กระทู้ล่าสุดของ: one1s5c8666

Advertisement


  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / Re: ขิง เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อ: สิงหาคม 31, 2018, 09:45:32 am
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณที่น่าทึ่ง
2  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณ-ประโยชน์อย่างน่าทึ่ง เมื่อ: สิงหาคม 20, 2018, 03:56:16 pm
[/b]
เหงือกปลาหม[/size][/b]
รักษาโรคผิวหนัง ผื่นคัน ขี้กลากเกลื้อน
ชื่ออื่น : แก้มแพทย์ แก้มแพทย์เล จะเกร็ง นางเกร็ง อีเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน
ในตำราเรียนยาไทยกล่าวว่า เหงือกปลาหมอสามารถแก้โรคผิวหนังได้ทุกประเภท
ในเมื่อ[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลา
หมอมีสรรพคุณเด่นแก้น้ำเหลืองเสียได้ โรคผิวหนังต่างๆแม้แต่ โรคอีสุกอีใส ที่เกิดขึ้นมาจากเชื้อไวรัสก็จะบรรเทาเบาบางลง
สมุนไพร เหงือกปลาหมอเป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลางสูงประมาณ 1-2 เมตร ส่วนของลำต้นและก็ใบจะมีหนามมีหนาม ใบหนามแข็งและมีขอบเว้าหนามแหลมใบออกเป็นคู้ตรงกันข้ามกัน ส่วนของดอกจะออกเป็นช่อตามยอด กลีบดอกไม้จะมีสีขาอมม่วง มี 4 กลีบแยกจากกันผลเป็นฝักสีน้ำตาล มี เม็ด จะสามารถพบได้มากตามชายน้ำ ริมฝั่งคลองรอบๆปากแม่น้ำ
ในกรณีโรคผิวหนังพุพองจากเชื้อไวรัสเอดส์ แม้ว่าจะรุนแรงกว่าโรคผิวหนังทั่วไป แม้กระนั้นเมื่อใช้เหงือกปลาแพทย์เป็นทั้งยังยากินรวมทั้งต้มน้ำอาบต่อเนื่องกันเป็นเวลานานกว่า 3 เดือนขึ้นไป แผลพุพอง ก็จะเบาลงลงอย่างเห็นได้ชัด สำหรับผู้ป่วยโรคผิวหนังด้วย
วิธีปรุงยาและก็วิธีใช้ยาก็มีหลายวิธี คือ
วิธีต้มยารับประทานรวมทั้งอาบ
เอาเหงือกปลาหมอสดหรือแห้งสับเป็นท่อนเล็กๆใส่เต็มขันขนาด 1 ลิตร ใส่น้ำ 4 ขัน ต้มยาให้เดือดนาน 10 นาที ตักน้ำยาขึ้นมา 1 แก้ว แบ่งไว้สำหรับดื่มรับประทานขณะอุ่นๆครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก่อนอาหาร
ส่วนน้ำยาที่แบ่งไว้อาบนั้น ต้องใช้อาบขณะน้ำยายังอุ่นอยู่ ก่อนอาบน้ำจำเป็นต้องชำระล้างร่างกายด้วยสบู่ให้สะอาดซะก่อน เมื่ออาบน้ำยาแล้ว ไม่ต้องอาบน้ำปกติตามอีก อาบน้ำยาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นทีละ 3-4 ขัน แต่ว่าหากมีเหงือกปลาหมอไม่น้อยเลยทีเดียว บางครั้งก็อาจจะต้มยาเพื่อแช่หมดทั้งตัวในอ่างก็ยิ่งดี
กระบวนการทำเป็นยาลูกกลอน
เหงือกปลาหมอ[/url]อีกทั้ง 5 ทีตากแห้งมาบดเป็นผงละเอียด 2 ส่วน ผสมน้ำผึ้งแท้ 1 ส่วน ปั้นเป็นเม็ดลูกกลอนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. คนแก่รับประทานครั้งละ 2 เม็ด เด็กอาจจะกินครั้งละ 1 เม็ดหรือครึ่งเม็ดตามขนาดอายุและน้ำหนัก รับประทานวันละ 2 ครั้ง ก่อนที่จะกินอาหาร ตอนเช้า-เย็น กินไปเรื่อยจวบจนกระทั่งจะหาย แม้กระนั้นถ้าเป็นโรคผิวหนังจากภูมิต้านทานผิดพลาดก็จะต้องรับประทานตลอดกาล
[/b]
วิธีทำเป็นแคปซูล
นำผงเหงือกปลาหมอที่ผ่านการบินเป็นผงละเอียดเสมือนแป้งบรรจุแคปซูลขนาด 250 มก. คนแก่รับประทานทีละ 2 แคปซูลวันละ 2-3 เวลาก่อนอาหาร เด็กลดน้อยลงตามส่วน
เหงือกปลาแพทย์มีสรรพคุณล้นหลาม ตัวอย่างเช่น
-ราก มีคุณประโยชน์ในการแก้โรคหืด อัมพาต แก้ไอ รวมทั้งใช้ขับเสลด
-ต้น มีคุณประโยชน์รักษาโรคหลายอย่าง โดยใช้ต้นตำผสมน้ำกินรักษาวัณโรค อาการผอมแห้งแรงน้อย หากใช้ทาก็ช่วยแก้โรคเหน็บชาได้
-ลำต้น ไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆก็จะได้คุณประโยชน์ทางยาแตกต่างกันออกไปอีก
-อีกทั้งต้นรวมรากต้มอาบแก้พิษไข้หัวลม แก้โรคผิวหนังทุกชนิด
-ทั้งยังต้นสดตำพอกปิดหัวฝีแผลเรื้อรังถอนพิษ ต้มกินแก้พิษโรคฝีดาษ ฝีทั้งมวล ผลรับประทานเป็นยาขับเลือดประจำเดือน ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากตาเจ็บ ตาแดง เอา
