรเทาได้ด้วยการกินใบ[url=http://www.disthai.com/16913509/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%81]บัวบก เพราะว่าใบบัวบกนั้นมีฤทธิ์ขมเย็น สามารถช่วยสลายความชื้นในร่างกายและก็ขับความร้อนออกมาได้ แม้กระนั้นก็ควรกินในปริมาณที่สมควร เพราะว่าถ้ารับประทานมากๆอาจจะส่งผลให้ร่างกายเย็นกระทั่งเกินไปและก็มีอันตรายได้
คุณประโยชน์ใบบัวบก ผลดีเลอค่า

• ลดความกระวนกระวาย ช่วยให้จิตใจสงบ

          สารตรีเตอร์ปินอยด์ (Triterpenoids) ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในใบบัวบกนั้น นอกเหนือจากที่จะช่วยสำหรับเพื่อการสมานแผลและรักษาโรคผิวหนังบางจำพวกได้และก็ยังมีฤทธิ์สำหรับเพื่อการลดความกระวนกระวายใจและช่วยกระตุ้นกลไกการทำงานของสมอง โดยมีการเล่าเรียนหนึ่งพบว่าคนที่รับประทานใบบัวบกมีแนวโน้มที่จะสะดุ้งกับเสียงดังรบกวนน้อยกว่าคนที่กินยาหลอก แต่ก็จะต้องใช้ในจำนวนที่สูงมาก จึงยังไม่มีการรับรองชัดเจนว่าควรที่จะใช้ปริมาณใดจึงจะได้ผลและไม่ส่งผลข้างๆต่อสุขภาพตามมาค่ะ

• รักษาโรคหนังแข็ง

          เนื่องด้วยใบบัวบก มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการลดการอักเสบต่างๆภายในร่างกาย ก็เลยสามารถใช้ทุเลาอาการของผู้ป่วยโรคหนังแข็งได้ โดยมีการเรียนรู้กับสตรี 13 ผู้ที่มีอาการของโรคหนังแข็งพบว่า การใช้ใบบัวบกสามารถลดอาการปวดตามข้อ รวมทั้งลดการเกิดหนังแข็ง แล้วก็ทำให้การเคลื่อนไหวของนิ้วมือเป็นไปในทางที่ แต่ว่าทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในจำนวนที่แพทย์ควบคุมแค่นั้น

• ช่วยทุเลาอาการนอนไม่หลับ

          คนใดกันแน่ที่มักจะนอนไม่หลับเป็นประจำทดลองหาใบบัวบกมารับประทานก็ดีแล้วเหมือนกันนะ ด้วยเหตุว่าใบบัวบกไม่เพียงแค่ช่วยลดความกระวายกระวนเท่านั้น แม้กระนั้นก็ยังช่วยทำให้จิตใจสงบรวมทั้งผ่อนคลายลงได้ ทำให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยแค่เพียงกินเสมอๆก่อนนอน ก็จะช่วยให้การนอนได้อย่างน่าพิศวงเลย
สรรพคุณใ�บัวบก[/url] คุณประโยชน์เลอค่า[/size][/b]

• ลดระดับความดันโลหิต

        กรมวิวัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ออกมาเสนอแนะว่าใบบัวบกเป็นเลิศในสมุนไพรที่ช่วยลดระดับความดันเลือดได้ เนื่องจากเจ้าใบบัวบกนั้นจะไปทำให้หลอดโลหิตดำรวมทั้งเส้นเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น ทั้งยังช่วยลดภาวการณ์ความเครียดอันเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูง ทั้งนี้กรรมวิธีกินก็ง่ายๆ แค่เพียงนำใบบัวบกไปคั้นน้ำแล้วนำมาดื่ม จะนำไปผสมกับน้ำผึ้งสักเล็กน้อย หรือผสมกับน้ำผลไม้อื่นๆเพื่อลดความเหม็นเขียวก็ทำเป็นค่ะ

• ลดอาการบวม

          อาการบวมช้ำมีเหตุที่เกิดจากการที่ระบบไหลเวียนเลือดรอบๆดังกล่าวข้างต้นดำเนินงานผิดปกตินำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการคั่งของเลือด การรับประทานใบบัวบกไม่ว่าจะเป็นแบบน้ำคั้นดื่ม หรือแบบที่เป็นสารสกัดแคปซูล สามารถช่วยลดอาการบวมช้ำรอบๆรอยแผลได้ รวมถึงยังลดอาการอักเสบที่ทำให้มีการเกิดอาการบวมได้อีกด้วย

• บำรุงสมอง

          ใบบัวบกเป็นพืชอีกจำพวกที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยคุ้มครองสารอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์สมอง และก็ช่วยคลายความเมื่อยล้าของสมอง เพิ่มหลักการทำงานของสมองรวมทั้งความจำ แถมยังสามารถลดภาวการณ์ซึมเศร้า และก็สามารถช่วยยั้งลักษณะโรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นในสมองได้
สรรพคุณใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

• รักษาอาการติดโรค

          ใบบัวบกเป็นสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยรักษาโรคไข้หวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมช่วยรักษาอาการติดเชื้อโรคในทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอาการติดเชื้อแบคทีเรียและก็เชื้อไวรัสต่างๆได้อีกมากมาย เรียกได้ว่าไม่ว่าจะติดเชื้อโรคใดๆก็ตาม ใบบัวบกสามารถช่วยรักษาได้หมด แม้กระนั้นทั้งนี้ก็จำเป็นต้องใช้ในจำนวนที่สมควร รวมทั้งภายใต้การดูแลของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญนะ

• บรรเทาอาการเหน็ดเหนื่อย

          เว้นแต่รักษาลักษณะของการป่วยต่างๆแล้ว ใบบัวบกยังสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเมื่อยล้าได้ และก็หากว่ารับประทานในช่วงอากาศร้อนๆด้วยละก็ น้ำใบบัวบกก็สามารถช่วยลดความร้อนภายในร่างกายแล้วก็ดับหิวได้เป็นอย่างดีเลยเชียวล่ะ
[/b]
สรรพคุณใบบัวบก คุณประโยชน์เลอค่า

• บำรุงผิวพรรณให้อ่อนวัย

          ใบบัวบก เป็นอีกหนึ่งในสมุนไพรเพื่อความงดงามที่อยู่ใกล้ตัวมากมายๆที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าใบบัวบกมีสารที่ช่วยสนับสนุนการผลิตคอลลาเจนแล้วก็อิลาสตินภายในร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณนุ่มเปียกชื้น มองอ่อนวัย นอกนั้นสารต้านอนุมูลอิสระในใบบัวบกก็ยังช่วยยั้งการเกิดริ้วรอยที่วัย จึงไม่น่าแปลกเลยล่ะถ้าคุณจะได้มองเห็นชื่อของเจ้าใบบัวบกยอดเยี่ยมในส่วนผสมของเครื่องประทินโฉมผิว ทั้งนี้ยังสามารถนำใบบัวบกใหม่ๆมาใช้พอกหน้าได้อีกด้วย โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้ค่ะ
           - ใบบัวพอกหน้า บำรุงผิวสวยใส ลบรอยตีนกา
วิธีทำ

• นำใบบัวบกสดมาล้างชำระล้าง แล้วค่อยนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
• นำมาปั่นหรือบดกับน้ำสะอาด 1 แก้ว
• เอามาพอกหน้า หรือนำสำลีชุบน้ำใบบัวบกขึ้นมาทาให้ทั่วบริเวณใบหน้า ทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 15 นาที
• ล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำเป็นประจำทุกๆวันก่อนนอนจะช่วยทำให้บริเวณใบหน้ามองอ่อนกว่าวัย
• กำจัดเซลลูไลท์

          ผู้หญิงที่ลำบากใจกับเซลลูไลท์ที่เป็นศัตรูความงามของคุณสาวๆอยู่ ขอบอกใบบัวบกช่วยคุณได้ค่ะ แค่เพียงรับประทานใบบัวบกบ่อยๆก็สามารถที่จะช่วยให้เซลล์ไขมันเซลลูไลท์ถูกขับออกมาจากร่างกายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดำเนินงานได้ดิบได้ดีขึ้น แล้วก็ลดการอักเสบอันมีต้นเหตุมาจากเซลลูไลท์ได้อีกด้วยล่ะ

• บำรุงเส้นผมและหนังหัว

          หลายคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมตกก็อาจจะเสาะหาทุกวิธีทางเพื่อบำรุงให้เส้นผมและก็หนังศีรษะแข็งแรงเพื่อที่จะได้มีผมดกดำ ใบบัวบกก็เป็นอีกสมุนไพรหนึ่งที่มีคุณประโยชน์สะดุดตาในด้านนี้ โดยปัญหาผมหล่นโดยมากก็เกิดขึ้นจากรากผมที่อ่อนแอและการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะไม่ดี ซึ่งใบบัวบกนี้มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดรอบๆหนังหัว และยังช่วยทำนุบำรุงให้รากผมแข็งแรง คุ้มครองป้องกันผมร่วงทำให้ผมที่ขึ้นใหม่มีความแข็งแรงรวมทั้งดกดำเงาสวยได้โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีอะไร
          ได้มองเห็นคุณประโยชน์ดีๆของใบบัวบกกันไปแล้วแบบนี้ ผู้ใดกันแน่ที่ยังสั่นหน้าให้กับกลิ่นเขียวๆของใบบัวบก ก็คงจะลองหันกลับมามองเสียใหม่ แม้ว่าอาจจะมีกลิ่นฉุนไปเสียหน่อย แม้กระนั้นประโยชน์ที่ได้รับก็ดีแล้วไม่น้อยเลย ถ้าเกิดไม่ลองเสียดายห่วยแตกเลยนะ http://www.disthai.com/[/b]

