กระทู้ล่าสุดของ: postza221

โรคกระดูกอันตรายอย่างกว่าที่เราคิด
                โรคกระดูกโรคที่หลายคนคาดคะเนว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว โรคกระดูกนั้นเริ่มเป็นได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะมองข้ามไปเพราะคาดคะเนว่ามันเป็นโรคไกลตัวบางล่ะ โรคไม่อันตรายบ้างล่ะ ถ้าคุณนึกแบบนี้รู้ไว้เลยว่าคุณกำลังนึกผิดอย่างแน่นอนโรคกระดูกนั้นมีหลายประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกพรุน โรคเกาต์ โรคข้อกระดูกเสื่อม โรคกระดูกทับเส้น โรคเหล่านี้สามารถปรากฏได้กับทุกเพศทุกวัยหากเราไม่ดูแล

            สาเหตุของการเกิดโรคกระดูก
สาเหตุมาจากการการทำงานที่ผิดปกติของอวัยวะต่างๆ มีที่มาหลายอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น การบาดเจ็บ การประสบอุบัติเหตุ การทำงานหนัก การหักโหมยกของหนัก การติดเชื้อ การเสื่อมตามอายุขัย และโรคกระดูกยังมีที่มาจากกรรมพันธุ์ด้วยในส่วนหนึ่ง หลายคนไม่ทราบว่าโรคกระดูกนั้นส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการขยับตัว ของเราแบบผิดๆ ทำให้กระดูกต้องรับแรงกระแทกหนักๆ เช่นจากการทำงาน ที่เราต้องเคลื่อนที่ ร่างกายตลอดเวลา และมักจะเคลื่อนที่ ส่วนใดส่วนหนึ่งซ้ำไปซ้ำมาบ่อยๆ การออกแรงหนักๆฝืนยกของหนักทั้งๆที่ยกไม่ไหว การบิดข้อมืออย่างแรงเพื่อการเคลื่อนไหว ที่รวดเร็ว พฤติกรรมความเสี่ยงเหล่านี้มักก่อให้เกิดอันตรายต่อกระดูกเราเสมอ แต่สาวๆที่นั่งทำงานในออฟฟิศอย่างเราๆก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยจากโรคนี้เพราะ การที่เราต้องนั่งในท่าเดียวนานๆ ก็ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกได้เช่นเดียวกัน และหากเราทำงานแบบที่ต้องออกแรงเยอะๆ หรือมีการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะพื้น ตออกเสาเข็ม หรืออยู่ใกล้พื้นที่ที่มีแรงสั่นสะเทือนบ่อยๆก็ควรระวัง เพราะแรงสั่นสะเทือนเหล่านี้จะไปกระแทกต่อระบบกระดูกในร่างกายของเราได้เช่นเดียวกัน
อาการของโรคกระดูก
เรามักจะพบว่ามีอาการเจ็บปวด หรืออักเสบ มีอาการบวมตามบริเวรกล้ามเนื้อและข้ออยู่บ่อย เจ็บแบบเบาๆหรือเจ็บแบบเสียวๆก็เสี่ยงต่อโรคนี้ได้ ซึ่งสภาพอาจจะมีมากมายว่านี้ขึ้นอยู่กับโรคที่เราเป็นด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบว่ามีระบบประสาทมาร่วมด้วย

การฟื้นฟู และการป้องกัน
แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยว่าอาการของโรคนั้นอยู่ในขั้นที่เท่าไหร่ หากไม่รุนแรงก็สามารถใช้ยารักษาสภาพอักเสบได้ การผ่าตัดก็ต้องขึ้นอยู่กับอาการของโรค การใช้วีธีทางการแพทย์เฉพาะทางเช่นการกายภาพบำบัด การฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข้าไปในระบบกระดูก หากพบสภาพกระดูกเสื่อม  ซึ่งเมื่อเราพบว่าตัวเองมีสภาพผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ก่อนที่สภาพจะลุกลาม และเกิดเป็นโรคกระดูกเรื้อรัง เพราะจะทำให้เราต้องเสียเวลาในการไปปกป้องนานหลากหลายขึ้น
เห็นไหมล่ะค่ะว่าโรคกระดูกนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยหากเราไม่ลดพฤติกรรมความเสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน ต้องปกป้องสุขภาพตัวเองให้หลากหลายนะคะ เพราะสุขภาพของเราไม่มีขายนั้นเองค่ะ
สมุนไพรรักษาโรคกระดูก
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษากระดูก

เครดิตบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=L2kw_pblF2c[/url]

Tags :  สมุนไพรจีนรักษาโรคกระดูก, ประสบการณ์ผู้ป่วย, โรคกระดูก

โรคกระดูกทับเส้นประสาท ภัยร้ายของคนทำงาน[color=#444444; font-family: Tahoma, Arial, 'MS Sans Serif', sans-serif; font-size: 12px; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; letter-spacing: normal; line-height: 14.4px; orphans: auto; text-align: start; text-indent: 0px; text-transform: none; white-space: normal; widows: 1; word-spacing: 0px; -webkit-text-stroke-width: 0px; display: inline !important; float: none]อาการ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัวหรือตามส่วนต่างๆของร่างกาย อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาของใครหลายๆคนและดูเหมือนว่าจะ ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวสักเท่าไหร่ เนื่องจากด้วยความคิดที่ว่า อาการปวดเมื่อยนั้นเป็นเรื่องที่ปกติ ทำงานมากๆก็ต้องมีการปวดเมื่อย ต้องการการพักผ่อน แต่หารู้ไม่ว่าเราอาจจะเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาทก็ โรคกระดูกทับเส้นประสาท ก็ยังเป็นโรคที่สามารรักษาให้หายได้ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันนะ ซึ่งการรักษาโรคกระดูกทับเส้นประสาท สามารถทำได้สมุนไพรรักษาโรคกระดูกทับเส้น[/url][/color]
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษากระดูกทับเส้น

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=hmFCq9EiMNg[/url]

Tags : สมุนไพรรักษาโรคกระดูกทับเส้น, วิธีรักษาโรคกระดูกทับเส้น, โรคกระดูกทับเส้น

รักษาโรคหัวใจ
          การรักษาโรคหัวใจโดยส่วนมากมัก  บำบัดรักษา  ไปตามอาการ ดังนั้นวันนี้เราจะขอนำเสนอเฉพาะบางอาการที่ทางการแพทย์ได้ทำการ   บำบัด กันอยู่เท่านั้น
 
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
            สาเหตุเกิดจากตะกรันไขมัน และลิ่มเลือด ปัจจัยเสี่ยง คือ อายุ เพศชาย พันธุกรรม ไขมันในเลือด เบาหวาน  ความดันโลหิตสูง บุหรี่  ไม่  ออกกำลังกาย  ถึงแม้ไม่มีปัจจัยเสี่ยงก็เป็นได้ ซึ่งโรคนี้จะไม่สามารถ  บำบัดรักษา ให้หายขาดได้ สำหรับการรักษาโรคหัวใจ แบบนี้ แพทย์ให้ยาลดอัตราการเต้นของหัวใจ ยาขยายหลอดเลือด (ในกรณีที่ไม่มีข้อห้าม) และหากไม่ดีขึ้น แพทย์จะใช้วิธีฉีดสีดูหลอดเลือดหัวใจ ขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน หรือผ่าตัดหัวใจ (บายพาส) หากเกิดหลอดเลือดอุดตันภายใน 6 ชั่วโมง สำหรับกรณีนี้แพทย์อาจ พิจารณาพินิจพิเคราะห์ให้ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูนทันที

ภาวะหัวใจล้มเหลว
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจตีบรั่ว ความดันโลหิตสูง หัวใจพิการจากสาเหตุต่างๆ เช่น ไวรัส  เบาหวาน แอลกอฮอล์ รวมทั้งไม่มีสาเหตุ ส่วนมากมัก  รักษาพยาบาล ไปตามอาการ  มีการให้ยาขับปัสสาวะเพื่อลดน้ำในปอด ยาขยายหลอดเลือดเพื่อให้หัวใจทำงานสบายขึ้น ยากระตุ้นหัวใจ  และมีการบรรเทา   ตามสาเหตุด้วยเช่นกัน  ผ่าตัดแก้ไขลิ้นหัวใจ ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเป็นต้น  โรคนี้ไม่สามารถ บำบัดรักษา  ให้หายขาดได้ ดังนั้นเราจึงต้องพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง  ไม่สามารถซื้อยาทานเองได้และหากรู้สึกเหนื่อยหอบ และแน่นหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วนที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุด เนื่องจากโรคนี้สามารถเกิดโรค สอดแทรก ได้อย่างง่ายดายนั่นเอง
 
ลิ้นหัวใจตีบหรือหัวใจรั่ว
            สาเหตุมักเกิดจากการติดเชื้อในวัยเด็ก (โรคหัวใจรูมาติกนั้นเอง) โรคติดเชื้อแบคทีเรียที่เกิดจากความเสื่อมของลิ้นหัวใจ เช่น อายุมากหรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิด  ส่วนมากมักบรรเทา ไปตามอาการเช่นเดียวกับโรคภาวะหัวใจล้มเหลว หากจำเป็น  ก็ต้องทำการผ่าตัดแก้ไขลิ้นหัวใจด้วย  เช่น ซ่อมลิ้นหัวใจหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจ  หัวใจเต้นผิดจังหวะก็ต้องให้ยาควบคุม ในกรณีที่เป็นน้อยก็ไม่ต้องรักษาพยาบาล  โรคนี้ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดก็ไม่สามารถที่จะหายขาดได้ ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคนี้ต้อง ดำเนินการ ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และแนะนำให้ผ่าตัด  และหากมีการเปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมก็ต้อง พึงระวัง
เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถติดเชื้อได้สูง  เลือดออกง่าย สิ่งที่ต้องพึงระวัง   สำหรับโรคนี้ นั่นคือ ไม่ควรซื้อยาทานเองแม้กระทั่งยาแก้หวัดหรือหากมีการทำฟัน ขูดหินปูน หรือท่านใดต้องการตั้งครรภ์ควร ปรึกษา แพทย์ก่อนทุกครั้ง
 
            อย่างที่เราพอจะทราบกันว่า  การรักษาโรคหัวใจไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตามมัก  บำบัดรักษา ตามอาการที่เกิดขึ้นและบางชนิดของโรคหัวใจมีการ รักษา ตามสาเหตุที่เกิดขึ้น   แต่ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจชนิดใดก็ตาม หรือเกิดจาก ตัวการ
ใดก็ตาม  มีสิ่งที่เหมือนกันคือ คนที่เป็นโรคนี้ไม่สามารถที่จะซื้อยาตามร้านขายยาเพื่อทานเองได้ และต้องต้อง  ตามคำแนะนำของแพทย์อย่าง    นั่นเอง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาหัวใจ

เครดิต : [url]https://www.youtube.com/watch?v=HjPOeRDfqbI[/url]

Tags :  ประสบการณ์ผู้ป่วย

ปวดหัวแบบไหนถึงจะเรียกว่าเป็นไมเกรน
            ปวดหัวจัง ปวดขมับซ้าย ปวดขมับขวา รู้หรือไม่ว่านี่คือสัญญาณอันตรายของไมเกรน โรคไมเกรนหากพูดแล้วเชื่อว่าหลายคนย่อมรู้จักโรคนี้ดี โรคไมเกรนมีสภาพที่แสดงออกมาทางด้านการปวดหัว อาจจะสภาพปวดตรงกลาง อาการปวดขมับ มึน งง วิงเวียนศรีษะ หรือปวดหัวข้างเดียว ในบางรายที่เป็นโรคนี้อาจจะต้องทานยาเพื่อระงับอาการปวด ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าที่เราปวดหัวแบบนี้มีที่มามาจากอะไร และมีแนวทางการฟื้นฟูแบบใดบ้าง วันนี้เราเลยถือโอกาสมาบอกทุกคนเกี่ยวกับโรคไมเกรนให้ได้รู้จักกันค่ะ
            ที่มาของโรคไมเกรน
            เนื่องจากโรคนี้ทั้งการวิจัยและการศึกษาหาต้นเหตุของโรคนี้ก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าโรคนี้มีสาเหตุเกิดขึ้นมาจากอะไรกันแน่ อาจจะเป็นความผิดปกติของโครงสร้างทางกาย และทางสมอง และอาจจะเกิดขึ้นอาการกำเริบได้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีทางสมอง ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้เป็นการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือด และกลไกทางประสาทภายในสมอง ซึ่งเมื่อโดนกระตุ้นก็อาจะมีเริ่มเป็นอาการปวดศีรษะตามมา ซึ่งโรคไมเกรนปรากฏสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้แน่นอน ซึ่งหากเรามีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้ก็มีโอกาสเสี่ยงจะเกิดขึ้นเป็นตามไปด้วยคะ
            สภาพของโรคไมเกรน
            สภาพของโรคไมเกรนก็อย่างที่เรารู้กันนั้นก็คือเป็นมีสภาพปวดศีรษะอย่างรุนแรง มีอาการปวดตุบๆตามจังหวะชีพจร ที่ขมับอาจจะเป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา หรือในบางรายอาจจะเกิดขึ้นพบได้ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งอาจจะมีอาการปวดติดต่อกันยาวนาน ซึ่งเมื่อทานยาและนอนหลับพักผ่อนไปอาการอาจจะทุเลาลงบ้าง แต่เมื่อตื่นนอนขึ้นมาอาการก็จะกลับมาทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งในบางรายอาจจะมีเริ่มเป็นสภาพสายตาพร่ามัวเริ่มเป็น อาการคลื่นไส้เริ่มเป็น อาการตาลาย ร่วมด้วย
            การดูแลโรคไมเกรน
            เนื่องจากโรคไมเกรนเป็นโรคที่เราไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง บางคนก็มีสิ่งเร้าที่แตกต่างกันไป ทางที่ดีในการปกป้อง โรคนี้คือการงดไปเผชิญกับสิ่งเร้าโดยตรง ซึ่งเราจะต้องรู้ก่อนว่าสิ่งทำให้เรามีอาการปวดหัวเป็นไมเกรนคืออะไร ซึ่งอาจจะปรากฏเป็นแสงจ้า แดดจัด ฝุ่นควัน เสียงดัง อากาศ ความเครียด ซึ่งเมื่อเรารู้ว่าสิ่งเร้าคืออะไรก็ควรงดเผชิญหน้าอย่างเด็ดขาด และการทานยารวมด้วยเพื่อลดอาการปวด
            การฟื้นฟูโรคไมเกรน
            หากพบว่าตัวเองมีอาการควรทานยาแก้ปวดในทันที ทานในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งบางรายอาจจะทานยาเฉพาะ หรือทานยาพาราเซตามอนธรรมดาก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม หาที่นอนพัก หรือหากไม่สะดวกแนะนำให้ออกจากสถานที่นั้นหาที่นั่งสบายๆ โรคนี้เป็นโรคที่เราจะต้องสภาพตัวเองอยู่เสมอ ระมัดระวังตัวไม่ให้โรคกำเริบกันด้วยนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาไมเกรน

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=um1fILxLJKY[/url]

