กระทู้ล่าสุดของ: kintoki

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / เบอร์สวยนั้น บ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง สรุปสั้นๆจากประสบการณ์ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2018, 01:36:02 pm
ทำไมต้องใช้เบอร์สวย เบอร์ดี เบอร์มงคลอะไรก็แล้วแต่

  • เบอร์สวย สามารถบ่งบอกถึงฐานะทางการเงินที่คุณสะพัดอยู่ บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ
  • เบอร์สวย เวลาพิมพ์ลงนามบัตร แล้ว มันดูสวย จำก็ง่าย เหมาะกับการนำไปใช้ทำธุรกิจ
  • เบอร์สวย มันทำให้คุณ ถูกแบ่งแยกออกจากคนธรรมดาที่อะไรก็ได้ แต่สำหรับคุณต้อง VIP เพื่อสร้างความแตกต่างจากบุคลทั่วไป
  • เบอร์สวย สามารถนำมาเป็นของขวัญสำหรับคนสำคัญของคุณ ยิ่งถ้าเป็นเบอร์ที่คู่กัน หรือ ตำแหน่งต่างกัน 1 ตัวยิ่งทำให้รู้สึกว่าให้ความสำคัญกับคนรักและดูเป็นคู่รักที่น่าอิจจฉา
  • เบอร์สวย ซื้อให้ผู้ใหญ่ดีมากๆเลย การงานคุณรุ่งแน่ๆ (สำหรับลูกน้องอยากเอาใจลูกพี่) เป็นของขวัญที่มีมูลค่าไม่เหมือนใคร
  • เบอร์สวย เพื่อธุรกิจของคุณ (เพราะลูกค้าจำง่าย) มันก็จะทำให้คนอีกกว่า 90% ที่คุณจะบอกเบอร์ให้เขาฟัง ก็จะจำง่ายตามไปด้วย มันก็จะส่งผลให้ มีการติดต่อสื่อสารที่ง่ายและมีผลประโยชน์ติดตามมาภายหลังได้
  • เบอร์สวย ซื้อไว้เก็งกำไร ไว้ขายต่อได้ เป็นการค้าชนิดหนึ่งของคนบ้านเราที่ยึดวัตถุนิยม ทั้
  • เบอร์ที่จำง่ายจำง่ายมี “ค่าทางการตลาด” แค่เฉพาะชื่อเว็บไซต์ที่เข้าๆกันอยู่นี่ คิดว่าคำที่จำง่ายมีมูลมากเช่นเดียวกัน
    และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่สามารถสื่อเป็นตัวอักษร หรือคำพูดได้


อ้างอิง   http://rsystem.org/general-news/2018157.html
2  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / การอัพไซส์ การเสริมหน้าอก การเพิ่มขนาด (ข้อควรรู้)!!!!!!!!!!!!!!! เมื่อ: กุมภาพันธ์ 14, 2018, 11:58:44 am
หน้าอกหรือนมนั้นถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญส่วนหนึ่งของร่างกายโดยเฉพาะสาวๆ   ใครๆก็อยากมีหน้าอกที่ใหญ่กันทั้งนั้น เพราะทำให้เรามีความมั่นใจ ใส่เสื้อผ้าตัวไหนก็สวย แถมดูเซ็กซี่อีกต่างหาก ซึ่งปัจจุบันนี้การเสริมหน้าอกก็ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ใครๆก็สามารถทำได้ ถ้ามีเงินเพียงพอ แถมตอนนี้บางคลินิกยังมีโปรโมชั่นผ่อนจ่ายแบบ 0 % อีกด้วย จึงทำให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นอีกและคลินิกเสริมหน้าอกก็มีผุดขึ้นมารองรับกับการทำสวยของสาวๆกันเยอะมาก วันนี้จึงจะมาแนะนำการเตรียมตัวก่อน-หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอกให้กับเพื่อนๆที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกของตัวเองกัน ไปศึกษาและปฏิบัติกันเลย

ข้อห้ามสำหรับคนคิดที่จะเสริมหน้าอก คนที่เป็นโรคมะเร็งหรือคนที่ครอบครัวมีประวัติการเป็นมะเร็งมาก่อน คนที่มีอาการติดเชื้อบริเวณใดๆของร่างกาย หมอไม่ให้ทำเด็ดขาดเพราะการผ่าตัดอาจมีผลต่อการติดเชื้อหรือโรคทำให้เสียชีวิตได้ คนที่ตั้งท้องและกำลังให้นมลูกก็ไม่แนะนำให้ทำการเสริมหน้าอกด้วยเช่นกัน เพราะมีความเสี่ยงต่อเด็ก อายุก็เป็นสิ่งสำคัญในการผ่าตัดเสริมหน้าอก อายุที่เหมาะสมสำหรับการเสริมหน้าอกคือต้องมีอายุอย่างน้อย 22 ปีขึ้นไป ถ้าน้องๆคนไหนอายุยังไม่ถึง ก็รอให้อายุถึงเกณฑ์ซะก่อนเพราะช่วงอายุต่ำกว่า 22 ปี เป็นช่วงที่หน้าอกและร่างกายยังเจริญไม่เต็มที่ หมอส่วนใหญ่จึงไม่แนะนำให้ทำ แต่หากเพื่อนๆไม่มีโรค ไม่ได้ตั้งท้องและอายุถึงเกณฑ์ตามที่กล่าวมาข้างต้นก็สามารถทำได้ตามปกติ

การเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก ต้องมีการเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อให้การผ่าตัดเสริมหน้าอกสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยด

1.ถามตัวเองให้แน่ใจว่าอยากผ่าตัดเสริมหน้าอกจริงๆหรือไม่ เพราะการเสริมหน้าอกนั้นเป็นการผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย เพื่อนๆจะรับได้หรือไม่กับการที่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย และการเสริมหน้าอกนั้น ถ้าใครโชคดีทำครั้งเดียวสวย ได้อย่างใจต้องการก็โอเคโชคดีไป แต่บางคนก็เฟลกับการเสริมหน้าอก ไม่ใช่แบบที่ตัวเองต้องการหรือต้องการมาเพิ่มขนาดทีหลังตอนที่ผ่าตัดไปแล้ว ก็ต้องกลับมาแก้ใหม่ ซึ่งก็ต้องเจ็บตัวอีกรอบ บางคนเลือกทำคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เกิดการติดเชื้อหรืออยู่ๆก็อยากเอาออกแบบดื้อๆ ก็ต้องมาผ่าตัดเอาซิลิโคนออกอีก เจ็บตัวไปอีก ดังนั้นเพื่อนๆต้องมีความมั่นใจกับการผ่าตัด ถ้าคิดว่าพร้อม มั่นใจ ก็ลงมือหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมหน้าอก และหาหมอผ่าตัดฝีมือดีๆได้เลย

2.ก่อนที่จะทำการผ่าตัดเสริมหน้าอก เชื่อว่าใครๆก็คงมีอาการตื่นเต้น วิตกกังวลกับการผ่าตัดเป็นธรรมดา ดังนั้นเพื่อนๆควรจะทำจิตใจให้ผ่อนคลาย สงบ ไม่เครียด เพราะไม่อย่างนั้นจะ
ทำให้ความดันขึ้นได้

  • ควรให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอก เพื่อเช็กว่าเราพร้อมสำหรับการผ่าตัดมากแค่ไหน
  • งดน้ำและอาหารเป็นเวลา 6 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  • งดแอลกอฮอล์เด็ดขาด เป็นเวลาอย่างน้อย 5 วัน
  • งดการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์
  • งดยาแก้ปวด วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ หรือยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวมและอาการติดเชื้อหลังผ่าตัด

ขอบคุณที่มา [url=http://rsystem.org/physician/201810.html]http://rsystem.org/physician/201810.html
3  พูดคุยทั่วไป / พูดคุยทั่วไป / ++++เศษหิน ก้อนกรวด หินก้อนใหญ่ เชื่อหรือไม่ ว่าสามารถนำมาเสริมดวงคุณได้++++ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 13, 2018, 04:08:22 pm
ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว ห้วงเวลานี้นอกจากจะเป็นห้วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ห้วงเวลาแห่งการรื่นเริง ยังเป็นห้วงเวลาของการมอบของขวัญให้แก่กัน แต่จะเลือกอะไรดีล่ะ โดยเฉพาะกับปีนี้ที่ใครๆ ก็ย้ำนักย้ำหนาว่า เผาจริง เดินเลือกหาอยู่นานก็มาพบกับ “ตัวเลือก” หนึ่งที่กำลังอยู่ในกระแสความนิยม นั่นคือ “หิน” ถ้าเป็นเมื่อก่อนอาจจะบอกว่า ให้หินแทนความหนักแน่น แต่มาถึงยุคนี้ หิน มีความหมายมากกว่านั้น “หิน” เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคล เป็นเสมือนขุมพลังของผู้สวมใส่ ที่วันใดเมื่อเจ้าตัวมีพลังเหลือเฟือจะส่งไปกักเก็บอยู่ภายในหิน ต่อเมื่อถึงคราวที่อ่อนเปรี้ย เพลียแรง หรือเครียดๆ พลังจากหินจะส่งกลับมาให้กับผู้สวมใส่ นอกจากนี้ยังเชื่อว่า พลังจากหินสามารถช่วยบำบัดรักษาโรคได้อีก บางคนอาจจะมองว่าเพราะคนยุคนี้ขาดที่พึ่งทางใจ จึงเพียรหาอะไรที่สามารถเป็นที่พักพิงให้กับจิตใจที่กำลังอ่อนแอ สับสนวุ่นวาย หรืออย่างน้อยก็ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับตน ถ้าว่ากันตามหลักการ เรื่องนี้ก็มีเหตุผลรองรับอยู่ อย่างในศาสตร์ของจีนโบราณ มีการใช้หินเพื่อการบำบัดโรคมานานแล้ว หรือในอียิปต์โบราณ กรีก และประเทศในเอเชียตะวันออกหลายแห่ง มีหลักฐานแสดงถึงการนำหิน มาใช้ในการรักษา หลักฐานเก่าแก่ที่กล่าวอ้างถึงการรักษาสุขภาพ ปรากฏอยู่บนกระดาษปาปิรุสของอียิปต์ อายุราว 1,500 ปีก่อนคริสตกาล เขียนถึงการรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ หนึ่งในนั้นมีวิธีการใช้หินและรัตนชาติเพื่อการบำบัดอยู่ด้วย ดูดวงด้วยหินสีได้รวมทั้งการใช้หินเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องสำอาง



