น้ำมันเหลืองมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่น่าทึ่ง

Advertisement


หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น้ำมันเหลืองมีส่วนประกอบของสมุนไพรที่น่าทึ่ง  (อ่าน 38 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มม
หัดขับ
*

การ์ม่า: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41


ดูรายละเอียด อีเมล์










« เมื่อ: กรกฎาคม 30, 2018, 08:10:17 am »



ล้อแม็ก แม็ก แม็กซ์แต่งรถ

↑ ลงทะเบียนรับข่าวสาร

ล้อแม็ก

Advertisement


น้ำมันเหลือ[/size][/b]
[url=https://www.charmingfresh.com/product/49/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3http://www.chiangdaoherb.com/product/19/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3]น้ำมันเหลือง
ไพล หรือปูลอย ปูเลย มิ้นสะด้านล่าง ว่านไฟ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. หรือ Zingiber cassumunar Roxb. วงศ์ Zingiberaceae เป็นสมุนไพรตัวหนึ่งในบัญชียาจากสมุนไพร ใน บัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 กรุ๊ปที่ 2 บัญชียาปรับปรุงจากสมุนไพร กลุ่มยารักษาอาการทางกล้ามเนื้อแล้วก็กระดูก ยาสำหรับใช้ข้างนอก ดังเช่น ตำรับยาครีมไพล ประกอบด้วยน้ำมันไพลที่จากการกลั่น ร้อยละ 14 โดยปริมาตรต่อน้ำหนัก (v/w) รวมทั้ง ยาน้ำมันไพล สารสกัดน้ำมันไพลที่ได้จากการทอด (hot oil extract) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ในตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเภสัชตำรับของโรงพยาบาล ข้อบ่งใช้ของทั้งคู่ตำรับเป็น บรรเทาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว เคล็ดลับยอก
น้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดและก็การกลั่นต่างกันอย่างไร? น้ำมันไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นเป็น น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นของเหลวที่เป็น hydrophobic ระเหยได้ บางทีอาจจะได้จากการกลั่นโดยการต้มด้วยน้ำ (water distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันหอมระเหย ไปควบแน่นเมื่อสัมผัสกับความเย็นของเครื่องควบแน่น (condenser) แนวทางการกลั่นอย่างนี้เป็นแนวทางที่ชาวตะวันตกเริ่มแรกนิยมใช้กัน แต่ว่ามีข้อเสียตรงที่ไพลที่เอามากลั่นจะถูกความร้อนนาน อาจจะทำให้น้ำมันไพลที่ได้มีกลิ่นไม่ถูกไปได้ หรือจะได้จากการกลั่นโดยใช้การผ่านของละอองน้ำเข้าสู่ภาชนะที่มีไพลบรรจุอยู่ (steam distillation) ไอน้ำจะพาเอาน้ำมันเหลือง หอมระเหยไปควบแน่นที่เครื่องควบแน่น วิธีการแบบนี้มีข้อดีกว่าคือ ไพลจะถูกความร้อนไม่มาก น้ำมันหอมระเหยที่ได้จะไม่มีกลิ่นผิดเพี้ยนไป โน่นเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ได้จาก 2 วิธี จะมีสารประกอบทางเคมีที่ไม่เหมือนกันบ้าง โดยปกติน้ำมันหอมระเหยที่ได้จากผู้กระทำลั่นจะประกอบด้วยสารประกอบทางเคมีที่มีโมเลกุลเล็ก อย่างเช่น สารกลุ่ม monoterpenes (สารที่มีคาร์บอนจำนวน 10 ตัว) และสารกลุ่ม sesquiterpenes (สารที่ประกอบด้วยคาร์บอนปริมาณ 15 ตัว) น้ำมันหอมระเหยไพลที่ได้จากผู้กระทำลั่นมี สารกรุ๊ป monoterpenes ดังเช่นว่า sabinene, terpinen-4-ol, alpha-pinene, alpha-terpinene, gamma-terpinene, limonene, myrcene, p-cymene, terpinolene2, (E)-1-(3,4-dimethoxyphenyl)butadiene (DMPBD), (E)-4-(3’,4’-dimethoxyphenyl)but-3-en-1-ol (Compound D)3,4