Tags :  วิธีรักษาโรคไมเกรน

5 วิธีป้องกันโรคริดสีดวงให้ไกลเรื่องง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุน
ปัญหาเรื่องโรคริดสีดวง เป็นปัญหาทีไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้นกับตนเองแต่หากคนเป็นดวงไม่ค่อยดีเป็นริดสีดวงแล้วก็ต้องหาวิธีรักษาโรคริดสีดวงด้วยวิธีที่ต่างกันไป ดังเช่น
วิธีรักษาด้วยยาสมุนไพรรักษาโรคริดสีดวง การใช้ยาปฏิชีวนะ หรือการใช้ทั้งยาทา ยากินร่วมกันไปด้วยเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บหรือโรคริดสีดวงไม่มาเกิดกับเราจะดีอย่างยิ่ง โรคริดสีดวงนั้นเรามีวิธีที่หลีกเลี่ยงโรคเหล่านี้ได้หลายหลายวิธีด้วยกัน วันนี้เราจึงอยากจะมาบอกวิธีการป้องกันโรคริดสีดวงไม่ให้เกิดกับทุกท่าน เริ่มต้นด้วย
1.เลือกอาหารในการรับประทาน
อาหารที่เรารับประทานในวันหนึ่งหนึ่งนั้นก็มีทั้งอาหารชั้นเลิศที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายควรเลือกทานที่มีประโยชน์เป็นหลักโรคริดสีดวงก็จะไม่มาถามหา
2.ทานอาหารที่ไม่แข็งจนเกินไป
อาหารที่แข็งถ้าเป็นผลไม้ก็จำพวก ฝรั่ง หรืออาหารคาวจำพวกกระดูก บางท่านชอบทานกระดูกอ่อนซึ่งของเหล่านี้ย่อยยากเป็นอย่างมาก
3.เน้นการทานผักผลไม้
การกินผักผลไม้ในปริมาณที่มากกว่าข้าวนั้นเป็นเรื่องดี อย่างที่ผลวิจัยจากนักวิชาการหลายๆ คนได้บอกไว้ว่า ผักครึ่งหนึ่งข้าวครึ่งหนึ่ง เป็นอย่างต่ำ ระบบการขับถ่ายก็จะเป็นเรื่องที่ดีสุขภาพในด้านอื่นก็จะดีตามกันไปด้วยตามตามกันไป
4.ทานเม็ดแมงลัก
การกินเม็ดแมงลักเป็นการช่วยเรื่องระบบขับถ่าย การที่เราอุจจาระบ่อยๆ และถ่ายในเวลาที่เหมือนกันอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยเรื่องการป้องกันโรคริดสีดวงได้เป็นอย่างดี
5.ดื่มน้ำเยอะๆ
การเดิมน้ำในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยเกี่ยวกับระบบของร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เพียงแค่ป้องกันเรื่องของโรคริดสีดวงเท่านั้น ยังช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย ช่วยการไหลเวียนของโลหิต ขับของเสียออกจากร่างกายและ มีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกหลายอย่างการดื่มน้ำมากๆจึงเป็นเรื่องดี
ในความเป็นจริงแล้วปัจจัยเสี่ยงของคนเราที่จะเกิดโรคริดสีดวงนั้นมีไม่มากเท่าไหร่นัก คนที่เป็นโรคนี้ส่วนมากแล้วจะมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่าย จำเป็นจะต้องเริ่มต้นตั้งตัวเราก่อน เริ่มต้น ตั้งแต่อาหารการกินไม่เช่นนั้นคุณก็ต้องเตรียมความพร้อมรักษาโรคริดสีดวงกันได้เลย
ส่วนผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงแล้วไม่ต้องวิตกกังวลอะไรมากนัก เพราะปัจจุบันก็มีสมุนไพรรักษาโรคริดสีดวงที่สามารถใช้รักษาได้ดีและสามารถรักษาได้โดยที่ไม่มีผลกระทบกับเราในด้านอื่น นอกจากนี้แพทย์แผนปัจจุบันก็มีวิธีการรักษากันต่างๆ มากมาย จึงไม่ต้องตกใจหรอก โรคนี้เป็นโรคที่ทำการรักษาให้หายขาดได้ จึงไม่ได้เป็นโรคที่รุนแรงและน่ากลัวอะไรเลย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาริดสีดวง

ที่มา : [url]https://www.youtube.com/watch?v=hypkEtXCUlc[/url]

Tags : สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวง, สมุนไพรจีนรักษาโรคริดสีดวง, โรคริดสีดวง

สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน

          คงไม่มีคนที่เป็นโรคเบาหวานคนไหนที่อยากจะกินยาหรือฉีดอินซูลินเข้าสู่  ร่างกาย  ตลอดชีวิตอย่างแน่นอน วันนี้เราขอ  แนะนำ สมุนไพรที่จะช่วยในการเยียวยารักษา โรคเบาหวาน และยังมีคุณค่า  ที่ดีต่อ สุขภาพ อีกด้วย ดังนี้ค่ะ

  1.มะระขี้นก
             ในมะระขี้นกมีสารซาแรนติน (Charatin) ที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินจากตับอ่อน  และช่วยเร่งการ เผาน้ำตาลในเลือด ยิ่งไปกว่านี้ ยังช่วย ต้าน  เอนไซม์แอลฟากลูโคซิเดส  (Alpha-glucosidase) ซึ่งเป็น สาเหตุ ของโรคเบาหวาน หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเหนี่ยวรั้ง ความผิดปกติของไต และความเสื่อมของ เส้นประสาทใน  ร่างกาย  จากระดับน้ำตาลในเลือดสูงสะสมเป็นเวลานาน และ เหนี่ยวรั้ง การเกิดโรคต้อกระจกใน ผู้ป่วย  เบาหวานด้วย

• อบเชย หรือชินนามอน (Cinnamon)
  
              มี คุณสมบัติ ช่วยเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง  ช่วย ดูแล  ระดับคอเลสเตอรอลในเลือด สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2   และช่วยลด วัตถุปัจจัย เสี่ยงต่าง ๆ ในโรคเบาหวานและโรคที่เกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจ ทำได้ง่ายๆ แค่โรยผงอบเชยลงในอาหารที่จะทานเท่านั้นเองค่ะ
  
  
• เห็ดหลินจือ
  
              ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดสมุนไพรจีนที่อุดมไปด้วย คุณสมบัติ ทางยา ในเห็ดหลินจือมีสารในกลุ่มโพลีแซ็กคาไรด์  (Polysaccharide) มีฤทธิ์  เร่งเร้า
  การหลั่งอินซูลิน  และช่วยเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานแก่  ร่างกาย   จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
  
  
• บอระเพ็ด
  
              ถือเป็นหนึ่งในสมุนไพรในตำรับยาไทย ช่วย ถนอม หัวใจ ลดไข้ และช่วยให้เจริญอาหาร ได้มีการศึกษาพบว่าบอระเพ็ดมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยไม่พบผลข้างเคียง  ใด ๆ เพียงแต่มีรสขม ทานยาก เท่านั้นเอง
  
  5.ตำลึง
              สมุนไพรที่ใช้ในการรักษาโรคเบาหวานมานับพันปี ตามตำราแพทย์แผนอายุรเวท ระบุว่า ตำลึงมีสรรพคุณ  ในการรักษาโรคเบาหวานได้แทบจะทุกส่วนของต้น ทั้งราก เถา หรือใบช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมี  ศักยภาพ  เทียบเท่ากับโสม โดยรับประทานเป็นประจำทุกวันติดต่อกันเพียงวันละ 50 กรัม จะช่วย ควบคุม  ระดับน้ำตาลให้เป็นปกติได้
  
  6.มะเขือพวง
              ช่วยลดรับระดับน้ำตาลในเลือดได้และช่วยย่อยอาหารได้ด้วย โดยสามารถทานเป็นผักกับอาหารได้หลากหลายชนิด เพียงเท่านี้ก็เป็นสมุนไพรช่วยรักษาโรคเบาหวานได้แล้ว
  
  
• ชาเขียว
  
              ในชาเขียวมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย และช่วย ดูแล   ระดับน้ำตาลในเลือด  ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วย ส่งเสริม การทำงานของอินซูลิน แต่ต้องดื่มชาเขียวแท้ๆ ไร้น้ำตาลเท่านั้น
  
  8.กระเทียม
              ในกระเทียม มีสารอัลซิลิน (allicin) ที่มี คุณสมบัติ  ลดความดันโลหิตและลดไขมันในเลือดได้ และมีฤทธิ์ ต่อต้าน  โรคเบาหวานได้ด้วย เพราะมีเอทานอลที่สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้ ซึ่งจะได้รับสารเหล่านี้จากการทานกระเทียมสดเท่านั้น
  