"เหงือกปลาหมอ" อีกทั้งต้นตำกับขิงคั้นเอาน้ำหยอดตาหาย เป็นเหน็บชา ชาทั้งตัว
- ต้นตำทาบริเวณที่เป็นจะดีขึ้น
- ตำเอาน้ำดื่มกากพอก งูกัด
- ต้นกับขมิ้นอ้อยตำทาป็นฝีฟกบวม เป็นริดสีดวงทวาร
- ต้นตำกับขิงรับประทาน โรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ไม่สบายจับสั่น
- ทั้งยังต้นตำใบส้มป่อยต้มดื่ม เจ็บหลัง เจ็บเอว
- "เหงือกปลาหมอ" กับชะเอมเทศตำผงละลายน้ำผึ้งปั้นเป็นก้อนกิน ริดสีดวงแห้ง
ในท้อง ผอมเกร็งเหลืองทั้งตัว รับประทานทุกวัน
- "เหงือกปลาหมอ" กับเปลือกมะรุมเท่ากันใส่หม้อ เกลือนิดหน่อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ ใช้ฟืน 30 แท่ง ต้มกับน้ำจนถึงเดือดให้งวดจึงชูลง กลั้นหายใจกินขณะอุ่นจนถึงหมด เป็นริดสีดวง มือตายตีนตาย ร้อนทั้งตัว มึนหัว ตามัว เจ็บระบมหมดทั้งตัว ตัวแห้ง จะหายได้
- "เหงือกปลาแพทย์"  5 รวมราก กับ อาหารเย็นเหนือ อาหารมื้อเย็นใต้ ปริมาณเท่ากัน กะตามอยาก ต้มกับน้ำจนเดือดดื่มขณะอุ่นครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา รุ่งเช้า ตอนกลางวัน เย็น ต้มดื่มปอดเริ่มมีปัญหาเป็นฝ้าจะอาการดียิ่งขึ้น ไปให้หมอเอกซเรย์ปอดไม่เป็นฝ้าอีกหยุดต้มกินได้เลย แล้วก็ต้องระวังอย่าให้เป็นอีก
ยาอายุวรรฒนะ
- "เหงือกปลาหมอ" 2 ส่วน พริกไทย 1 ส่วน ทำเป็นผงละลายน้ำผึ้งปั้นรับประทานวันแล้ววันเล่า
กินได้ 1 เดือน ไม่มีโรค สติปัญญาดี
กินได้ 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง
กินได้ 3 เดือน โรคริดสีดวงทุกประเภทหาย
กินได้ 4 เดือน แก้ลม 12 ชนิด หูไว
กินได้ 5 เดือน หมดโรค
กินได้ 6 เดือน เดินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
กินได้ 7 เดือน ผิวงาม
กินได้ 8 เดือน เสียงน่าฟัง
กินได้ 9 เดือน หนังเหนียว
-"เหงือกปลาหมอ" 1 ส่วน ดีปลี 1 ส่วน ทำผงชงรับประทานกับน้ำร้อนถ้าหากผิวแตกทั้งตัวหายได้ ทั้งหมดทั้งปวงที่บอกเป็นตำรายาโบราณ ไม่เชื่อก็ไม่สมควรลบหลู่ดูหมิ่น รู้ไว้เป็นวิชา http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
3  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / สมุนไพรเหงือกปลาหมอ - ฐานข้อมูลสมุนไพร เมื่อ: สิงหาคม 20, 2018, 10:49:36 am
[/b]
เหงือกปลาหม[/size][/b]
เหงือกปลาหมอ ชื่อสามัญ Sea holly, Thistleplike plant
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]เหงือกปลาหมอ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Acanthus ebracteatus Vahl (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Acanthus ilicifolius Lour., Acanthus ilicifolius var. ebracteatus (Vahl) Benoist, Dilivaria ebracteata (Vahl) Pers.) จัดอยู่ในวงศ์เหงือกปลาหมอ(ACANTHACEAE)
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ มีชื่อเขตแดนอื่นๆว่า แก้มหมอ (จังหวัดสตูล), แก้มหมอเล (กระบี่), อีเกร็ง (ภาคกลาง), นางเกร็ง จะเกร็ง เหงือกปลาหมอน้ำเงิน เป็นต้น
เหงือกปลาหมอมีอยู่ด้วยกัน 2 สายพันธุ์เป็นประเภทที่เป็นดอกสีม่วง (Acanthus ilicifolius L.) ที่มักพบทางภาคใต้ และก็จำพวกที่เป็นดอกสีขาว (Acanthus ebracteatus Vahl) ที่มักพบทางภาคกึ่งกลางแล้วก็ภาคตะวันออก รวมทั้งเป็นพรรณไม้ที่ลือชื่อของจังหวัดสมุทรปราการ
เหงือกปลาแพทย์ สมุนไพรใกล้ตัวหรือบางทีอาจจะเรียกว่าเป็นสมุนไพรชายน้ำหรือชายเลนก็ได้ สามารถนำคุณประโยชน์ทางยามาใช้ในการรักษาโรคได้หลายแบบ ที่โดดเด่นมากมายก็คือการนำมารักษาโรคผิวหนังได้ดูเหมือนจะทุกชนิด แก้น้ำเหลืองเสีย และก็การนำมาใช้รักษาริดสีดวงทวาร ฯลฯ โดยส่วนที่ประยุกต์ใช้เป็นยาสมุนไพรก็ได้แก่ ส่วนลำต้นทั้งยังสดแล้วก็แห้ง ใบทั้งยังสดรวมทั้งแห้ง ราก เมล็ด รวมทั้งทั้งต้น (ส่วนทั้งยัง 5 ประกอบไปด้วย ต้น ราก ใบ ผล เม็ด)