[/b]
สมุนไพรรากสามสิบ[/size][/b]
สมุนไพร รากสามสิบแคปซูล รากสามสิบ แบบล้วน  คุณประโยชน์และก็คุณประโยชน์ ข้อบังคับ ผลกระทบจากรากสามสิบ สำหรับสตรีที่มีปัญหาเรื่องกระชับช่องคลอด
อยู่เช่นไรให้ชีวิต Sex  กระชับช่องคลอด เพิ่มน้ำหล่อลื่น ทำให้กระชับ (รีแพร์) แบบผู้หญิง ทำให้ช่องคลอดไม่แห้ง มีความชุ่มชื้น รวมทั้ง เป็นสุขทางเพศ รักษาภาวการณ์เมนส์แตกต่างจากปรกติ ปวดรอบเดือน มีบุตรยาก ตกขาว ไม่มีอารมณ์ทางเพศ  กามตายด้าน บำรุงน้ำนม บำรุงท้อง ป้องกันแท้ง มีราคาส่ง และ ราคาไม่แพง แบรนด์ รีวิวเยอะแยะ กว่า 8 ปี
สมุนไพรเน้น กระชับ ช่องคลอด ตกขาว ประจำเดือน อารมณ์เพศแปรปรวน ไร้สมรรถภาพทางเพศเพศหญิง รากสามสิบ ราชินีสมุนไพรชีวิตการครองเรือน  ดูแลปัญหาระบบข้างในช่องคลอดไม่กระชับรวมทั้งมีปัญหาชีวิตของการการมีคู่ครองบนเตียงมีกลิ่นเหม็นอับ ไม่พึ่งมุ่งหวังตกขาวมดลูกต่ำ สตรีวัยทอง ดูแลปัญหารอบเดือนมาแตกต่างจากปกติ
สมุนไพร รากสามสิบ แคปซูล กระชับช่องคลอด
ปัญหาลับๆอาทิเช่น ช่องคลอดหย่อนยานไม่กระชับ ปวดท้องเวลามีรอบเดือน เมนส์ไม่ตามกำหนด เป็นปัญหาต่างๆที่รบกวนจิตใจของเพศหญิงกว่า 98% รวมถึง ทรวงอกเล็กแบบ หย่อน ท้องป่อง หรือปัญหาพวกนี้เป็นผลมาจากการขาดสมดุลในฮอร์โมน ชี้แนะ กวาวเครือขาว และก็ รากสามสิบ ซื้อ กวาวเครือขาว รวมทั้ง รากสามสิบ
รากสามสิบ กระชับช่องคลอด
สรรพคุณ คุณประโยชน์ รวมทั้ง ข้อที่ไม่อนุญาต ผลกระทบ
สมุนไพรไทย รากสามสิบแบบแคปซูล กระชับสำหรับสตรี  ไม่ว่าจะเป็นอย่างยิ่งเสือโคร่ง โด่งไม่รู้จักล้ม สาวน้อยตกเตียง จนกระทั่งมาถึงรากสามสิบหรือต้นสาวร้อยผัวนี้แหละ ต่างคนต่างงงงัน ว่ามันเป็นอย่างไร สรรพคุณ ทำให้กลับมาเป็น ใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี สาว(female rejuvention) กระชับช่องคลอด รักษาภาวการณ์รอบเดือนมาแตกต่างจากปกติ ปวดระดู สภาวะมีลูกยาก ตกขาว อารมณ์ทางเพศถดถอย  ภาวการณ์หมดประจำเดือน บำรุงน้ำนม บำรุงท้อง คุ้มครองการแท้ง นอกจากนี้ยังคงใช้เป็นยาบำรุงกำหนัดในเพศชายได้ด้วยครับผม  นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช้เป็นยาแก้ไอ ยาแก้โรคกระเพาะ แก้ไข้ แก้อักเสบ ได้เช่นกัน เป็นสมุนไพรที่มีการออกฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจน 
ต้น รากสามสิบ แคปซูล หมอยาในสมัยเก่าจะเรียกกันว่า"สาวร้อยผัว" โดยมากใช้เป็นยาบำรุงสำหรับสตรี ทำให้มีแรง ชุ่มชื่น ไม่แก่ ราวกับๆสาวสองพันปี
ในตำราเรียนอายุรเวทใช้สมุนไพรประเภทนี้เป็นสมุนไพรหลักสำหรับเป็นยาบำรุงในผู้หญิง ในการทำให้หญิงกลับมาเป็นสาว (female rejuvenation) นอกนั้น ยังช่วยขจัดปัญหาอื่นๆของเพศหญิง ดังเช่นว่า ภาวะระดูไม่ดีเหมือนปกติ ปวดประจำเดือน ภาวการณ์มีบุตรยาก ตกขาว สภาวะไม่มีอารมณ์ทางเพศ ภาวการณ์หมดเมนส์ (menopause) บำรุงน้ำนม บำรุงครรภ์ ป้องกันการแท้ง (habitual abortion)
[/b]
สมุนไพรรักษาโรค รากสามสิบ กระชับด้านในสตรี ชุดกระชับแบบสาวน้อย
" รากสามสิบ " เป็นสมุนไพรที่มีการทำการค้นคว้ากันเยอะพอควร ในด้านการศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยในห้องทดลองพบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหมายถึงต้านเชื้อแบคทีเรียรวมทั้งเชื้อรา คลายกล้ามของมดลูก บำรุงหัวใจ แก้การอักเสบ แก้ปวด มีฤทธิ์เสมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน ยั้งเบาหวาน เป็นพิษต่อเซลล์ของโรคมะเร็ง กระตุ้นภูมิต้านทาน ต่อต้านอาการเม็ดเลือดขาวต่ำ ลดระดับไขมันในเลือด ป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ลดอาการหัวใจโตที่เกิดจากความดันเลือดสูง ขับนม ยั้งการเกิดแผลในกระเพาะยับยั้งพิษต่อตับ
ในตำราอายุรเวทใช้ รากสามสิบ เป็นสมุนไพรหลักสำหรับ บำรุงในเพศหญิง  สำหรับการ ทำให้ผู้หญิงกลับมาเป็นสาว นอกจากนี้ยังช่วยจัดการกับปัญหาอื่นๆของผู้หญิงอย่างเช่น ภาวการณ์เมนส์ผิดปกติ ปวดระดู ภาวะมีลูกยาก ตกขาว ภาวะอารมณ์ทางเพศเสื่อมโทรม ภาวะหมดประจำเดือน สมุนไพรรักษาโรค รากสามสิบ แคปซูล กระชับช่องคลอด อาการตกขาว ปจด.เพิ่มอารมณ์เพศ
#รากสามสิบ นับว่าเป็นสมุนไพรที่เป็นประโยชน์มากมายสำหรับหญิงช่วยในการสร้างสมดุล แก่ระบบฮอร์โมนผู้หญิงจาก #รากสามสิบแคปซูล
เป็นสมุนไพรที่มีคุณลักษณะหลัก ในทางเภสัชมีการชี้แนะว่าพืชที่ให้ เอสโตรเจน เป็นผลดีกว่าการใช้ตัวยาปรับสมดุลฮอร์โมน เนื่องด้วยไม่เป็นผลข้างๆในทางลบ "ราชินีแห่งสมุนไพร"
เหตุผลที่ ผู้หญิงนิยมใช้ รากสามสิบ ง่ายๆคือ ทานแล้วเห็นผล
1 ช่วยกระชับช่องคลอด  ทำให้แฟนไม่เบื่อ แทบไม่รู้จักเลยว่าเราเคยมาก่อนรึเปล่า  เหมือนเป็นครั้งแรกของเรา
2 ช่วยฆ่าเชื้อโรคในช่องคลอด ทำให้ช่องคลอดสะอาด ไม่เป็นทุกข์เรื่อง กลิ่นเหม็นอับ อีกต่อไป
3 เป็นสมุนไพรที่ได้จากธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมี ไม่หลงเหลือ ไม่มีผลกระทบในระยะยาว
4 ราคาไม่แพง ด้วยเหตุว่าเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ในประเทศไทย ความคิดไทยๆไม่เสียค่านำเข้าใดๆ
 ขนาดรับประทาน
4 ขวด เริ่มกระชับ สุขสบาย
6 กระชับแบบสาวรุ่น สุขสบายแน่นอน
12 ผลยาวนาน แล้วก็ เห็นผลแทบถาวร (รายบุคคล)
รากสามสิบ แคปซูล
ชุดนี้แถม ผสม ฮี่ยุ่มหรือต้นหญ้ารีแพร์ 1 ต่อ 1 กับ รากสามสิบ
รากสามสิบ "  เป็น สมุนไพรที่คนประเทศไทยแล้วก็คนเอเชียใช้กันมาช้านานแล้ว  คนโดยมากรู้จักในชื่อ เรียกนาๆประการในแต่ละภาค ชื่อในภาคกลางหรือคนทั่วๆไปเรียกขานว่า "รากสามสิบ" หรือ "สามร้อยราก"นั่นเอง แพทย์ยาโบราณส่วนมากจะทราบว่าสาวร้อยสามีเป็นยาบำรุงสำหรับสตรี จึงให้ชื่อว่า "สาวร้อยผัว" ชื่อนี้หมายคือไม่ว่า สาวใดจะอายุเท่าไรก็ยังสามารถมีลูกมีผัวได้(ไม่ได้หมายถึงสาวใจแตก)  ความหมายคล้ายสาวสองพันปีที่ยังสาวเสมอนั่นเอง รวมทั้งเป็นที่น่าตกอกตกใจว่าในอินเดียก็เรียกสมุนไพรประเภทนี้คล้ายกับประเทศไทย โดยในภาษาสันสกฤต เรียกว่า ศตวารี (Shtavari) มีความหมายว่า ต้นไม้ที่มีรากหนึ่งร้อยราก หรือบางหนังสือเรียนบอกว่าหมายความว่าเพศหญิงที่มีร้อยสามี "Satavari" http://www.disthai.com/[/b]

[/b]
ราชพฤกษ�[/size][/b]
ราชพฤกษ์ ชื่อสามัญ Golden shower, Indian laburnum, Pudding-pine tree, Purging Cassia
[url=http://www.disthai.com/16488365/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C]ราชพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia fistula L. จัดอยู่ในสกุลถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) แล้วก็อยู่ในสกุลย่อยราชพฤกษ์ (CAESALPINIOIDEAE หรือ CAESALPINIACEAE)
สมุนไพรราชพฤกษ์ มีชื่อแคว้นอื่นๆว่า กุเพยะ (กะเหรี่ยง-จังหวัดกาญจนบุรี), ปูโย ปีอยู เปอโซ แมะหล่าอยู่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ลักเกลือ ลักเคย (กะเหรี่ยง), ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ (ภาคกึ่งกลาง), ราชพฤกษ์ (ภาคเหนือ), ราชพฤกษ์ (ภาคใต้), คูน (ทั่วๆไปเรียกและก็ชอบเขียนผิดหรือสะกดไม่ถูกเป็น “ต้นคูณ” หรือ “คูณ“) เป็นต้น
คำว่า “ราชพฤกษ์” แสดงว่า “ต้นไม้ของพระมหากษัตริย์” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานมหกรรมพืชสวนโลกซึ่งจัดขึ้นเพื่อฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่พระมหากษัตริย์ของพวกเราทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 60 ปี
ต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติไทย
เมื่อปี พุทธศักราช2544 คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติได้มีข้อเสนอแนะและก็สรุปให้มีการกำหนดสัญลักษณ์ประจำชาติ 3 สิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย ดอกไม้ สัตว์ แล้วก็สถาปัตยกรรม ซึ่งจากการพินิจพิเคราะห์ได้ข้อสรุปว่า ให้สัตว์ประจำชาติคือ “ช้างไทย” ส่วนในด้านสถาปัตยกรรมประจำชาติเป็น “ศาลาไทย” และก็ในส่วนของดอกไม้ประจำชาติก็คือ “ดอกราชพฤกษ์” โดยมีเหตุมีผลสำหรับเพื่อการคัดดังต่อไปนี้
ต้นคูน หรือ ต้นราชพฤกษ์ จัดเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย (ตามประกาศของกรมป่าไม้)ต้นไม้ราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ที่คนไทยทั่วไปรู้จักกันอย่างมากมาย ในนามของ “ต้นคูน” สามารถพบเจอได้ทั่วไปของทุกภาคในประเทศ
ต้นราชพฤกษ์มีความเกี่ยวข้องกับจารีตคนไทยมาอย่างช้านาน เพราะเหตุว่าเป็นพืชที่มีความเป็นสิริมงคลนามและใช้สำหรับการประกอบพิธีสำคัญๆต่างๆหลายพิธี ดังเช่น พิธีการลงเสาหลักเมือง ทำคทาจอมพล ใช้ทำยอดธงชัยเฉลิมพล ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์นั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างนานัปการ เช่น การใช้เป็นยาสมุนไพรหรือนำมาใช้ทำเป็นเสาบ้านเสาเรือนได้ ฯลฯ
ต้นราชพฤกษ์เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานแล้วก็แข็งแรงทนทาน
ต้นราชพฤกษ์มีทรงแล้วก็พุ่มที่สวยสดงดงาม มีดอกเหลืองอร่ามเต็มต้น แลดูงามยิ่งนัก
ดอกราชพฤกษ์มีสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาติไทย เป็นเครื่องหมายที่ศาสนาพุทธ แล้วก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชการเกิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นอกเหนือจากนี้ตามตำราไม้มงคล 9 จำพวกยังเจาะจงไว้ว่า ต้นราชพฤกษ์เป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความเป็นใหญ่ ความมีอิทธิพลบุญบารมี มีโชคมีชัย
สมุนไพรราชพฤกษ์ กับการนำมาใช้รักษาโรคและก็อาการต่างๆโดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นสรรพคุณทางยานั้น เป็นต้นว่า ส่วนของใบ ดอก เปลือก ฝัก แก่น กระพี้ ราก และเม็ด ซึ่งสมุนไพรราชพฤกษ์ เป็นสมุนไพรซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งยังกับเด็ก สตรี รวมไปถึงผู้สูงอายุ โดยปลอดภัยอะไรก็แล้วแต่
ลักษณะของต้นราชพฤกษ์
ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูน) เป็นพืชท้องถิ่นในแถบทวีปเอเชียใต้ ไล่ตั้งแต่ทางตอนใต้ของประเทศปากีสถานไปจนถึงอินเดีย ประเทศพม่า และก็ประเทศศรีลังกา โดยจัดเป็นพรรณไม้ขนาดกึ่งกลาง มีลำต้นสีน้ำตาลปนเทาสะอาด มักขึ้นทั่วไปตามป่าผลัดใบหรือในดินที่มีการระบายน้ำดี ขยายพันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้ามาปลูกในถุงเพาะชำ เมื่อโตพอแล้วก็ย้ายมาปลูกเอาไว้ในพื้นที่ แต่ในขณะนี้บางครั้งอาจจะใช้วิธีการทาบกิ่งและเสียบยอดก็ได้ แม้กระนั้นโอกาสสำเร็จจะน้อยกว่ากรรมวิธีการเพาะเมล็ด
ใบราชพฤกษ์ (ใบคูน) ลักษณะของใบออกเป็นช่อ ใบสีเขียวเป็นเงา ช่อหนึ่งยาวโดยประมาณ 2.5 ซม. รวมทั้งมีใบย่อยเป็นไข่หรือรูปป้อมๆประมาณ 3-6 คู่ ใบย่อยมีความกว้างประมาณ 5-7 ซม. และยาวราวๆ 9-15 เซนติเมตร โคนใบมนรวมทั้งสอบไปทางปลายใบ เนื้อใบบางเกลี้ยง มีเส้นแขนงใบถี่รวมทั้งโค้งไปตามรูปใบ
ใบราชพฤกษ์
ดอกราชพฤกษ์ (ดอกคูน) ออกดอกเป็นช่อ ยาวราว 20-45 ซม. มีกลีบรองดอกรูปขอบขนาน มีความยาวประมาณ 1 ซม. กลีบมี 5 กลีบ หลุดตกได้ง่าย รวมทั้งกลีบดอกไม้ยาวกว่ากลีบรองดอกราวๆ 2-3 เท่า และมีกลีบรูปไข่ปริมาณ 5 กลีบ รอบๆพื้นกลีบจะเห็นเส้นกลีบแจ้งชัด ที่ดอกมีเกสรตัวผู้ขนาดแตกต่างกันจำนวน 10 ก้าน มีก้านอับเรณูโค้งงอขึ้น ดอกชอบบานในตอนมี.ค.ถึงเดือนพฤษภาคม แต่ก็มีบางกรณีที่ออกดอกนอกฤดูแบบเดียวกัน ได้แก่ ในช่วงธันวาคมถึงมกราคม
ดอกราชพฤกษ์ดอกคูน
ผลราชพฤกษ์ หรือ ฝักราชพฤกษ์ (ฝักคูณ) ผลมีลักษณะเป็นฝักทรงกระบอกหมดจดๆฝักยาวประมาณ 20-60 เซนติเมตร รวมทั้งวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ราว 2-2.5 ซม. ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ส่วนฝักแก่จัดจะมีสีดำ ในฝักจะมีฝาผนังเยื่อบางๆชิดกันอยู่เป็นช่องๆตามแนวขวางของฝัก และก็ในช่องจะมีเม็ดสีน้ำตาลแบนๆอยู่ มีขนาดประมาณ 0.8-0.9 เซนติเมตร
ฝักคูนฝักราชพฤกษ์
สรรพคุณของราชพฤกษ์
ช่วยบำรุงเลือดภายในร่างกาย (เปลือก)
สารสกัดจากลำต้นแล้วก็ใบของราชพฤกษ์มีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (ลำต้น, ใบ)
สารสกัดจากเม็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (เม็ด)
ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหรือถุงน้ำดี (ราก)
ราชพฤกษ์มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ (ราก)
ฝักราชพฤกษ์มีคุณประโยชน์ทางยาช่วยแก้ไข้ไข้มาลาเรีย (ฝัก)
ช่วยแก้ไข้รูมาติกด้วยการใช้ใบอ่อนเอามาต้มกับน้ำ (ใบ)
ฝักอ่อนมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย มีกลิ่นเหม็นเอียน เย็นจัด คุณประโยชน์สามารถใช้ขับเสมหะได้ (ฝักอ่อน)
ช่วยแก้อาการอยากกินน้ำ (ฝัก)
เปลือกเม็ดและเปลือกฝักมีสรรพคุณช่วยทำลายพิษ ทำให้คลื่นไส้ หรือจะใช้เม็ดราวๆ 5-6 เมล็ด นำมาบดเป็นผงแล้วกินก็ได้ (เม็ด, ฝัก)
ต้นราชพฤกษ์ สรรพคุณของกระพี้ใช้แก้ลักษณะของการปวดฟัน (กระพี้)
ในอินเดียมีการใช้ฝัก เปลือก ราก ดอก แล้วก็ใบมาทำเป็นยา ใช้เป็นยาแก้ไข้รวมทั้งหัวใจ แก้อาการหายใจขัด ช่วยถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แก้อาการเศร้าใจ หนักหัว หนักตัว ทำให้ชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวยหน้าอก (เปลือก, ราก, ดอก, ใบ, ฝัก)
สรรพคุณราชพฤกษ์ช่วยแก้โรครำมะนาด (กระพี้, แก่น)
ช่วยรักษาเด็กเป็นตานขโมยด้วยการใช้ฝักแห้งราวๆ 30 กรัมนำมาต้มกับน้ำ (ฝัก)
ช่วยทุเลาอาการแน่นหน้าอก (เนื้อในฝัก)
ฝักแก่ใช้เป็นยาระบาย ช่วยสำหรับในการถ่าย ทำให้ถ่ายได้สบาย ไม่มวนท้อง แก้อาการท้องผูก เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะท้องผูกบ่อยๆแล้วก็สตรีตั้งครรภ์ เนื่องจากว่ามีสารแอนทราควิโนน (Anthraquinone glycoside) เป็นตัวช่วยระบาย สำหรับวิธีการใช้ ให้ใช้ฝักแก่ขนาดก้อนเท่าหัวแม่มือ (หนักประมาณ 4 กรัม) แล้วก็น้ำอีก 1 ถ้วยแก้วใส่หม้อต้ม แล้วผสมเกลือบางส่วน ใช้ดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารรุ่งเช้าหรือตอนก่อนนอนเพียงครั้งเดียว (ฝักแก่, ดอก, เนื้อในฝัก, ราก, เมล็ด)
เมล็ดมีรสฝาดเมา สรรพคุณช่วยแก้ท้องเสีย (เมล็ด)
ช่วยหล่อลื่นลำไส้ รักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารรวมทั้งแผลเรื้อรัง (ดอก)
ช่วยรักษาโรคบิด (เม็ด)
คุณประโยชน์ของราชพฤกษ์ ฝักช่วยแก้อาการจุกเสียด (ฝัก)
ช่วยทำให้เกิดลมเบ่ง ด้วยการใช้เมล็ดฝนกับต้นหญ้าฝรั่น น้ำดอกไม้เทศ แล้วก็น้ำตาล แล้วเอามากิน (เม็ด)
ฝักรวมทั้งใบมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิ ด้วยการใช้ฝักแห้งราวๆ 30 กรัมเอามาต้มกับน้ำกิน (ใบ, ฝัก, เนื้อในฝัก)
ต้นคูณมีสรรพคุณช่วยขับพยาธิไส้เดือนในท้อง (แก่น)
เปลือกฝักมีรสฝาดเมา ช่วยขับเกลื่อนกลาดที่ค้าง ทำให้แท้งลูก (เปลือกฝัก)
สารสกัดจากใบคูนมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านการเกิดพิษที่ตับ (ใบ)
สรรพคุณของคูน รากใช้แก้โรคคุดทะราด (ราก)
ใบสามารถนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อโรคบนผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อราได้ (ใบ)
ช่วยฆ่าพยาธิผิวหนัง (ใบ)
รากเอามาฝนใช้ทารักษาขี้กลากเกลื้อน รวมทั้งใบอ่อนก็ใช้แก้กลากได้เช่นเดียวกัน (ราก, ใบ)
เปลือกแล้วก็ใบเอามาบดผสมกันใช้ทาแก้เม็ดผดผื่นตามร่างกายได้ (เปลือก, ใบ)
เปลือกมีสรรพคุณช่วยแก้ฝี แก้บวม หรือจะใช้เปลือกแล้วก็ใบนำมาบดผสมกันใช้ทารักษาฝี (เปลือก, ใบ)
คูน คุณประโยชน์ของดอกช่วยแก้บาดแผลเรื้อรัง รักษาแผลเรื้อรัง (ดอก)
เปลือกราชพฤกษ์ สรรพคุณช่วยสมานบาดแผล (เปลือก)
ฝักคูณมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดข้อ (เนื้อในฝัก)
ชาวอินเดียใช้ใบเอามาโขลก นำมาพอกแล้วนวด ช่วยแก้โรคปวดข้อและก็อัมพาต (ใบ)
ช่วยกำจัดหนอนรวมทั้งแมลง โดยฝักแก่มีสารออกฤทธิ์ที่มีผลต่อระบบประสาทของแมลง เมื่อนำฝักมาบดผสมกับน้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน แล้วก็ใช้สารละลายที่กรองได้มาฉีดพ่นจะช่วยจัดการกับคราบแมลงและก็หนอนในแปลงผักได้ (ฝักแก่)
สารสกัดจากรากราชพฤกษ์มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ Acetylcholinesterase
นอกจากนั้นยังมีการนำสมุนไพรราชพฤกษ์มาดัดแปลงทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายก่ายกอง อาทิเช่น
น้ำมันนวดราชพฤกษ์ ที่เคี่ยวมาจากน้ำมันจากใบคูน เป็นน้ำมันนวดสูตรร้อนหรือสูตรเย็น ที่ใช้นวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาต และขจัดปัญหาเรื่องเส้น
ลูกประคบราชตารู เป็นลูกประคบสูตรโบราณ ที่ใช้ใบคูนเป็นตัวยาตั้งต้น ประกอบไปด้วย ขมิ้นอ้อย เทียนดำ กระวาน และอบเชยเทศ โดยลูกประคบสูตรนี้จะใช้ปรุงตามอาการ โดยจะดูตามโรคและก็สิ่งที่จำเป็นเป็นหลัก ซึ่งแต่ละคนจะได้ไม่เหมือนกัน
ผงพอกคูนคาดข้อ ทำมาจากใบคูนที่เอามาบดเป็นผุยผง ช่วยแก้อาการปวดเส้น อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเอามาพอกรอบๆที่เป็นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนของโลหิต บรรเทาลักษณะของการปวดข้อ รักษาโรคโรคเกาต์ และยังช่วยลดอาการอักเสบได้อีกด้วย ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้กับผู้เจ็บป่วยที่เป็นอัมพาตบริเวณใบหน้าครึ่งซีก ตาไม่หลับ มุมปากตกได้ด้วย
ชาสุวรรณาค้าง ทำจากใบคูน คุณประโยชน์ช่วยในด้านสมอง จัดการกับปัญหาเส้นเลือดตีบในสมอง ช่วยทำให้ระบบไหลเวียนภายในร่างกาย ช่วยแก้อัมพฤกษ์อัมพาต โดยเป็นตัวยาที่มีไว้ชงดื่มควบคู่ไปกับการดูแลรักษาแบบอื่นๆ
[/b]
ข้อควรระวัง !
:กระบวนการทำเป็นยาต้ม ควรต้มให้พอควรก็เลยจะได้ผลดี ถ้าต้มนานเหลือเกินหรือเกินกว่า 8 ชั่วโมง ยาจะไม่มีฤทธิ์ระบาย แต่ว่าจะมีผลให้ท้องผูกแทน แล้วก็ควรที่จะเลือกใช้ฝักที่ไม่มากจนเกินความจำเป็น และยาต้มที่ได้ถ้าเกิดกินมากเกินความจำเป็นอาจจะก่อให้อาเจียนได้
คุณประโยช์จากราชพฤกษ์
นิยมปลูกไว้ฯลฯไม้ประดับตามสถานที่ต่างๆดังเช่น สถานที่ราชการ รอบๆริมถนนข้างทาง แล้วก็สถานที่อื่นๆ
ต้นราชพฤกษ์กับความเชื่อ ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความมงคลนามที่คนประเทศไทยโบราณมั่นใจว่า บ้านใดที่ปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้เป็นไม้ประจำบ้านจะช่วยให้ทรงเกียรติและก็เกียรติ สาเหตุด้วยเหตุว่าคนให้การยอมรับว่าต้�ราชพฤกษ์[/url]เป็นไม้ที่มีคุณค่าสูงและยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทยอีกด้วย รวมทั้งยังเชื่อว่าจะมีผลให้ผู้อยู่อาศัยนั้นรุ่งโรจน์ โดยจะนิยมปลูกต้นราชพฤกษ์ในวันเสาร์และปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉใต้ของบ้าน (อาจเป็นเพราะทิศดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นได้รับแสงแดดจัดในช่วงช่วงเวลาบ่าย เลยปลูกไว้เพื่อช่วยลดความร้อนในบ้านรวมทั้งช่วยลดการใช้พลังงาน)
ต้นราชพฤกษ์เป็นพืชที่มีความมงคลรวมทั้งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ในพิธีบูชาต่างๆทางศาสนา เช่น พิธีวางศิลาฤกษ์ ใช้ทำเสาหลักเมือง เสาฤกษ์สำหรับเพื่อการก่อสร้างพระตำหนัก ยอดธงชัยเฉลิมพลของกองทหาร คทาจอมพล ส่วนใบของต้นราชพฤกษ์จะใช้ทำเป็นน้ำพุทธมนต์ไว้สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีนัก ฯลฯ
แก่นไม้ใช้ทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ด้ามเครื่องมือต่างๆหรือทำเป็นไม้ไว้ใช้สอยอื่นๆยกตัวอย่างเช่น ใช้ทำเสา เสาสะพาน ทำสากตำข้าว ล้อเกวียน คันไถ เป็นต้น
เนื้อของฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้แทนกากน้ำตาลในการทำเป็นหัวเชื้อจุลชีพและจุลชีวันขยายได้
ฝักแก่สามารถประยุกต์ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับในการหุงหาอาหารด้วยเตาเศรษฐกิจที่มีขนาดเหมาะสม โดยไม่ต้องผ่า ตัด หรือเลื่อย
แหล่งอ้างอิง :
เว็บสำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสาเหตุจากความคิด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพืชพันธุ์, เว็บไทยโพส, ที่ทำการพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน), งานมหกรรมแสดงนิทรรศการพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554, ที่ทำการกองทุนส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรราชพฤษ์