              สำหรับ  คนไข้  เบาหวานที่ต้องการให้สมุนไพรเป็นอีก หนทาง ในการรักษาโรคเบาหวาน ก็ลองดูนะคะ สมุนไพรไทย ที่หาได้ง่ายจากริมรั้ว ในครัว และจากพืชผัก ที่หาง่ายและเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารได้ด้วย
  คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาเบาหวาน
  
  ที่มา : [url]https://www.youtube.com/watch?v=Bs2K383RAQI[/url]
  
  Tags : สมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน, วิธีรักษาโรคเบาหวาน

โรคซีพี โรคสมองพิการในเด็ก
                โรคสมองพิการในเด็ก หรือโรคที่หลายๆคนเรียกว่าโรคซีพี เริ่มเป็นจากความบกพร่องของสมองในเรื่องอาการกล้ามเนื้อ อาจจะมีสภาพแตกต่างกันไป เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดปกติ การขยับแขนขา ลำตัวและใบหน้า และอาจจะมีการอาการทรงตัวที่ผิดปกติ เด็กที่มีปัญหาโรคนี้มักจะมีปัญหาเรื่องการควบคุมกล้ามเนื้อเรื่องการกินมากมาย และการควบคุมลมหายใจ ทำให้ในเด็กเป็นบางรายอาจจะพูดได้ไม่ชัดมาก แต่เด็กที่ป่วยเป็นโรคซีพีนี้ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน ส่วนใหญ่แล้วเด็กที่ป่วยโรคนี้จะมีIQ กว่า 70 ในบางรายอาจจะเยอะมากกว่าเด็กปกติด้วย
            ที่มาของโรคสมองพิการ
            เป็นจากความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่ก่อนเกิดขึ้น ถึงประมาณ 7 ขวบ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่สมองกำลังพัฒนาและเติบโตเต็มที่ อาจมีสาเหตุหลายประการ เช่นอาการการติดเชื้อในสมอง การประสบอุบัติเหตุตอนคุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่มีโรคประจำตัวอย่างโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เริ่มเป็นโรคภูมิคุ้มกันต่ำที่ส่งผลทารกในครรภ์ อาจจะเป็นเด็กที่คลอดยากมาก  ได้รับออกซิเจนต่ำในช่วงอยู่ในครรภ์ เด็กที่คลอดก่อนกำหนด เด็กที่ได้รับความกระทบกระเทือนหลังคลอดในช่วงก่อนอายุ 7 ขวบมาก
            สภาพของโรคสมองพิการ

• เป็นมีสภาพเกร็งของแขนและขาทั้งสองข้าง
• เป็นไม่สามารถตั้งคลานได้ด้วยตัวเอง
• มีสภาพเกร็งของแขน ขา ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง
• มีสภาพเกร็ง และสภาพกำมือตลอดเวลา แม้เด็กจะโตขึ้นแล้วก็ตามมักจะแอบกำมือแน่นอยู่บ่อยๆ
• เมื่อให้เด็กนั่งลง เด็กจะมีสภาพคอพับไปด้านหลัง
• เด็กไม่สามารถทรงตัวได้ด้วยตัวเอง มีสภาพอ่อนปวกเปียกอยุ่ตลอด
• อาการเด็กไม่สามารวางเท้าราบอยู่กับพื้นได้เลย
• มีอาการไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ยิ่งตื่นเต้นกล้ามเนื้อจะทำงานผิดปกติหนักหลากหลาย

ฟื้นฟูโรคสมองพิการ
      ไม่สามารถฟื้นฟูได้ แต่จะต้องดูแลคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ให้ดี หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์หลากหลาย  อย่าให้กระทบกระทั่งช่วงตั้งครรภ์ หมั่นออกกำลังกายเบาๆตอนตั้งครรภ์ หลังเด็กคลอดมาแล้วระวังอย่าให้เค้าหกล้ม โดนกระทบกระเทือนที่สมองมาก
ดูแลโรคสมองพิการ
      ส่วนใหญ่แล้วจะต้องไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อวินิจฉัยว่าควรจะฟื้นฟูแบบใดดี  มีสภาพอยู่ไหนระดับไหนแล้ว อาจจะมีการทานยา การปรับขนาด ย้ายเส้นเอ็น นวดแผนไทย ทานยาบำรุง ผ่าตัดกระดูก ทานยาลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ทำกายภาพบำบัด แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรแสดงอาการน้อยอกน้อยใจ หรือรังเกียจเค้า ควรให้กำลังใจให้เค้าพร้อมต่อสู้กับโรคภัยที่เค้าได้เจอ
      โรคนี้ไม่ใช่โรคอันตรายหลากหลาย เราสามารถฟื้นฟูให้หายได้ แต่สิ่งที่เด็กๆต้องการหลากหลาย ที่สุดคือการให้กำลังต่อเด็ก ระหว่างตั้งครรภ์คุณพ่อคุณแม่ควรปกป้องตัวเอง อย่างดี ทานอาหารที่มีประโยชน์เสมอนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาซีพี

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://www.youtube.com/watch?v=6vfZ3mfUoSA[/url]

Tags :  วิธีรักษาโรคซีพี

โรคมะเร็งลำไส้ ภัยร้ายที่เรามองไม่เห็น
            หากเราจะพูดถึงโรคมะเร็งลำไส้เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะรู้จักโรคนี้ เพราะอาการของโรคนั้นจะคล้ายๆกับโรคริดสีดวงทวารหนัก แต่สภาพนั้นไม่เหมือนกัน โรคมะเร็งลำไส้นั้นอันตรายกว่า และหากเราฟื้นฟูไม่ทันท่วงทีก็อาจะทำให้เสียชีวิตได้ มะเร็งลำไส้เป็นมะเร็งที่เป็นในบริเวณลำไส้ใหญ่ หรือ ช่วงช่องทวารหนัก เป็นมะเร็งตัวหนึ่งที่อันตรายมาก มะเร็งนี่เกิดขึ้นมาจากการพัฒนาจากเซลล์ที่ผลิตเยื่อเมือกในลำไส้ หรืออาจจะปรากฏมาจากติ่งเนื้อในลำไส้ สาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นมะเร็งลำไส้แบบชัดเจนนั้นคาดว่าเป็นจากการที่ร่างกายพยายามขับติ่งเนื้อหรือเมือกลำไส้ออก แต่มันเกิดขึ้นกลายเป็นการอักเสบแทน
            ต้นเหตุของการเกิดมะเร็งลำไส้
            แม้ว่าเราจะไม่พบสาเหตุที่ทำให้ปรากฏโรคนี้อย่างแท้จริง แต่เราสามารถคำนวณได้ว่าอาจจะเริ่มเป็นจากปัจจัยเสี่ยงเรื่อง อายุหากมากกว่า 50 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูง พันธุกรรม มีโรคติ่งเนื้อในลำไส้ เป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังมากกว่า 10 ปีขึ้นไป มีโรคอ้วนรวมอยู่ด้วย รับประทานอาหารที่มีไขมันและเนื้อแดงมากเกินไป ดื่มเหล้าจัด สูบบุหรี่จัด และเคยมีประวัติการฉายแสงในบริเวณอุ้งเชิงกราน
            สภาพของโรคมะเร็งลำไส้

• หากขนาดของติ่งเนื้อ และเนื้องอกอยู่ในตำแหน่งที่อันตรายก็จะปวดมาก
• มีอาการน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
• มีสภาพปวดท้อง มากและน้อย เป็นบางครั้งคราว
• มีอาการปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย
• มีอาการท้องเสีย
• มีอาการท้องผูก
• มีสภาพซีด เนื่องจากเลือดออกนาน
• มีอาการเลือดหรือมูกปนออกมากับอุจจาระ