ลักษณะของเหงือกปลาหมอ
ต้นเหงือกปลาแพทย์ เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 1-2 เมตร ลำต้นแข็ง มีหนามอยู่ตามข้อของลำต้น ข้อละ 4 หนาม ลำต้นกลม กลวง ตั้งตรง มีสีขาวอมเขียว ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณ 1.5 เซนติเมตร แพร่พันธุ์ด้วยแนวทางเพาะเมล็ดรวมทั้งการใช้กิ่งปักชำ เป็นพรรณไม้ที่มักขึ้นที่โล่งแจ้ง เติบโตก้าวหน้าในที่ร่มรวมทั้งในที่ที่มีความชุ่มชื้นสูง ชอบขึ้นตามชายน้ำหรือบริเวณริมฝั่งคลองรอบๆปากแม่น้ำ อาทิเช่น บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งทิศตะวันออกเหนือปากคลองมหาวงก์ และที่โรงเรียนนายเรือ เป็นต้น
ต้นเหงือกปลาหมอ
ใบเหงือกปลาหมอ ใบเป็นใบโดดเดี่ยว รูปแบบของใบมีหนามคมอยู่ริมขอบใบและก็ปลายใบ ขอบใบเว้าเป็นระยะๆผิวใบเรียบเป็นเงาลื่น แผ่นใบสีเขียว เส้นใบสีขาว มีเหลือบสีขาวเป็นแนวก้าง เนื้อใบแข็งและเหนียว ใบกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร และยาวราว 10-20 เซนติเมตร ใบจะออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ก้านใบสั้น
ใบเหงือกปลาหมอ
ดอกเหงือกปลาหมอ มีดอกเป็นช่อตั้งตามปลายยอด ยาวราว 4-6 นิ้ว ดอกมีอีกทั้งจำพวกดอกสีม่วง (หรือสีฟ้า) รวมทั้งประเภทดอกสีขาว ที่ดอกมีกลีบรองดอกมี 4 กลีบ กลีบแยกจากกัน บริเวณกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้รวมทั้งเกสรตัวเมียอยู่
ดอกเหงือกปลาหมอ
สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
ผลเหงือกปลาหมอ รูปแบบของผลเป็นฝักสีน้ำตาล รูปแบบของฝักเป็นทรงกระบอก รูปไข่ หรือกลมรี ยาวประมาณ 2-3 ซม. เปลือกฝักมีสีน้ำตาล ปลายฝักป้าน ภายในฝักมีเมล็ด 4 เม็ด
คุณประโยชน์ของเหงือกปลาหมอ
ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้อายุยืน สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง เลือดลมไหลเวียนดี เส้นเลือดไม่ตัน บำรุงผิวพรรณ ด้วยการใช้ทั้งต้นเหงือกปลาหมอนำมาตำผสมกับพริกไทยในอัตราส่วน 2:1 แล้วคละเคล้าผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นยาลูกกลอน ว่ากันว่าหากรับประทานติดต่อกัน 1 เดือน จะมีผลให้ปัญญาดี ไม่มีโรค / 2 เดือน ผิวหนังเต่งตึง / 3 เดือน ทำให้ริดสีดวงหาย / 4 เดือน ช่วยแก้ลม 12 พวก หูไว / 5 เดือน หมดโรค / 6 เดือน ทำให้เดินไม่เคยรู้เหนื่อย / 7 เดือนผิวสวย / 8 เดือน เสียงไพเราะเพราะพริ้ง / 9 เดือน หนังเหนียว (ทั้งต้น, ราก)
เหงือกปลาหม[/b]มีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาท (ราก)
ช่วยรักษาอาการธาตุเปลี่ยนไปจากปกติ (ทั้งต้น)
ช่วยทำให้เลือดลมเป็นปกติ (อีกทั้งต้น)เหงือกปลาหมอขาว
ช่วยให้เจริญอาหาร (ทั้งยังต้น)
ช่วยแก้โรคกระษัย อาการผอมแห้งแรงน้อยเหลืองตลอดตัว ด้วยการใช้ทั้งยังต้นของเหงือกปลาหมอนำมาตำเป็นผุยผงกินทุกๆวัน (ต้น)
ช่วยแก้อาการร้อนทั้งตัว เจ็บระบบหมดทั้งตัว ตัวแห้ง เวียนหัว หน้ามืดตามัว มือตายตีนตาย ด้วยการใช้ต้นของเหงือกปลาหมอรวมทั้งเปลือกมะรุมอย่างละเท่ากัน ใส่หม้อต้มผสมกับเกลือเล็กน้อย หมาก 3 คำ เบี้ย 3 ตัว วางบนปากหม้อ แล้วใช้ฟืน 30 ดุ้น ต้มกับน้ำเดือดจนงวดแล้วชูลง เมื่อเสร็จให้อั้นลมหายใจรับประทานขณะอุ่นๆจนหมด อาการก็จะดีขึ้น (อีกทั้งต้น)ช่วยยับยั้งมะเร็ง ต้านทานมะเร็ง (อีกทั้งต้น)
ช่วยรักษาอาการปอดอักเสบ ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอต้นแล้วก็อาหารมื้อเย็นเหนือ อาหารมื้อเย็นใต้ในสัดส่วนที่เท่ากัน นำมาต้มกับน้ำจนกระทั่งเดือดแล้วเอามาดื่มในขณะอุ่นๆครั้งละ 1 แก้ว เช้าตรู่ ช่วงเวลากลางวัน เย็น อาการจะ (ทั้งยังต้น)
รักษาปอดบวม ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ใบ)
ต้นมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยแก้ลักษณะของการปวดหัว (ต้น)