[/b]
กระเทีย�[/size][/b]
สรรพคุณกระเทียม
ปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับธรรมดา
ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ก็เลยเหมาะกับคนไข้โรคเบาหวาน
บำรุงเลือด คุ้มครองอาการโลหิตจาง
เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ปกป้องโรคหัวใจ
ลดอาการท้องผูก ทำให้ระบบขับถ่ายปฏิบัติงานได้ดิบได้ดีขึ้น
ช่วยขับลม แก้อาการจุดเสียดแน่นท้อง
คุ้มครองปกป้องหวัด ยั้งการเติบโตของเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา
มีสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณ รวมทั้งลดความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเป็นโรคมะเร็ง
chopped-garlicsiStock
[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทียม กับ 10 ประโยชน์ดีๆที่พวกเราอยากให้ท่านทานทุกเมื่อเชื่อวัน
วิธีทานกระเทียมให้ได้ประโยชน์
สารอัลลิสินในกระเทียมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา ต้องผ่านการหั่น สับ ทุบ หรือบด จำเป็นจะต้องหั่น สับ ทุบ หรือบดกระเทียมก่อนเอามาทำอาหาร 5-10 นาที โดยสารอัลลิสินนี้จะไม่สลายหายไปเมื่อถูกความร้อน โดยเหตุนี้จะทานสด หรือจะปรุงอาหารในน้ำมันก็ช่างเถอะ
จำนวนกระเทียมที่ควรทานต่อวัน
ในวัยผู้ใหญ่สามารถทานกระเทียมได้ราว4 กรัมต่อวัน แต่ไม่สมควรทานมากเกินกว่านี้ต่อเนื่องกันเกิน 10 วัน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงสภาวะเลือดแข็งช้า  หรือเลือดไหลไม่หยุดเมื่อเกิดบาดแผล
แนวทางเลือกซื้อกระเทียมมาทำอาหาร
ควรที่จะทำการเลือกกระเทียมที่ศีรษะแน่นๆไม่ฝ่อ เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอ่อน สด ไม่เน่า ไม่มีราขึ้น และถ้าเกิดอยากได้รสชาติของกระเทียมแบบแรงๆควรเลือกกระเทียมหัวเล็กๆ
ว่าแล้วอาหารมื้อต่อไปก็บอกให้คนปรุงอาหารพ่อครัวใส่กระเทียมลงไปในของกินให้ด้วยนะคะ แม้กระนั้นระวังนิดหน่อย แม้ทานกระเทียมมากมายๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเทียมสด อาจมีลักษณะการเจ็บคอคราวหลัง และก็อย่าลืมระแวดระวังกลิ่นปากกันด้วยค่ะ ประเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะ
ลักษณะทั่วไปของกระเทียม
กระเทียมเป็นไม้ล้มลุกประเภทรับประทานหัว ลำต้นสูง 1-2 ฟุต มีหัวลักษณะกลมแป้นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 นิ้ว ข้างนอกของหัวกระเทียมมีเปลือกบางๆหุ้มห่ออยู่หลายชั้น ด้านในหัวประกอบแกนแข็งกึ่งกลาง ข้างนอกเป็นกลีบเล็กๆปริมาณ 10-20 กลีบ เนื้อกระเทียมในกลีบมีสีเหลืองอ่อนรวมทั้งใส  มีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง มีกลิ่นฉุนจัด
ลำต้นแล้วก็หัวกระเทียมสด
แหล่งเพาะปลูก
กระเทียมสามารถปลูกได้ทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย แม้กระนั้นนิยมปลูกกันมากทางภาคเหนือรวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเหตุว่ามีสภาพดินแล้วก็สถานการณ์อากาศที่เหมาะสมอย่างยิ่งกว่าภาคอื่นๆทำให้กระเทียมเจริญเติบโตได้ดี ได้ผลผลิตสูงรวมทั้งมีรสชาติที่ดียิ่งกว่า
[/b]
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
กระเทีย�[/b]เป็นไม้ล้มลุกรวมทั้งใหญ่ยาว สูง 30-60 เซนติเมตร มีกลิ่นแรง มีหัวใต้ดิน2 ลักษณะกลมแป้น เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-4 เซนติเมตร มีแผ่นเยื่อสีขาวหรือสีม่วงอมชมพูห่อหุ้มอยู่ 3-4 ชั้น ซึ่งลอกออกได้ แต่ละหัวมี 6-10 กลีบ กลีบมีเหตุมาจากตาซอกใบของใบอ่อน ลำต้นลดรูปลงไปๆมาๆก ใบเดี่ยว (Simple leaf) ขึ้นมาจากดิน เรียงซ้อนสลับ แบนเป็นแถบแคบ กว้าง 0.5-2.5 ซม. ยาว 30-60 เซนติเมตร ปลายแหลมแบบ Acute ขอบเรียบรวมทั้งพับทบเป็นสันตลอดความยาวของใบ โคนแผ่เป็นแผ่นรวมทั้งเชื่อมติดกันเป็นวงหุ้มรอบใบที่อ่อนกว่าและก็ก้านช่อดอกก่อให้เกิดเป็นลำต้นเทียม ปลายใบสีเขียวและก็สีจะเบาๆจางลงจนกระทั่งถึงโคนใบ ส่วนที่หุ้มหัวอยู่มีสีขาวหรือขาวอมเขียว ช่อดอกแบบช่อซี่ร่ม (Umbel) ประกอบด้วยตะเกียงรูปไข่เล็กๆหลายชิ้นอยู่ปนเปกับดอกขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนน้อย มีใบตกแต่งใหญ่ 1 ใบ ยาว 7.5-10 เซนติเมตร ลักษณะบาง ใส แห้ง เป็นจะงอยแหลมหุ้มห่อช่อดอกในช่วงเวลาที่ยังตูมอยู่ แต่ว่าเมื่อช่อดอกบานใบประดับจะเปิดอ้าออกและห้อยลงรองรับช่อดอกไว้ ก้านช่อดอกเป็นก้านกระโดด เรียบ ทรงกระบอกตัน ยาว 40-60 เซนติเมตร ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบรวม 6 กลีบ แยกจากกันหรือติดกันที่โคน รูปใบหอกปลายแหลม ยาวราว 4 มม. สีขาวหรือขาวอมชมพู เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดที่โคนกลีบรวม อับเรณูแล้วก็ก้านเกสรเพศเมียยื่นขึ้นมาสูงขึ้นมากยิ่งกว่าส่วนอื่นๆของดอก รังไข่ 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 1-2 เม็ด ผลเล็กเป็นกระเปาะสั้นๆรูปไข่หรือออกจะกลม มี 3 พู เม็ดเล็ก สีดำ
ในประเทศไทยปลูกมากมายทางภาคอีสานแล้วก็ภาคเหนือ แต่ว่ากระเทียมที่มีชื่อว่าเป็นกระเทียมคุณภาพดี กลิ่นแรง อาทิเช่นกระเทียมจากจังหวัดศรีสะเกศา
แนวทางเลือกซื้อกระเทียม
การเลือกซื้อกระเทียมนั้น มีหลักไต่ตรองณง่ายๆเป็น เลือกกระเทียมที่ศีรษะแน่น กลีบแน่น เปลือกบาง มีเนื้อสีเหลืองอ่อน สด แน่น ไม่ฝ่อและไม่มีเชื้อรา ที่สำคัญถ้าเกิดจะต้องทำครัวที่ต้องการกลิ่นแรงๆจะต้องเลือกกระเทียมหัวเล็กเท่านั้น
กระเทียมสดคุณภาพดี
จะมีความคิดเห็นว่ากระเทียมมีประโยชน์แล้วก็คุณประโยชน์เยอะแยะ ถึงกระเทียมจะมีกลิ่นฉุน แต่ว่าก้ไม่ยากเกินความจำเป็นที่จะรับประทานครับผม ด้วยเหตุนี้อย่าลืมเพิ่ข้อควรพิจารณาสำหรับการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกรุ๊ปต่อแต่นี้ไป
คนที่กำลังท้องหรือผู้ที่อยู่ในตอนให้นมลูก การรับประทานกระเทียมในตอนการท้องค่อนข้างไม่เป็นอันตรายถ้าเกิดกินเป็นของกินหรือในปริมาณที่สมควร แต่บางทีอาจไม่ปลอดภัยแม้กินกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจเพียงพอเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทากระเทียมที่บริเวณผิวหนังในช่วงการมีครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การกิน[url=http://www.disthai.com/16488280/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1]กระเทีย�[/b]ในปริมาณที่เหมาะสมรวมทั้งในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แต่การใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนรวมทั้งระคายเคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยอาหาร อาจจะส่งผลให้มีการระคายที่เดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ การรับประทานกระเทียมอาจจะเป็นผลให้ระดับความดันโลหิตลดลดลงมากกว่าปกติ
คนที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดกิ�กระเทียมก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์ด้วยเหตุว่าอาจจะก่อให้เลือดออกมากแล้วก็มีผลต่อความดันโลหิตในระหว่างการผ่าตัด แล้วก็ผู้ที่มีภาวะเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติไม่ควรรับประทานกระเทียม โดยเฉพาะกระเทียมสด เพราะว่าบางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค อย่างเช่น ไอโซไนอะซิด เพราะว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและมีผลต่อประสิทธิภาพลักษณะการทำงานของยา รวมถึงไม่ควรกินกระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคเอดส์
ยาคุมกำเนิด
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต่อต้านเกล็ดเลือดกระเทีย�[/b]ลงในเมนูอาหารของท่านครับผม คุณประโยชน์รวมทั้งคุณประโยช์จากกระเทียมนั้นเหลือร้ายจริงๆ [url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/[/b]