การรักษาโรคมะเร็งลำไส้
โรคนี้เป็นโรคที่เริ่มเป็นเกี่ยวเนื่องกับระบบขับถ่าย การฟื้นฟูโรคนี้คือการหมั่นทานอหารที่มีประโยชน์ มีกากใยสูง รับประทานผักและผลไม้อย่างสม่ำเสมอ หมั่นออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง รับประทานอาหารหรือวิตามินเสริมประเภทวิตามิน A B เพื่อป้องกันการเกิดขึ้นมะเร็ง
การปกป้องโรคมะเร็งลำไส้
การปกป้องจะต้องวินิจฉัยก่อนว่าโรคนี้มีความรุนแรง และมีตำแหน่ง และขนาดของก้อนมะเร็ง รวมทั้งอายุและสุขภาพของผู้ป่วยเองด้วย เพราะในบางครั้งการเลือกวิธีฟื้นฟูผิดอาจจะทำให้ผู้ป่วยไม่ได้ขึ้น และทรุดลงได้เสมอ ส่วนวิธีการปกป้องนั้นมีอยู่ 2 แบบนั้นก็คือ

• ดูแลการผ่าตัด ในกรณีที่เป็นระยะเริ่มต้น และมีอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยมีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคแทรกซ้อนอะไร ที่สำคัญอายุยังน้อยอยู่สามารรับความเสี่ยงอื่นๆที่จะตามมาได้

2.เคมีบำบัด และรังสีรักษาในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการค่อนข้างรุนแรง แต่ผู้ป่วยจะต้องมีอายุน้อย เพราะสารเคมีและรังสีมีผลกระทบต่อสุขภาพค่อนข้างเยอะและจะต้องปกป้องในระยะเวลานานกว่าจะหายดี และทำให้สารเคมีตกค้างในร่างกายลดน้อยลงที่สุดด้วย
            โรคมะเร็งลำไส้แม้จะเป็นโรคอันตรายแต่เราสามารถดูแลได้ หมั่นทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานผักและผลไม้เยอะๆ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นได้แล้วค่ะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็งลำไส้

เครดิตบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=IRIo4h7_Wtk[/url]

Tags :  วิธีรักษาโรคมะเร็งลำไส้, ประสบการณ์ผู้ป่วย, รักษาโรคมะเร็งลำไส้

โรคไขมันอุดตัน โรคอันตรายของคนสมัยใหม่
            ถ้าพูดถึงโรคนี้หลายๆคนคงคิดถึงคนอ้วนแน่นอน 55+ แต่ในความจริงแล้วคนอ้วนนั้นแค่มีความเสี่ยงมาก กว่าคนผอมแต่คนผอมเองก็เสี่ยงเช่นเดียวกันโรคไขมันอุดตันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเรา มันเป็นจากสภาวะที่เราบริโภคอาหารที่มีคลอเรสเตอรรอลสูงหรือโรคไขมันสูงเยอะแยะ ติดต่อกันเป็นเวลานาน จนเกิดขึ้นการสะสมของไขมันและคลอเรสเตอรอลหรือกลีเซอรรอลในปริมาณที่สูงเยอะแยะ  ภาวะที่มีไขมันอุดตันจะส่งผลทำให้เราเกิดขึ้นมีความเสี่ยงเป็นโรคอื่นๆตามมาเช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคตับ โรคเบาหวาน ต่างๆหลากหลาย  เรามาทำความรู้จักโรคไขมันอุดตันให้หลากหลาย กว่านี้กันนะคะ
            ที่มาของโรคไขมันอุดตัน

• มีความผิดปกติทางด้านพันธุกรรม เรื่องโครโมโซม ทำให้ปรากฏไขมันอุดตันได้ง่ายกว่าปกติ
• กินอาหารที่มีไขมันสูงคลอเรตเตอรอลสูงมาก มาตรฐาน กว่าปกติ กินนานติดต่อกันจนมาก เกินปกติ ไป
• โรคหรือการใช้ยาบางชนิดก็ส่งผลเสียต่อร่างกายทำให้ร่างกายขับไขมันออกได้น้อยลงกว่าปกติ
• ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ร่างกายของเราจึงไม่ได้มีการเผาผลาญไขมันที่เป็นส่วนเกินมาตรฐาน ในร่างกายของเราออกไปเลย
• การดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์และสูบบุหรี่ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ก็มีความเสี่ยงสูง

สภาพของโรคไขมันอุดตัน
ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีการแสดงสภาพ ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนจึงอยากแนะนำให้ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงหมั่นไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นมีคลอเรสเตอรอลในเลือดสูงกว่าค่า มาตรฐาน หรือไม่ หรือหากคุณมี อาการ ดังนี้เช่น เวียนหัวบ่อย ปวดหัว รู้สึกนอนไม่หลับ หน้ามืดบ่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยออกก็ควรไปตรวจเช็คกันบ้างนะคะ
การรักษา โรคไขมันอุดตัน

• น้อยการทานอาหารไขมันสูง หรืออาหารที่ให้พลังงานเยอะเกินปกติ กว่าที่ร่างกายต้องการ
• น้อยการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ หากลดลงไม่ได้ แนะนำให้ค่อยๆน้อยลงไป
• หมั่นออกกำลังกายในทุกวัน วันละเล็กล่ะน้อยก็ยังดี

การดูแล โรคไขมันอุดตัน
จะต้องไปพบแพทย์เพื่อเจาะเลือดตรวจหาค่าไขมันในเลือดหากค่าไขมันไม่สูงจนเกินมาตรฐาน ไปแพทย์จะให้ทานลดอาหาร และหมั่นออกกำลังกายเสมอ แต่หากปริมาณไขมันสูงจนเกินปกติ ไปแพทย์จะให้ควบคุมอาหารน้อยไขมันประเภทที่มีไขมันสูงแบบเด็ดขาด และให้ยาทานที่เป็นยาลดคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง ซึ่งยาเหล่านี้จะต้องทานอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในความควบคุมของแพทย์ และต้องไปหาหมอทุกเดือนๆ
โรคไขมันอุดตันแม้จะไม่เป็นโรคที่อันตรายเยอะแยะ นัก แต่เป็นต้นเหตุของโรคอันตรายหลายๆโรคเราสามารถ รักษา และลดได้เพียงแค่หมั่นดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาไขมันสูง

เครดิต : [url]https://www.youtube.com/watch?v=4Mcc54NnJ-Q[/url]

Tags : สมุนไพรรักษาโรคไขมันสูง, สมุนไพรจีนรักษาโรคไขมันสูง, โรคไขมันสูง

โรคมะเร็งเต้านม โรคที่คุณผู้หญิงควรระวัง
            อาการโรคมะเร็งเต้านมเป็นโรคที่สาวในสมัยใหม่คงต้องหมั่นตรวจกันแล้ว เพราะพบว่าผู้หญิงไทยมีโอกาสเสี่ยงเริ่มเป็นโรคนี้หลากหลายขึ้น และมีดาราหลายท่านที่เป็นป่วยเป็นโรคนี้หลายท่าน โรคนี้ปรากฏจากการพัฒนาของเนื้อเยื่อเต้านมแบบผิดปกติ ซึ่งระหว่างเริ่มเป็นการพัฒนาอาจจะมีอาการเริ่มเป็นก้อนเนื้อในเต้านม สภาพรูปทรงเต้านมแปลก สภาพผิวหนังมีรอยบุ๋มลงไป สภาพมีสารน้ำแปลกๆไหลออกมาจากเต้านม ซึ่งหากเราตรวจสอบ ตรวจเต้านมด้วยตัวเองแล้ว พบว่าเริ่มเป็นมีสภาพผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้ชัดเจนอีกครั้ง
            สาเหตุการเกิดโรคมะเร็งเต้านม

• พบว่าผู้หญิงทีมีอายุมาก 40 ปีขึ้นไปนั้น จะปรากฏมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงอายุอื่นๆ แต่ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่อายุมากมาย 50 ปี
• พันธุกรรม หากพบว่ามีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านม จะมีความเสี่ยงมากปกติถึง 2 เท่าเลย
• สูบบุหรี่จัดๆมากในปริมาณที่ติดต่อกันมาหลายปี
• ทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานานเยอะแยะ
• คนที่มีประจำเดือนมาก่อนอายุ 12 ปีจะมีความเสี่ยงสูงมาก
• ผู้ที่มีบุตรหลังอายุ 30 ปี หรือหญิงที่ไม่เคยมีบุตรเลย

อาการของโรคมะเร็งเต้านม

• เริ่มมีสภาพก้อนเนื้อที่เต้านม ซึ่งเราตรวจได้เอง
• อาการรูปร่างของเต้านมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป
• อาการผิวหนังรอบเต้านมมีอาการผิดปกติ รอยบุ๋ม ย่น เหี่ยว
• สภาพหัวนมมีการหดตัว คัน หรือแดง ผิดจากปกติ
• รักแร้มีอาการบวม และมีสภาพต่อมน้ำเหลืองโต
• มีสภาพเจ็บที่เต้านม
• มีสภาพเลือดหรือน้ำออกจากหัวนม อย่างไม่ทราบสาเหตุ

การดูแลมะเร็งเต้านม
            ไม่พบการฟื้นฟูที่ดีที่สุดเพราะโรคนี้ไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน แต่เราสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ด้วยการหมั่นตรวจเต้านมด้วยตัวเอง หากพบสภาพผิดปกติก็ควรรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น เพื่อที่เราจะได้ดูแลได้อย่างทันท่วงทีนั้นเองค่ะ
การฟื้นฟูโรคมะเร็งเต้านม
            หากเราตรวจพบก็อาจจะต้องทำสภาพเคมีบำบัดหรือการผ่าตัด ในกรณีที่เจอเป็นระยะแรกเราสามารทานยาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งได้ แต่หากพบในชั้นที่เชื้อมะเร็งลุกลามไปทั่วเต้านมแล้วนั้นต้องทำการตัดนมทิ้งและทำการบำบัด ทำคีโม อีหลายครั้ง เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่ลุกลามไปตามท่อน้ำเหลืองของเรา การตัดเต้านมอาจจะต้องนอนโรงพยาบาลอีกหลายวันเพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อในกระแสเลือด และต้องไปพบแพทย์ทุกเดือนเพื่อรับยา และตรวจอาการอยู่เสมอ
            โรคนี้เป็นโรคอันตราย แต่สาวๆทุกคนก็สามารถตรวจสอบด้วยตัวเองได้ ไม่อยากให้สาวๆนิ่งนอนใจหมั่นตรวจเต้านมด้วยตัวเองอยู่เสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้สุขภาพดีหลากหลายขึ้นคะ
 
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็งเต้านม

ขอบคุณบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=GpapbNCxsHs[/url]

Tags : สมุนไพรรักษาโรคมะเร็งเต้านม, สมุนไพรจีนรักษาโรคมะเร็งเต้านม

โรคไขมันอุดตัน โรคอันตรายของคนสมัยใหม่
            ถ้าพูดถึงโรคนี้หลายๆคนคงคิดถึงคนอ้วนแน่นอน 55+ แต่ในความจริงแล้วคนอ้วนนั้นแค่มีความเสี่ยงเยอะแยะ กว่าคนผอมแต่คนผอมเองก็เสี่ยงเช่นเดียวกันโรคไขมันอุดตันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเรา มันเกิดขึ้นจากสภาวะที่เราบริโภคอาหารที่มีคลอเรสเตอรรอลสูงหรือโรคไขมันสูงเยอะแยะ ติดต่อกันเป็นเวลานาน จนเกิดขึ้นการสะสมของไขมันและคลอเรสเตอรอลหรือกลีเซอรรอลในปริมาณที่สูงหลากหลาย  ภาวะที่มีไขมันอุดตันจะส่งผลทำให้เราเกิดขึ้นมีความเสี่ยงเป็นโรคอื่นๆตามมาเช่น โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคตับ โรคเบาหวาน ต่างๆมากมาย  เรามาทำความรู้จักโรคไขมันอุดตันให้มากมาย กว่านี้กันนะคะ
            ต้นเหตุของโรคไขมันอุดตัน

• มีความผิดปกติทางด้านพันธุกรรม เรื่องโครโมโซม ทำให้เป็นไขมันอุดตันได้ง่ายกว่าปกติ
• กินอาหารที่มีไขมันสูงคลอเรตเตอรอลสูงหลากหลาย ปกติ กว่าปกติ กินนานติดต่อกันจนหลากหลาย เกินมาตรฐาน ไป
• โรคหรือการใช้ยาบางชนิดก็ส่งผลเสียต่อร่างกายทำให้ร่างกายขับไขมันออกได้น้อยกว่าปกติ
• ไม่ได้ออกกำลังกายเลย ร่างกายของเราจึงไม่ได้มีการเผาผลาญไขมันที่เป็นส่วนเกินปกติ ในร่างกายของเราออกไปเลย
• การดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์และสูบบุหรี่ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ก็มีความเสี่ยงสูง

อาการของโรคไขมันอุดตัน
ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีการแสดงอาการ ออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนจึงอยากแนะนำให้ผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงหมั่นไปตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นมีคลอเรสเตอรอลในเลือดสูงกว่าค่า ปกติ หรือไม่ หรือหากคุณมี อาการ ดังนี้เช่น เวียนหัวบ่อย ปวดหัว รู้สึกนอนไม่หลับ หน้ามืดบ่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยออกก็ควรไปตรวจเช็คกันบ้างนะคะ
การดูแล โรคไขมันอุดตัน

• น้อยการทานอาหารไขมันสูง หรืออาหารที่ให้พลังงานเยอะเกินปกติ กว่าที่ร่างกายต้องการ
• ลดการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ หากน้อยไม่ได้ แนะนำให้ค่อยๆลดลงไป
• หมั่นออกกำลังกายในทุกวัน วันละเล็กล่ะน้อยก็ยังดี

การปกป้อง โรคไขมันอุดตัน
จะต้องไปพบแพทย์เพื่อเจาะเลือดตรวจหาค่าไขมันในเลือดหากค่าไขมันไม่สูงจนเกินปกติ ไปแพทย์จะให้ทานน้อยอาหาร และหมั่นออกกำลังกายเสมอ แต่หากปริมาณไขมันสูงจนเกินมาตรฐาน ไปแพทย์จะให้ควบคุมอาหารลดไขมันประเภทที่มีไขมันสูงแบบเด็ดขาด และให้ยาทานที่เป็นยาลดลงคลอเรสเตอรอลในเลือดสูง ซึ่งยาเหล่านี้จะต้องทานอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในความควบคุมของแพทย์ และต้องไปหาหมอทุกเดือนๆ
โรคไขมันอุดตันแม้จะไม่เป็นโรคที่อันตรายมากมาย นัก แต่เป็นต้นเหตุของโรคอันตรายหลายๆโรคเราสามารถ ปกป้อง และลดลงได้เพียงแค่หมั่นดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาแขนชา

เครดิตบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=x2ROlDSBYro[/url]

Tags : สมุนไพรรักษาโรคแขนชา, โรคแขนชา

โรคต่อมลูกหมากโต อันตรายแค่ไหน ??
            พูดถึงโรคของคุณผู้หญิงกันไปมากแล้ววันนี้เรามาพูดถึงโรคของคุณผู้ชายกันบ้าง โรคนั้นก็คือ โรคต่อมลูกหมากโต คือภาวะที่ต่อมลูกหมากนั้นเป็นมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ต่อมลูกหมากถือเป็นอวัยวะหนึ่งในระบบสืบพันธ์ของคุณผู้ชาย  ใช้ในการสร้างน้ำอสุจิ ต่อมลูกหมากจะห่อหุ้มท่อปัสสาวะส่วนต้นเอาไว้ ดังนั้นเมื่อเป็นโรคต่อมลุกหมากโตก็จะทับหรือเบียดท่อปัสสาวะ ส่งผลให้เป็นมีอาการปัสสาวะติดขัด และในบางรายที่มีอาการต่อเนื่องก็อาจะจะทำให้เกิดขึ้นอาการปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เพราะเกิดขึ้นผนังกระเพาะปัสสาวะหนาขึ้น ทำให้เก็บปัสสาวะได้น้อยลง โรคต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่พบได้ปกติ และมักจะเป็นสัมพันธ์กับอายุ หากมีอายุ 50 ขึ้นไปถือว่ามีความเสี่ยงหนักกว่าคนปกติ
สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต
ไม่มีการตรวจพบว่าสาเหตุมาจากอะไรแต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นเป็น อายุและระดับฮอร์โมนของเพศชายก็อาจจะมีส่วนที่ทำให้โรคนี้ปรากฏขึ้น อายุที่มากขึ้น ระดับฮอร์โมนเพศก็อาจจะลดลงทำให้ระดับฮอร์โมนไม่สเถียร
สภาพของโรคต่อมลูกหมาก

• ปรากฏสภาพปัสสาวะบ่อย หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
• เกิดขึ้นสภาพปัสสาวะนาน อาการปัสสาวะอ่อน อาการปัสสาวะสะดุด ขัดเบา อาการปัสสาวะติดขัด ไม่ต่อเนื่อง
• เกิดขึ้นอาการรู้สึกปวดท้องน้อยขณะปัสสาวะ
• เริ่มเป็นสภาพมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ
• เป็นอาการปัสสาวะบ่อย หลายครั้งในตอนกลางคืน ดื่มน้ำเยอะไม่ได้ปวดปัสสาวะบ่อย

ดูแลโรคต่อมลูกหมาก
            ไม่พบว่าการปกป้องที่ดีที่สุดในการเกิดอาการโรคต่อมลูกหมากที่ดีที่สุดเลย นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายเบาๆทุกวัน งดดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ และสูบุหรี่จัดๆ
การฟื้นฟูโรคต่อมลูกหมากโต

• หากมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นที่เราต้องรักษา แต่ให้หมั่นออกกำลังกายเบาๆไปก่อน
• ไปพบแพทย์เมื่อมีสภาพต่อมลูกหมากขนาดใหญ่ มากผิดปกติ
• งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์ ในปริมาณมากเกินไป โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
• ฟื้นฟูด้วยความร้อน คือการใช้ความร้อนกับเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากเพื่อลดสภาพโตของต่อมลูกหมาก
• ปกป้องด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง เพื่อตัดเอาชิ้นเนื้อส่วนเกินออกมา
• ฟื้นฟูขยายท่อปัสสาวะให้ใหญ่ขึ้น ลดการตันของท่อปัสสาวะ

โรคนี้ไม่ใช่โรคที่อันตราย เป็นโรคที่ผู้ชายต้องเจอกันแทบทุกรายปรากฏเมื่ออายุมากขึ้น สามารถฟื้นฟูให้หายขาดได้ โดยการไปพบแพทย์ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานยาตามเวลา ไปหาหมอเพื่อตรวจสภาพหลังทำการรักษา หากไม่ดูแลในเวลาเนิ่นๆอาจจะกลายเป็นเรื้อรังและเนื้องอกอื่นๆได้ ไม่ต้องอายหากจะต้องไปพบแพทย์ เพราะในบางครั้งหากเรารักษาไม่ทันเวลานั้นเองค่ะ หมั่นรักษาสุขภาพกันมากๆนะคะทุกท่าน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาต่อมลูกหมากโต

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://www.youtube.com/watch?v=gI2pOSXaWY0[/url]

Tags : สมุนไพรรักษาโรคต่อมลูกหมากโต, รักษาโรคต่อมลูกหมากโต

สมุนไพรดีๆที่รักษาโรงมะเร็ง
ในทุก วันนี้ โรคมะเร็งถือว่าเป็นอีกโรคหนึ่งที่มีความใกล้ตัวเราอย่างมากเลยล่ะ เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ก็มีโอกาสเป็นอย่างมากกับการที่จะเป็นโรคมะเร็ง โดยไม่ว่าจะเริ่มจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปที่อาจจะมีสารเคมีตก ค้าง การสูดกลิ่นอากาศมลพิษต่างๆเข้าสู่ร่างกาย ความเครียดสะสมที่เกิดขึ้นในทุกวันของเรา การรับสารเคมีจากภายนอกเข้าสู่ร่างกายของเราด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งถ้าหากว่าเราไม่อยากให้โรคมะเร็งเกิดขึ้นกับตัวเรา เราก็ต้องดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น อย่างน้อยๆก็คือการกินสมุนไพรรักษาโรคนะ
โรค มะเร็ง เป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นและสามารถเห็นได้ชัดกับคนที่มีอายุ ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เพราะด้วยความไม่แข็งแรงของเซลล์ต่างภายในร่างกาย ทำให้เซลล์มะเร็งสามารถแสดงอาการออกมาให้เห็นได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหากใครที่ไม่ค่อยดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ รับรองว่าอายุเพียง 40 ปี ก็สามารถเป็นมะเร็งได้แล้วนะ และถ้าหากว่าเราไม่อยากกินยาหมอ หรือหาหมอก่อนวัยที่ควร ก็ควรจะดูแลตัวเองหรือเลือกรับประทานสมุนไพรรักษาโรคมะเร็งใน แต่ละวัน จะสามารถช่วยลดอัตราการเกิดได้เยอะเลยล่ะ
โดย อาการของโรคมะเร็งนั้น สามารถแสดงออกขึ้นมาได้อย่างมากมายตามบริเวณที่เกิดโรคมะเร็ง อย่างเช่นมะเร็งในกระเพาะอาหาร ที่จะแสดงอาการให้เรารู้สึกปวดท้อง ซึ่งถ้าหากว่าเราไปหาหมอแล้วรักษาตามอาการไม่หายแต่ยังพยายามที่จะรับ ประทานยาที่แรงขึ้น เพื่อที่จะระงับอาการปวดท้องลง แน่นอนว่าในไม่นานจากเซลล์มะเร็งเล็กๆที่เกิดขึ้นในกระเพาะอาหารของ เรา ก็อาจจะลุกลามมากขึ้น จนอาการเป็นมากกว่าปวดท้องแน่นอน ทางที่ดีแล้ว ถ้าหากว่าเรารักษาโรคตามอาการไม่หาย ก็ควรที่จะรีบให้หมอตรวจอย่างละเอียดจะดีที่สุด
การรักษาโรคมะเร็งนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยากสักเท่าไหร่กับเทคนิคการแพทย์ใน สมัยนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ยิ่งเจอมะเร็งไวเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากว่าเราไม่อยากให้โรคมะเร็งเกิดขึ้นกับเรา ก็ลองรับประทานสมุนไพรรักษาโรคดูสิ
การเลือกใช้สมุนไพรรักษาโรค มะเร็ง เป็นวิธีที่ดีต่อสุขภาพอย่างมากเลยล่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ได้มาจากธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียงกับร่างกายของเราแน่นอน อีกทั้งเรายังสามารถใช้สมุนไพรรักษาโรคเพื่อลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง ได้ด้วย ซึ่งสมุนไพรรักษาโรคก็มีดังนี้
ฟ้าทะลายโจร มีสารสำคัญ คือ Andrographolide สามารถหยุดเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด สมุนไพรต้านมะเร็ง
มะตูม ในบราซิลมีการใช้เพื่อรักษามะเร็งมดลูก
ขมิ้น  มีสารสำคัญ คือ Curoumin มีฤทธิ์ต้านการออกซิไดซ์ สามารถทำให้หยุดการทำงานของเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งรังไข่ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราอีกด้วย
ว่านหางจระเข้ มีสาร Aloe Emodin ที่กระตุ้น Macrophage ให้กำจัดเซลล์มะเร็ง ยังมีสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษามะเร็ง

เครดิตบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=no5N1blDyIM[/url]