รากช่วยแก้และก็ทุเลาอาการไอ หรือจะใช้เม็ดนำมาต้มดื่มแก้อาการไอก็ได้เช่นกัน (ราก, เม็ด)
ช่วยแก้หืดหอบ (ราก)
ช่วยรักษาวัณโรค ด้วยการใช้ต้นเอามาตำผสมเป็นน้ำดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้ลักษณะของการเจ็บตา ตาแดง ด้วยการใช้เหงือกปลาหมอทั้งยังต้นนำมาตำผสมกับขิง คั้นเอาแต่น้ำใช้หยอดตาแก้อาการ (ทั้งต้น)
ใบช่วยแก้ไข้ (ใบ)
ช่วยแก้ไข้จับสั่น ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเหงือกปลาหมอมาตำผสมกับขิง (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้พิษไข้หัว ด้วยการใช้ทั้งต้นและก็รากเอามาต้มอาบแก้อาการ (ทั้งต้น)
แก้อาการไอ เมล็ดใช้ผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด นำมาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากินเป็นยาแก้ไอ (เม็ด)
ช่วยขับเสลด (ราก)
หากเป็นลมเป็นแล้ง ให้ใช้ต้นเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / พริกไทย 2 ส่วน ผสมรวมกัน ตำอย่างรอบคอบเป็นผุยผงแล้วนำมาละลายน้ำร้อนดื่ม (ต้น)
ช่วยแก้โรคกระเพาะ ด้วยการใช้ทั้งต้นรวมทั้งพริกไทย (10:5 ส่วน) ตำผสมปั้นเป็นยาลูกกลอน (ต้น)
[url=http://www.disthai.com/16910138/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%AD]

ช่วยขับพยาธิ (เมล็ด)
ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้ต้นเหงือกปลาหมอกับขมิ้นอ้อย เอามาตำละลายกับน้ำแล้วทาบริเวณที่เป็นริดสีดวง หรือจะใช้ปรุงกับฟ้าทะลายขโมย ใช้รมหัวริดสีดวงก็ได้ (ต้น, ใบ)
ช่วยขับเยี่ยว ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่เจาะจงส่วนที่ใช้)
ช่วยรักษามุตกิดตกขาว ตกขาวของสตรี ด้วยการกางใบและต้นเอามาตำเป็นผุยผง ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมันงา ปั้นเป็นยาลูกกลอนกินแก้อาการ (ต้น, ใบ, ราก)
ช่วยแก้ระดูมาไม่เป็นปกติของสตรี ด้วยการใช้ทั้งยังต้นเอามาตำผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมันงา (ทั้งต้น)
ช่วยรักษานิ่วในไต ด้วยการกางใบเอามาต้มเป็นน้ำดื่ม (ใบ)
ช่วยแก้ไตพิการ ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่ระบุส่วนที่ใช้)
ผลช่วยขับเลือด หรือจะใช้เมล็ดผสมกับดอกมะเฟือง เปลือกอบเชย น้ำตาลกรวด เอามาต้มรวมกันแล้วมัวแต่น้ำมากิน หรือใช้ต้น 10 ส่วนรวมทั้งพริกไทย 5 ส่วน ผสมทำเป็นยาลูกกลอนกินก็ได้ (เม็ด, ผล, ต้น)
ช่วยฟอกโลหิต ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (ไม่กำหนดส่วนที่ใช้)
แก้พิษเลือด ข้อมูลนี้ยังไม่น่าเชื่อถือ* (เปลือกต้น)
ช่วยสมานแผล ด้วยการใช้อีกทั้งต้นเอามาตำผสมกับหัวสามสิบ ในอัตราส่วน 2:1 (ทั้งต้น)
ต้นเหงือกปลาหมอมีคุณประโยชน์ช่วยรักษาแผลพุพอง (ต้น)
ใบมีรสเค็มกร่อย สรรพคุณช่วยรักษาแผลอักเสบ (ใบ)
ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย ด้วยการใช้ต้น 3-4 ต้น เอามาหั่นเป็นชิ้น แล้วต้มน้ำอาบแก้อาการ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
สำหรับผู้ป่วยเอดส์ที่มีแผลพุพองตามผิวหนัง ถ้าเกิดใช้ต้นมาต้มอาบและทำเป็นยารับประทานต่อเนื่องกันประมาณ 3 เดือนจะช่วยให้ลักษณะของแผลพุพองทุเลาลงอย่างแจ่มแจ้ง (ต้น)
ช่วยรักษาโรคผิวหนังหรือประป่า รักษาขี้กลากโรคเกลื้อน อีสุกอีใส (ใบ)
ช่วยรักษาโรคเรื้อน โรคกุฏฐัง ด้วยการใช้ทั้งยังต้นนำมาตำเอาแต่น้ำดื่ม (อีกทั้งต้น)
ช่วยแก้ผดผื่นคันตามร่างกาย ใช้ล้างแผลเรื้อรัง ด้วยการใช้ต้นสดและก็ใบสดล้างสะอาดราวๆ 3-4 กำมือ เอามาสับแล้วต้มกับน้ำอาบแก้ผื่นคันติดต่อกัน 3-4 ครั้ง (ต้น, ใบ)
เหงือกปลาหมอมีสรรพคุณทางยาช่วยแก้ลมพิษ (ต้น)
รากสดเอามาต้มเอาแต่น้ำ ใช้ดื่มเป็นยารักษาโรคงูสวัดได้ (ราก)