[/b]
ตะไคร้บ้า�[/size][/b]
ตะไคร้ คุณประโยชน์
"[url=http://www.disthai.com/16913433/%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%89]ตะไคร้" (Lemongrass) เป็นสมุนไพรก้นครัวที่เรารู้จักและรู้จักดีกันมานาน เพราะว่าในอาหารไทยหลายอย่างมักใส่ตะไคร้ลงไปเป็นเยี่ยมในเครื่องปรุงด้วยเสมอ อาทิเช่น ต้มยำ ต้มข่าไก่ ยำ น้ำพริกต่างๆช่วยเพิ่มรสและคุณค่าให้กับอาหาร ส่งกลิ่นหอมชวนรับประทาน กระทั่งเปลี่ยนเป็นสิ่งที่จะจำเป็นเลยในของกินเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีกลิ่นหอมยวนใจเฉพาะตัวจากน้ำมันหอมระเหย ทำให้ตะไคร้ถูกเอาไปใช้เป็นกลิ่นในสินค้าเพื่อสุขภาพมากมาย อีกทั้งน้ำมันหอยระเหย น้ำมันทาตัว ยาจุดกันยุง สบู่ต่างๆ
ตะไคร้ จัดเป็นไม้ล้มลุกที่จัดอยู่ในสกุลต้นหญ้า มีหลายประเภท นอกเหนือจากนำไปปรุงอาหารแล้วรวมทั้งทำเป็นยาสมุนไพรแล้ว ตะไคร้บางชนิดยังช่วยไล่ยุงมดแมลงได้อีกด้วย จึงจัดเป็นผักสวนครัวที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน หลายบ้านจึงนิยมนำมาปลูกไว้ภายในบ้าน จะใช้เมื่อไหร่ก็ตัดมาใช้ได้ในทันที
ตะไคร้จัดเป็นสมุนไพรที่หลบคุณประโยชน์ไว้เยอะมาก เนื่องจากเป็นทั้งยังของกินและก็ยารักษาโรค มีวิตามินแล้วก็แร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมงกานีส แล้วก็โฟเลต ประสิทธิภาพคับแก้วขนาดนี้คนที่ไม่ชอบตะไคร้ทดลองเปลี่ยนแปลงความคิดกันใหม่ หันมาชอบตะไคร้ให้เยอะขึ้น จะได้ประโยชน์มากมายก่ายกองแน่ๆ
ตะไคร้หอมไล่ยุงได้จริงหรือ?
ในตะไคร้หอม มีน้ำมันหอยละเหยอยู่ซึ่งมีฤทธิ์สำหรับในการป้องกันแมลงได้ โดยครีมที่มีส่วนผสมจากน้ำมันหอมละเหยในตะไคร้สามารถคุ้มครองป้องกันยุงลาย ยุงก้นปล่อง แล้วก็ยุงเบื่อหน่ายกัดได้ ยิ่งกว่านั้นยังฤทธิ์สำหรับในการกำจัดลูกน้ำยุงได้อีกด้วย
เว้นเสียแต่ยุงแล้ว สารสกัดจากตะไคร้หอมยังช่วยคุ้มครองปกป้องแมลงประเภทอื่น ดังเช่น หากผสมสารสกัดตะไคร้กับสะเดาจะมีผลช่วยลดเพลี้ยอ่อนแล้วก็หนอนเจาะฝักซึ่งเป็นศัตรูของถั่วค้าง ส่วนยาสระผมที่มีส่วนผสมจา�ตะไคร้[/url]หอม สามารถฆ่าตัวเห็บหมัดในสัตว์เลี้ยงได้
ลักษณะ
ลำต้นรูปทรงกระบอก แข็ง เกลี้ยง ตามปล้องมักมีไขปกคุลม เหง้า มีข้อและบ้องสั้นมาก กาบใบสีขาวนวล หรือสีขาวปนม่วง รสปร่า  มีกลิ่นหอมสดชื่นเฉพาะ
สรรพคุณ
– ทั้งต้น : ใช้เป็นยารักษาโรคหือหอบ แก้เจ็บท้อง ขับปัสสาวะ แล้วก็แก้อหิวาต์ นอกนั้นยังใช้ร่วมกับสมุนไพรอื่น รักษาโรคได้ ตัวอย่างเช่น บำรุงธาตุ เจริญอาหาร และก็ขับเหงื่อ
– ใบ : ช่วยลดความดันเลือดสูง แก้ไข้
– ราก : ใช้เป็นยาปรับปรุง ปวดท้อง ท้องเดิน
– ต้น : ใช้เป็นยาขับลม ยาแก้เบื่ออาหาร แก้โรคฟุตบาทปัสสาวะ นิ่ว เป็นยาบำรุงธาตุไฟให้เจริญ ยิ่งไปกว่านี้ยังใช้กำจัดกลิ่นคาวได้ด้วย
– น้ำมัน : มีฤทธิ์ต้นเชื้อรา และก็มีกลิ่นไล่หมาและก็แมว
หนังสือเรียนยาไทย : ต้น รสหอมปร่า ขับลม ลดอาการท้องอืดท้องอืดแน่นจุกเสียด แก้อาการเกร็ง ขับเหงื่อ แก้โรคฟุตบาทฉี่ แก้อาการขัดเบา แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะเป็นเลือด ทำให้เจริญอาหาร ลดความดันโลหิต เหง้า แก้ไม่อยากกินอาหาร บำรุงไฟธาตุ แก้กษัย ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ปัสสาวะขัด แก้ปัสสาวะพิการ แก้นิ่ว เป็นยารักษาโรคเกลื้อน แก้ไข้หวัด ขับระดู ขับระดูขาว ใช้ด้านนอกทาแก้ลักษณะของการปวดบวมตามข้อ
ตะไคร้หอม
ตะไคร้ คุณประโยชน์
ลักษณะ
ลำต้นเป็นข้อๆใบรูปขอบขนานปลายแหลม ใบยาวกว่าตะไคร้บ้าน รูปแบบของใบกว้าง 5-20 มม. ยาวประมาณ 50-100 ซม. แผ่นใบแคบ ยาว แล้วก็นุ่มกว่าตะไคร้บ้าน มีสีเขียว ผิวเกลี้ยง รวมทั้งมีกลิ่นหอมยวนใจเบื่อ ก้านใบเป็นกาบซ้อนกันแน่นสีเขียวผสมม่วงแดง รากฝอยแตกออกจากโคน ต้นและก็ใบมีกลิ่นฉุนจนกินเป็นของกินมิได้ ต้น มีรสปร่า ร้อนขม
[/b]
สรรพคุณ
– อีกทั้งต้น : ใช้เป็นยาแก้ปากแตกระแหง แก้ริดสีดวงในปาก ขับลมในไส้ แก้แน่น ขับเลือดระดู มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเรียบบีบตัว ไม่เหมาะสมกับสตรีท้อง เพราะว่าถ้าทานเข้าไป อาจส่งผลให้แท้งได้
– ใบ : ใช้เป็นยาคุมกำเนิด ชำระล้างไส้ ไม่ให้กำเนิดซาง
– ราก : แก้ลมจิตรวาด หัวใจ ไม่สบายใจ เพ้อเจ้อ
– ต้น : แก้ลมพานไส้ แก้ธาตุ แก้เลือดลมไม่ปกติ
– น้ำมัน : ใช้ทาคุ้มครองยุง มีฤทธิ์ไล่แมลง รวมทั้งใช้รักษาโรคเห็บสุนัข
แบบเรียนยาไทย : ใช้ เหง้า เป็นยาบีบมดลูก ทำให้แท้งบุตรได้ คนตั้งท้องห้ามกิน นอกเหนือจากนั้นยังคงใช้ขับรอบเดือน ขับปัสสาวะ ขับระดูขาว ขับลมในไส้ แก้แน่น แก้แผลในปาก แก้ตานซางในลิ้นและก็ปาก บำรุงไฟธาตุ แก้ไข้ แก้อ้วก แก้ริดสีดวงตา แก้ธาตุ แก้เลือดลมเปลี่ยนไปจากปกติ
เหง้า ใบ รวมทั้งกาบ นำมากลั่นได้น้ำมันหอมระเหย ใช้เป็นเครื่องหอม ได้แก่ สบู่ หรือพ่นทาผิวหนังกันยุง แมลง ทั้งยังต้น มีรสปร่า ร้อนขม แก้ริดสีดวงในปาก
คุณประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหยของตะไคร้
– น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้บ้าน ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัว สดชื่น ทำให้กระปรี้กระเปร่า เครียดน้อยลง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยสำหรับในการย่อยของกิน ช่วยเจริญอาหาร ทุเลาอาการปวดโรคข้ออักเสบ ปวดกล้าม
-น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นจากใบตะไคร้ ช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดข้อ ช่วยต่อต้านเชื้อราบนผิวหนังได้เป็นอย่างดี แล้วก็ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้
ข้อควรไตร่ตรอง
ตะไคร้มีฤทธิ์ที่จะช่วยขับเลือด ทำให้มดลูกบีบตัว ห้ามใช้กับหญิงท้องเพราะเหตุว่าอาจจะก่อให้แท้งได้

[/b]
ทับทิ�[/size][/b]
ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate
ทับทิม ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. จัดอยู่ในวงศ์ตะแบก (LYTHRACEAE)
[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิ�[/b] เป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิหร่านทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน ผลไม้ชนิดนี้จะชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยิ่งหนาวมากเท่าไหร่ เนื้อทับทิมนั้นจะมีสีแดงเข้มมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นผลไม้มงคลของคนจีนอีกด้วย ด้วยความที่ทับทิมมีเมล็ดมากจึงสื่อความหมายถึงการมีลูกชายมาก ๆ ด้วยนั่นเอง โดยกิ่งใบของทับทิมก็นำมาใช้ในพิธีการต่าง ๆ ที่มีน้ำมนต์ในการประกอบพิธีหรือนำมาใช้พรมน้ำมนต์เพราะเชื่อว่ามีไว้ติดตัวจะช่วยในเรื่องการคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้ด้วย
ทับทิมยังถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยประโยชน์ของทับทิมและสรรพคุณของทับทิมนั้นมีมากมาย ด้วยทับทิมนั้นเป็นผลไม้ที่มีรสหวานออกเปรี้ยว น้ำทับทิมจึงมีวิตามินซีสูงและยังประกอบด้วยเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย อย่างเช่น บรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวขอเลือด รักษาโรคท้องเดิน โรคบิด เป็นต้น
ประโยชน์ของทับทิม
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่าง ๆ ที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
ช่วยลดความดันโลหิตสูง
ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
เปลือก[url=http://www.disthai.com/16488281/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A1]ทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่ายและทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น

เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิมสามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสด ๆ ประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูลงไปเล็กน้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจนเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไปอีกครั้งหนึ่ง
ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
ดอกทับทิมช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอหรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
ทับทิมช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อ ทับทิม ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 83 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 18.7 กรัม
ประโยชน์ของทับทิมน้ำตาล 13.67 กรัม
เส้นใย 4 กรัม
ไขมัน 1.17 กรัม
โปรตีน 1.67 กรัม
วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 2 0.053 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี 3 0.293 มิลลิกรัม 2%
วิตามินบี 5 0.377 มิลลิกรัม 8%
วิตามินบี 6 0.075 มิลลิกรัม 6%
วิตามินบี 9 38 ไมโครกรัม 10%
โคลีน 7.6 มิลลิกรัม 2%
วิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม 12%
วิตามินอี 0.6 มิลลิกรัม 4%
วิตามินเค 16.4 ไมโครกรัม 4%
ธาตุแคลเซียม 10 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.119 มิลลิกรัม 6%
ธาตุฟอสฟอรัส 36 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโพแทสเซียม 236 มิลลิกรัม 5%
ธาตุโซเดียม 3 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.35 มิลลิกรัม 4%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ http://www.disthai.com/[/b]

[/b]
เห็ดหลินจื�[/size][/b]
เรื่องเล่าประสบการณ์ตรงจากที่ลงภาคสนาม
ยายคนหนึ่ง อายุราว 67 ปี ทำอาชีพขายเห็ดในตลาด อาการป่วยเป็นโรค ดังต่อไปนี้
1.[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ สามารถรักษาโรคเบาหวาน เป็นทุนเดิม เป็นโรคนี้มาราว 1x ปี
2.โรคความดันเลือด เป็นมาพร้อมๆกับโรคเบาหวาน ต้องกินยาแผนปัจจุบันตลอด มีลักษณะอาการมึนงง
3.โรคไขมัน มาพร้อมๆกับโรคเบาหวาน จะต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตลอด
4.โรคไตเสื่อม หลังจากเป็นโรคเบาหวานมาราว 10 ปี หมอตรวจพบว่า ไตเสื่อม ระยะ 2 มีลักษณะขาบวม หมดแรงเดิน
5.โรคกระเพาะเยี่ยว อักเสบ มาตอนเป็น ไตเสื่อม นำมาซึ่งอาการฉี่ขับ ฉี่ไม่สุด เจ็บแปล็บๆ
6.โรคเก๊า มาตรวจพบทีหลัง ว่าค่ายูริก เริ่มเยอะขึ้น
======================
ความประพฤติปฏิบัติของผู้เจ็บป่วยแล้วก็ประวัติก่อนกินเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น
1.ตอนป่วยไข้ตอนเริ่มต้น จะมีลักษณะน้ำตาลในเลือดสูง แทบ 200 มก. แต่เพียงพอผ่านมาแทบ 10 ปี คิดว่าดูแลตัวเองได้ดิบได้ดี ผลที่ได้กลับกลายอย่างงี้ สักครู่น้ำตาลสูง สักครู่น้ำตาลต่ำ ก่อให้เกิดอาการมึนงงได้ตลอดวัน งานการไม่ต้องทำแล้ว นอนดีมากยิ่งกว่า
2.เพียงพอมีน้ำตาลในเลือดสูง ความดันจะตามมาเลย นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการโลกหมุน ตาลาย จำเป็นต้องนอนอีกอย่างที่เคย
3.เพียงพอตอนหลังเริ่มกินของมันลดน้อยลง สามารถที่จะคุมไขมันได้ แต่ว่าพอนานวันเข้า ไขมันคุมได้ แต่พบตรีกีซาลายสูงซะงั้น
4.ภายหลังเจ็บมา 1x ปี ร่างกายก็ไม่ค่อยได้พักผ่อน นำมาซึ่งการก่อให้เกิดตอนอาการน็อคน้ำตาล ไป 2 คราว ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา จะต้องเข้า โรงพยาบาล เพื่อกลูโคส ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้น
5.เพียงพอผ่านมาอีก 6 เดือน หมอตรวจพบเป็นไตเสื่อมขั้นที่ 2 แถมมีโรคกระเพาะเยี่ยวอักเสบ เพราะเหตุว่ามีไข่ขาวรั่วมาทางฉี่มาก ทำให้เรี่ยวแรงในการเดินไม่มี (เกือบจะเดินไม่ไหว ก้าวขาไม่ออก) แถมเจอโรคเก๊าต์ ถามหาอีก
6.ระยะหลังจากที่รู้ว่าเป็นหลายโรค ชีวิต มันช่างมืดมนอย่างยิ่ง ทำให้ไม่อยากกินอาหาร รับประทานไม่ได้ นอนไม่หลับ ถึงหลับก็ไม่สนิท ขาบวม ใจสั่น โมโหง่าย
7.เพียงพอถึงเวลานี้ ยายคนนี้ พฤติกรรมเปลี่ยนไป จากที่เคยจะต้องออกไปเปิดร้านขายเห็ดในตลาดแต่ละวัน ไม่เคยหยุด กลับทำให้เขาไม่ได้อยากต้องการขายสินค้า ขอหยุดนอนอยู่ในบ้าน ปฏิบัติตัวเหมือนไร้ค่า จำเป็นต้องให้ลูกๆมารอมอง ทำให้เป็นภาระของลูก
======================
โจทย์ สำหรับลูกที่ดูแล และจุดเปลี่ยนแนวคิด
1.ลูกคนนั้น มีความคิด ทำอย่างไงก้อได้ ให้แม่หายจากโรคทั้งหมดทั้งปวงนี้
2.ทำอย่างยังไงก็ได้ให้คุณแม่กลับมาดำเนินงานได้ดังเดิม
3.ทำอย่างไงก็ได้ให้ท่านแม่ทานข้าวได้เสมือนยุคเก่าเป็นโรคเบาหวาน
4.ทำอย่างไงก็ได้ให้ท่านแม่นอนหลับเจริญ
=======================
ในที่สุดลูกคนนั้นได้มาคุยกับผม ผมเลยแนะนำเห็ดหลินจื�[/b]แดงสกัดเข้ม และก็ลูกคนนั้นได้เอาไปให้คุณแม่ทาน
เริ่มที่ม่าม้าไม่เชื่อว่าเห็ดหลินจือแดงสกัดเข้มข้น จะช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้นได้ เนื่องจากว่าคุณแม่ทานสมุนไพร อาหารเสริมมามากแล้ว
=======================
[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD][/b]
เริ่มต้นกับการทา�เห็ดหลินจือ[/url]แดงสกัดเข้มข้น (ผลบางทีอาจต่างๆนาๆในแต่ละบุคคล)[/size][/b]
1.ผมแนะนำให้ทาน 1 วัน 2 เวลาเป็นตอนเช้า-เย็น ในกรณีของแม่คนนี้ มีโรคประจำตัวเยอะแยะ จะให้ทานแบบงี้ ภายหลังทานอาหารแล้ว ให้ทานยาแผนปัจจุบัน และรอ 30 นาที ค่อยทานเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น
2.เพียงพอภายหลังจากทานได้ทีแรกๆ อาการมึนๆสับสนๆเริ่ม นอนก้าวหน้ามากยิ่งกว่าเดิม ปกติจะมองจนถึงเที่ยงคืนแล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยหลับ แล้วตื่น 6-7 โมงตอนเช้า มาจัดร้านขายของ แปลงเป็น นอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม ตื่น 6 นาฬิการุ่งเช้า
3.หลังจากนอนเจริญ  ทำให้อาการขาบวมดีขึ้น ฉี่มากมาย ไม่ขัดแล้วก็ฉี่ได้สุด ค่าน้ำตาลดียิ่งขึ้น ไม่สวิงต่ำ-สูง และผลไตดียิ่งขึ้นด้วย
4.ผู้ป่วยเริ่มรับประทานข้าวได้ปกติ (แม่ไม่เชื่อว่าเห็ดหลินจือช่วยได้จริงไหม เลยทดลองด้วย กินทุเรียน2เม็ด แล้วพรุ่งนี้ไปตรวจเลือด ผลเลือดที่ออกมาคุณแม่ตระหนกตกใจ ว่าทำไมน้ำตาลปกติ ^_^)
5.พอเพียงร่างกายได้ นอนได้เต็มที่ หน้าใส(มีคนทักว่าไปทำอะไรมา) แข็งแรงสามารถชูของหนักๆได้ ซึ่งถ้าเป็นครั้งก่อน แค่เดินยังต้องหาที่นั่งพักเลย
คุณประโยชน์[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจื�[/b]ที่มีงานค้นคว้ายืนยัน....มีอะไรบ้าง
มีความเห็นมานานแล้วว่าเห็ดหลินจือแดงสามารถทำให้หัวใจแข็งแรง เลือดลมดี ผิวพรรณแจ่มใส ช่วยทำให้แก่ช้าลง ความจำดีขึ้น และช่วยอายุยืนนาน
ส่วนสรรพคุณในทางการดูแลและรักษาโรคถูกกล่าวไว้อย่างมากมายเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แก้โรคตับแข็ง รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคความดัน และภูมิแพ้ฯลฯ
แต่ว่าทีเด็ดคือ......
มีงานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเกี่ยวกับ[url=http://www.disthai.com/]เห็ดหลินจื�[/b]รักษาโรคจากคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งสำหรับเพื่อการทดลองศึกษาเล่าเรียนทางคลีนิคและยืนยันว่าเห็ดหลินจือมีสรรพคุณดังนี้จริง ไม่ใช่แค่ความเลื่อมใสอีกต่อไป อันอย่างเช่น
-กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
-ต้านทานเนื้องอกแล้วก็โรคมะเร็ง
-รักษาโรคฟุตบาทปัสสาวะ
-รักษาโรคหัวใจ
-ช่วยทำให้การนอน
-ลดไขมันในเลือด
-ต่อต้านอนุมูลอิสระ
-ต้านทานการอักเสบ