Tags :  วิธีรักษาโรคมะเร็ง, สมุนไพรจีนรักษาโรคมะเร็ง

โรคอัมพฤกษ์  โรคที่เราป้องกันได้
            หากจะพูดถึงโรคนี้เราเชื่อว่าเป็นโรคที่หลายคนย่อมรู้จักกันดี โรคนี้เกิดขึ้นขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ซึ่งบางครั้งเราก็รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมคนในครอบครัวของเราถึงเป็นโรคนี้ หรือในบางครั้งเราก็ไม่รู้เลยว่า ตัวเราเองนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นเป็นอาการโรคนี้บางรึเปล่า และอาการโรคนี้ก็มักจะปรากฏขึ้นในเพียงเสี้ยววินาทีสั้นๆ เราไม่สามารถป้องกันได้เลย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าโรคนี้อันตรายแค่ไหน ดูแล หรือฟื้นฟู คนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ได้มากน้อยแค่ไหนวันนี้เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
            ต้นเหตุของโรคอัมพฤกษ์
            อย่างที่เราทราบกันว่าโรคอัมพฤกษ์นี้สาเหตุสำคัญมักจะเริ่มเป็นมาจากการที่มีโรคหลอดเลือดสมอง เป็นจากการมีไขมันเกาะอยู่ในหลอดเลือดมากเกินไป หรือมีสภาพลิ่มเลือดขนาดเล็กในหัวใจและผนังหัวใจ จึงทำให้เริ่มเป็นการไปอุดตันในหลอดเลือดบริเวณสมอง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคหัวใจมักจะมีสภาพและความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ นอกจากนี้บุคคลที่มีการปรากฏแข็งตัวของเลือดที่เร็วเกินไป หรือมีเกล็ดเลือดมากจนเกินไป จนทำให้เกิดขึ้นหลอดเลือดอุดตันได้เร็วมากขึ้นคะ
            อาการของโรคอัมพฤกษ์
            อย่างที่เรารู้อยู่แล้ว สภาพของโรคนี้มักจะมีสภาพเตือนมาเสมอ แต่ในบางครั้งที่เราไม่รู้ตัวนั้น ทำให้เราพลาดที่จะดูแลตัวนั้นเองวันนี้เราจึงมีสภาพเบื้องต้นของโรคนี้มาบอกให้ทราบกัน

• มีอาการชาครึ่งซีกของร่างกาย อาจจะด้านซ้ายหรือด้านขวา
• มีอาการอ่อนแรง สภาพแขนขาอ่อนแรง อาการพูดจาลำบากขึ้น
• มีอาการเวียนศีรษะ สภาพทรงตัวไม่ดี อาการเดินไม่ตรง
• มีอาการพูดไม่ชัด สภาพพูดไม่ออก ในทันทีเลย
• มีสภาพมองเห็นภาพซ้อน สภาพตามัว มองไม่เห็น

อาการเหล่านี้มักจะแสดงออกเป็นอาการเดียวหรือปรากฏพร้อมหลายสภาพ ซึ่งเมื่อมีสภาพดังนี้ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที
การปกป้องโรคอัมพฤกษ์
เนื่องจากโรคนี้มีสาเหตุมากจากเลือกและไขมันในเส้นเลือดเป็นหลัก สิ่งที่เราทำได้เพื่อฟื้นฟู โรคอัมพฤกษ์จึงมีเพียงการทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อ รักษาไขมันสะสมในเส้นเลือดมากเกินไป งดการทานอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณติดต่อกัน
            การดูแลโรคอัมพฤกษ์
            ส่วนใหญ่แล้วหากป่วยเป็นโรคนี้การปกป้อง ทางเดียวคือการทานยาทำการภาพบำบัดเพื่อรักษา ให้ร่างกายสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง หรือหากสภาพยังอยู่ในระยะเริ่มต้นคุณหมอจะให้ทานยาและไปพบแพทย์ทุกเดือนเพื่อตรวจอาการว่าอยู่ในระยะฟื้นฟูได้รึเปล่านะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาอัมพฤกษ์

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : [url]https://www.youtube.com/watch?v=jonuuYHuE8w[/url]

Tags :  รักษาโรคอัมพฤกษ์

โรคความดัน โรคอันตรายในทุกวัย
            โรคความดันที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ไม่ใช่โรคความดันทุรังนะคะ แต่เป็นโรคความดันโลหิต โรคที่หลายๆคนคิดว่าไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอะไร แต่ในความจริงแล้วหลายคนที่ปรากฏ อาการช๊อคเพราะความดันโลหิตขึ้นสูงหรือต่ำ เยอะแยะ กว่า มาตรฐาน และโรคนี้ก็เป็นกันได้ทุกเพศทุกวัยเลยด้วยอาจจะแตกต่างกันตามสภาพร่างกาย อาจจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือต่ำก็ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายเรามีความเสี่ยงแบบไหน แม้จะไม่ใช่โรคที่อันตรายหลากหลายนัก และก็เป็นโรคที่เราสามารถปกป้อง ได้ เรามาทำความรู้จักโรคนี้ให้หลากหลายขึ้นกันเถอะคะ
            ที่มาของโรคความดัน

• ร่างกายมีภาวะโลหิตจาง ทำให้ความเข้มข้นของเลือดน้อยลงลงทำให้ปรากฏสภาวะความดันเลือดน้อยต่ำลง
• ปริมาณน้ำหรือของเหลวในเลือดลดลงทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ลดลงลง ทำให้เป็นหัวใจเต้นช้าลดลงลง
• เกิดขึ้นการแพ้อาหาร หรือแพ้ยาบางชนิด ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวเร็วเกินไปเลือดจึงมีความดันที่ลดลงลงไป
• เป็นจากโรคหัวใจทำงานผิดปกติส่งผลให้การไหลเวียนโลหิตน้อยลงลงไป

สภาพของโรคความดัน

• มีสภาพหน้ามืด เป็นลม อาการตาลาย วิงเวียนในบ่อยครั้ง
• มีอาการคลื่นไส้ และสภาพอาเจียนบ่อยๆ
• มีสภาพมือและเท้าเย็นบ่อยครั้งเยอะแยะขึ้นเนื่องจากเลือดเดินไม่เพียงพอ
• เกิดสภาพการกระหายน้ำ ตัวแห้ง น้ำในร่างกายไม่พอหล่อเลี้ยง
• ชีพจรเบาแต่หัวใจเต้นเร็วเยอะแยะ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
• อาการหายใจเร็วและเหนื่อยง่ายหลากหลาย
• เหงื่ออกเยอะแยะกว่าปกติ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุอย่างหนัก

การดูแลโรคความดัน

• ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
• นอนหลับผักผ่อนตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
• ระมัดระวังท่าทางในการเคลื่อนที่ หรือขยับตัว อย่างลุกหรือนั่งไวจนเกินไป
• ระมัดระวังการใช้ยาต่างๆที่มีผลต่อความดันโลหิต งดการไปซื้อยามาทานเอง
• ระวังคอยควบคุมความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เกิดโรคความดัน

การฟื้นฟูโรคความดัน

• ให้ยาหรือน้ำและแร่ธาตุเพิ่มขึ้นในกรณีที่เราเป็นความดันโลหิตต่ำเพื่อปรับให้ความดันโลหิตอยู่ในเกรณฑ์มาตรฐาน
• กรณีเป็นความดันดลหิตสูงต้องทานยาต่อเนื่องเพื่อควบคุมไม่ให้ความดันโลหิตสูงเกินค่าปกติ
• ควบคุมการทานยาอย่างต่อเนื่อง และต้องมาพบหมอทุกเดือนเพื่อตรวจวัดอาการว่าคงที่หรือรุนแรงขึ้นในรายที่รุนแรงมากอาจจะต้องมานอนโรงพยาบาลจนร่างกายเข้าสู่ภาวะมาตรฐาน

โรคความดันเราสามารถป้องกันไม่ให้มันเป็นขึ้นได้โดยหมั่นดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ทานอาหารที่มีไขมันสูง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นดื่มน้ำและทานผลไม้เยอะเพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเองนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : สมุนไพรรักษาความดัน

เครดิตบทความจาก : [url]https://www.youtube.com/watch?v=VkNjRJTuzhs[/url]

Tags :  ประสบการณ์ผู้ป่วย, โรคความดัน, รักษาโรคความดัน