ช่วยรักษาฝี ฝีเรื้อรัง แผลฝีหนอง โรคฝีดาษ ตัดรากฝี แก้พิษฝีทุกประเภทอีกทั้งข้างในภายนอก ด้วยการใช้ต้นรวมทั้งใบทั้งยังสดและแห้งประมาณ 1 กำมือ เอามาบดให้ละเอียด แล้วเอามาพอกบริเวณที่เป็นฝี หรือวิธีที่สองจะนำมาสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมแล้วต้มในน้ำเดือดทิ้งไว้ 10 นาที แล้วเอามาดื่มก่อนที่จะรับประทานอาหารทีละครึ่งแก้ว วันละ 3 ครั้ง โดยประมาณ 2-3 อาทิตย์ หรือจะใช้เมล็ดนำมาคั่วให้ไหม้เกรียมแล้วป่นให้ถี่ถ้วน ชงกับน้ำกินเป็นยาแก้ฝีก็ได้ (ต้น, ใบ, เมล็ด)
เมล็ดใช้ปิดพอกฝี (เม็ด)
ผลมีรสเผ็ดร้อน คุณประโยชน์ช่วยทำลายพิษ (ผล, ต้น)
ใบสดนำมาตำอย่างถี่ถ้วน สามารถใช้พอกรอบๆแผลที่ถูกงูกัดได้ (ใบ)
ช่วยแก้ผิวแตกหมดทั้งตัว ด้วยการใช้อีกทั้งต้นของเหงือกปลาหมอ 1 ส่วน / ดีปลี 1 ส่วน ใช้ผสมกันบดให้เป็นผุยผงชงกับน้ำร้อนดื่มแก้อาการ (ทั้งต้น)
ต้น หากประยุกต์ใช้จะช่วยแก้โรคเหน็บชา อาการชาหมดทั้งตัวได้ (ต้น)
รากมีสรรพคุณช่วยแก้อัมพาต (ราก)
แก้ลักษณะการเจ็บข้างหลังเจ็บเอว ด้วยการใช้ต้นกับชะเอมเทศเอามาบดเป็นผง ผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอนกิน (ต้น)
ใบใช้เป็นยาประคบแก้ไขข้ออักเสบและแก้ลักษณะของการปวดต่างๆ(ใบ)
ช่วยบำรุงรากผม ด้วยการใช้น้ำคั้นจากใบนำมาทาให้ทั่วหัว จะช่วยบำรุงรากผมได้ (ใบ)
ประโยชน์ที่ได้รับมาจากเหงือกปลาหมอ
ในขณะนี้สมุนไพเหงือกปลาหมอ[/url]มีการนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นยาแคปซูลสมุนไพร (เหงือกปลาหมอแคปซูล) หรือเป็นยาชงสมุนไพร (เหงือกปลาหมอผงสำเร็จรูป) หรือในรูปแบบของยาเม็ด
นอกเหนือจากการใช้เป็นยาสมุนไพรที่ใช้สำหรับการอบตัวหรืออบด้วยละอองน้ำ สมุนไพรเหงือกปลาหมอยังใช้เป็นส่วนผสมสำหรับเพื่อการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งหน้าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ สินค้าที่ใช้เพื่อการเปลี่ยนสีผม กระทั่งยาสระผมของสุนัข ฯลฯ
แหล่งอ้างอิง
: เว็บไซต์ที่ทำการแผนการสงวนกรรมพันธุ์พืชสาเหตุจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, หนังสือพิมพ์ชาติบ้านเมือง (ช่ำชอง หิมะคุณ), หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 4, ฐานข้อมูลพันธุ์พืช หน่วยงานส่วนวิชาพฤกษศาสตร์, ที่ทำการกองทุนสนับสนุนการผลิตเสริมสุขภาพ (สสส.), หนังสือยอดสมุนไพรยาอายุวัฒนะ (คุณครูยุวดี จอมป้องกัน), หนังสือกายบริหารแกว่งไกวแขน (โชคชัย ปัญจทรัพย์สิน) http://www.disthai.com/[/b]

Tags : สมุนไพรเหงือกปลาหมอ
4  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ผลของการทานเห็ดหลินจือมีสรรพคุณเเละประโยชน์อย่างไร เมื่อ: สิงหาคม 07, 2018, 03:11:17 pm
[/b]
เห็ดหลินจื[/size][/b]
เรื่องเล่าประสบการณ์ตรงจากที่ลงภาคสนาม
ยายคนหนึ่ง อายุราว 67 ปี ทำอาชีพขายเห็ดในตลาด ลักษณะของการป่วยเป็นโรค ดังต่อไปนี้
1.[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
สามารถรักษาเบาหวาน เป็นทุนเดิม เป็นโรคนี้มาราวๆ 1x ปี
2.โรคความดันโลหิต เป็นมาพร้อมๆกับโรคเบาหวาน จะต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตลอด มีลักษณะมึน
3.โรคไขมัน มาพร้อมๆกับเบาหวาน ต้องกินยาแผนปัจจุบันตลอด
4.โรคไตเสื่อม หลังจากเป็นโรคโรคเบาหวานมาราวๆ 10 ปี หมอตรวจเจอว่า ไตเสื่อม ระยะ 2 มีลักษณะอาการขาบวม หมดแรงเดิน
5.โรคกระเพาะปัสสาวะ อักเสบ มาตอนเป็น ไตเสื่อม นำมาซึ่งอาการฉี่ขับ ฉี่ไม่สุด เจ็บแปล็บๆ
6.โรคเก๊า มาตรวจพบคราวหน้า ว่าค่ายูริก เริ่มมากยิ่งขึ้น
======================
ความประพฤติของคนไข้และความเป็นมาก่อนกินเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น