[/b]
น้ำมันเหลือง คืออะไร?
น้ำมันเหลือง ยาแผนโบราณจากพืชสมุนไพรคุณภาพเลิศ ทำจากพืชสมุนไพรชนิดต่างๆกัน คุณประโยชน์ที่ใช้ดม ทา นวด เพื่อทุเลาอาการต่างๆสรรพคุณนี้ไม่เป็นรองยาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ
บริการนวดน้ำมันเหลืองแล้วก็โดยมากสร้างความแข็งแรง ระบบภูมิต้านทานแล้วก็ช่วยสำหรับในการย่อยของกินดียิ่งขึ้น.
ศิลป์ที่สวยงามของการนวดได้ทวีความรุนแรงมากเพิ่มขึ้นด้วยการนวดน้ำมันบางมาก. น้ำมันนวดแต่ละคนมีคุณลักษณะรักษาโรคต่างๆที่มีเพื่อให้บริการด้านต่างๆสำหรับเพื่อการรักษาร่างกายและจิตใจของคุณอีกด้วย. เลือกน้ำมันที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับความจำเป็นเฉพาะบุคคลของคุณแล้วก็บรรเทาร่างกายของคุณด้วยการนวดบรรเทาและก็ฟื้นฟูอย่างสม่ำเสมอ, เพื่อรักษาความสมดุลทางจิตใจวิญญาณของคุณและสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดของร่างกายของคุณ.
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากการนวดน้ำมัน
นวดจริงหมายคือการกระตุ้นเยื่อของร่างกายด้วยมือ, เพื่อช่วยเหลือสุขภาพและฟื้นฟูให้ร่างกายทั้งปวง. น้ำมันนวดถูกวางแบบมาเพื่อมือเลื่อนได้ง่ายขึ้นในระหว่างนวด และก็ในเวลาเดียวกันเครื่องหอมอโรมาให้มีความผ่อนคลายเยอะที่สุดสำหรับทั้งร่างกายและจิตใจ. อ่านต่อไปเพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากการนว�น้ำมันเหลือง[/url]และบรรเทาร่างกายของคุณที่มีประสบการณ์นวดแจ่มใส.
การใช้นำมันนวดตามจุดต่างๆ
การนวดน้ำมันเหลืองเป็นวิธีสำหรับในการดูแลภาวะผิวรวมทั้งสุขภาพที่ขอเสนอแนะเป็นการนวด ที่สกัดจากสมุนไพรและก็พืชต่างๆที่อุดมไปด้วยประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพ โดนการนำสารสกัดกลิ่นและก็เนื้อน้ำมันพวกนั้นมานวดตามจุดต่างๆของร่างกายด้วยกลิ่นหอมสดชื่น และก็สัมผัสของของน้ำมันที่เต็มไปด้วยธรรมชาติจะเข้าไปช่วยกระตุ้นระบบต่างๆของร่างกาย ลดความตึงเครียด ทำให้พวกเราผ่อนคลาย น้ำมันเหลือง รวมไปถึงช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นและผิวพรรณให้ดูดีขึ้นด้วย วันนี้เราจะพาไปดูคุณประโยชน์ซึ่งมาจากการนวดน้ำมันว่ามีคุณประโยชน์ในด้านใดบ้าง
          สินค้าตัวนี้ ผลิตขึ้นมาจากสมุนไพรแท้ 100% ไม่มีส่วนประกอบจากสเตอรอยด์หรือสารเคมีอันตรายใด  ซึ่งก็มีข้อกำหนดจำกัดอยู่อย่างเดียวกันสำหรับเพื่อการใช้ ซึ่งในกรณีที่มีการแพ้สาร Notoginsenoside, Flavonoid, การบูร
มาดูประโยชน์ของน้ำมันนวดกันค่ะ

• ปวดก้านคอ บ่า ไหล่ จากการนั่งทํางานนานๆทํางานหน้าคอมฯ Office syndrome ฯลฯ
• คนทํางานที่จำเป็นต้องใช้กล้าม ยกตัวอย่างเช่น ยกของหนัก
• นักกีฬา หรือผู้ได้รับบาดเจ็บจากการออกกําลังกาย
• นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว
• คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับ กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น กล้าม ดังเช่น ข้อเข่าอักเสบ, เอ็นอักเสบ, กระดูกทับ เส้นประสาท เป็นต้น

น้ำมันเหลือง ซึ่งพวกเรามาดูผลกระทบในด้านที่เสียหายจากการทานยาคลายกล้ามเนื้อกันนะคะ เพราะเหตุใดถึงจำต้องเลือก น้ำมันนวดเพราะเหตุว่า ยาคลายกล้ามธรรมดาที่พวกเราทาน ทำให้กล้ามรู้สึกหายปกติจริง เราจะมีความรู้สึกว่ามันหายปกติ และจากนั้นก็บริหารร่างกายได้ธรรมดาไม่เจ็บ แต่อันที่จริงแล้วกล้ามเนื้อยังอักเสบอยู่ ถ้าเกิดเรายังคงใช้งานกล้ามเนื้อดังเดิมจะก่อให้กล้ามอักเสบมากขึ้น การที่รับประทานยาแล้วบริหารร่างกายส่วนนั้นต่อเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆเข้า ก็บางทีก็อาจจะอัดเสบเรื้อรังได้ อันนี้เป็นข้อผลข้างเคียงทางอ้อมมาจากการทานยาคลายกล้ามน้ำมันเหลือง ซึ่งคนส่วนมากรวมทั้งจะใช้กล้ามหรือดำเนินการปกติทุกๆอย่างเพราะเหตุว่าเราไม่รู้เรื่องสึกปวดหรือเจ็บแล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่ถูกด้วยเหตุว่าการทานยาคลายกล้ามยาเมื่อเราทาน
นํ้ามันนวด ตัวนี้เหมาะสำหรับคนไหนกันบ้าง?

• ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
• ผู้ที่ปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก
• คนที่ปวดมือและก็คอจากการเล่นมือถือ
• ผู้ที่ปวดหลังจาก Office syndrome
• คนที่ปวดข้อจากโรคเกาท์
• ผู้ที่ปวดเข่าจากโรคข้อต่ออักเสบ
• ปวดขาจากการเดิน Shopping
• เจ็บจากการเล่นกีฬา
• ตีดอท จนปวดมือ
• ปวดคอจากการเล่นโทรศัพท์เคลื่อนที่
• ปวดเมื่อยจากการทำงานหนัก
• ช๊อปจัดหนัก กระทั่งปวดขา

          สำหรับคนใดที่  มีติดบ้านกันไว้ดีแล้วนะคะ บทความนี้เป็นเพียงแค่รีวิวการใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นความนึกเห็นส่วนตัวแค่นั้นนะคะมิได้ขายคออะไร เราใช้แล้วเห็นผลจริงก็เลยมาบอกต่อซึ่ง เนื้อหานี้เราได้หารายละเอียดอื่นๆจากเว็บไซต์ต่างๆนะคะ น้ำมันเหลืองเพื่อมาประกอบในการรีวิว ซึ่งหากมีข้อบกพร่องอย่างไร สามารถติชมรวมทั้งชี้แนะกันเข้ามาได้ แล้วก็สามารถติดตามบทความรีวิว ของเราได้เรื่อยๆเลย แล้วก็เราจะมีผลิตภัณฑ์ดีๆตัวไหนมาแนะนำอีกห้ามพลาดเด็ดขาดนะคะ เจอกันในบทความหน้า
การเลือกน้ำมันนวด
การเลือกน้ำมันเหลืองนวดขึ้นกับการใช้งาน และก็สรรพคุณต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละชนิด โดยส่วนมากน้ำมันฐานรากที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ยกตัวอย่างเช่น น้ำมันเมล็ดทานตะวัน เป็นต้น ซึ่งมีวิตามินอี สูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง รวมทั้งน้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ แล้วก็ทำลายของเสียที่รังควานเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในเส้นโลหิต คุ้มครองการเกิดโรคมะเร็ง น้ำมันเหลือง นอกนั้นน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นจะต้องต่อสภาพร่างกาย ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย

น้ำมันเหลือ�[/size][/b]
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง ไพล หรือปูลอย ปูเลย มิ้นสะด้านล่าง ว่านไฟ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. หรือ Zingiber cassumunar Roxb. วงศ์ Zingiberaceae เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในบัญชียาจากสมุนไพร ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 กรุ๊ปที่ 2 บัญชียาปรับปรุงจากสมุนไพร กลุ่มยารักษาอาการทางกล้ามเนื้อแล้วก็กระดูก ยาสำหรับใช้ข้างนอก ดังเช่น ตำรับยาครีมไพล ประกอบด้วยน้ำมันไพลที่จากการกลั่น ร้อยละ 14 โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก (v/w) รวมทั้ง ยาน้ำมันไพล สารสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล ข้อบ่งใช้ของทั้งคู่ตำรับเป็น บรรเทาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว เคล็ดลับยอก
น้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดและก็การกลั่นต่างกันอย่างไร? น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นเป็น น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นของเหลวที่เป็น hydrophobic ระเหยได้ บางทีอาจจะได้จากการกลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันหอมระเหย ไปควบแน่นเมื่อสัมผัสกับความเย็นของเครื่องควบแน่น (condenser) แนวทางการกลั่นอย่างนี้เป็นแนวทางที่ชาวตะวันตกเริ่มแรกนิยมใช้กัน แต่ว่ามีข้อเสียตรงที่ไพลที่เอามากลั่นจะถูกความร้อนนาน อาจจะทำให้น้ำมันไพลที่ได้มีกลิ่นไม่ถูกไปได้ หรือจะได้จากการกลั่นโดยใช้การผ่านของละอองน้ำเข้าสู่ภาชนะที่มีไพลบรรจุอยู่ (steam distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันเหลือง หอมระเหยไปควบแน่นที่เครื่องควบแน่น วิธีการแบบนี้มีข้อดีกว่าคือ ไพลจะถูกความร้อนไม่มาก น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะไม่มีกลิ่นผิดเพี้ยนไป โน่นเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก 2 วิธี จะมีสารประกอบทางเคมีที่ไม่เหมือนกันบ้าง โดยปกติน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะประกอบด้วยสารประกอบทางเคมีที่มีโมเลกุลเล็ก อย่างเช่น สารกลุ่ม monoterpenes (สารที่มีคาร์บอนจำนวน 10 ตัว) และสารกลุ่ม sesquiterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนปริมาณ 15 ตัว) น้ำมันหอมระเหยไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นมี สารกรุ๊ป monoterpenes ดังเช่นว่า sabinene, terpinen-4-ol, alpha-pinene, alpha-terpinene, gamma-terpinene, limonene, myrcene, p-cymene, terpinolene2, (E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl)butadiene (DMPBD), (E)-4-(3’,4’-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol (Compound D)3,4
ส่วนน้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช เป็นวิธีของชาวไทยโบราณที่ใช้เตรียมน้ำมันไพลเพื่อใช้ในครอบครัว เป็นน้ำมันเช็ดนวด แก้ปวดกล้าม ปัจจุบันนี้หลายโรงพยาบาลของรัฐได้มีการจัดเตรียมเป็นเภสัชตำรับของโรงพยาบาล รวมทั้งเป็นเยี่ยมตำรับในบัญชียาจากสมุนไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 น้ำมันไพลสูตรนี้ตระเตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืชชนิดอิ่มตัว (มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัว) ดังเช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าว น้ำมันเหลือง หรือน้ำมันปาล์ม ไม่สมควรใช้น้ำมันพืชประเภทไม่อิ่มตัว (มีกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว) ดังเช่นว่า น้ำมันงา น้ำมันที่ทำจากมะกอก น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันรำข้าวน้ำมันเหลือง เพราะว่าน้ำมันประเภทไม่อิ่มตัวจะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้พันธะคู่ในโมเลกุลมีการแตก แล้วก็รวมตัวเป็นสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น นำมาซึ่งความหนืด นอกเหนือจากนี้จะก่อให้เกิดควันได้ง่าย รวมทั้งน้ำมันกลิ่นหืน น้ำมันพืชที่ใช้ในการทอดเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมัน (fatty acids) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีขั้วน้อย เป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับการสกัดสารที่มีขั้วน้อยด้วย ด้วยเหตุนี้น้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งประกอบด้วยสารประกอบที่มีขั้วน้อยแล้วก็โมเลกุลเล็กได้ และสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแม้กระนั้นมีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย ซึ่งในไพลเว้นแต่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกลุ่ม arylbutanoids, curcuminoids, รวมทั้ง cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่มากยิ่งกว่าสารในน้ำมันหอมเหลือง และก็เป็นสารที่ไม่ระเหย สรุปง่ายๆคือ น้ำมันไพลที่ได้จากการกลั่นจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบด้วยสารโมเลกุลเล็กรวมทั้งระเหยได้ ส่วนน้ำมันที่ได้จากการทอดจะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยรวมทั้งสารที่มีโมเลกุลใหญ่และไม่ระเหย
น้ำมันเหลือง หอมระเหยแล้วก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่ (สารกลุ่ม arylbutanoids, curcuminoids, และ cyclohexene derivatives) เป็นกรุ๊ปสารที่มีผลการค้นคว้าวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบและก็แก้ปวดในสัตว์ทดลอง โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกันกับยากลุ่ม NSAIDs3,4-12 นอกเหนือจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาเล่าเรียนน้ำมันเหลือง ทางสถานพยาบาลพบว่า ครีมไพลหรือไพลจีซาล (14% ของน้ำมันหอมระเหย) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและการปวดของข้อเท้าแพลงในคนป่วยนักกีฬาที่บาดเจ็บข้อเท้าแพลงมากยิ่งกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับยา หลอก13 แล้วก็พบว่าครีมไพจีซาลได้ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับในการรักษาอาการปวดเมื่อยล้าหลัง ไหล่ ก้านคอ เอว เข่า14 แม้กระนั้นตำรับยาน้ำมันเหลืองที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช หรือการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยังไม่เคยมีการเรียนรู้ทางคลินิกมาก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษาแผนการ “การพัฒนาประสิทธิภาพผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทยเพื่อลดผลพวงจากการเปิดเสรีทางด้านการค้า AFTA ด้วยสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2554” เป็นแผนการที่ได้รับทุนช่วยเหลือจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังเรียนทางคลินิกในคนป่วยข้อเข่าเสื่อมของตำรับยาครีมไพลสกัด ซึ่งเป็นการเอาอย่างกระบวนการสกัดแบบภูมิปัญญา ซึ่งเป็นการสกัดสารหลายๆจำพวก ไม่เฉพาะแต่น้ำมันเหลือง หอมระเหยเท่านั้น และก็ได้แก่การใช้วัตถุดิบอย่างคุ้ม

น้ำมันเหลือ�[/size][/b]
เราแนะนำกล้วยๆแค่ 2 ขั้นตอนเป็น"กด" + "ทา" โดยจะนวดไหมนวดก็ได้ ทาบริเวณที่มีลักษณะอาการ
ในเวลานี้น้ำมันเหลืองเป็นที่นิยมใช้อย่างมากมายมาก เพราะน้ำมันเหลืองสรรพคุณไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันอย่างยิ่งจริงๆ ลูกค้าส่วนมากอยากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติจริงๆเพราะว่านอกเหนือจากจะรู้สึกปลอดภัยแล้ว ใช้นานหรือบ่อยขนาดไหนก็ไม่มีการสะสม
คนไหนกันที่ถูกใจใช้ น้ำมันเหลือง เป็นประจำห้ามพลาด เพราะวันนี้เรานำน้ำมันเหลืองสูตรใหม่ กลิ่นไม่ฉุนจัด ซึ่งทั่วๆไปนั้นมีการทำกันเปลี่ยนสูตรเยอะแยะ สุดแท้แต่ว่าใครชอบใจสูตรไหน เป็นน้ำมันเหลืองที่ทำจากธรรมชาติล้วนๆใช้สมุนไพรดีๆของไทยทั้งปวงมักใช้แก้ปวด แก้มึนหัว แก้ตะคริว รักษาอาการหอบหืด ไซนัส บางสูตรแก้ท้องอืดได้ด้วย ไปดูสูตรวิธีทำกันเลย
อุปกรณ์ วัสดุ
1.เมนทอล 300 กรัม
2.พิมเสน 100 กรัม
3.การบูร 100 กรัม
4.หัวไพลแก่จัด 200 กรัม
5.น้ำมันงาบริสูทธิ์ 50 กรัม
6.กระทะสำหรับทอดหัวไพล
7.ภาชนะสำหรับผสมสาร ได้แก่ ขวดใส่กาแฟ ขวดแก้ว
กระบวนการทำ
1.ล้างหัวไพลให้สะอาดตากให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตากแห้ง
2.ทอดหัวไพลในน้ำมันงาโดยใช้ไฟอ่อนๆทอดไปจนกระทั่งน้ำมันเป็นสีเหลือง เสร็จแล้วใส่สมุนไพรครั้งละตัวทอดกระทั่งหมดฟองชูลงจากเตากรองเอากากทิ้ง
3.นำส่วนประกอบทั้งยัง 3 ชนิด ในอัตราส่วนที่เจาะจงหมายถึง(เมนทอล 3 ส่วน พิมเสน 1 ส่วน พิมเสน 1 การบูร 1 ส่วน )เทผสมรวมกันในภาชนะสำหรับผสมสาร
4.ใช้ไม้พายเล็กคนให้องค์ประกอบทั้งหมดละลายเป็นของเหลว (ถ้าเกิดไม่ใช่ไม้คนบางทีอาจใช้แนวทางการเขย่าขวดให้ส่วนประกอบละลายก็ได้
5.เติมน้ำมันที่สกัดจากหัวไพลลงไป คนให้เข้ามาเป็นเนื้อเดียว
6.น้ำมันเหลืองที่ได้บรรจุขวดปิดฝาให้แน่น
[url=https://www.chiangdaonaturefood.com/product/45/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือ� ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตันเปิดเผยว่า คนป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายที่ได้รับการนวดตัว จะสามารถนอนหลับดีขึ้นขึ้น ทุเลาอาการเจ็บปวด และก็มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งสอดคล้องกับผลที่เกิดจากการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 ที่เผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่ จะทรมาทรกรรมจากอาการเจ็บปวดลดน้อยลง อาเจียนน้อยครั้ง หรือเปล่าอาเจียนเลย รู้สึกชื่นมื่นขึ้น ความดันดีมากยิ่งกว่าเดิม และเครียดจากอาการป่วยลดน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยแนวทางนวด
การเลือก[url=http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือ�[/size][/b]
การเลือกน้ำมันนวดขึ้นกับการใช้แรงงาน และก็คุณประโยชน์ต่างๆของน้ำมันนวดแต่ละจำพวก โดยส่วนมากน้ำมันโครงสร้างรองรับที่นิยมเอามาผสมทำน้ำมันนวด ดังเช่นว่า น้ำมันที่ผลิตขึ้นมาจากเมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งมีวิตามินอี สูงยิ่งกว่าน้ำมันที่สกัดจากถั่วเหลือง แล้วก็น้ำมันเมล็ดข้าวโพดถึง 3 เท่า วิตามินอี ปฏิบัติภารกิจเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ดักจับ และก็ทำลายของเสียที่ทำร้ายเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง ลกไขมันในหลอดเลือด คุ้มครองปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง นอกจากนั้นน้ำมันเม็ดดอกทานตะวันยังมีกรดไขมันไม่อิ่ม กรดไลโนเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต้องต่อสภาพทางด้านร่างกาย ทั้งยังช่วยทำให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่นกระชุ่มกระชวย
โดยดังต่อไปนี�น้ำมันเหลืองแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติ แล้วหลังจากนั้นก็คุณประโยชน์ที่ต่างๆนาๆ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ให้สมควรตามการใช้