ส่วนน้ำมันเหลือง ไพลที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช เป็นวิธีของชาวไทยโบราณที่ใช้เตรียมน้ำมันไพลเพื่อใช้ในครอบครัว เป็นน้ำมันเช็ดนวด แก้ปวดกล้าม ปัจจุบันนี้หลายโรงพยาบาลของรัฐได้มีการจัดเตรียมเป็นเภสัชตำรับของโรงพยาบาล รวมทั้งเป็นเยี่ยมตำรับในบัญชียาจากสมุนไพร ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปี 2554 น้ำมันไพลสูตรนี้ตระเตรียมได้จากการนำไพลสดมาทอดกับน้ำมันพืชชนิดอิ่มตัว (มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัว) ดังเช่น น้ำมันที่ทำขึ้นมาจากมะพร้าว น้ำมันเหลือง หรือน้ำมันปาล์ม ไม่สมควรใช้น้ำมันพืชประเภทไม่อิ่มตัว (มีกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว) ดังเช่นว่า น้ำมันงา น้ำมันที่ทำจากมะกอก น้ำมันคำฝอย น้ำมันทานตะวัน หรือน้ำมันรำข้าวน้ำมันเหลือง เพราะว่าน้ำมันประเภทไม่อิ่มตัวจะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้พันธะคู่ในโมเลกุลมีการแตก แล้วก็รวมตัวเป็นสาร “โพลีเมอร์” เกิดขึ้น นำมาซึ่งความหนืด นอกเหนือจากนี้จะก่อให้เกิดควันได้ง่าย รวมทั้งน้ำมันกลิ่นหืน น้ำมันพืชที่ใช้ในการทอดเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมัน (fatty acids) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีขั้วน้อย เป็นตัวทำละลายที่ดีสำหรับการสกัดสารที่มีขั้วน้อยด้วย ด้วยเหตุนี้น้ำมันพืชก็สามารถจะสกัดน้ำมันหอมระเหยซึ่งประกอบด้วยสารประกอบที่มีขั้วน้อยแล้วก็โมเลกุลเล็กได้ และสกัดสารประกอบที่มีขั้วน้อยแม้กระนั้นมีโมเลกุลใหญ่ได้ด้วย ซึ่งในไพลเว้นแต่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังประกอบสารกลุ่ม arylbutanoids, curcuminoids, รวมทั้ง cyclohexene derivatives เป็นสารที่มีโมเลกุลใหญ่มากยิ่งกว่าสารในน้ำมันหอมเหลือง และก็เป็นสารที่ไม่ระเหย สรุปง่ายๆคือ น้ำมันไพลที่ได้จากการกลั่นจะเป็นน้ำมันหอมระเหยที่ประกอบด้วยสารโมเลกุลเล็กรวมทั้งระเหยได้ ส่วนน้ำมันที่ได้จากการทอดจะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยรวมทั้งสารที่มีโมเลกุลใหญ่และไม่ระเหย
น้ำมันเหลือง หอมระเหยแล้วก็สารที่มีโมเลกุลใหญ่ (สารกลุ่ม arylbutanoids, curcuminoids, และ cyclohexene derivatives) เป็นกรุ๊ปสารที่มีผลการค้นคว้าวิจัยพบว่า มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบและก็แก้ปวดในสัตว์ทดลอง โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกันกับยากลุ่ม NSAIDs3,4-12 นอกเหนือจากนี้ยังมีรายงานการศึกษาเล่าเรียนน้ำมันเหลือง ทางสถานพยาบาลพบว่า ครีมไพลหรือไพลจีซาล (14% ของน้ำมันหอมระเหย) มีฤทธิ์ลดการอักเสบและการปวดของข้อเท้าแพลงในคนป่วยนักกีฬาที่บาดเจ็บข้อเท้าแพลงมากยิ่งกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับยา หลอก13 แล้วก็พบว่าครีมไพจีซาลได้ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับในการรักษาอาการปวดเมื่อยล้าหลัง ไหล่ ก้านคอ เอว เข่า14 แม้กระนั้นตำรับยาน้ำมันเหลืองที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันพืช หรือการสกัดด้วยตัวทำละลายที่ไม่มีขั้ว ยังไม่เคยมีการเรียนรู้ทางคลินิกมาก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ปรึกษาแผนการ “การพัฒนาประสิทธิภาพผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยาสมุนไพรไทยเพื่อลดผลพวงจากการเปิดเสรีทางด้านการค้า AFTA ด้วยสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2554” เป็นแผนการที่ได้รับทุนช่วยเหลือจากกองทุน FTA กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำลังเรียนทางคลินิกในคนป่วยข้อเข่าเสื่อมของตำรับยาครีมไพลสกัด ซึ่งเป็นการเอาอย่างกระบวนการสกัดแบบภูมิปัญญา ซึ่งเป็นการสกัดสารหลายๆจำพวก ไม่เฉพาะแต่น้ำมันเหลือง หอมระเหยเท่านั้น และก็ได้แก่การใช้วัตถุดิบอย่างคุ้ม



GPSราคาถูก | เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ | Ran Online | Ragnarok | โปรโมชั่น | เกมส์ออนไลน์

Promotion
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย
กลับ