1.ตอนเจ็บป่วยตอนเริ่มต้น จะมีลักษณะน้ำตาลในเลือดสูง เกือบ 200 มก. แม้กระนั้นพอผ่านมาเกือบ 10 ปี คิดว่าดูแลตนเองได้ดี ผลที่ได้กลับเป็นอย่างงี้ เดี๋ยวน้ำตาลสูง เดี๋ยวน้ำตาลต่ำ กระตุ้นให้เกิดอาการงงงันได้ตลอดทั้งวัน หน้าที่การงานไม่ต้องทำแล้ว นอนดีกว่า
2.เพียงพอมีน้ำตาลในเลือดสูง ความดันจะตามมาเลย นำมาซึ่งการก่อให้เกิดอาการโลกหมุน ตาลาย ต้องนอนอีกอย่างที่เคย
3.พอเพียงระยะหลังเริ่มรับประทานของมันน้อยลง สามารถที่จะคุมไขมันได้ แต่พอนานวันเข้า ไขมันคุมได้ แต่เจอตรีกีซาลายสูงซะงั้น
4.หลังจากเจ็บมา 1x ปี ร่างกายก็ไม่ค่อยได้พักผ่อน ก่อให้เกิดช่วงอาการน็อคน้ำตาล ไป 2 ครั้ง ในรอบ 1 ปีให้หลัง จำต้องเข้า โรงพยาบาล เพื่อกลูโคส ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมากขึ้น
5.เพียงพอผ่านมาอีก 6 เดือน แพทย์ตรวจพบเป็นไตเสื่อมขั้นที่ 2 แถมมีโรคกระเพาะฉี่อักเสบ เพราะเหตุว่ามีไข่ขาวรั่วมาทางเยี่ยวเยอะแยะ ทำให้เรี่ยวแรงสำหรับการเดินไม่มี (เกือบจะเดินไม่ไหว ก้าวขาไม่ออก) แถมพบโรคเก๊าต์ สอบถามหาอีก
6.พักหลังจากที่รู้ว่าเป็นหลายโรค ชีวิต มันช่างมืดมนเหลือเกิน ทำให้ไม่อยากอาหาร กินมิได้ นอนไม่หลับ ถึงหลับก็ไม่สนิท ขาบวม ใจสั่น โกรธง่าย
7.พอถึงเวลานี้ คุณยายคนนี้ ความประพฤติปฏิบัติแปรไป จากที่เคยจะต้องออกไปเปิดร้านขายเห็ดในตลาดทุกวัน ไม่เคยหยุด กลับทำให้เขาไม่ต้องการที่จะอยากขายของ ขอหยุดนอนอยู่ในบ้าน ปฏิบัติตนเสมือนไร้ค่า จำเป็นต้องให้ลูกๆมาคอยมอง ทำให้เป็นภาระของลูก
======================
ปัญหา สำหรับลูกที่ดูแล รวมทั้งจุดเปลี่ยนแปลงแนวความคิด
1.ลูกคนนั้น มีความคิด ทำอย่างยังไงก้อได้ ให้แม่หายจากโรคทั้งสิ้นนี้
2.ทำอย่างไงก็ได้ให้คุณแม่กลับมาดำเนินงานได้เหมือนเดิม
3.ทำอย่างยังไงก็ได้ให้คุณแม่กินข้าวได้ราวกับแต่ก่อนเป็นเบาหวาน
4.ทำอย่างไงก็ได้ให้คุณแม่นอนหลับได้ดี
=======================
ในที่สุดลูกคนนั้นได้มาคุยกับผม ผมเลยเสนอแนะเห็ดหลินจื[/b]แดงสกัดเข้ม แล้วก็ลูกคนนั้นได้เอาไปให้ท่านแม่ทาน
เริ่มต้นที่ม่าม้าไม่เชื่อว่าเห็ดหลินจือแดงสกัดเข้มข้น จะช่วยทำให้ชีวิตเขาดียิ่งขึ้นได้ เพราะคุณแม่ทานสมุนไพร อาหารเสริมมาเยอะแยะแล้ว
=======================
[url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]
[/b]
เริ่มกับการทานเห็ดหลินจือแดงสกัดเข้มข้น (ผลอาจนาๆประการในแต่ละบุคคล)
1.ผมเสนอแนะให้ทาน 24 ชั่วโมง 2 เวลาเป็นยามเช้า-เย็น ในกรณีของม่าม้าคนนี้ มีโรคประจำตัวเยอะแยะ จะให้ทานแบบนี้ ภายหลังรับประทานอาหารแล้ว ให้ทานยาแผนปัจจุบัน และคอย 30 นาที ค่อยทานเห็ดหลินจือสกัดเข้มข้น
2.พอภายหลังทานได้ทีแรกๆ อาการมึนๆสับสนๆเริ่ม นอนเจริญขึ้นมาก ปกติจะมองจนกระทั่งเที่ยงคืนและก็หลังจากนั้นจึงค่อยหลับ แล้วตื่น 6-7 นาฬิการุ่งเช้า มาจัดร้านขายของ แปลงเป็น นอนตั้งแต่ 2 ทุ่ม ตื่น 6 โมงเช้าตรู่
3.หลังจากนอนหลับก้าวหน้า  ทำให้อาการขาบวมดีขึ้น ปัสสาวะมากมาย ไม่ขัดแล้วก็ปัสสาวะได้สุด ค่าน้ำตาลดีขึ้น ไม่สวิงต่ำ-สูง แล้วก็ผลไตดีขึ้นด้วย
4.คนเจ็บเริ่มทานข้าวได้ธรรมดา (ม่าม้าไม่เชื่อว่าเห็ดหลินจือช่วยได้จริงไหม เลยทดสอบด้วย รับประทานทุเรียน2เม็ด แล้วพรุ่งนี้ไปตรวจเลือด ผลเลือดที่ออกมาม่าม้าตกใจ ว่าเพราะเหตุไรน้ำตาลปกติ ^_^)
5.พอร่างกายได้ นอนหลับได้เต็มที่ หน้าใส(มีคนทักว่าไปทำอะไรมา) แข็งแรงสามารถชูของหนักๆได้ ซึ่งถ้าหากเป็นก่อนหน้า เพียงแค่เดินยังต้องหาที่นั่งพักเลย
สรรพคุณเห็ดหลินจื[/b]ที่มีงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยยืนยัน....มีอะไรบ้าง
มีความเชื่อมานานแล้วว่าเห็ดหลินจือแดงสามารถทำให้หัวใจแข็งแรง เลือดลมดี ผิวพรรณแจ่มใส ช่วยทำให้แก่ช้าลง ความจำ รวมทั้งช่วยอายุยืนนาน
ส่วนสรรพคุณในทางการรักษาโรคถูกกล่าวไว้อย่างมากมายเช่นกัน อาทิเช่น แก้ตับแข็ง รักษาโรคมะเร็ง รักษาโรคความดัน รวมทั้งภูมิแพ้ฯลฯ
แต่ทีเด็ดคือ......
มีการค้นคว้าเกี่ยวกับ[url=http://www.disthai.com/][url=http://www.disthai.com/16484916/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD]เห็ดหลินจือ
[/url][/color]รักษาโรคจากคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งในการทดสอบเรียนทางคลีนิคและก็รับรองว่าเห็ดหลินจือมีสรรพคุณดังต่อไปนี้จริง ไม่ใช่แค่ความศรัทธาอีกต่อไป อันอย่างเช่น
-กระตุ้นภูมิต้านทาน
-ต้านเนื้องอกรวมทั้งมะเร็ง
-รักษาโรคฟุตบาทฉี่
-รักษาโรคหัวใจ
-ช่วยทำให้การนอนหลับ
-ลดไขมันในเลือด
-ต้านอนุมูลอิสระ
-ต้านทานการอักเสบ
5  Sitemap SMB / สินค้าอื่นๆ / ขิง มีคุณสมบัติในการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง เมื่อ: สิงหาคม 03, 2018, 04:58:10 pm
[/b]
ขิ[/size][/b]
ถึงแม้ว่าขิงจะเป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ประกอบอาหารแล้วก็มีสรรพคุณในการรักษาโรค ถึงแมขิง
จะมีกลิ่นฉุนและมีรสชาติเผ็ดร้อน เลยทำให้ไม่ถูกปากผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยนั้น แม้กระนั้นขิงก็เป็นสมุนไพรที่สามารถใช้ทำกับข้าวและมีคุณประโยชน์รักษาโรค พวกเรามาดูกันดีกว่าว่าสมุนไพรดีๆอย่างขิงนั้นมีประโยชน์และก็โทษอะไรที่พวกเราไม่คาดฝันบ้าง
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากขิง
+ ลดอาการท้องอืดถ้าเกิดคุณรู้สึกท้องเฟ้อหรือของกินไม่ย่อยให้จิบชาน้ำขิงหรือกินขิงสดจะทำให้คุณทราบกันดีอยู่แล้วขึ้น หรือถ้าคุณกำเนิดอาการท้องอืดที่เกิดจากการกินถั่วละก็ คราวหลังลองฝานถั่วบางๆลงไปในของกินที่มีถั่ว นั่นก็จะช่วยลดอาหารท้องเฟ้อได้ด้วยเหมือนกันจ้ะ ด้วยเหตุว่าขิงนั้นเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม และกระตุ้นลักษณะการทำงานของไส้ทำให้ อาการท้องอืดบรรเทาลงได้
+ ช่วยทุเลาอาการไมเกรน
จากการเล่าเรียน
พบว่า การกินขิงตอนที่อาการไมเกรนใกล้กำเริบนั้น จะช่วยให้ความเจ็บจากอาการไมเกรนลดลงได้ เพราะขิงจะไปช่วยสกัดการฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการอักเสบ ยิ่งกว่านั้นยังมีการศึกษาอื่น บ่งบอกถึงอีกว่าขิงสามารถช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ โดยพบว่าผู้ที่มีลักษณะของโรคข้อหัวเข่าเสื่อมหรือโรครูมาตอยด์มีลักษณะน้อยลงเมื่อบริโภคขิงผงเสมอๆทุกวัน
คุณประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากขิง และก็โทษที่คุณอาจนึกไม่ถึง
+ ช่วยคุ้มครองป้องกันมะเร็ง
 ขิงมีคุณสมบัติสำหรับเพื่อการช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีการศึกษาพบว่าขิงช่วยทำให้เซลล์มะเร็งภายในรังไข่ตาย เพราะเหตุว่าในขิงมีสารเคมีธรรมชาติที่ไปช่วยกระตุ้นโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีกลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็เลยช่วยปกป้องมะเร็งได้ นอกเหนือจากนั้นยังเจออีกว่าสินค้าอาหารเสริมที่มีขิงเป็นองค์ประกอบยังช่วยลดอาการอักเสบในลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
+ ช่วยทุเลาอาการอ้วก
 ขิสามารถบรรเทาอาการอ้วกได้ โดยชาวเอเชียนั้นชอบใช้ขิงในการช่วยบรรเทาอาการเมารถ หรือเมาเรือ ยิ่งกว่านั้นยังมีหลายการศึกษาเล่าเรียนพบว่าขิงสามารถช่วยคุ้มครองปกป้องและก็ทุเลาอาการอ้วกหลังจากการผ่าตัดแล้วก็ยังช่วยทุเลาอาการคลื่นไส้แล้วก็คลื่นไส้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เข้ารับเคมีบรรเทาได้อีกด้วย
+ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
 มีการศึกษาใหม่พบว่า ขิงผงนั้นสามารถช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 แต่ว่าก็ควรจะที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนกินขิงร่วมกับยา เนื่องจากว่าขิงบางทีอาจทำปฏิกิริยากับยาที่ใช้รักษาได้ และควรติดตามผลระดับน้ำตาลอย่างสนิทสนม เพราะว่าถ้ารับประทานขิงมากจนเกินไปก็อาจทำให้ระดับอินซูลินลดน้อยลงมากจนเกินไปจนอยู่ในขีดอันตรายได้
คุณประโยชน์ของขิง รวมทั้งโทษที่คุณอาจนึกไม่ถึง
ขิงดอง คุณประโยชน์ดีก็มีนะ ทราบยัง?
 พวกเราบางทีอาจจะเคยได้ฟังกันมาว่าการรับประทานของหมักดองไม่เป็นผลดีสำหรับสุขภาพ แม้กระนั้นจำต้องขอนอกจากไว้สำหรับขิงดองค่ะ เพราะเหตุว่าที่จริงแล้วหากแม้ขิงดองจะเป็นอาหารที่ผ่านการดองด้วยน้ำส้มสายชู แม้กระนั้นเรื่องคุณประโยชน์ แล้วก็คุณประโยชน์เพื่อสุขภาพ [url=http://www.disthai.com/]ขิ[/b]ดองก็มีดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าขิงสดๆเลยล่ะจ้ะ ซึ่งคุณประโยชน์ของขิงดองมีดังนี้
* ช่วยแก้อาการเมาเรือ เมารถ รวมทั้งอาการแพ้ท้อง
[url=http://www.disthai.com/16488302/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87]

เนื่องด้วยขิงดองเป็นของกินที่มีกลิ่นฉุนทั้งยังยังมีรสชาติเผ็ดอมเปรี้ยว เลยทำให้กลายเป็นของกินที่เหมาะกับคนที่มีอาการเมาเรือ เมารถ รวมทั้งสตรีที่กำลังตั้งท้อง ซึ่งชอบมีลักษณะแพ้ท้อง เอาไว้รับประทานในขณะที่รู้สึกคลื่นไส้ เพราะว่าจะช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา หรือยาแก้แพ้ท้อง ทดลองใช้ขิงดองดูนี่ล่ะจ้ะ เด็ด !
* ช่วยล้างปากเวลาทานอาหาร
 สำหรับผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยที่สงสัยว่าเพราะเหตุไรเวลาไปทานอาหารญี่ปุ่นแล้วบนจานอาหารประเทศญี่ปุ่นจะมีขิงดอง คำตอบก็คือขิงดองพวกนั้นมีไว้รับประทานล้างปากจ้ะ โดยส่วนมากในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น จะรับประทานขิงดองตามเข้าไปภายหลังกินอาหารจานนั้นหมดแล้ว เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารจานเดิมติดอยู่ในปากจนทำให้รู้สึกมันแล้วก็รับประทานจานต่อไปไม่ไหว ทั้งยังยังมีผลให้ชิมรสอาหารจานต่อไปได้อย่างมากอีกด้วย
* โซเดียมต่ำ
 หากแม้ขิงดองจะมีรสจัด แม้กระนั้นน่าแปลกที่ขิงดองเป็นอาหารที่มีโซเดียมต่ำมากมายเมื่อเทียบกับอาหารดองชนิดอื่นๆเมื่อเอามารับประทานรวมทั้งทำให้ไม่ต้องกังวลกับจำนวนโซเดียม ลดการเสี่ยงที่จะเกิดความดันเลือดสูงลงไปได้อีกมากเลย
ประโยช์จากขิง แล้วก็โทษที่คุณอาจไม่คาดฝัน
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการทานขิง
- อาจจะทำให้เกิดภาวะเข้าแทรกสำหรับเพื่อการท้องได้
 มีบางการศึกษาพบว่าขิงมีความเชื่อมโยงกับภาวะแทรกซ้อนสำหรับการตั้งครรภ์รวมทั้งการแท้ง แต่ในการมีท้องรายอื่นๆนั้นไม่พบว่าการรับประทานขิงจะมีผลให้เกิดอาการพวกนั้นขึ้น แถมยังช่วยลดอาการอาเจียนจากการแพ้ท้องได้อีกด้วย ฉะนั้นคุณควรจะไปขอความเห็นหมอก่อนจะที่ใช้ขิงสำหรับในการรักษาอาการแพ้ท้องด้วยตนเองจ้ะ
- ทำให้เกิดแผลร้อนในภายในปากได้
 ขิเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้าหากว่ารับประทานเข้าไปในจำนวนที่มากก็จะสามารถเยื่อบุด้านในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ โดยเหตุนี้ไม่ควรรับประทานขิงมากจนเกินไปจ้ะ
- ยับยั้งการแข็งตัวของเลือด
 การศึกษาหนึ่งในออสเตรเลียพบว่า ขิงนั้นมีคุณประโยชน์ในการต้านทานการแข็งตัวของเลือดมากยิ่งกว่ายาแอสไพริน สถาบันสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้ออกการเตือนให้งดเว้นการกินขิงในขณะที่ใช้ยาละายลิ่มเลือดด้วยความที่จะทำให้กำเนิดความเสี่ยงในการเกิดอาการช้ำเลือดหรืออาการเลือดออกได้ โดยเหตุนั้นถ้าหากคุณมีลักษณะเลือดออกไม่ปกติหรือกำลังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานขิงจ้ะฃ [url=http://www.disthai.com/]http://www.disthai.com/
[/b]
หน้า: [1]
ฐานข้อมูลผิดพลาด
ลองอีกครั้ง ถ้าเกิดการผิดพลาดอีกครั้ง ให้แจ้งผู้ดูแลระบบด้วย