ความเป็นมาภูมิหลังข้าวของเครื่องใช้น้ำหอม (Perfume) ที่ยิ่งใหญ่

[Narongrit999]

Advertisement

รู้ยังตวาด น้ำหอมที่ดิฉันใช้คืนกันอยู่เวลานี้ มีประวัติช้านานถึง 4,000 ปี ออกจากหลักพยานด้านประวัติศาสตร์ถิ่นที่สดภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut ตัวเมือง Thebes ดินแดน Egypt ซึ่งในภาพจะบ่งบอกให้เห็นว่าดึงชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนหัวของตัวเอง นั่นก็บ่งให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น พร้อมกับเราจะชักจะขยายความในเหตุการณ์สิ่งน้ำหอมกันตั้งแต่ที่เวลาตอนแรกๆกันเลยนะจ้ะ

น้ำหอมในกาลสมัยแรกเริ่ม (กาลสมัยเมโสโปเตเมีย)
น้ำหอมที่ยุคขั้นแรกเริ่มจากแห่งระยะเวลาเมโสโปเตเมีย ซึ่งณคราวแต่ต้นนั้นคนในจักเปลืองน้ำหอมได้คือฟาร์โร ด้วยกันเหล่าบรรพชิตที่จะนำน้ำหอมไปกินในการทำพิธีกรรมเฉพาะ ซึ่งจะกินการเผาให้ถือกำเนิดกลิ่น เฉก การเผายางไม้ ขี้ผึ้ง หรือเปลือกต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษามนุษย์ละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นบ้านเกิดของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในธรรมเนียมปฏิบัติการสังเวยต่าง ๆ ที่เป็นขนบประเพณีของของเขตแดน และเหนือจากการใช้ในธรรมเนียม ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่ตัว บ้านช่องห้องหับ เภตรา หรือไม่แม้แต่สัตว์เลี้ยง กับราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut ทรงมีความชื่นชมน้ำหอมมาก จึงเสริมให้มีการคุ้ยหารุกข์ มาลย์ที่มีกลิ่นหอม เพื่อจะนำมาบำเพ็ญยังมีชีวิตอยู่น้ำหอมกลิ่นต่าง ๆ ภายหลังเมื่อพระนาง Hatshepsut สิ้นพระชนม์ ชาวอียิปต์ก็ได้ต่อเรือสวนดอกไม้ด้วยกันสร้างแผ่นหินจารึกเรื่องราวต่างๆ ไว้เพราะเป็นการสดุดีอีกด้วย ด้วยกันพระนางคลีโอพัตราก็ยังอุปถัมภ์ทาน้ำหอมที่ใบเรือพร้อมกับตัวเรือทั้งมวลก่อนที่จะตะเวนไปรับข้าราชการการเมืองชาวโรมัน ทำเอาเหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง ทำเป็นได้กลิ่นน้ำหอมทิ้งเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาเดิมที่จะเห็นตัวนาเวศของพระนางด้วย

น้ำหอมกาลสมัยระหว่างกลาง
ในระยะเวลานี้กรรมวิธีในการขัดขวางจะแตกต่างจากระยะเวลาประถม ก็เพราะว่าชาวอาหรับคว้ากระทำการคิดค้นกลยุทธ์การกลั่นนํ้าหอมได้รอด กับมีการเปลืองแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย พร้อมด้วยน้ำหอมกลิ่นที่หนึ่งที่ได้กระทำขัดขวางคือกลิ่นอายกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้เคลื่อนเข้าสู่ศตพรรษที่ 14 เพราะการเข้าสู่ทวีปยุโรธ พร้อมด้วยคนชาติปฐมที่ดินได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปรวมความว่าชาวฮังกาเรี่ยน ติดตามกฎของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบฉบับเครื่องใช้น้ำหอมในกาลสมัยต่อ ๆ มา

 น้ำหอมเวลาเอี่ยม (ช่วงปัจจุบัน)
น้ำหอมได้ก้าวย่างกระบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบเอาจริงเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างสุดกำลัง เมื่อชันษา คศ. 1920 เนื่องจากมีชาวรัสเซียที่สมัญญาว่า Ernest Beaux ซึ่งครอบครองนักทำน้ำหอมดั้นด้นมาที่ปารีส กับได้บรรยายน้ำหอมที่ตัวเองทำเอากับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็เปลี่ยนไปมาเป็นแบรนด์ Chanel ในปัจจุบันนี้ กับได้รับปฏิกิริยาเป็นอย่างยอดเยี่ยม และกลิ่นที่ขายเป็นเทน้ำเทท่าพร้อมทั้งขึ้นชื่อลือชาที่สุด ลงความว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้วิวรรธน์ขึ้นอย่างทันใจ และมีใช้สะพัด ในคนทุกดีกรี ชั้นจนมาถึงประจุบัน
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : น้ําหอม

เครดิตบทความจาก : [url]http://drumtechthailand.com/webboard/index.php?topic=363697.new#new[/url]

Tags : น้ำหอมผู้ชาย,น้ําหอม,perfume