เช่น พระนางคลีโอพัตราที่นิยมนำหินสีเขียวมาบดละเอียดทำเครื่องสำอางทาเปลือกตา หิน จึงเป็นคำตอบ แต่การจะเลือกซื้อหินชนิดไหน อย่างไร ก็มีหลักการอยู่เช่นกัน ขึ้นกับชนิดและสีของหินด้วย อาทิ “สีเขียว” เชื่อว่านอกจากจะทำให้จิตใจสงบ นอนหลับสบาย ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล “สีน้ำเงิน” ให้ความสดชื่น ร่าเริง “สีขาว” ลดความวิตกกังวล ช่วยให้การทำงานของไตมีความสมดุล “สีแดง” กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต “สีเหลือง” เสริมภูมิคุ้มกัน “สีดำ” ลดอาการเจ็บปวด ฯลฯ ดร.พิมพ์อุไร ลิมปพัทธ์ แห่ง “เดอะ บีด คลับ” (The Bead Club) ผู้ที่หลงใหลเสน่ห์ของหินและลูกปัด เล่าให้ฟังว่า หินนั้นถือเป็นสิ่งมีค่ามาแต่สมัยโบราณ และใช้เป็นเครื่องบรรณาการมาแต่อดีต “เวลาที่ฝรั่งพูดถึง “หิน” จะหมายรวมไปถึงเพชรด้วย แต่คนไทยจะแบ่งลักษณะความมีค่าเป็นหินรัตนชาติ และความนิยม ความนิยมของหินจะขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละประเทศ เช่น ประเทศเปรูจะนิยมหินสีดำที่ได้จากพื้นดินที่ดำสนิทเท่านั้น ถือว่าหมายถึงความมั่นคงของประเทศของเขา ลักษณะของหินที่ว่าจะคล้ายกับหินภูเขาไฟ ยิ่งมีรูพรุน มีการกัดเซาะของน้ำ-ลม ยิ่งสื่อถึงความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมของเขา ส่วนใหญ่จะใช้ในการรักษาโรค รวมทั้งเป็นเครื่องประดับ หรืออย่างในมลรัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา  ดูดวงด้วยหินสีได้ จะมองว่าเทอร์คอยซ์เป็นผืนฟ้าของเขา จึงนับถือเป็นที่สุด”



ดร.พิมพ์อุไร บอกอีกว่า แต่โบราณกาลหินเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานภาพของผู้สวมใส่ว่าอยู่ในระดับใดอย่าง ที่ประเทศทิเบตจะมีหินอยู่ 3 อย่างที่ใครมีไว้ในครอบครอง หมายถึงการเป็นผู้ที่มีสถานภาพทางสังคมที่สูง อย่างน้อยอยู่ในระดับเสนาบดี หินทั้ง 3 ชนิดนั้นก็คือ เทอคอยซ์ อำพัน และปะการัง ในวันที่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จมาเยือนประเทศไทย จะเห็นว่าแม้แต่เจ้าหญิงของภูฏานก็จะสวมหินทั้งสามชนิดนี้ 1.ไทเกอร์ อายส์ 2.โกเมน 3.อำพัน 4.แจ๊สเปอร์ 5.โรส ควอทซ์ 6.อาเกต 7.โรโดโครไซด์ ในประเทศไทยเอง เมื่อก่อนก็นิยมเครื่องประดับอัญมณีที่เรียกว่า “นพเก้า” ประกอบด้วย เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม โกเมน นิล มุกดา เพทาย และไพฑูรย์ มาทำเป็นหัวแหวน จี้สร้อยคอ และต่างหู สวมใส่กันเป็นชุดใหญ่ สำหรับการใช้หินเพื่อการบำบัดเพิ่งจะแพร่หลายกันมาไม่นาน แต่ความเชื่อในด้านโชคลาง สวมใส่เป็นเครื่องประดับแล้วจะส
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย